นลิน-ลินดา คนหนึ่งคือลูกสาวเศษรฐีตระกูลใหญ่ อีกคนเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาทั่วไป ทว่าวิญญาณแค้นของนลินกลับผูกติดกับลินดาแนบสนิทแน่น "ช่วยฉันแก้แค้นสามีของฉัน แล้วเธอจะได้ครอบครองทุกสิ่งที่ฉันเคยมี ลินดา"
ดูเพิ่มเติมแสงแดดอ่อนของเช้าวันใหม่ส่องลอดผ่านม่านผ้าซาตินราคาแพงในห้องนอนใหญ่บนชั้นหกของคฤหาสน์หรูใจกลางกรุงเทพ ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าทั้งหมดไม่ต่างจากห้องในโรงแรมห้าดาว แต่นลิน จิราธิวัฒน์ผู้เป็นเจ้าของห้องกลับนอนนิ่งอยู่บนเตียงหรู ราวกับไม่รู้สึกถึงความสวยงามรอบตัวเลยสักนิด
เธอลืมตาช้าๆ ดวงตากลมโตภายใต้ขนตางอนยาวมองเพดานอย่างว่างเปล่า เจือไว้ด้วยความเศร้าหมอง
วันนี้คือวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้
✤
นลินเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวประเสริฐ เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่มีโครงการหรูอยู่ทั่วประเทศ ชีวิตของเธอมีครบทุกอย่าง เงิน ทอง รถหรู เครื่องเพชร เสื้อผ้าแบรนด์เนม ทริปต่างประเทศ ยกเว้นสิ่งเดียว... ความรัก
นลินโตมากับพ่อเพียงลำพัง แม่ของเธอเสียตั้งแต่เธอยังเล็ก ขณะที่เจ้าสัวประเสริฐให้ความสำคัญกับงานเหนือสิ่งอื่นใด จนถึงกับละเลยลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง
แม้ภายนอกนลินจะดูเหมือนคุณหนูผู้สืบทอดธุรกิจของตระกูลที่สมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้ว แต่ภายใน เธอกลับขาดความรักอย่างรุนแรง
แม้แต่การแต่งงานของเธอ นลินยังไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเสียด้วยซ้ำ สัญญาการแต่งงานระหว่างสองตระกูลใหญ่ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่เธอยังอยู่ในครรภ์มารดา เงื่อนไขที่พ่วงมาคือความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสองตระกูล
เดิมทีเธอยอมรับชะตากรรมเช่นนี้แล้ว จนกระทั่งเธอได้เจอกับพีระ พนักงานธรรมดาในบริษัทของบิดา และเป็นคนรักของเธอ
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นกว่าคนอื่น จะบอกว่าหน้าตาหล่อเหลาก็แค่เรียกได้ว่าดูดีไม่เลว นลินเคยพบคนที่หล่อกว่าเขามาแล้วหลายต่อหลายคน แต่กลับไม่มีใครที่สะดุดตาเธอเท่าเขา
หลังจากที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก นลินก็เริ่มเห็นหน้าพีระบ่อยขึ้นเวลาเข้าบริษัท ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญ หรือเพราะบางสิ่งกำลังพาให้ทั้งคู่ได้เข้าใกล้กันทีละน้อย
พีระมักเป็นคนที่พูดน้อย ทำงานเงียบ ๆ ไม่ได้โดดเด่นในหมู่พนักงาน แต่นลินกลับมองเห็นความแตกต่างในตัวเขา ความใส่ใจในแววตาคู่นั้นของเขามอบให้เธอเพียงคนเดียว
ทุกครั้งที่เขายิ้ม... เธอก็รู้สึกเหมือนได้ยินหัวใจตัวเองเต้นกระหน่ำอยู่ในอก
และนลินก็รู้ตัว เธอตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว
✤
ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อยๆ พัฒนาอย่างเงียบๆ ไม่หวือหวา นลินเป็นหญิงสาวที่แกร่ง เธอรู้หัวใจของตัวเองดี และเมื่อเธอรักใคร เธอพร้อมที่จะทุ่มเทเต็มที่เสมอ
