Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 1
"โหหหหหห.. นี่บ้านคนจริงๆ หรอวะ? " แพรวห่อปากครางถามออกมาหน้าอึ้งๆ ขณะแหงนหน้าขึ้นมองประตูรั้วสูงละลิ่วที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านโชว์ความอลังการอยู่ตรงหน้า คนข้างๆ ที่มาด้วยก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ เช่นกัน
สาเหตุที่นำพาอิงเอยกับแพรวมาอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี้ได้มันสืบเนื่องมาจากใบปลิวรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กใบนั้นที่เพื่อนเอามาให้ดูและคะยั้นคะยอให้สมัคร ร่างบางก็ส่งหลักฐานทุกอย่างตามที่ในใบปลิวบอกไว้ไปสมัครด้วยความจำเป็น แถมยังคิดไว้ก่อนด้วยว่าคงไม่ผ่านแน่ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเธอ เรียกให้มาที่นี่เพื่อทำการคัดตัวจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง ด้วยความกลัวเธอจึงลากเพื่อนมาด้วย
ตอนออกจากห้องมาก็มีความมั่นใจอยู่หรอก แต่พอมาเห็นความใหญ่โตของบ้าน (ว่าที่) เจ้านายในอนาคตแล้วกลับรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นการแต่งตัว ร่างบางไม่รู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอจึงใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่สภาพสุดแสนจะเก่าแสนเก่า! หน้าก็ไม่ได้แต่ง ยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กเร่ร่อนมาขอทานบ้านเศรษฐียังไงยังงั้น กลับตอนนี้เลยได้ไหมอ่ะ กลัวเข้าไปเหยียบแล้วบ้านเขาจะแปดเปื้อน T^T
"กลับเหอะแก ไม่ได้ชัวร์เลยอ่ะ" อิงเอยหันไปบอกแพรวหน้าเศร้า ปากบางเบะเตรียมจะร้องไห้ออกมารอนๆ เพราะถ้าพลาดที่นี่เธอก็ต้องหางานใหม่ ซึ่งไม่ได้หาได้ง่ายๆ เลยสักนิด
"ได้ไงล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วนะเว้ย ลองดูสักตั้งดิ เผื่อได้" แพรวหันมาส่ายหน้าดิก ไม่เห็นด้วยที่มาจนถึงนี่แล้วจะพากันกลับไปมือเปล่า อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ได้พยายามก่อนเถอะ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
"แต่...แกดูสภาพฉันดิ แล้วดูบ้านเขา! " ร่างบางขึ้นเสียงดังนิดๆ เพื่อให้เพื่อนยอมรับความเป็นจริง เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าเราทั้งคู่ไม่เหมาะกับที่แบบนี้
