“ให้ปล่อยไปงั้นเหรอ? ฉันปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้หรอกเคน!” “นายสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยฉัน นายรู้ไหม? ฉันจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งกับนาย!” สีหน้าของฟลินน์แสดงออกอย่างป่าเถื่อนในขณะที่เขาพูดพร้อมกับยิ้ม “นายน้อยเบนอย่าพูดอะไรอีกเลย นายอยากตายงั้นเหรอ?” สีหน้าของแดนช่างมืดมนจนดูเหมือนกับเมฆพายุฝนกำลังปกคลุมอยู่ เขาส่งสายตาเยาะเย้ยใส่ฟลินน์ “อะไรนะ? ฉันอยากตาย? ฮ่า ๆ นายหมายถึงอะไร ไม่มีทาง นายเอาชนะหมอนี่ไม่ได้งั้นเหรอ!” ฟลินน์ยังคงไม่รู้ถึงสถานการณ์ เขาพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “พวกเขากำลังบอกให้แกหุบปาก ไม่ได้ยินงั้นเหรอ?” เฟนด์ไม่อยากโต้เถียงเรื่องไร้สาระกับหมอนี่ เขาเตะเท้าลงบนพื้นและพุ่งไปข้างหน้า วินาทีถัดมาเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าฟลินน์เสียแล้ว เขาหันหลังให้กับชายอีกคน ปั๊ก! ฟลินน์กระเด็นถอยหลังและล้มลงกับพื้นอย่างแรง! เลือดทะลักออกมาจากปากและฟันหักไปหลายซี่ “ก-แกกล้าต่อยฉันเหรอ?” ฟลินน์โกรธมากจนหน้าซีดไปหมด “คุณทันย่าผมขอโทษด้วยจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกพี่ลูกน้องของผมมาที่อาณาเขตกลาง เขาเลยหลงทางนิดหน่อยผมหวังว่าคุณจะเมตตาเขา” สีหน้าของเคนมืดลงเขาปาดเหงื่อเย็นออกจากหน
“ได้เลยคุณทันย่า!” เฟนด์พยักหน้า ยังไงซะไอ้สารเลวนี่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาโกรธแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ นอกจากนี้มันยังกล้าทำให้ทันย่าขายหน้า มันคงไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะปล่อยให้มันลอยนวล“แกไม่กล้าหรอก! ฉันจะบอกให้นะ ฉัน ฟลินน์ และตระกูลของฉันก็เป็นถึงตระกูลชนชั้นสองในเมืองโลน ครอบครัวชนชั้นสองของเราแข็งแกร่งกว่าพวกคุณทุกคนที่นี่ บอดี้การ์ดห้าอันดับแรกของตระกูลเบนก็ทรงพลังมากด้วยเช่นกัน!” “ ‘ทรงพลัง’ ของนายมันก็เพียงความมั่งคั่งและทรัพย์สินของนายเท่านั้น นักสู้ของนายอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าพวกเราก็ได้!” ฟลินน์ตกใจกลัวไปถึงกระดูกเมื่อเห็นเฟนด์เดินมา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันและข่มขู่ “เฮ้ นายนี่กล้าหาญจริง ๆ ที่ขู่เรา แทนที่จะร้องขอชีวิตในตอนนี้!” เฟนด์หัวเราะและก้าวไปข้างหน้า เขาคว้าแขนฟลินน์ขึ้นมาและคว้ามันไว้แน่น “กร๊อบ!” การเคลื่อนไหวของเฟนด์ดูสบาย ๆ แต่เสียงกระดูกหักดังออกมาอย่างชัดเจน “แก…” ในความคิดของฟลินน์ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเฟนด์ซึ่งเป็นแค่บอดี้การ์ดจะกล้าทำอะไรแบบนี้กับเขา ความเจ็บปวดทำให้หน้าเขาซีดจนไม่มีสีและเขาก็หมดสติไปทันที ความน่ากลัวนี้ทำให้เคนแ
