Beranda / LGBTQ+ / Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า / 10 | สัญญาที่กลายเป็นเพียงน้ำลายไร้ราคา

Share

10 | สัญญาที่กลายเป็นเพียงน้ำลายไร้ราคา

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-26 12:08:03

(เคมี)

แปดวันหลังจากที่ผมกับเขามีการติดต่อกัน ทักหาผมทุกวันทั้งที่บางครั้งก็ไม่มีอะไรจะโต้ตอบ ตอนนี้ตามตัวผมเริ่มเห็นรอยเขียวช้ำกว่าเดิม มีอาการปวดแทบลุกไม่ไหว มีเขาคอยมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อน แต่วันนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ข้อความทักทายที่ชอบส่งมาในยามเช้าก็ยังไม่มี ผมคอยมองไปยังหน้าจอมือถือ คือผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเฝ้ารอ อาจเพราะเริ่มชิน?

“น่าเบื่อจัง”

ตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้ากลับบ้าน ได้แต่โทรบอกพ่อกับแม่ว่าติดธุระแก้ต่างเพื่อไม่ให้พวกท่านเป็นห่วง ผมเลือกที่จะปิดทีวีแล้วหยิบมือถือมาเล่น เลื่อนไปเลื่อนมาก็ดันมาเจอโพสต์ของแฟนเก่า ทำเอาผมรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ เมื่อภาพที่ผมเห็นมันคือภาพที่บ่งบอกว่าเธอกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตกับคนที่เธอแต่งงานด้วย

“นับเดือน”

ผมมองภาพบนหน้าจอมือถือ แล้วเอ่ยชื่อผู้หญิงที่ผมรักพร้อมน้ำตาที่มันเริ่มเอ่อขอบตา ยิ่งมองผมก็ยิ่งเสียใจ เสียใจไม่สามารถปกป้องเธอได้ ต้องปล่อยมือเธอทั้งที่เคยสัญญา ไม่ว่ามีปัญหาอะไรเราสองคนจะเผชิญมันไปด้วยกัน และนั่นก็ดันเป็นเพียงน้ำลายที่ไร้ราคา ผมไม่สามารถทำได้อย่างที่สัญญา

“ยินดีด้วยนะ” ผมพิมพ์คอมเมนต์ไป ต่อท้ายประโยคด้วยอิโมจิรอยยิ้ม แต่จริงแล้วผมอวยพรเธอทั้งน้ำตา

“เราสองคนต้องจบแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม?”

ไม่ไหวที่จะมอง ผมวางมือถือลงข้างตัวแล้วฟุบหน้าลงเข่า ปล่อยเสียงร้องไห้โฮ ไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาได้แล้วจริง ๆ สิ่งที่บีบหัวใจผมแทบแหลกสลาย ผมไม่อาจรักษาเธอไว้ข้างกายได้  สุดท้ายต้องยอมปล่อย...แต่ผมจะทำได้ไหมในเมื่อตอนนี้ทุกครั้งที่หลับตา มันยังมีความทรงจำเก่า ๆ ผุดเข้ามาภาพจำของผมตลอดเลย

📳 เสียงแจ้งเตือนในมือถือดังขึ้น ทำให้ผมรีบคืนสติกลับมา

(ทำไรอยู่อะ)

“กินไก่ทอด”

(อย่ากินไก่หมดนะ)

“?”

(ก็ถ้าไก่หมดจานคือการหมดใจอะดิ)

“กูจะกินยันจานด้วยเลย เพราะกูรำคาญมึงมาก”

(โห เดี๋ยวนี้ขึ้นกูมึง?)

“แล้วจะทำไม”

(ก็ไม่ทำไม รำคาญแปลว่ารัก)

“แล้วแต่จะเข้าใจตามสันดานเถอะ”

(เริ่มหยาบคายละ)

“พอดีมีเพื่อนใหม่เป็นคนหยาบกระด้างอะครับ ศีลจะได้เสมอกัน”

(อ้อ ๆ เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เพื่อนใหม่ท่าทางจะหน้าตาดีมากแน่ ๆ)

ผมตอบแชตด้วยการโกหกตั้งแต่ประโยคแรก น้ำตาที่ล้นขอบตาเริ่มเหือดหายไป เมื่อได้คุยกับเขาที่แม้จะไม่เห็นเงาแต่ข้อความของเขาก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ความยียวนที่สร้างความรำคาญ แต่ดันสร้างรอยยิ้มให้ผมได้เช่นกัน ผมไม่ตอบกลับประโยคสุดท้าย ปิดมือถือหนีเลยครับ ขี้เกียจตอบโต้ให้ยืดยาว จากนั้นผมจึงทิ้งตัวลงนอนจนหลับไป