"แกไม่ได้มาสมัครเป็นเมียเจ้าของบ้านสักหน่อย จะคิดมากทำไมเนี่ย เลิกงอแงและเข้าไปลุยกัน! " ร่างสูงกว่าดึงสติคนตัวเล็กกลับมา ก่อนตัดบทคว้าจับมือบางไว้กันหนีแล้วเดินไปกดออด รอไม่นานเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ไม่รู้เรียกว่าอะไรก็ทำให้หน้าจอสี่เหลี่ยมสีดำที่ติดอยู่ข้างๆ ออดปรากฏภาพผู้หญิงในชุดเมดสีดำขึ้นมา
"มาหาใครคะ? " คนในนั้นถามขึ้น คนฟังทั้งสองที่ยังคงอึ้งทึ่งกับเทคโนโลยีไฮเทคนั้นไม่มีโอกาสได้เรียบเรียงคำพูด แพรวจึงหันไปหาอิงเอยแล้วฉกจดหมายเรียกตัวที่เธอถืออยู่ออกมากางให้แม่บ้านชุดเมดคนนั้นดูพร้อมอธิบายบอก
"มาตามใบเรียกนี้อ่าค่ะ สมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก"
"เชิญเข้ามาเลยค่ะ" ไม่จำเป็นต้องถามอะไรต่อให้มากความ สาวใช้ก็ยอมให้พวกเธอเข้าไปอย่างง่ายดาย สิ้นคำบอกหน้าจอนั้นก็ดับไป ก่อนที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะค่อยๆ เลื่อนเปิดออก
สองสาวมองความสะดวกสบายนั้นอย่างทึ่งๆ อีกครั้ง ก่อนเรียกความมั่นใจแล้วพากันเดินเข้าไป แต่กว่าจะถึงตัวบ้านก็เดินกันจนหอบ เพราะทางเข้าช่างไกลแสนไกล มีทั้งสนามหญ้า สวนย่อมที่ขนาดไม่ย่อม และน้ำพุตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทางเดิน ทำให้ต้องเดินอ้อม คนเหนื่อยง่ายอย่างอิงเอยเลยอดบ่นออกมาไม่ได้ และก็บ่นไปตลอดทางจนมาถึงทางเข้าประตูบ้านที่มีหญิงสาวชุดเมดคนเดียวกับที่เห็นในจอยืนรออยู่
"โดนเรียกทั้งสองคนเลยหรอคะ" คำทักทายแรกเป็นประโยคคำถามที่ประกอบด้วยความคลางแคลงใจอย่างหนัก เนื่องจากมากันสองคนแต่ตรงคุณสมบัติที่เจ้านายต้องการอยู่แค่คนเดียว ดวงตากลมคมกริบคู่นั้นเลยจ้องมองมาที่แพรวอย่างต้องการคำตอบ
"คนเดียวค่ะ ฉันแค่มาเป็นเพื่อน" แพรวบอกเสียงห้วน และแอบมองค้อนใครคนนั้นกลับอย่างเคืองๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนมองด้วยสายตาดูถูก ชิส์.. อย่าให้ถูกรางวัลที่หนึ่งนะ จะแปลงทั้งตัวให้สวยว่าอั้ม พัชราภาเลยคอยดู!
"งั้นก็รอข้างนอกค่ะ ที่สำคัญห้ามเดินเพ่นพ่าน.. ส่วนคุณ เชิญทางนี้ค่ะ" สาวใช้ชุดเมดเองก็เหมือนจะรู้ตัวเลยบอกเสียงห้วนพร้อมเขม่นกลับอย่างไม่ปิดบัง สิ้นคำก็เชิดหน้าขึ้นก่อนเดินนำอิงเอยเข้าไปในบ้าน
"ห่ากินหัวมึง จักแม่นผู้ดีผู้งามคักเนาะ อีผีปอบเอ้ย" แพรวด่าไล่หลังเป็นภาษาถิ่นบ้านเกิดพร้อมกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนยังต้องเข้าไปสัมภาษณ์งานนะ แม่จะเข้าไปกระชากหัวมาตบสักฉาดสองฉาด เอาให้ลืมบ้านเลขที่ไปเลย!