ฐานะของพีระไม่ได้ดีมากนัก ระหว่างทั้งคู่ไม่เคยมีดอกไม้ ไม่มีของขวัญหรูแบบตอนที่เธอคบกับลูกเศรษฐีรุ่นเยาว์ทั้งหลาย แต่สิ่งที่มีคือความจริงใจที่นลินสัมผัสได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา
การตกลงคบกันง่ายดายกว่าที่คาด แต่สิ่งที่เป็นปัญหากลับเป็นการบอกข่าวนี้กับครอบครัว เจ้าสัวประเสริฐคัดค้านเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด ถึงกับยื่นคำขาดว่าหากเธอดึงดันจะแต่งงาน ก็ไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นพ่ออีก
การทะเลาะกันครั้งที่ผ่านมายังวนเวียนอยู่ในความคิด พาให้หยาดน้ำตาไหลกลิ้งลงบนหมอน
นี่คือบ้านที่เธออยู่มายี่สิบปี
และนี่จะเป็นครั้งแรกที่นลินขัดคำสั่งของบิดา
หญิงสาวลุกขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว ค่อยๆ เก็บข้าวของส่วนตัวใส่กระเป๋าเดินทาง จากไปโดยไม่หวนกลับมาอีก
✤
นลินย้ายมาอยู่บ้านหลังเล็กของพีระในย่านชานเมืองบ้านที่เขาเคยอยู่กับแม่ก่อนแม่เสียชีวิต ทุกอย่างเรียบง่ายแต่เป็นระเบียบ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก
และที่สำคัญคือความสัมพันธ์กับบิดาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่กลัว
อันที่จริงเธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องรับความโกรธของบิดา แต่ก็มีพีระคอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง เขาเองก็มีสีหน้ากังวลไม่น้อยเมื่อเห็นว่าคนรักของตนต้องทะเลาะกับพ่อตาเช่นนี้
ทว่าความเป็นจริงก็พิสูจน์แล้วว่าเธอกังวลมากเกินไปเอง
แม้ปากจะบอกว่าตัดขาดความเป็นพ่อลูก แต่เจ้าสัวประเสริฐก็ยังคงห่วงใยลูกสาวของตนเอง จึงยังคงให้เธอเป็นรองผู้บริหารของบริษัทต่อไป และไม่เคยตัดค่าใช้จ่ายของหญิงสาว เธอยังคงเป็นคุณหนูผู้มีเงินใช้ไม่ขาดมือเหมือนเก่า
แต่แม้จะหายโกรธแล้ว เจ้าสัวก็ปากแข็งเกินกว่าจะง้องอนลูกสาวของตน แต่ก็ยังส่งคนมากำชับพีระผู้เป็นลูกเขยว่าให้ดูแลเธอให้ดี
งานแต่งของพวกเขาจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายกว่างานแต่งของลูกสาวเศรษฐีทั่วไป แขกเหรื่อบางตา ไม่มีเซเลบ ไม่มีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ มีเพียงเพื่อนสนิทของเธอไม่กี่คนเท่านั้น แม้แต่บิดาของเธอก็ไม่มาร่วมงานด้วยซ้ำ
นลินเพียงแค่ยิ้มด้วยความอุ่นซ่านในหัวใจ
ความสัมพันธ์ที่ห่างเหินกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้การพูดคุยระหว่างพ่อลูกเป็นไปอย่างยากเย็น ซึ่งนลินก็ชินแล้ว
ในตอนนี้เธอต้องการเพียงคนรักของเธอเท่านั้น
✤
เสียงเพลงงานแต่งบรรเลงคลอในบรรยากาศ
แม้จะขาดหลายสิ่งหลายอย่างไป แต่นลินกลับรู้สึกว่าเป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต
เธอยืนจับมือเขาไว้แน่นในพิธี เงยหน้ามองเจ้าบ่าวของเธอด้วยรอยยิ้ม ภายในใจเธอรู้ดีว่าเพียงได้อยู่กับเขา เธอจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก
แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวนี้...