ไม่รู้หลับไปนานแค่ไหนผมสะดุ้งตื่น เพราะเสียงที่ดังโครมครามตรงประตู พร้อมกับเสียงเรียกที่แว่วเข้าหูทำให้ผมต้องพรวดพราดลงจากเตียงอย่างลืมเจ็บ

“เฮ้อ...นึกว่าอะไร” เสียงเรียกชัดเจนว่าเป็นใคร ทำให้ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตู

“ทำบ้าอะไรอยู่วะเรียกตั้งนาน ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาเป็นห่วง” โวยวายใส่หน้าผมทันที สีหน้าจริงจังคิ้วขมวด

“แล้วจะโวยวายเสียงดังทำไมวะ” ผมตอบโต้เสียงแข็ง

“กูเป็นห่วงมึงไง แชตไม่ตอบ มือถือแถมปิดเครื่องอีก”

“ก็นอนหลับ”

“ไอ้ควาย!”

“เอ้า บ้าปะเนี่ยจู่ ๆ ก็มาด่า”

“มึงมันสมควรโดนกูด่า”

เขาชี้หน้าด่าผมตั้งแต่เข้ามาในห้อง ท่าทางตอนนี้ยังคงโมโหไม่หาย ทำไมต้องดูโกรธขนาดนั้นก็ไม่รู้ คำด่าของเขาบางทีผมก็ควรจะชินได้แล้ว แต่บางครั้งมันก็รู้สึกว่าเขาด่าผมเกินไป ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าด่าขนาดนั้น เขามันคนปากหมา!

“แล้วนั่นแขนไปโดนอะไรมา  ทำไมมีผ้าพันแผล”

“มันก็ต้องมีแผลสิถามแปลก”

“ถามดี ๆ ทำไมต้องกวนตีนตลอด”

“กูก็เป็นคนแบบนี้แหละ หรือรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาคบ”

“ไปกันใหญ่ละ หัดมีเหตุผลบ้างดิ”

“เออกูมันคนไม่มีเหตุผล”

“จริง”

“ไอ้เคมี!”

“ไม่เถียงด้วยละ กินน้ำเย็น ๆ ดับความหัวร้อนซะ”

ผมเงียบไปชั่วครู่ ก่อนสายตาจะมองเห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนแขนจึงถามขึ้น แต่ดันไม่ได้คำตอบตามที่คาดหวัง ได้แต่คำด่ามาแทน เลยเลือกที่จะเป็นฝ่ายเงียบปาก เดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้แทน

“ใจเย็นลงบ้างหรือยัง”

“อืม”

“ตอบมาดี ๆ ว่าไปทำอะไรมาถึงได้มีแผลบนแขน”

“อุบัติเหตุนิดหน่อยที่ไซต์งานก่อสร้าง”

“ก็ตอบดี ๆ ได้นี่นา ทำไมต้องชอบเสียงดัง”

“ไม่รู้”

ผมเดินไปนั่งตรงข้ามแล้วถามเขาอีกครั้ง เขาตอบผมไม่มองหน้า ชักสีหน้างอน ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร ตัวโตเป็นควายแต่นิสัยบางครั้งก็เป็นเด็กสามขวบ แต่บทจะห่ามก็ห่ามสุด ๆ หลายบุคลิกจริงคนนี้ ที่ผมถามก็ไม่อะไรมากคือจากลักษณะของการพันแผลดูแล้วไม่น่าจะเป็นบาดแผลเล็ก ๆ  ห่วงเขานั่นแหละ

“ไฟฟ้าอายุสามขวบ” ผมแซว

“ใครสามขวบเดี๋ยวตบปากแตก” เก่งเหลือเกินครับเรื่องใช้กำลัง แต่ท่าทางคงจะเขินที่โดนผมแซว

“ก็มันจริง ดูท่าทางนายตอนนี้ดิ เหมือนคนอายุใกล้เข้าเลขสามหรือไง ก็ใกล้แหละเนอะสามขวบ”

“ยังจะพูดมากอีก”

“นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานไม่ใช่ไง ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”

“เจ็บแขน”

“แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปพักผ่อน”

“เรื่อง ของ กูครับ”

“เฮ้อ ปวดหัวกับนายจริง ๆ ไปนอนต่อละ”

“นอนด้วย!”