"ใจเย็น.. รอไม่นานหรอกมั้ง อย่าหนีกลับก่อนนะเว้ย" ร่างบางปรามคนโกรธเสียงเบา พร้อมสั่งกำชับเสียงเข้มว่าห้ามแพรวหนีกลับก่อนเด็ดขาด ถึงจะไม่ได้เข้าไปด้วยกันแต่ถ้ารู้ว่าเพื่อนยังอยู่ข้างนอกมันก็ช่วยทำให้อุ่นใจได้นิดๆ แหละนะ
"เออ ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นแกตะโกนดังๆ เลยนะ ไม่ก็รีบวิ่งออกมา ฉันรออยู่นี่แหละ" คนรอสั่งกำชับเพื่อนตัวเล็กเช่นกันพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ คนฟังยิ้มตอบนิดๆ ก่อนสูดลมหายใจเรียกสมาธิแล้วเดินตามสาวแม่บ้านคนนั้นเข้าไป
ร่างบางถูกพาไปยังห้องๆ หนึ่งที่น่าจะเป็นห้องรับแขก แล้วก็ได้พบว่าเธอไม่ได้ถูกเรียกมาแค่คนเดียว ยังมีผู้หญิงหน้าตาดีตรงกับคุณสมบัติในใบรับสมัครทุกระเบียดนิ้วนั่งหน้าสลอนรออยู่ก่อนแล้วอีกห้าคน พอเห็นเธอเดินตัวลีบๆ เข้าไปพวกหล่อนก็ต่างมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะก็อย่างที่เคยบอกไปว่าหน้าก็ไม่แต่ง ชุดก็มอซอแถมยังเตี้ยที่สุดในกลุ่มเพราะใส่เพียงผ้าใบมา ในขณะที่คนอื่นแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเหมือนจะมาประกวดนางงามมากกว่ามาสมัครงาน ความหรูหราใหญ่โตของบ้านว่าทำเอาท้อมากแล้ว มาเจอคู่แข่งแต่ละคนยิ่งท้อและหดหู่หนักไปอีก ความแปลกแยกทำคนตัวเล็กได้แต่นั่งซึมหดตัวเล็กลงกว่าเดิมเพื่อปกป้องตัวเองจากรังสีอำมหิตที่มองมาไม่หยุดหย่อน ระหว่างที่นั่งรออย่างไร้ความหวังในหัวสมองก็เริ่มคิดไปก่อนว่าพรุ่งนี้จะไปหางานที่ไหนดีเพราะที่นี่คงจะไม่ได้แน่ๆ
"กรุณายืนเรียงแถวหน้ากระดานด้วยค่ะ คุณไบรอันกับคุณหนูอลันกำลังจะเข้ามา" นั่งรอสักพักสาวชุดเมดที่พาเธอมาทิ้งไว้แล้วออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนพูดขึ้นเสียงเข้ม ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนตามที่บอก และเพราะมาช้าอิงเอยเลยได้อยู่คนสุดท้ายซึ่งยืนอยู่ริมแถวยิ่งทำให้ดูมืดมน เป็นหลุมดำหรือเนื้องอกติ่งเล็กๆ ที่ควรจะตัดออกไป =_="
"....?? " ร่างบางทำหน้างงๆ เมื่อเห็นอีกห้าคนที่เหลือออกอาการระริกระรี้ดี๊ด๊าคอยสำรวจความสวยงามของตัวเองกันยกใหญ่เมื่อรู้ว่าเจ้าของบ้านจะเข้ามา มีเพียงเธอที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกระตือรือร้นกันขนาดนั้น เลยเอาแต่ยืนห่อไหล่ทำหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียว ถ้ารู้จะเจอแบบนี้กลับไปตั้งแต่ยังไม่เข้ามาก็ดีหรอก มาก็อับอายขายขี้หน้าเปล่าๆ T^T
พรึ่บ!
ไม่นานนักเจ้าของบ้านก็ปรากฏตัวขึ้น.. เป็นหนึ่งร่างสูงใหญ่กับอีกหนึ่งร่างเล็กๆ ที่ถูกอุ้มอยู่บนท่อนแขนกำยำของคนเป็นพ่อ นาทีนั้นห้องทั้งห้องที่เคยมีเสียงซุบซิบก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนยืนนิ่งอึ้งกับความหล่อเหลาของร่างสูงนั้น เขาไม่ใช่ชายไทยแต่เป็นฝรั่งผมบลอนด์หน้าคมเข้มที่มีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนทรงเสน่ห์บวกรูปร่างสูงกำยำอย่างชาวตะวันตก เพียงแค่ยืนเฉยๆ ก็สามารถสะกดสายตาคนที่พบเจอให้ต้องตกอยู่ในภวังค์ เป็นเสน่ห์อันแรงกล้าที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจต้านทานได้เลยจริงๆ
เฮือก!
