ภาคภูมิที่บึ่งรถมาหาผิงอันทันทีที่เธอต้องการ รถคันหรูถูกจอดที่ข้างร้านก่อนที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบ มีร่างกายที่สมส่วนก้าวเท้าเดินเข้ามาในร้าน
ภาคภูมิเป็นผู้ชายหน้าตาดีและรวยมาก ผู้หญิงหลายๆ คนต่างชอบและต้องการอยากจะได้เขากันทั้งนั้น แต่ผู้หญิงที่เขารักและต้องการกลับเป็นผิงอันเพียงคนเดียว
ภาคภูมิเห็นผิงอันนั่งอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นในร้าน เธอก้มหน้าและในมือก็กำอะไรบางอย่างอยู่ด้วย เขาเดินมานั่งข้างหน้าเธอ ยื่นมือไปหวังจะจับแต่ถูกเธอชักมือหนี
“ภูมิมีอะไรจะสารภาพกับเราหรือเปล่า” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถาม เงยหน้ามาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
“อันอัน..ร้องไห้ทำไมครับ” น้ำเสียงเป็นที่ออกมาจากใจจริงๆ
“ตอบคำถามอันมา มีอะไรจะสารภาพไหม?”
“สารภาพอะไรครับอัน” ภาคภูมิเริ่มมีสีหน้าเป็นกังวล ผิงอันไปรู้อะไรมาไม่ใช่ว่าเธอไปรู้เรื่องที่เขานอกใจเธอหรอกใช่ไหม…
ผิงอันวางภาพถ่ายลงบนโต๊ะ ภาคภูมิหยิบภาพถ่ายมากมายเหล่านั้นขึ้นมาดู มันคือภาพถ่ายของเขาและผู้หญิงหลายคนยืนกอดจูบกันในคลับ และภาพสุดท้ายคือภาพที่เขายืนจูบกับหนิงในคลับเพื่อนสนิทของผิงอัน…
“อันคือภูมิ…”
“ภูมิทำกับอันแบบนี้ทำไม ถ้าภูมิจะหยุดเรื่องผู้หญิงไม่ได้ก็ไม่ควรมาคบกับอันตั้งแต่แรก” น้ำตายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งที่พยายามจะกลั้นมันเอาไว้แล้ว
“ผิงอันคือภูมิ..ภูมิขอโทษ”
“ภูมิเห็นอันเป็นคนโง่เหรอถึงได้มาหลอกกันแบบนี้ นานหรือยัง”
“ตอบมาภูมิ หรือแอบมีมาตลอดตั้งแต่เราคบกัน!”
ร่างบางตะโกนเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“อืม ภูมินอกใจอันมาตลอด”
ในเมื่อรู้ว่าผิดเขาจะขอยอมรับไม่หาเหตุผลอะไรมาแก้ต่าง เพราะมันคงไม่มีเหตุผลไหนที่สามารถมาลบล้างความผิดของเขาได้
“ทำไม ทำไมภูมิไม่หยุดทั้งที่ภูมิก็มีอันแล้ว ทำไมภูมิเลวแบบนี้วะ!” เธอทนไม่ไหวกับคำพูดที่เห็นแก่ตัว
และดีใจที่เธอไม่ได้ให้ครั้งแรกกับเขา เพราะเธอก็ไม่แน่ใจแล้วว่าถ้าให้เขาไปสุดท้ายเขาจะหยุดที่เธอไหม ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อนทำให้รู้นิสัยว่าภาคภูมิเป็นคนยังไง เขามันเสือผู้หญิง
“เลวขนาดที่ภูมิเอากับเพื่อนของอัน!”
“ก็เพราะอันนั่นแหละ! อันไม่ให้ภูมินอนด้วยภูมิเลยต้องไปเอากับคนอื่นไง!” เขาตะโกนกลับไป ใช่เขารู้นะว่าเรื่องนี้เธอไม่ผิดแต่มันก็เป็นความรู้สึกลึกๆ ของเขาเหมือนกัน
“นี่คือเราผิด? เพราะเราไม่ให้ภูมิเอาภูมิเลยต้องไปเอากับคนอื่น? มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ!”