ไม่นานเคนก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้หรอก ทำไมหมอนั่นถึงได้ทำตัวจนขนาดนั้นล่ะถ้าเขามีเงินพันล้านจริง ๆ?” “ฉันก็ไม่รู้ คนบางคนชอบทำตัวติดดินบ่อย ๆ หรือบางทีเขาอาจแค่ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยเกินไป!” หลังจากที่แดนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็อธิบายออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นายน้อยคลาร์ก ฟังฉันนะเซเลน่า เทย์เลอร์นั้นสวยก็จริง แต่คุณหาผู้หญิงคนอื่นไม่ได้เหรอด้วยเงินที่คุณมี? คุณไม่ควรทำให้เฟนด์โกรธไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม! เข้าใจไหม?” “หุบปาก! หยุดบ่นฉันเหมือนนายเป็นแม่ของฉันซะที!” เคนตะโกนอย่างโกรธจัดรู้สึกไม่พอใจมาก เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเฟนด์จะทำตัวติดดินขนาดนี้ ทั้งที่เขามีเงินมากขนาดนั้นและยังเป็นนักสู้ที่มีฝีมือ จริงสิ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นผู้บัญชาการหรือมียศอะไรสักอย่างในกองทัพนี่ นอกจากนี้ถ้าหมอนั่นเป็นผู้บัญชาการขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ? แต่ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีถ้าเขามายั่วโมโหคนอย่างเคน คลาร์ก ตอนนี้เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวล เขาเชื่อว่าเรื่องของเฟนด์จะคลี่คลายเมื่อวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์มาถึง เขาจะต้องถูกไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ แต่ถ้า
ปากของเฟนด์บิดเป็นรอยยิ้มขมขื่นเมื่อเขาเห็นแว่นกันแดดบนใบหน้าของพวกเธอ “นายรู้อะไรไหม? เราต้องการปกปิดตัวตนของเราไว้เป็นความลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาวคนที่สองที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ของนายท่านเดรค ทันย่าจะถูกคนภายนอกพบเห็นได้ง่ายเมื่อออกไปข้างนอก!” อีวอนน์พูดโพล่งออกมา “ไม่ต้องห่วง! ต่อให้มีคนจำคุณได้แต่คุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับผม!” เฟนด์ถอดแว่นกันแดดที่สวมอยู่บนสันจมูกของพวกเธอออก “ตอนนี้คุณดูดีมากกว่าเดิมอีก!” เขาชมเชย แก้มของพวกเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูทันทีเมื่อได้ยินคำชม “ฮืมม! ฉันไม่นึกว่านายจะรู้จักวิธีชื่นชมความงามของพวกเราด้วย!” อีวอนน์รู้สึกไม่มั่นใจนิดหน่อยเมื่อความทรงจำของเธอย้อนกลับไปในวันที่เฟนด์บอกเธอว่า เธอสวยไม่เท่าภรรยาของเขา “ผมก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน จริง ๆ แล้วผมก็รู้จักวิธีชื่นชมสิ่งสวยงามนะ!” เฟนด์ฝืนยิ้มและพูดต่อ “ไปกันเถอะ! เราจะไปทานอาหารเย็นกันที่ไหน? โรงแรมหกดาวที่ไหนดี?” อีวอนน์และทันย่าสลับกันมองตาและหัวเราะอย่างลึกลับ “ครั้งนี้เราจะพาคุณไปร้านอาหารริมถนนกินกุ้งกับหอยขมและจิบเบียร์เย็น ๆ เป็นไงฟังดูดีไหม?” ทันย่าตอบด้วยรอยยิ้มร่าเริง “พูดง