ร่างสูงนั้นกวาดสายตามองสาวงามตรงหน้าไล่ตั้งแต่คนแรกจนมาหยุดอยู่ที่อิงเอย.. ร่างบางสะดุ้งไหวหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้มองสบตาคมตรงๆ เนื่องจากเขามองนิ่งอยู่ที่เธอนานกว่าคนอื่นๆ ยิ่งทำเอาประหม่าเกร็งและอายจนต้องรีบหลบสายตา เพราะเธอเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่หลงมาอยู่ท่ามกลางฝูงหงส์ เขาเองก็คงจะคิดแบบนั้น
"อลัน.. อยากได้พี่เลี้ยงคนไหนครับ" เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยกับลูกน้อยหลังจากย่อตัววางร่างเล็กๆ นั้นลงยืนบนพื้น สิ้นคำบอกเด็กน้อยก็หันมามองพี่สาวทั้งหกคนที่ยืนเรียงกันอยู่อย่างพิจารณา หน้าตาบ้องแบ้วขณะครุ่นคิดนั้นทำลูกเป็ดขี้เหร่เพียงหนึ่งเดียวยืนมองด้วยสายตาเอ็นดู ต่างจากคนอื่นๆ ที่พยายามแข่งกันส่งยิ้มหวานและสายตาหลอกล่อให้เด็กน้อยสนใจจะได้เลือกตน.. แต่ยืนมองอยู่นานร่างนั้นก็ไม่พูดอะไรสักที จนในที่สุดก็เหมือนจะคิดอะไรได้แล้วเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะ...
ตุ้บ!
สะดุดขาตัวเองล้มลงตรงหน้าหกสาวงาม ทุกคนวี้ดว้ายด้วยความตกใจแต่ยืนนิ่ง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พุ่งเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม ขณะนั่งคุกเข่าลงประคองร่างน้อยๆ นั้นให้ลุกขึ้นยืน เท่านั้นเด็กตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ ก่อนหันไปหาพ่อ
"แดดดี้.. อลันจะเอาคนนี้ครับ" นิ้วเล็กป้อมๆ ชี้มาที่อิงเอยก่อนหันไปบอกคนเป็นพ่อที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง คนถูกเลือกนิ่งอึ้งด้วยความมึนงงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ มีแค่ไบรอันคนเดียวเท่านั้นที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเพราะรู้ทันลูกชายตัวน้อยว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้มันคือการจัดฉากขึ้นมาจากความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวที่แม้จะอายุแค่สี่ขวบแต่ได้เล่ห์กลมาจากเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
"คุณหนูอลันได้เลือกพี่เลี้ยงคนใหม่แล้ว เชิญคนอื่นๆ กลับบ้านได้เลยค่ะ" ไม่ต้องรอให้เจ้านายสั่งสาวชุดเมดคนเดิมที่ยืนอยู่ในห้อง ด้วยกันก็ส่งแขกคนที่เหลือกลับอย่างรู้หน้าที่ พวกหล่อนต่างรู้สึกเจ็บใจ พากันชักสีหน้าออกมาอย่างไม่ปิดบัง คนถูกเลือกที่ยังคงนั่งเอ๋ออยู่ที่พื้นก็พลอยถูกมองด้วยสายตาทิ่มแทงก่อนจากกันด้วย
"เอ่อ.. ฉัน.. ได้งานนี้หรอคะ? " อิงเอยเงยหน้าขึ้นถามเจ้าของบ้านอย่างงงๆ หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วมันมาลงเอยแบบนี้ได้ยังไง ก็ในเมื่อเธอแทบจะไม่มีเปอร์เซ็นได้งานนี้เลยด้วยซ้ำ
"ใช่.. นับจากวันนี้ไปเธอจะต้องมาอยู่ดูแลอลันที่นี่ วันนี้กลับบ้านไปเก็บข้าวของให้เรียบร้อย.. เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงเช้า แต่งตัวให้มันดีๆ กว่านี้ด้วย" ร่างสูงอุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นอีกครั้ง ก่อนพูดบอกเสียงเรียบแล้วเดินจากไป ทิ้งคนข้างหลังให้ได้แต่มองตามไปอย่างงงๆ อดไม่ได้ต้องก้มลงมองสภาพของตัวเองอีกครั้งพลางครุ่นคิด เธอได้รับเลือกได้ยังไงกันนะ..?