พูดจบผมก็เดินไปยังเตียงนอน แต่ก็มีม้าไวกระโดนขึ้นเตียงตัดหน้าผมก่อน ก็ได้แต่ส่ายหัวเอือมระอา ก่อนจะเอนตัวนอนข้างเขาที่หันหลังให้ ความเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกว่าสนิทกันไวมาก เวลาที่ผมอยู่กับเขาก็รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งผิดจากแต่ก่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   50 | ตอนจบ

    //วันถัดมา//เคมี“พี่พร้อมไหม?” ผมจับมือพี่ไฟฟ้า พร้อมกับเอ่ยถาม เมื่อเห็นพี่เขายืนกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยสีหน้าคิ้วขมวด เพราะพวกเราสองคนนั่งอยู่ในรถราวสิบห้านาที“พะ พร้อม” ตอบตะกุกตะกัก ดูน่าสงสารมากเลยครับ“ถ้าพี่ไม่ไหว วันหลังเราค่อยมาใหม่ก็ได้นะ” เห็นสีหน้าเขาแล้วผมรู้สึกเป็นห่วง“ยังไงก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกัน” พี่ไฟฟ้าสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ถ้าพี่โอเค เราเข้าไปกันเลยไหม?”“อืม”ตกลงกันได้ผมกับพี่ไฟฟ้าจึงพากันเดินมุ่งตรงเข้าไปในบ้าน การมาครั้งนี้ผมได้ส่งข้อความบอกพ่อกับแม่ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะพาเพื่อนสนิทมาทำความรู้จัก ซึ่งแม่ก็ตอบกลับมาว่ายินดี และตามด้วยข้อความของพ่อ บอกจะรออยู่ที่บ้าน ซึ่งดูท่านก็ตอบปกติ ไม่ได้ถามต่อให้มากความ“แม่ครับ พ่อครับ ผมมาแล้ว” ผมพูดเมื่อเดินมาในบ้าน ตรงโซนรับแขก“สวัสดีครับ” พี่ไฟฟ้ายกมือไหว้พ่อกับแม่ของผม และฉีกยิ้มอ่อนเบา ๆ“มากันแล้วเหรอ เดี๋ยวแม่เอาน้ำมาให้ คุยเล่นกับพ่อไปก่อนนะ” แม่เงยหน้าจากจอทีวีแล้วทักทายพวกผมด้วยรอยยิ้ม แม่ของผมเป็นคนใจดีครับ“นั่งสิ” เป็นเสียงพ่อที่บอกกล่าว แล้วพวกเราก็นั่งลงเก้าอี้ข้างกัน“ขอ

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   49|เหมือนลมหายใจเดียวกัน

    เหมือนลมหายใจเดียวกันเคมี“คืนนี้พี่จะค้างที่นี่ใช่ไหม?” ผมถามพร้อมด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หลังจากรถยนต์จอดสนิท“ก็ว่าจะไม่...”“พี่ไฟฟ้า” ผมเรียกเสียงอ่อนเหมือนอ้อนวอนตัดบท“แต่ทำงานเหนื่อยขี้เกียจขับรถกลับ” ประโยคตอบรับทำให้ผมฉีกยิ้มทันที“งั้นรีบขึ้นไปกันเถอะ พี่จะได้อาบน้ำแล้วพักผ่อน”“อืม”จากนั้นผมและพี่ไฟฟ้าก็ขึ้นมายังหอพัก เขาวางสีหน้าบึ้งตลอดตั้งแต่เดินทางมา แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมากมาย เพราะกลัวว่าพี่เขาจะเปลี่ยนใจ เห็นโหด ๆ แต่บางทีก็อ่อนไหวง่ายเหลือเกินผมเข้าใจในความโกรธที่พี่ไฟฟ้าเป็นดี หลังจากที่พี่ไฟฟ้าหนีออกมาในวันนั้น ก็นั่งคิดทบทวนเหตุการณ์อยู่หลายหน จนผมตระหนักได้ และรู้นิสัยของพี่ไฟฟ้าว่าเป็นคนยังไง เขาเป็นคนคิดมากและขี้หวง แม้นิสัยที่แสดงออกมานั้นจะห่าม แต่ลึกแล้วเขามีใจเปราะบางแต่แสร้งเข้มแข็ง ผมไม่น่าจะใส่อารมณ์กับพี่ไฟฟ้าไปแบบนั้น ทั้งที่รู้นิสัยใจคอเขาเป็นอย่างดี ผมรู้สึกผิดและเสียใจมาก เมื่อย้อนคิดในเรื่องราวเหตุการณ์ใต้ตึกคณะในวันนั้นผมไม่ได้คิดอะไรกับรุ่นพี่ แต่ใจผมรู้ดีว่ารุ่นพี่คิดยังไงกับผม ซึ่งเป็นอย่างที่พี่ไฟฟ้าคาดเดา เขาชอบผม แต่ผมปฏิเสธไปแล้ว การที่รุ่

