เราอยากเล่าเรื่องเพลงประกอบที่ผูกกับตัวละคร '
daenerys targaryen' ใน 'Game of Thrones' ในมุมมองของคนที่ฟังแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นแค่แบ็กกราวนด์เสียง แต่มันเป็นภาษาหนึ่งที่บอกเล่าอารมณ์และการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร เปิดจากแนวคิดหลักคือ Ramin Djawadi ใช้หลักการแต่งดนตรีเช่น leitmotif (เมโลดี้ประจำตัว) มาผูกกับแดเนริส ทำให้แต่ละท่อนเพลงสะท้อนสถานะของเธอได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ความเปราะบาง
วัยเยาว์ในทะเลทราย ไปจนถึงความยิ่งใหญ่และการถูกยกย่องเป็นผู้ปลดปล่อย แนวทางดนตรีไม่ได้มาจากแหล่งเดียว แต่เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีมินิมอลแบบภาพยนตร์กับองค์ประกอบเสียงที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกของเอสโซสและดอธราคี จึงเกิดเป็นโทนเสียงที่มีทั้งเรียบง่าย ทว่าลึกซึ้งและมีสีสันของวัฒนธรรมหลากหลาย
ส่วนสำคัญที่หลายคนน่าจะคุ้นคือเพลงธีมของแดเนริสที่มีทั้งท่อนเปียโนหรือสายเดี่ยวแบบเรียบ ๆ ในตอนต้น ซึ่งให้ความเป็นมนุษย์และความอ่อนโยน เป็นจุดเริ่มต้นของ motif แรก เมื่อเรื่องราวพาเธอผ่านการต่อสู้และการยืนหยัด เพลงนั้นค่อย ๆ ถูกเติมชั้นด้วยสายเครื่องดนตรี สตริง คอรัส และเพอร์คัชชัน ทำให้ธีมเดียวกันสามารถแสดงทั้งความหวาน ความอ่อนโยน ไปจนถึงความยิ่งใหญ่และกลียุค ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือเพลงที่ใช้ฉากการปลดปล่อยทาสซึ่งใส่คอรัสเพื่อสร้างอารมณ์ของประชาชนที่ยกย่อง ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนพิธีกรรมหรือเพลงสรรเสริญ องค์ประกอบเชิงจังหวะและสเกลที่ถูกเลือกมักให้สัมผัสอันไม่ใช่แบบยุโรปบริสุทธิ์ แต่มีสีของดนตรีตะวันออกกลางหรือเอเชียกลางเล็กน้อย ทำให้โลกของแดเนริสในเอสโซสดูมีเอกลักษณ์
สิ่งที่ทำให้แรงบันดาลใจชัดเจนคือการใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือบอกเล่าไม่ใช่แค่ประกอบภาพ เช่น ในฉากที่มีมังกร ดนตรีจะเพิ่มชั้นความถี่และใช้เสียงต่ำที่หนักแน่นเพื่อสื่อถึงพลังอันดุร้าย หรือในฉากที่เธอเงียบขรึม เพลงจะลดทอนเป็น motif เดี่ยว ๆ เพื่อให้ความอ่อนโยนยังคงอยู่แต่แฝงด้วยความตึงเครียด เทคนิคเช่นการซ้อนไกด์เมโลดี้ (layering), การใช้ ostinato ที่ทำให้เกิดแรงผลักดัน และการเปลี่ยนโทนเสียงจากเครื่องสายเป็นคอรัสหรือเปียโนล้วน ทำให้ธีมของแดเนริสเติบโตไปตามพัฒนาการของตัวละคร เหล่านี้ล้วนได้รับอิทธิพลจากแนวดนตรีภาพยนตร์สมัยใหม่ ผสมกับการยืมอารมณ์จากดนตรีพื้นบ้านหลากถิ่นเพื่อสร้างลักษณะเฉพาะ
โดยรวมแล้ว มันไม่ใช่เพียงแค่เพลงประกอบที่สวยงาม แต่เป็นการออกแบบเสียงให้เป็นภาษาของตัวละคร การได้ฟังธีมของแดเนริสตั้งแต่แรกจนถึงเวอร์ชันยิ่งใหญ่กว้างขวางคือการได้ติดตามชีวิตของเธอในมิติหนึ่งที่สายตาเห็นไม่หมด เสียงทำให้ฉากที่ดูธรรมดากลายเป็นพิธีกรรม หรือทำให้ฉากชัยชนะมีรสขมปะปนอยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเพลงเหล่านั้นยังคงสะท้อนอยู่ในหัวเราแม้เวลาผ่านไป นี่แหละคือความมหัศจรรย์ที่ทำให้เราอยากย้อนไปฟังซ้ำ ๆ