"นี่คือหน้าที่ทั้งหมดที่คุณจะต้องทำในแต่ละวัน เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงค่ะ" เดินกลับออกมาทางเดิมก็เจอกับสาวใช้คนเก่า เธอหยุดคุยและยื่นกระดาษหลายแผ่นที่ถูกแม็กติดกันมาให้ร่างบางก่อนกลับ อิงเอยก็รับมาอย่างงงๆ และเดินเอื่อยๆ กลับออกมาหาเพื่อนที่รออยู่หน้าบ้าน
"เป็นไงมั่งแก ทำไมออกมาคนสุดท้ายอ่ะ หรือว่าได้? " ทันทีที่เจอหน้ากันแพรวก็ถามออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะเห็นเพื่อนออกมาเป็นคนสุดท้าย แต่อีกใจก็แอบหวั่นๆ ว่าจะไม่ได้เหมือนกันเนื่องจากคนตัวเล็กนิ่งมากเหมือนตอนหางานไม่ได้ไม่มีผิด
"อืม.. ได้ได้ไงก็ไม่รู้" เสียงหวานเอ่ยบอกขณะยกมือขึ้นเกาศีรษะ ตากลมจ้องมองกระดาษในมืออย่างงงๆ ก่อนพับเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างมิดชิดกันหาย ค่อยกลับไปดูอีกทีที่ห้อง
"จริงดิ! ? ดีอ่ะ! " แพรวเขย่าแขนเล็กพลางถามย้ำด้วยความดีใจ แม้จะรู้สึกงงเหมือนกันว่าได้ได้ยังไงเพราะระหว่างที่เธอนั่งรอเพื่อนอยู่ก็เห็นผู้หญิงจำนวนหนึ่งพากันเดินกลับออกมา แล้วแต่ละคนก็สวยๆ ทั้งนั้น เสียทีแต่งหน้าหนาและดูเกรี้ยวกราดไปสักนิด ไม่แน่ว่าที่พวกหล่อนไม่ได้ก็อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง
"แต่ฉันต้องมาค้างที่นี่อ่าดิ" คนตัวเล็กบอกเสียงเหงาหงอย เพราะเหมือนต้องมาเริ่มชีวิตใหม่ในสถานที่ใหม่ๆ กับผู้คนที่ไม่รู้จักอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือนกับงานออฟฟิศทั่วไปที่เธอเคยทำมาเลยสักนิด
"มันก็ปกตินะ ที่ไหนเขาก็ทำกันแบบนี้แหละ พี่เลี้ยงเด็กก็ต้องเรียกใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งเด็กเล็กๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้พี่เลี้ยงก็ยิ่งสำคัญ แล้วเห็นลูกเขายัง ประมาณกี่ขวบ" แพรวบอก ก่อนถามต่อด้วยความสนใจ แค่เพื่อนกลับออกมาโดยปกติไม่มีการกรีดร้องหรือวิ่งหน้าตาตื่นออกมางานนี้ก็น่าจะไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วล่ะ
"4-5 ขวบมั้ง" ร่างบางตอบขณะนึกถึงใบหน้ากลมๆ กับแก้มป่องๆ ของลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอได้พบเจอมาไปด้วย
"ก็ยังไม่โตเท่าไรเลย เอาน่า เงินดีนะเว้ย แกมีทางเลือกมากหรือไง" แพรวพูดยิ้มๆ
"แต่ฉันเป็นห่วงแก ไม่อยากให้อยู่คนเดียว" อิงเอยยังคงมีท่าทีลังเล ไม่ค่อยดีใจนักที่ได้งานทำแล้วแถมเงินดีอีก เพราะเธอต้องมาอยู่ที่นี่เกือบถาวรแพรวก็เลยต้องอยู่คนเดียวและเธอก็เป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่คนเดียวด้วยเป็นผู้หญิง
"โอ้ย ไม่ต้องมาห่วงอะไรฉันหรอก หน้าอย่างนี้ใครจะกล้าทำอะไรวะ" ร่างสูงบอกปัดความห่วงใยเพื่อให้อีกคนสบายใจ เพราะอย่างเธอไม่มีใครเขากล้าทำอะไรหรอก ห่วงก็แต่คนตัวเล็กนั่นแหละที่ต้องมาอยู่ต่างที่และไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
"เฮ้อ~ เออๆ ป้ะ กลับ.. พรุ่งนี้ฉันต้องมาแต่เช้า" ร่างบางเป็นฝ่ายยอมแพ้ เพราะถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้สิ้นเดือนก็คงเหมือนสิ้นใจ ได้อดตายกันหมดแน่ๆ
..