“โอ้ ตายแล้ว! ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนี่ย! เป็นเกียรติมากที่คุณมาที่ร้านแผงลอยของฉัน!”เจ้าของร้านหัวล้านเดินเข้ามาหาทันย่าและอีวอนน์ด้วยรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นพวกเธอจากที่ไกล ๆ เจ้าของร้านดูใจดีเป็นพิเศษ!“มานี่สิ ตรงมุมห้องว่าง มันเป็นที่โปรดของคุณ!”เจ้าของร้านหัวเราะคิกคักขณะที่เขาลูบหัวแต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นการปรากฏตัวของเฟนด์ “เฮ้ คุณทันย่า ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนของคุณเหรอ? เขาดูดีและมีจิตใจที่เป็นลูกผู้ชายมาก” เขาถาม “โอ้ ดูรูปร่างที่แข็งแกร่งของเขาสิ! ดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้เคยเป็นทหารมาก่อนใช่ไหม?” เขาพูดต่อคุณทันย่าค่อนข้างรวยตามความทรงจำที่บันทึกไว้ในสมองของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนิทกับสาวสวยสองคนนี้แต่พวกเธอก็เคยมาทานอาหารเย็นพร้อมกับบอดี้การ์ดเจ็ดถึงแปดคนอยู่ข้าง ๆ บอดี้การ์ดเหล่านั้นจะรอพวกเธออยู่ที่ริมถนนด้านนอกยิ่งกว่านั้นสาวสวยสองคนนี้มาที่ร้านของเขาหลายครั้งแล้วแต่พวกเธอไม่เคยพาใครมาที่นี่เลยนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าของร้านเห็นทั้งสองคนพาชายคนหนึ่งมา และบังเอิญว่าเฟนด์ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันย่าระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นน้อยมาก ดังนั้นเจ้าของร้า
มุมปากของทันย่ายกขึ้นรอยยิ้มของเธอช่างสวยงามและน่ารัก! นับตั้งแต่ที่ทั้งสองมาถึงลูกค้าจากโต๊ะอื่นก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองมาที่พวกเธอบางคนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนอกจากอิจฉาเฟนด์ที่มีโอกาสได้ดื่มกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์สองคนนั้น มันคงจะมีความสุขมากเลยในชีวิตถ้ามีสาวสวยสองคนนั่งดื่มกับพวกเขา!อีกอย่างถ้าสาวสวยทั้งสองเมา เฟนด์อาจจะมีโอกาส... แค่คิดถึงมันก็ทำให้เซลล์ในร่างกายของพวกเขากรีดร้องและพุ่งสูงขึ้นอย่างตื่นเต้น!ผ่านไปครู่หนึ่งเจ้าของร้านก็นำกุ้งและหอยขมชามใหญ่มาให้ และสั่งให้พนักงานเสิร์ฟสองคนคอยบริการพวกเขาตลอดทั้งคืน เขานำเบียร์สดเย็น ๆ เก้าแก้วมาให้ด้วย!แก้วเบียร์พวกนี้ไม่ใช่แก้วธรรมดาเพราะมันใหญ่กว่าปกติและบรรจุเบียร์ได้เกือบสองขวดครึ่ง ถ้าใครดื่มหมดแก้วได้จะถือว่าแข็งแกร่ง!“มาเถอะ เฟนด์สุดหล่อ นายกล้าดื่มแข่งกับฉันไหม?”“ฉันได้ยินบ่อย ๆ ว่าทหารผ่านศึกอย่างนายเป็นนักดื่มที่ดีและกล้าหาญ! เป็นเพราะร่างกายที่แข็งแกร่งและมีกำลังของนายหรือเปล่า?”อีวอนน์ค่อย ๆ ยกแก้วเบียร์ของเธอขึ้นแล้วจิบช้า ๆ “ฉันอาจจะต่อสู้ได้ไม่เก่งเท่านาย แต่การดื่ม? ฉันกลัวว่านายจะอ่อนกว่าฉันมาก!” เธอล้อเลียนข
