แฟนหนุ่มของฉันคือหลินจิงเฟิง คุณชายที่ทรงอิทธิพลของเมืองหลวง เขาดื้อรั้นและเอาแต่ใจมาโดยตลอด ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยไปทีละก้อน ๆ ข้างกายก็ไม่เคยขาดสาว ๆ เลย
ฉันอยู่ข้างกายเขามาสามปีแล้ว และสามปีนี้เขาก็เชื่อฟังอยู่เสมอ แถมยังขอฉันแต่งงานด้วย
แต่ช่วงนี้เขาเจอเหยื่อรายใหม่แล้ว
เป็นนักศึกษาที่สาวสวยคนหนึ่ง ผิวเธอขาวมาก บุคลิกก็ดูสง่างามและสูงส่ง เขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้กับผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและจิตใจดีแบบนี้
และเพื่อทำให้เธอยิ้ม วันเกิดของฉันในวันนั้น เขาผลักฉันลงไปในทะเลโดยไม่ลังเล
......
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส มองไม่เห็นก้อนเมฆแม้แต่ก้อนเดียว ผิวน้ำที่สงบสาดขึ้นมาจนเกิดฟองน้ำขนาดใหญ่ ฉันกระทุ่มอยู่ในน้ำไม่หยุด และมองกลุ่มคนที่อยู่บนเรือยอร์ชด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านบนเรือยอร์ชสวมชุดกระโปรงสีขาว ดวงตาของเธอบริสุทธ์และใสแจ๋ว เมื่อเห็นท่าทางน่าสมเพชหลังตกลงไปในน้ำของฉัน ก็ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากและยิ้มอย่างสดใส
เธอยิ้มได้สวยมาก
หลินจิงเฟิงก็ยิ้มตามไปด้วย
เขายิ้มแจ่มใสมาก คิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นล้วนผ่อนคลายลงอยู่หลายส่วน และเมื่อเขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันก็เริ่มจมลงไปแล้ว
ความรู้สึกของการจมน้ำมันทำให้ฉันหายใจไม่ออก
ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยจมน้ำ ตั้งแต่นั้นมากลัวน้ำมากมาโดยตลอด เดิมทีฉันไม่เห็นด้วยกับการฉลองวันเกิดบนเรือยอร์ช แต่ทนการพูดออดอ้อนของหลินจิงเฟิงไม่ไหว จึงยอมตกลง
แต่ตอนที่ฉันขึ้นมาถึงบนเรือยอร์ช ก็พบว่านอกจากเพื่อนทั่วไปแล้ว ยังมีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งด้วย
เธอสวยจนไม่สามารถจะบรรยายได้
หลินจิงเฟิงดูแลเธอดีมาก เทเครื่องดื่มให้เธอบ้างละ ปอกผมไม้ให้เธอบ้างละ เค้กชิ้นแรกก็ให้เธอก่อน เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดจนถึงที่สุด แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่เคยทำกับฉันมานานแล้ว
ฉันรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ฉันจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้สงสัยในตัวเขา
จนกระทั่งฉันถูกเขาผลักตกลงทะเล ฉันถึงได้มั่นใจแล้ว
หลินจิงเฟิงเปลี่ยนไป
เขามองฉันค่อย ๆ จมลงไป ถอดแว่นกันแดดอย่างช้า ๆ ขึ้นไปไว้บนศีรษะ หรี่ตาและมองฉันที่กระทุ่มอยู่ในน้ำไม่หยุด พลางหัวเราะขึ้นมา “สือเยียน! เธอคงไม่ได้ว่ายน้ำไม่เป็นจริง ๆ หรอกใช่ไหม? เลิกแสดงละครได้แล้ว รีบขึ้นมาเร็ว จิ้งซินขำเพราะเธอแล้ว เธอไม่ต้องแสดงแล้ว”
เสียงหัวเราะเยาะแสบแก้วหูมาก
“คุณชายหลิน พี่สะใภ้ดูเหมือนจะว่ายน้ำไม่เป็นจริง ๆ นะคะ!”
ผู้หญิงคนหนึ่งพบความผิดปกติแล้ว จึงตะโกนร้องเสียงดัง และรีบโยนห่วงชูชีพมาให้ฉัน แต่ร่างกายของฉันเริ่มจะจมลึกลงไปด้านล่างแล้ว
“ใครก็ได้!”
“สือเยียน!”
เหตุการณ์นั้นวุ่นวายมาก หลายคนร่วมมือกันช่วยพาฉันขึ้นไปบนเรือยอร์ช แต่ทำการปั๊มหัวใจไปหลายรอบแล้ว ฉันก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา
ร่างกายของฉันเริ่มเย็นลง
เวลานี้หลินจิงเฟิงรู้จักตื่นตระหนกแล้ว เขาพาฉันมาส่งที่โรงพยาบาลและเข้าห้องไอซียู คุณหมอร่วมมือกันช่วยชีวิตอยู่กว่าสองชั่วโมง ถึงช่วยชีวิตฉันกลับมาได้
เมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่าฉันพ้นขีดอันตรายแล้ว
หลินจิงเฟิงจึงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ เขาก็จะกลายเป็นฆาตกร
เขาชอบเล่น แต่ไม่อยากเข้าคุก
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ฉันถึงได้ฟื้นขึ้นมาบนเตียงผู้ป่วย มองดูเพดานและได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อลอยเข้ามาแตะจมูก ดวงตาฉันเต็มไปด้วยความสับสน พอขยับตัวนิดเดียว ศีรษะก็ปวดตุบ ๆ ขึ้นมา
ฉันยกมือแตะที่หน้าผาก ร้องเสียงอู้อี้
เมื่อหลินจิงเฟิงที่กลับมาจากด้านนอกเห็นว่าฉันฟื้นแล้ว เขาก็เข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว กุมมือฉันและเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “เยียนเยียน ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว เห็นเธอไม่ฟื้นขึ้นมาทั้งคืน ฉันยังคิดว่าเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว”
ฉันดึงมือกลับอย่างแรง และมองเขาด้วยความสงสัย ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “คุณเป็นใคร?!”
Expand