..
..
..
อิงเอยสาวเหนือ แพรวสาวอิสาน บางครั้งก็คุยกันด้วยภาษาถิ่น ไรต์คิดว่ามันน่ารักดี ฝากติดตามด้วยน้าาา
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 30 (ตอนจบ) "ท้องแฝดหรอคะ! ? "อายุครรภ์ราวสองเดือน อิงเอยก็เริ่มแพ้ท้องอย่างหนัก ถึงขนาดกินอะไรไม่ค่อยได้จนน้ำหนักลดฮวบ.. กลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นต่อไปจะส่งผลถึงพัฒนาการของลูกในท้องเธอก็เลยให้สามีพามาหาคุณหมอ กระทั่งมีโอกาสได้อัลตราซาวด์ดูคนในท้องคุณหมอก็บอกว่าเธอท้องลูกถึงสองคน!"ครับ นี่คนแรก ส่วนตรงนี้ก็อีกคน" คุณหมอบอกพลางเลื่อนอุปกรณ์ที่ใช้อัลตราซาวด์ไปบนท้องนูนๆ ของเธอในขณะที่มือชี้ไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ที่ปรากฏภาพแปลกๆ ดูไม่คุ้นตาสำหรับคุณแม่มือใหม่ เธอมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรแต่รู้สึกตื่นเต้นจนมือสั่น และมีเหงื่อผุดซึมทั้งที่ภายในห้องแอร์เย็นเฉียบ.."แบบนี้ก็ดีน่ะสิ! โคตรโชคดีเลย ท้องครั้งเดียวได้มาตั้งสองคน" คุณพ่อลูกสอง.. ไม่สิ ลูกสามแล้วต่างหากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตาคมยังไม่ละไปจากหน้าจอมอนิเตอร์เลยสักวินาทีเดียว"ครับ.. คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้น.. แต่หมอก็ให้คำแนะนำไปหลายรายแล้วว่าการท้องแฝดไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอย่างที่คิด.." คุณหมอบอกเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งงันไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลยจนคนฟังแอบกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะพูด
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 29"เอ๋ น้องอลันคุณพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้วนะคะ" คุณครูประจำชั้นทำหน้าตามึนงงเมื่อเห็นคนตัวใหญ่มาถามหาลูกชายทั้งที่ก่อนหน้าไม่กี่นาทีเด็กชายถูกพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้ว"อ่า.. หรอครับ สงสัยเธอลืมโทรบอกผมน่ะครับ" ร่างสูงบอกก่อนยิ้มให้แล้วขอตัวกลับ ไม่ใช่แค่คุณครูที่งงเขาเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมอิงเอยถึงมารับอลันโดยไม่บอกเขาก่อน เพราะตั้งแต่กลับมาจากเชียงใหม่เขาก็ทำหน้าที่ปลุก พาอาบน้ำแต่งตัวและไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก คาดว่าร่างบางคงอยากจะมารับอลันด้วยตัวเองและลืมโทรบอกเขาก็เลยตรงกลับบ้านเลย"มีอะไรหรือเปล่า" สองเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอหยุดชะงัก ก่อนยืนถามหัวหน้าสาวใช้ประจำบ้านด้วยความสงสัย เพราะบังเอิญเจอกันตรงทางเข้าพอดีและใครคนนั้นก็มีท่าทางแปลกๆ จ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มเย็นๆ เหมือนมีอะไรในใจ"มีค่ะ.." เพลงบอกเพียงเท่านั้นก็หยุดเพื่อให้อีกคนถามมาก่อนถึงจะเล่าต่อ ซึ่งนิสัยแบบนี้ที่เธอชอบทำไบรอันไม่เคยชอบเลยสักที เพราะถ้าเป็นเรื่องสำคัญกว่าจะรู้เรื่องคงทำเอาหงุดหงิดน่าดู"มี