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   48 | บอกรักไม่จำเป็นต้องมีคำว่ารัก

    วันต่อมาผมเข้าบริษัทตามปกติ เพราะวันนี้มีนัดประชุมเรื่องโครงการใหม่ หลังจากที่เมื่อเช้าไปเยี่ยมไอ้กลาส ตอนนี้กลาสรู้สึกตัวแล้ว และมีน้องเพชรพลอยคอยดูแลไม่ห่าง ผมยืนสังเกตท่าทีของกลาสและน้องเพชรพลอยอยู่ด้านนอกผ่านช่องกระจกเล็ก ๆ เลยไม่อยากเข้าไปขัด ทำให้เสียบรรยากาศ กลาสมันดูปฏิบัติกับน้องเพชรพลอยแตกต่างจากแต่ก่อน เห็นแล้วทำให้ผมยิ้มตามและรู้สึกยินดี บางทีการที่บอกว่ากลบข่าวเรื่องเกย์ อาจจะทำให้ทั้งสองคนมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างไม่รู้ตัวก็ได้“ทำไมพี่ไม่อ่านข้อความหรือรับสายผมบ้าง” ระหว่างที่ผมจอดรถสนิทและกำลังจะปิดประตู เสียงที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น จึงทำให้ผมนิ่งและหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบ“ไม่ค่อยว่าง พอดีช่วงนี้มีโครงการใหม่เลยยุ่ง ๆ” ผมตอบแล้วเดินเลี่ยงออกมาจะเข้าไปในตึกสำนักงาน“พี่หลบหน้าผม”“เปล่า...แล้ววันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง?”“คุยกันก่อนพี่ไฟฟ้า” เคมีมันคว้าแขนของผมไว้ ทำให้ผมหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง น้องมันเลยขยับมายืนตรงหน้าของผม“วันนี้กูมีประชุม”“พี่โกรธผมใช่ไหม?”“ไม่ได้โกรธ...จะให้โกรธเรื่องอะไรล่ะ”“ก็เรื่องเมื่อสามวันก่อนที่เราทะเลาะกัน”“กูผิดก็ขอโทษ

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   47 | คนขี้อิจฉา

    ผมขับรถออกมาอย่างคนไร้จุดหมาย ตอนนี้หัวสมองมันเริ่มจะประมวลภาพพวกนั้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ผมอยากจะเชื่อคำพูดของเคมี แต่อดที่จะคิดไม่ได้...เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้ผมหลุดจากความคิดเรื่อยเปื่อย“อืม...ว่าไงไม้?”“อยู่ไหนวะไฟฟ้า”“ขับรถอยู่”“มึงเห็นข่าวไอ้กลาสหรือยัง?...ด่วน ๆ เลยตอนนี้”เมื่อไม้บอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วร้อนรน ผมเลยรีบจอดรถข้างถนนทันที แล้วเปิดดูหน้าข่าวตามลิงก์ที่ไม้มันส่งมาให้ในแชต“เกิดอะไรขึ้นกับไอ้กลาสกันแน่”“กูก็ไม่รู้ ตอนนี้ไอ้กิตอยู่กับไอ้กลาส ติดต่อไปก็ไม่มีใครรับสาย”“กูจะไปโรงพยาบาลตอนนี้แหละ”“อืม ๆ เดี๋ยวกูจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”“เจอกัน”“อืม”ทันทีที่ผมเห็นข่าวก็ตกใจจนมือสั่น เพียงแค่เห็นภาพของไอ้กลาสที่โชกเลือด แม้ภาพข่าวจะมีการเซ็นเซอร์เอาไว้ ผมก็รู้ว่านั่นคือกลาสเพื่อนสนิทของกลุ่มผม พวกเราเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเร็วจนผมตั้งรับไม่ทัน ห่วงว่ากลาสจะเป็นอันตราย แม้ผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่กลาสเจอ ว่าต้นตอเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ผมรู้ว่ากลาสไม่มีศัตรูที่ไหนเลย นอกจากวงการธุรกิจของครอบครัวมัน//โรงพยาบาล//ผมมาถึงในเวล