“…”
“ก่อนคบกัน อันบอกภูมิแล้วนะว่าอันยังไม่พร้อมขอให้ครบสามเดือนก่อนตอนนั้นภูมิก็รับปากว่าทำได้”
“แต่สุดท้ายก็มาทำแบบนี้”
“ถ้ารับไม่ได้ในข้อตกลงนี้แต่แรกจะมาคบกับเราทำไม”
“เมื่อไหร่! ทำไมต้องรอให้ครบสามเดือน ถ้าครบสามเดือนแล้วอันบอกไม่พร้อมภูมิก็ต็องรอ แล้วเมื่อไรล่ะที่อันจะพร้อม”
“แล้วมันครบสามเดือนยัง! เราคบกันมาสองเดือนเองภูมิ!อย่าพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิด” เขาเหมือนคนที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ทำผิดแต่พยายามจะโทษคนอื่น
“เฮ้อ อัน เธอนี่แม่งเห็นแก่ตัวฉิบหาย!มีกฏนั่นกฏนี่มากมาย ไม่คิดบ้างเหรอว่าภูมิต้องทนอันมามากขนาดไหน”
“ภูมิ! แบบนี่เองสินะ งั้นต่อไปภูมิก็ไม่ต้องทนอีกแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไง” ภูมิถามเสียงเข้ม
“เราเลิกกัน ต่อไปภูมิจะไปเอาผู้หญิงคนไหนหรือเพื่อนอันคนไหน อันก็จะไม่ว่าและภูมิก็มีความสุขในแบบที่ภูมิต้องการ”
“อัน..ภูมิไม่เลิก!”
“อย่าเห็นแก่ตัวสิภูมิ อันไม่สามารถเป็นแฟนกับคนที่นอกใจได้ ออกไปจากร้านอัน” เธอชี้นิ้วไล่ให้เขาออกไป แต่ภูมิก็มาจับมือแล้วขอโทษ
“อันภูมิขอโทษ ภูมิขอโอกาสอีกครั้ง..”
“โอกาสมีไว้ให้คนที่จะทำได้ แต่ภูมิอันมองไม่เห็นอะไรเลย..”
ขอร้องไม่ให้ผิงอันเลิกกับเขา พร้อมบอกจะเปลี่ยนแปลงตังเอง เขาง้อเธออยู่นานเป็นชั่วโมงแต่ผิงอันไม่ใจอ่อน เธอยื่นคำขาด
“จะเป็นเพื่อนกันต่อ หรือจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน”
นี่ถือว่าเธอใจดีกับเขามากแล้วนะ ภาคภูมิจำใจยอมรับเรื่องเลิกกันเพราะเขาไม่อยากหายไปจากชีวิตผิงอัน
ภาคภูมิเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกผิดและเศร้าใจ ทั้งที่เขาทำทุกอย่างจนได้คบกับเธอ แต่ก็มาทำผิดอย่างร้ายแรงกับเธอจนได้
พื้นฐานของคนรักอย่างแรกก็คือไม่นอกใจแฟนตัวเอง แต่เขาดันทำไม่ได้
ตอนนี้ก็คงต้องปล่อยมือกันจริงๆ ต่างคนต่างไปเริ่มต้นใหม่
-การเริ่มต้นใหม่ได้เริ่มขึ้น-“เซอร์ไพรส์อะไรครับ ตื่นเต้นเลย”คาร์ลเตอร์ถามเสียงหวาน “พี่หันได้ยัง พี่อยากรู้แล้ว อันอันจะเซอร์ไพรส์อะไร” เคอร์วินใจร้อนมากตอนนี้ “อย่าเพิ่งค่ะ” | “หันมาได้แล้วค่ะ” พรึบ! “เซอร์ไพรส์!!!” สองแฝดยืนอ้าปากค้าง จ้องตาไม่กะพริบ กับภาพของภรรยาสาวที่ใส่ชุดทูพีชสุดเซ็กซี่ สีแดงของผ้าตัดกับผิวขาวอมชมพูของเธอยิ่งทำให้เด่นกว่าเดิม “ฉันตั้งใจใส่มาเพื่อพี่สองคนเลยค่ะ” ผิงอันเตรียมชุดทูพีชสุดเซ็กซี่นี้มาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ “เกาะนี้มีแค่เราใช่ไหมล่ะคะ..” ผิงอันพูดเสียงหวาน ส่งสายตายั่วยวน มือเล็กก็ค่อยๆ แกะดึงส่วนบนที่เป็นสายผูกอยู่ด้านหลังออก จากที่ตอนแรกมีสิ่งปกปิดยอดปทุมถันสีชมพู กลับเปิดเทอมออกมา “ผิงอัน..” เคอร์วินกลืนน้ำลาย ช้า ๆ “พี่จะทนไมาไหวแล้วนะครับ” คาร์ลเตอร์รับรู้ถึงความซู่ซ่าในร่างกายตัวเอง “ก็ไม่ได้บอกให้ทนนี่คะ..” สองแฝดเดินไปประกบผิงอัน ขนาบข้างติดกันโดยมีเธออยู่ตรงกลาง จากที่สวมใส่เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกทีละชิ้น คาร์ลเตอร์ไล่จูบเธอตั้งแต่หน้าผาก ลงมาที่แก้ม จมูก ปาก คอ หน้าอก และหน้าท้องน้อย… ส่วนเคอร์วินก็ซุกซนอยู่กับหลังคอของเธอ ย้ายมือมาจับบีบหน้าอกใหญ่จนล้นออกมาต
วันนี้วันดีที่ครอบครัวใหญ่อย่างฝาแฝดคาร์ลเตอร์,เคอร์วิน คู่พี่น้องตระกูลดูรองซ์และภรรยาสาวสวยกับลูกชายตัวน้อยทั้งสามคน เดินทางมาประเทศไทยตามแพลนที่วางไว้ครั้งก่อนเรื่องเที่ยวพักผ่อน ท้องฟ้าโปร่งใส พระอาทิตย์ส่องแสงให้ความอบอุ่นไม่ได้ร้อนมากเหมือนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะว่าได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศจึงไม่ร้อน และทะเลหน้าหนาวก็สวยมากอีกด้วย ในเวลานี้สองแฝดกำลังขับรถไปส่งลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนที่บ้านโรมิโอ ระหว่างที่ขับรถไปคนเป็นพ่อก็ชวนลูกคุย คาร์ลเตอร์แทนตัวเองกับลูกว่า ปะป๊า เคอร์วินแทนตัวเองกับลูกว่า แด๊ดดี้ “เราเตรียมของให้ลูกครบแน่นะ” เคอร์วินหันไปพูดกับพี่ชายที่ขับรถ “อืม เช็กแล้ว กระเป๋าเป้คนละใบ กับของเล่น” พี่ชายตอบน้องชายฝาแฝด “บอกไอ้โรมยังว่าใกล้ถึงแล้ว” คาร์ลเตอร์ถามเสียงเรียบ “ไลน์ไปบอกเมื่อกี้ ไอ้โรมบอกว่าเดี๋ยวจะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่พรุ่งนี้” “เหรอดีเลยสิ เคย์เดนน่าจะชอบ” เคย์เดนสนใจเรื่องป่าไม้ แปลกมาทั้งที่ตัวแค่นี้แต่เจอสิ่งที่รักแล้ว “ปะป๊า แด๊ดดี้ จะพาพวกเราไปนอนบ้านเพชรชมพูจริง ๆ เหรอครับ” ลูกชายคนเล็กสุดของบ้านเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “ใช่ครับ เคย์เดน