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 28ตกกลางดึกในคืนนั้น.. คนท้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะอาการปวดท้องพ่วงด้วยปวดปัสสาวะจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับมา แต่อาการปวดทำให้นอนไม่ได้ ต้องดันหมอนไปชิดหัวเตียงและนั่งพิงเพื่อรอดูอาการไปก่อน ใจหนึ่งก็อยากจะปลุกสามีให้ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนแต่มันก็ดึกมากแล้วเลยไม่อยากรบกวนไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่มันอันตรายแค่ไหน แต่มันปวดหน่วงๆ เหมือนตอนเป็นประจำเดือน ซึ่งก็ทรมานอยู่ไม่น้อย ครั้นนั่งคิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนไปห้างฯ ได้ซื้อหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับมาด้วย เลยลุกไปหยิบมาอ่านโดยเปิดแค่โคมไฟหัวเตียง เป็นหนังสือที่เธอคาดหวังและตั้งใจจะฝากชีวิตของลูกไว้กับมัน เพราะในนี้มีบอกทุกอย่างทั้งอาการ สาเหตุและวิธีดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มท้องจนถึงตอนคลอด..'การปวดท้องจากการหดรัดตัวของมดลูก.. จะมีอาการคล้ายๆ ปวดประจำเดือนเพราะมดลูกมีการบีบรัดตัว แต่ปวดไม่บ่อยนัก ไม่นานก็หาย และไม่เป็นอันตราย แต่ต้องระวังสำหรับคุณแม่ท้องแก่ ถ้าปวดบ่อยๆ และถี่จนผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์'ดวงตากลมไล่อ่านทุกข้อความในหนังสือหน้าที่พิจารณาแล้วว่าตรงกับอาการของตัวเอง เ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 27วันต่อมา..ไบรอันกับอิงเอยบินกลับกรุงเทพฯ ในตอนเกือบเที่ยง ก่อนจะถึงวันงานแต่งอย่างเป็นทางการพ่อกับแม่ของเธอถึงจะบินตามมาร่วมงานพอกลับมาถึงบ้านทั้งคู่ก็ต้องตกใจเพราะว่าอลันไม่ได้ไปโรงเรียนอย่างที่คิดและควรจะเป็น เพลงบอกว่าเจ้าตัวเล็กคิดถึงพ่อกับแม่เลยงอแงไม่อยากไปเรียน เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาตั้งแต่เช้า ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดีแต่เหมือนวันนี้จะทนไม่ไหวงอแงออกมา แต่เพลงก็ไม่ได้ละเลยคอยไปดูอยู่ตลอดและเพิ่งจะกลับลงมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง"หม่ามี้! ฮื่ออออ อลัน ฮื่อ คิดถึง" เมื่อรู้ข่าวอิงเอยก็รีบตรงขึ้นไปหาเด็กชายบนห้องโดยมีคนตัวใหญ่เดินตามมาติดๆ ทันทีที่เจอหน้ากันอลันก็ปล่อยโฮออกมาแล้ววิ่งเข้ามากอดเธอไว้แน่น"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง มี้กลับมาแล้วครับ ชู่ว~" เสียงหวานเอ่ยปลอบขณะโอบกอดร่างเล็กๆ นั้นไว้ด้วยความรัก ก่อนจะอุ้มขึ้นเพื่อพาไปนั่งบนโซฟาดีๆ"ฮื่อๆ หม่ามี้.. อึก ไปไหนมา ฮื่อออ" เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กชายทำอิงเอยสงสารจับใจ แต่คนเป็นพ่อกลับนั่งมองยิ้มๆ เพราะอยู่ด้วยกันมาเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้นอลันก็ติดร่างบาง