จะนำไปสู่ “จุดจบ” ของเธอเอง
บทสรุปของการประชุมครั้งนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายนัก ทว่าเมื่อเสียงเคาะไม้ของคณะกรรมการสิ้นสุดลง พร้อมคำประกาศผลที่ชัดเจนให้พีระถูกถอดถอนจากตำแหน่งโดยมีผลทันที และบริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ห้องประชุมใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบงันไปนานไม่มีใครเอ่ยอะไร ทุกคนเพียงแต่เหลือบตามองกันด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนที่ผู้คนบางส่วนจะเริ่มเก็บข้าวของเตรียมลุกจากที่นั่ง ในตอนนั้นจึงมีเสียงพูดคุยเบาๆ ปะปนไปกับลมหายใจแห่งความโล่งใจ... หรือไม่ก็ความไม่แน่ใจแต่ยังไม่ทันได้ลุกจากที่นั่ง เสียงจากฝ่ายเลขานุการก็ประกาศขึ้นทันทีว่า“ขอให้ทุกท่านอยู่ต่อ จะมีการประชุมด่วนในอีก 5 นาที โดยมีท่านประธานบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ”คำประกาศนั้น ทำให้ห้องทั้งห้องเงียบกริบในทันที ก่อนที่ประโยคต่อมาจะทำให้บรรยากาศยิ่งเงียบงันกว่าเดิม“ยกเว้นคุณพีระค่ะ”หลายคนหันไปมองหน้ากัน บางคนเบิกตากว้าง บางคนขมวดคิ้วด้วยความไม่คาดคิดประธานใหญ่ของบริษัทไม่ได้ปรากฏตัวเลยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทเกือบทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การบริหารของพีระ แต่วันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด รองประธานผู้เคยเป็นที่นับหน้าถือตาถูกปลดออกจากตำแ
เช้าวันถัดมา แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านม่านบังแสงของตึกสำนักงานใหญ่ ให้บรรยากาศอบอุ่นละมุนเช่นเคย ทว่าภายในใจของพนักงานทุกคนกลับมีความตึงเครียดบางประการที่อธิบายไม่ได้เข็มนาฬิกาเลื่อนบอกเวลา 09.00 น. อยู่กลางโถงทางเดิน ขณะที่พีระก้าวเข้าสู่ ห้องประชุม 9A พร้อมแฟ้มเอกสารในมือห้องประชุมขนาดกลางซึ่งประดับด้วยโต๊ะไม้เข้มดูเงียบขรึมเกินกว่าจะสบายใจ กรรมการบริหารระดับสูง 5 คน นั่งเรียงรายอยู่ฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ตรงกลางคือ ประธานฝ่ายตรวจสอบภายใน ที่มีใบหน้าเรียบตึงเหมือนสวมหน้ากากภายในห้องเงียบผิดปกติ ไม่มีกระดาษวาระการประชุมบนโต๊ะ หรือแม้แต่สไลด์เปิดบนจอ พีระนั่งลงฝั่งขวา ของประธาน ท่าทางเกร็งเล็กน้อย แต่ยังคงฝืนยิ้มอย่างมืออาชีพลินดานั่งอยู่ด้านหลังเขา เธอไม่ใช่ผู้เข้าร่วมประชุมหลัก ทว่าเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ หญิงสาวไม่พูดอะไร ไม่สบตาใคร ทำตัวราวกับเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น ทว่าทุกคำพูดในห้องประชุม... เธอได้ยินชัดเจน“คุณพีระ เชิญนั่งครับ”ชายเจ้าของชื่อยกยิ้มที่แข็งทื่อเบาบาง พยักหน้าเล็กน้อย พลางนั่งลงตรงที่จัดไว้ แฟ้มในมือถูกวางบนโต๊ะ ท่ามกลางความเงียบที่ขึงตึงจนน่าอึดอัดประธานฝ่า