เคอร์วินพูดจบก็เดินไปเล่นกับลูกชายคนกลาง ชวนลูกคุยถึงชื่อไดโนเสาร์สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว “ว้าว! สีตาสวยจริงด้วย!” รูบี้ใช้สองมือโอบใบหน้าเคย์เดนจ้องไปใกล้ ๆ “อื้ออ่อนเอ็บอะ” (อื้อ! ปล่อยเจ็บนะ) “รูบี้ไม่ทำแบบนั้นะลูก น้องจะเจ็บ” ลูกแก้วห้ามปรามลูกสาว รูบี้รีบปล่อยมือ แล้วชวนกันเล่น สักพักเบรย์เดนที่แยกตัวอยู่คนเดียวก็เริ่มชวนรูบี้ให้ดูในสิ่งที่ตัวเองชอบ “เหรอ มันชื่ออะไรอะ” “ไทรเซราทอป” “โอ๊ะ เบรย์เดนมีจุดสีดำที่จมูกนี่” รูบี้ตื่นเต้นกับไฝเสน่ห์ “เคย์เดนก็มีอะตรงปาก แม่หนูอยากมีจุดดำบ้าง!” “แต่หนูก็มีลักยิ้มไงคะ น้าชอบลักยิ้มหนูมากเลย”ผิงอันเอ่ยอ้าแขนออก รูบี้วิ่งไปกอด “วันนี้หนูมีของขวัญมาให้น้องด้วยไม่ใช่เหรอเอาไปให้น้องสิคะ เลือกเลยค่ะว่าจะให้ใครอันไหน” ลูกแก้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำสนิทสามกล่องไปให้ลูกสาว รูบี้เปิดทั้งสามกล่องขึ้นมา ทำท่าคิดว่าจะให้ใครอันไหนดี ของขวัญนี้เธอเลือกมาเองตอนไปบริษัทของพ่อ “อันนี้ให้อาร์เดนนะ” กล่องกำมะหยี่สีดำที่ใส่ทับทิมสีเลือดนกพิราบทั้งสีที่สดและใสแวววาว 9 การัตไปให้อาร์เดน “ส่วนอันนี้ เบรย์เดน” อีกกล่องคือ อเล็กซาน
3 ปีผ่านไป.. โรมิโอกับลูกแก้วและลูกสาวคนสวยในวัยสามขวบแปดเดือน ‘รูบี้’ มาหา และเอาของขวัญมาให้หลานชายที่อายุครบสามขวบ แต่ก็มาหลังจากที่จัดงานวันเกิดไปแล้ว เพราะสัปดาห์ก่อนพวกเขาไม่ว่างเลยมาวันนี้แทน (โรมิโอ-เรื่องมาเฟียพันธนาการรัก) “เป็นไงมึงไม่เจอกันนานเลย” “สบายดี เลี้ยงลูกสามคนสนุกดี พวกมึงล่ะเลี้ยงลูกสามคนเหมือนกันสนุกเลยสิ” โรมิโอแกล้งพูดหยอกล้อคาร์ลเตอร์กับเคอร์วิน ความจริงโรมิโอกับลูกแก้วมีเพียง ‘รูบี้’ เป็นลูกสาวทางสายเลือดเพียงคนเดียว แต่อีกสองคนคือ โอลิเวียร์และโอเรน ลูกสาวและลูกชายบุญธรรม หรือก็คือหลานแท้ ๆ นั่นแหละ “เออ ไม่ได้นอนกันเลยแหละ ดีที่จ้างพี่เลี้ยงมาช่วย” คาร์ลเตอร์เอ่ยตอบเพื่อน พร้อมกับเข้าไปกอดคอ “อิจฉามึงนะมีลูกสาว ไหนขอลุงอุ้มหน่อยครับ” เคอร์วินเข้าไปอุ้มรูบี้ที่ยืนจับขากางเกงพ่อ พร้อมยิ้มหวานให้พวกลุงๆ อวดลักยิ้มที่ได้มาจากแม่ของเธอ “ก็รีบปิดอู่ไวเกินพวกมึง” “สามคนทีเดียวก็สงสารผิงอันมากแล้ว แต่มีลูกสาวสักคนก็คงดี”คาร์ลเตอร์เอ่ยต่อมองไปทางหลาน พลางคิดว่าถ้าเขามีลูกสาวบ้างจะเป็นไงนะ บ้านคงมีสีสันขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า “พวกมึงก็มาเป็นพ่อทูน
เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนหลังขอแต่งงานเธอก็ได้รับรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือน และมากกว่านั้นคือผิงอันได้มีโซ่ทองคล้องใจ ถึงสามเส้นให้กับคาร์ลและเคอร์วิน เธอมีลูกชายฝาแฝดถึงสามคน! เป็นการตั้งครรภ์ที่เสี่ยงมากและพวกเขาก็ทำการปิดอู่ไปตลอดกาล…เพราะสองแฝดไม่อาจทนเห็นเธอทรมานอีกแล้ว การตั้งท้องทายาทให้พวกทีเดียวถึงสามคนไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้เลย แต่ผิงอันก็ให้ได้ ช่วงระยะเวลาเก้าเดือนที่เธออุ้มท้องลูกน้อยทั้งสามคน สองพี่น้องรู้สึกสงสารภรรยาตัวเองยิ่งนักเพราะมีเด็กอยู่ในท้องถึงสามคนเพียงแค่ สี่-ห้า เดือนท้องก็ใหญ่เหมือนจะใกล้คลอด เธอต้องทนปวดร้าวร่างกายเพื่อลูกพวกเขา สองแฝดคอยดูแลเธอไม่ห่าง เอาใจใส่ทุกอย่าง เพราะกลัวเธอจะคิดมากเรื่องร่างกายที่เปลี่ยนไป เพราะสำหรับผู้หญิงบางคนเรื่องรูปร่างก็สำคัญไม่ต่างจากการดูแลเส้นผม…ท้องเธอขยายใหญ่ จนเกิดรอยแตกลายขึ้นที่พุง กลับกันผิงอันไม่กังวลใจอะไรเลย มีแต่สองคนนั่นแหละที่เอาแต่กังวล จนร้องไห้แทนเธอ เอ็นดูพวกเขาจริงๆก่อนเธอคลอด“ฮือ ขอโทษนะครับที่ทำให้ทรมาน” เคอร์วินพูดไปร้องไห้ไป มือก็บีบนวดไหล่ให้เธอไปด้วย“ฮึก เจ็บมากใช่ไหม ให้นวดตรงไหน
พอทานอาหารเสร็จเคอร์วินก็เปลี่ยนมาขับรถพาเธอไปสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Alexander III Bridge) เพราะว่าสะพานนั้นอยู่ใกล้กลับสถานที่พิเศษของทริปนี้ที่พวกเขาอยากทำเซอร์ไพรส์ให้กับเธอ…ทั้งสามคนเดินเที่ยวเล่นกันหลายที่ นอนพักโรงแรมที่ใหม่ใกล้ๆแถวนั้น แล้วก็พาเธอออกมาเที่ยวต่อตามที่ผิงอันอยากไป แล้วเก็บเซอร์ไพรส์ไว้อย่างสุดท้ายเวลาก็ผ่านไปเรื่องจนพระอาทิตย์ที่เคยส่องแสงก็โบกลาลับไปกับขอบฟ้า เปลี่ยนพระจันทร์ที่มาทำหน้าที่แทนในการส่องสว่างสีขาวนวล“เหนื่อยหรือยัง”“ยางง”“โกหกแล้วที่รัก”“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พูดจริงนะคะ”“แต่หิวมากกว่า..” ผิงอันลูบห้อง“ได้นิ เพราะที่สุดท้ายของวันนี้เป็นที่ ที่จะพาไปดินเนอร์”“แต่ต้องปิดตาก่อนนะ”“อุ้ย เป็นเซอร์ไพรส์เหรอคะ”“อืม”คาร์ลเตอร์หยิบผ้าขึ้นมาปิดตาเธอ พาไปขึ้นรถ รถหรูเปิดประทุนขับแล่นไปเรื่อยๆ สายลมในยามกลางคืนพัดผ่านมือผิงอันที่ยกขึ้นสัมผัสกับอากาศ“ถึงแล้วครับ”คาร์ลเตอร์เปิดประตู ประคองผิงอันลงมาจากรถ ค่อยแกะผ้าปิดตาเธอให้เปิดออกให้เห็นหอไอเฟลแสนสวยที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้มาเห็นกับคา มันปรากฏตรงหน้าเธอแล้ว“กรี๊ด! สวยมาก”“แต่ทำไมมีคนเลยล่ะ..”ผิงอั