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 26เมื่อผ่านด่านพ่อตาขาโหดมาได้ (อย่างทุลักทุเล) งานแต่งงานแบบเรียบง่ายก็ถูกจัดขึ้นที่แรกยังบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าสาว ก่อนที่จะจัดงานใหญ่อีกครั้งที่กรุงเทพฯ โดยแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ก็เชิญแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงคนสนิทกันเท่านั้น เป็นงานผูกแขนสวมแหวนกันธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาเห็นทีจะเป็น 'สินสอด' ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องล่ำลือกันไปทั่วทั้งตำบล!เงินสดจำนวนร้อยล้านบาทที่ต้องวางใส่พานใบใหญ่ถึงสิบใบถึงจะพอบวกทองคำแท่งหนักเท่าน้ำหนักตัวเจ้าสาวและรถยนต์ขนาดครอบครัวอีกหนึ่งคัน แค่นั้นก็มากเกินพอที่จะกลบคำครหานินทาและทำให้คนเป็นพ่อแม่ถึงกับยิ้มหน้าบานตลอดงานเพราะได้ยินแต่คำสรรเสริญเยินยอไม่ขาดสาย แม้จะเหมือนเป็นงานเล็กๆ แต่เจ้าของบ้านก็ถึงขั้นลงทุนปิดบ้านเลี้ยงฉลองทั้งแขกที่มาร่วมงานและบรรดาคนงานในไร่ตลอดทั้งวัน"ไปพักกันเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวพวกนี้แม่กับเด็กๆ เก็บกวาดเอง" คนเป็นแม่เดินมาบอกคู่บ่าวสาวในตอนงานเลิก แม้สามีกับพวกคนงานในไร่จะยังตั้งวงสังสรรค์กันอยู่ อิงเอยพยักหน้ารับคำก่อนพาไบรอันขึ้นห้องไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยกันมาท
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 25"คุณ! ปะ เป็นยังไงบ้างอ่ะ เจ็บมากหรือเปล่า แล้วทำไมเดินออกมาแบบนี้! ? " คนที่รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินรีบพุ่งเข้าไปหาคนเจ็บที่เดินออกมาด้วยท่าทางอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอาบไปด้วยเลือดจากบาดแผลเพราะไม่ยอมให้หมอเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้และนอนค้างที่นี่เพื่อรอดูอาการ"ฉันไม่เป็นไร กลับกันเถอะ" ไบรอันบอกก่อนเดินนำไปก่อนอย่างไม่สนใจอะไร เขาอาจจะบ้าที่บอกให้หมอใช้แค่ยาชาช่วยในการผ่าเอากระสุนออก พอทำแผลเสร็จก็ปฏิเสธที่จะแอ็ดมิทและเดินโทงๆ ออกมา เหตุผลก็แค่ว่าเขาไม่ชอบโรงพยาบาล.."กะ กลับเลยหรอ? แต่หน้าคุณซีดๆ นะ" อิงเอยเลิกลั่ก เร่งฝีเท้าเดินตามอีกคนมาจนทันและพยายามจะแย้งด้วยความเป็นห่วง เลือดไหลเยอะขนาดนั้นเขาควรจะถูกเข็ญออกมาด้วยรถเข็นแบบนั่งหรือไม่ก็เตียงแล้วพาไปที่ห้องพักฟื้นสิ ไม่ใช่แบบนี้!"จัดการเรื่องยากับค่ารักษา ฉันจะไปรอที่รถ" คนตัวใหญ่ไม่ได้พูดอะไรกับร่างบางอีก เพียงหันไปบอกคินที่เดินตามมา แล้วจูงมือเล็กพาเดินกลับไปที่รถท่ามกลางสายตาผู้คนรอบข้างที่มองมาอย่างสนใจ เพราะเลือดสีแดงสดมันแปดเปื้อนตามตัวและเสื้อผ้าของทั้งคู่จนแยกไม่ออกว่าใคร