คืนที่ควรจะหวานละมุน กลับกลายเป็นค่ำคืนที่ทั้งคู่ต้องนั่งอ่านเอกสารบัญชีกองโตพีระจดบันทึกสิ่งที่คิดว่าหลุดออกไปจากระบบ และเริ่มโทรหาทีมบัญชีเพื่อถามอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ลินดาคอยเรียบเรียงและชี้จุดที่อาจถูกตรวจสอบให้เขาเมื่อเห็นว่าสีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียดจนเกินพอดี หญิงสาวก็ลุกออกไปด้านนอกครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟร้อนในมือกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเมล็ดคั่วพรีเมียมลอยฟุ้งแตะจมูกชายหนุ่มที่กำลังจดจ่ออยู่กับแฟ้มข้อมูล ลินดาแย้มยิ้ม ยื่นแก้วให้เขาอย่างนุ่มนวล“ลองดื่มดูสิคะ เผื่อจะช่วยให้หัวแล่นขึ้นนิดหน่อย”น้ำเสียงหวานนั้นมาพร้อมกับรอยยิ้มให้กำลังใจ พีระรับมาอย่างเงียบๆ ละสายตาจากเอกสารมามองหน้าเธอเพียงชั่วครู่ ก่อนจะจิบบางๆ แล้วหันกลับไปยังงานกองโตเบื้องหน้าแม้จะยังเคร่งเครียด ทว่าสีหน้าของเขากลับอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัวลินดาลากเก้าอี้เข้ามานั่งเคียงข้าง มือเรียวหยิบแฟ้มอีกชุดขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับเปิดหน้ารายละเอียดภายในด้วยความระมัดระวัง“โครงการ Aurora ฉบับงบประมาณปีที่สอง ตรงนี้เหมือนมีการปรับรายการบางจุดจากต้นฉบับที่ยื่นต่อฝ่ายบัญชี กับฉบับที่ยื่นตรวจภายใน” เธ
เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของพีระดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศหวานชื่นในห้องทำงานเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอไม่คุ้นตา แต่ชื่อผู้โทรถูกบันทึกไว้เรียบร้อยว่าเป็นสายจากเลขาฝ่ายตรวจสอบภายใน พีระขมวดคิ้ว ก่อนจะกดรับสายอย่างระมัดระวัง“สวัสดีครับคุณพีระ ทางฝ่ายบริหารมีมติให้เรียกคุณเข้าชี้แจงเรื่องเอกสารทางบัญชีของโครงการ Aurora และโครงการภาคตะวันออก พรุ่งนี้สิบโมงเช้าที่ห้องประชุม 9A ค่ะ”น้ำเสียงของอีกฝ่ายสุภาพแต่ราบเรียบจนน่าขนลุก“ขอความร่วมมือให้นำหลักฐานต้นฉบับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาด้วยนะคะ”พีระเงียบไปอึดใจ ก่อนจะตอบรับเสียงเบา “ครับ”เมื่อสายจบลง เขากดล็อกหน้าจอมือถือช้า ๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“เกิดอะไรขึ้น...”“เกิดอะไรขึ้นคะ”คำถามที่อยู่ในหัวของเขา ถูกถามออกมาด้วยคำเดียวกันจากปากของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าลินดาลุกขึ้นจากตักเขาแล้วมายืนใกล้ๆ เมื่อรู้สึกถึงความปกติ พลางมองชายหนุ่มด้วยแววตากังวลพีระส่ายหน้าเบาๆ ขณะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ดวงตาฉายแววสับสนไม่น้อย ราวกับกำลังพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน บรรยากาศที่เมื่อครู่ยังอบอวลไปด้วยความหวานละลายหายไปในพริบตา เหลือไว้เพียงความเงียบงันที่ชวนอ