“อย่ากังวลไปเลย ผมมั่นใจในตัวเอง! คนที่ทำให้ผมเมาได้ยังไม่เกิดหรอก!”เฟนด์ตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอ่อนโยนและนุ่มนวล“ก็ได้ พวกนายดื่มไปกันเถอะ ฉันจะโทรหาฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ให้มารับเรา ถ้าคุณเมาแม้ที่นี่จะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ก็ควรระวังตัวไว้ดีกว่า!”ทันย่าถอนหายใจอย่างขมขื่นหลังจากนึกถึงสถานการณ์บางอย่าง“เอาล่ะ มาดื่มกันเถอะ! ทันย่า มีแต่ของที่เธอชอบทั้งนั้นเลย!”แกร๊ง!อีวอนน์ยกแก้วเบียร์ของเธอขึ้นและชนแก้วกับเฟนแล้วยิ้มบาง ๆหลังจากนั้นเธอก็หยิบเงินออกมาอีกสี่ร้อยเหรียญและพูดกับพนักงานเสิร์ฟสองคนข้าง ๆ โต๊ะว่า “มานี่หน่อย นี่เป็นทริปสำหรับนายสองคนคนละสองร้อย! แต่พวกนายจะต้องรับรองว่าว่าแก้วของพวกเราจะเต็มไปด้วยเบียร์ นายต้องเติมทันทีหลังจากที่เราดื่มมันหมด เข้าใจไหม? ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”พนักงานเสิร์ฟสองคนตรงหน้าอีวอนน์ไม่คิดว่าเธอจะใจดีขนาดนี้ พวกเขาแทบจะซ่อนความดีใจเอาไว้ไม่มิด พวกเขาพยักหน้าทันทีหลังจากที่อีวอนน์พูดจบ “ไม่มีปัญหาครับคุณหนู! เราจะไม่ปล่อยให้แก้วว่างแน่นอน!”จากนั้นพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งก็ดันถังเบียร์ขนาดใหญ่ไปวางไว้ข้างโต๊ะของอีวอนน์ “ตอนนี้คุณมั่นใจได้เลย
“ฮ่าฮ่า! ถ้าคุณไม่กลัวว่าจะเมาจริง ๆ งั้นก็ช่วยไม่ได้!”“ตอนแรกผมไม่ได้อยากให้คุณเมา แต่ในเมื่อคุณคิดว่าผมเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดื่มไม่ได้ วันนี้ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าผมดื่มเก่งแค่ไหน!”เฟนด์แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขาหยิบอีกแก้วขึ้นมาและเริ่มดื่มอีกครั้งคราวนี้เขาดื่มมันเร็วกว่าครั้งก่อน ภายในสิบวินาทีแก้วก็ว่างเปล่า“ฮึ่ม!”อีวอนน์สูดหายใจอย่างเย็นชา เธอยังไม่ลืมวันที่เฟนด์เจอเธอตอนที่เธอ... เหตุการณ์ในวันนั้นมันหยั่งรากลึกลงไปในหัวใจของเธอ เนื่องจากวันนี้หมอนี่มั่นใจมากเธอจึงต้องทำให้เขาเมาให้ได้! เธอเยาะเย้ยเขาอีกครั้งในใจหึ! อีวอนน์หยิบแก้วขึ้นมาอีกแก้วและดื่มมันลงไปอย่างรวดเร็ว!พวกเขาสองคนผลัดกันดื่มเบียร์ ในชั่วพริบตาแต่ละคนก็ดื่มไปห้าหรือหกแก้วแล้ว“โอ้ว...มันน่าทึ่งมาก!”“นั่นสิ! เหลือเชื่อจริง ๆ!”ตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากเริ่มส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้กับพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนที่มีความอดทนต่อการดื่มแอลกอฮอล์อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้คนมองดูทั้งคู่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม“ทำไมหมอนี่ยังไม่เมาอีก? ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงเมาจนกลายเป็นไอ้ขี้เมาไปนานแล้ว