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   46 | เหตุเกิดจากคนอื่น

    (ไฟฟ้า)“เบื่อว่ะ”“เบื่อไรของมึงอีกครับพี่ไฟฟ้า”“บางครั้งกูก็รักอิสระ แต่กูก็อยากมีโมเม้นมีแฟน แต่กูก็ยังรักอิสระ แต่กูก็อยากมีแฟน แต่บางครั้งกูก็อยากอยู่คนเดียว แต่กูก็อยากมีแฟนอะ”“แต่ตอนนี้กูอยากถีบมึงมากครับพี่ เพราะกูรำคาญมึง และกูก็อยากอยู่คนเดียว”“โอ๊ย!...ใจร้าย หยอกเล่นหรอก ก็มึงไม่สนใจกูเลยไง เอาแต่สนใจหนังนี่หว่า”ผมพูดขึ้นระหว่างที่เราสองคนกำลังนั่งดูหนังด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาการไหนก็ไม่รู้ครับ แต่ผมอยากจะกวนตีนไอ้ดื้อที่มันไม่สนใจผมสักนิด เอาแต่นั่งดูหนังอย่างใจจดจ่อ เลยอยากจะเรียกร้องความสนใจ แต่เหมือนน้องมันจะไม่ค่อยแคร์แถมยกเท้าถีบผมจนตกโซฟาก้นกระแทกพื้นอีก“สมน้ำหน้า”“มึงจำไว้เลยเคมี อย่าให้ถึงทีกูนะ ถีบมาได้ไอ้บ้านี่”“กวนอยู่ได้คนกำลังดูหนังสนุก ๆ กลับบ้านไปเลยไป”“ไม่กลับ...กูไม่กลับ”“ลูกดี ๆ ที่ไหนปล่อยให้พ่อแม่อยู่บ้านลำพังวันสุดสัปดาห์”“ลูกดี ๆ แบบกูนี่แหละ”“ทำตัวเหมือนไม่มีที่นอนเป็นของตัวเอง”“ทุกที่คือที่นอนของกูไงครับ”“ต่อปากต่อคำเก่งเหลือเกิน”“ต่อปาก...มึงกล้าปะทะกับกูปะล่ะ”“วุ้ย! วนมาเรื่องลามกอีกละ”กวนกันไปกันมาด้วยความมีไหวพริบแบบผม เลยท

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   45 | แค่เห็นหน้าก็อดใจไม่ไหว

    “พี่ใจเย็นก่อนสิครับ”“เห็นหน้ามึงแล้วกูอดใจไม่ไหวเคมี”เพียงผมเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก ก็ถูกลุกล้ำด้วยการไล่จูบ ถูกพี่ไฟฟ้าดันแผ่นหลังแนบชิดกับผนังห้อง สองมือของเขาถอดเสื้อของผมอย่างคนรีบร้อน ตอนนี้ทุกอย่างล่อแหลมแม้เราสองคนจะยังไม่ถึงเตียงนอน เขาปลุกปั่นอารมณ์ของผมจนยากที่จะหักห้าม“พี่ครับ”“กูต้องการมึงเคมี รักมึงมากนะ”เขาบอกรักผมทั้งที่ยังดอมดมตามซอกคอ นั่นยิ่งสร้างความปั่นป่วนภายในร่างกายของผมให้ร้อนรุ่ม“เรายังไม่ได้ทำความสะอาด”“ช่างแม่ง แข็งจนจะระเบิดแล้ว”“อื้ม พี่ครับ”ผมดันอกของพี่ไฟฟ้าไว้ แล้วเตือนในเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนทำกิจกรรมบนเตียง แต่พี่ไฟฟ้าไม่ได้สนใจสักนิด เขายังเล้าโลมตามร่างกายของผมไม่หยุดหย่อน เขาบดจูบปากของผมด้วยความช่ำชอง จูบอย่างดูดวิญญาณผมก้าวขาเดินตามแรงของพี่ไฟฟ้าอย่างไม่รู้ทิศทางด้วยความเคลิบเคลิ้มจากรสจูบที่พี่เขาปรนเปรอ รู้สึกวาบหวามจนขนลุกซู่ไปทั้งตัวตอนนี้เสื้อผ้าของเราสองคนหลุดออกจากตัวด้วยความรวดเร็ว จนเผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของกันและกัน ผมเริ่มทัดทานแรงเร้าของพี่ไฟฟ้าไม่ไหว ดันเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ ตัวตนที่ขึงขังชี้หน้าผมอย่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status