ความคืบหน้าของทั้งคู่มีเพียงแค่จูบแม้ทั้งคู่จะอยู่กันตามลำพังบ่อยครั้ง แม้แววตาที่สบกันจะเต็มไปด้วยความรู้สึกท่วมท้นราวจะไหลทะลักออกมา และแม้บางช่วงเวลาจะใกล้กันจนต่างฝ่ายต่างได้ยินเสียงหัวใจของอีกคนชัดเจน...แต่ลินดากลับไม่เคยยอมให้เขาก้าวข้ามขอบเขตนั้นเลยเธอรู้ดีว่าจะต้องหยุดไว้ตรงไหน และอย่างไรทุกครั้งที่ริมฝีปากเขาโน้มเข้ามา เธอจะเป็นฝ่ายรับไว้แค่จูบแผ่วเบาแล้วเบือนหน้าหนีอย่างสุภาพ เหมือนหญิงสาวที่ไม่ถนัดการแสดงความรักผ่านเรือนร่าง แต่กลับเปล่งประกายความซื่อตรงผ่านแววตาอ่อนหวานซื่อตรงคู่นั้นแทนสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือพีระเองก็ไม่เคยเรียกร้องเขาเคยคบผู้หญิงที่ร้อนแรงที่สุดมาแล้ว ผู้หญิงที่เจนจัดเรื่องบนเตียงจนแม้แต่ความสุขก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาเกินไปสำหรับเขา มีนารู้วิธีจุดไฟปรารถนา รู้วิธีมัดเขาไว้ด้วยร่างกายและคำหวาน และนั่นเองที่ทำให้เขาเบื่อลินดาไม่เหมือนใครไม่ใช่แค่เธอไม่ยอมให้เขาสัมผัสอย่างลึกซึ้ง แต่เธอกลับยิ่งทำให้เขาหลงใหลได้มากกว่าเดิม ทั้งการกระพริบตาอย่างงุนงงเวลาถูกจ้อง ทั้งท่าทีประหม่าทุกครั้งที่เขาขยับตัวเข้าใกล้ ทั้งคำพูดสุภาพที่มักสอดแทรกความเก้อเขินใน
บ่ายวันพฤหัสบดี...อุณหภูมิในห้องทำงานของฝ่ายการเงินดูเหมือนจะลดลงกะทันหัน ทั้งที่เครื่องปรับอากาศยังทำงานปกติ แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดจนแทบหายใจไม่ออกแม้ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่บรรยากาศในบริษัทในช่วงสองสามวันมานี้กลับอึดอัดกว่าที่เคยเสียงพูดคุยเบาๆ ในห้องพักพนักงานหยุดลงในทุกครั้งที่ประตูเปิด สายตาทุกคู่สอดส่ายมองคนที่เข้ามาใหม่อย่างระมัดระวัง และตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่พวกตนกำลังพูดถึงพนักงานบางคนเดินผ่านแผนกบัญชีด้วยสายตาคลางแคลงสงสัย ต่อให้เป็นคนที่ปกติไม่ใส่ใจข่าวลือ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแอบส่งข้อความถามกันเงียบๆ“มีข่าวว่ามีรายการเงินหายจากงบ CSR ปีที่แล้วจริงเหรอ”“นั่นน่ะสิ ฝ่ายบัญชีทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครตรวจสอบหรือชี้แจงอะไรบ้างเหรอ”“เห็นเขาว่ารายชื่อผู้อนุมัติเบิกคืองานของคุณพีระด้วยนะ”“อีกแล้วเหรอ แต่ครั้งก่อนเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรนี่ แล้วรอบนี้...”“ชู่ว ครั้งก่อนจะไม่มีปัญหาจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”ไม่มีใครกล้ายืนยันและไม่มีใครปฏิเสธทุกอย่างเป็นเพียงข่าวลือที่ถูกพูดด้วยเสียงกระซิบ แต่เป็นเสียงกระซิบที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ในทุกมุมตึ
ความคิดเห็น