Chapter 9
สองวันมานี้จางม่านอวี้คิดหาวิธีเข้าใกล้พระสนมมู่เซียน โดยที่อีกฝ่ายจะต้องไม่รู้ตัวว่า ตัวเองกำลังถูกล้วงความลับ เดิมทีจางม่านอวี้ตั้งใจเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวกับมู่เซียน แต่คิดไปคิดมา วิธีนี้คงไม่ได้ผล คนฉลาดอย่างสนมมู่เซียนต้องสงสัยว่า ตนเข้าไปทำความรู้จักเพื่อเหตุผลใด เพราะปกติเหล่าพระสนมจะชิงดีชิงเด่น ชิงเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ น้อยนักที่จะสามัคคีรักใคร่กลมเกลียว และนั่นอาจส่อพิรุธให้มู่เซียนจับได้ จางม่านอวี้จึงคิดหาทางอื่น ที่จะทำให้มู่เซียนไว้ใจและเชื่อใจนาง ทว่างานนี้นางทำคนเดียวไม่ได้ นางต้องมีคนช่วย
และมีอีกเรื่องหนึ่งที่จางม่านอวี้บอกจิวฮองเฮา เรื่องนั้นคือเรื่องการติดต่อระหว่างนางกับฮองเฮา ก่อนจะถึงวันแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระสนม จางม่านอวี้คิดว่า ไม่สมควรเจอกันบ่อยนักเพราะอาจทำให้มู่เซียนเกิดความสงสัย ทางใดที่ทำให้มู่เซียนเกิดความคลางแคลงใจ จำต้องตัดทิ้งเพื่อความสำเร็จในวันหน้า จางม่านอวี้ใช้วิธีเขียนจดหมายถึงฮองเฮาจิวหยวน ให้นางทำตามแผนที่ตนเขียนไว้อย่างละเอียดภายในจดหมายฉบับนั้น ก่อนจะให้เจี่ยเหว่ยนางกำนัลรับใช้ที่จิวฮองเฮาส่งมา นำสารดังกล่าวไปตำหนักกลาง จิวฮองเฮาเปิดจดหมายออกอ่าน นางกวาดตาอ่านข้อความที่จางม่านอวี้ส่งมาให้ ก่อนจะพับเก็บตามเดิม
“ม่านอวี้ฉลาดมาก ลูกชักกลัวนางขึ้นมาซะแล้ว” ในขณะนั้น เสนาบดีฝ่ายกลาโหมและเป็นบิดาของนางนามว่า จิวฮุย อยู่ร่วมห้องด้วย นางจึงเปรยขึ้นมา “นางส่งแผนลับมาให้ข้าจัดการ”
“แผนอะไรพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีจิวฮุยถามทันที
“แผนที่นางจะเข้าถึงตัวมู่เซียนโดยที่มู่เซียนไม่มีทางเฉลียวใจ”
“ถ้าแผนนั้นเป็นแผนที่ดีและทำให้งานของฮองเฮาสำเร็จลุล่วง กระหม่อมว่าก็ทำตามที่ม่านอวี้บอกเถอะพ่ะย่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ม่านอวี้จะไว้ใจได้หรือไม่ กระหม่อมว่ามันมีทางออกพ่ะย่ะค่ะ”
ตอนนี้ความหวังทั้งหมดอยู่ที่จางม่านอวี้คนเดียว หากนางสามารถล้วงความลับจากสนมมู่เซียนได้ ตำแหน่งของจิวฮองเฮาก็จะไม่สั่นคลอน และยิ่งเพิ่มขุมกำลังให้บุตรสาวของนางเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“ท่านพ่อบอกว่ามีทางออก ทางออกที่ท่านว่าคืออะไร”
“ทุกคนต้องมีจุดอ่อน ที่ม่านอวี้ยอมทำตามแผนก็คงเพราะจางเฟย ฮองเฮาก็เพียงแค่ขู่ม่านอวี้ว่า หากนางคิดทรยศหักหลัง คนที่ชื่อจางเฟยจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ กระหม่อมว่าเพียงแค่นี้ก็ทำให้ม่านอวี้ไม่กล้าคิดทรยศฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”
จิวฮุยบอกบุตรสาวที่พยักหน้าเห็นด้วย นางจำเป็นต้องกันไว้ดีกว่าแก้ ดูได้จากแผนการที่จางม่านอวี้เขียนบอก เป็นแผนที่นางเองก็ไม่คาดคิด และว่าด้วยเรื่องอำนาจไม่เข้าใครออกใคร ความฉลาดของจางม่านอวี้มีให้นางเห็นตั้งแต่แรก แม้ว่าอีกใจคิดว่า จางม่านอวี้ไม่มีวันขึ้นมาเทียบนางได้และไม่เหมือนกับมู่เซียน เพราะมั่นใจว่า ฮ่องเต้ไม่มีวันเหลียวมองทว่าจิวฮองเฮาก็ประมาทไม่ได้
“ลูกจะทำตามที่ท่านบอก”
“แผนที่นางบอกฮองเฮาคืออะไรพ่ะย่ะค่ะ”
จิวฮองเฮาบอกแผนที่จางม่านอวี้ให้ตนทำ ทว่าในรายละเอียดของแผนไม่ได้เจาะจงชัดเจน จางม่านอวี้บอกเพียงว่า ใช้วิธีไหนก็ได้ให้พระสนมมู่เซียนออกไปจากวัง และระหว่างทางที่กลับให้คนกลุ่มหนึ่งทำท่าทางคล้ายกับจะปล้น ทำให้เกี้ยวที่พระสนมมู่เซียนนั่งอยู่ล้ม คนกลุ่มนั้นล่าถอย จากนั้นจางม่านอวี้จะเข้าไปช่วยเหลือมู่เซียน จางม่านอวี้ให้จิวฮองเฮาทำแค่นี้ นอกนั้นจางม่านอวี้จะจัดการเอง
“แล้วจะให้พระสนมมู่เซียนออกจากวังโดยที่นางไม่สงสัยได้ยังไง” หลังจากฟังแผนการของจางม่านอวี้เสร็จ เสนาบดีก็คิดหนักในข้อนี้
“เหมือนโชคเข้าข้างเรานะท่านพ่อ วันมะรืนนี้เป็นวันเกิดของแม่พระสนมมู่เซียน ทุกปีนางจะต้องออกไปหาแม่ของนางและเลี้ยงอาหารคนจน เราจะใช้โอกาสนี้แหละในการทำตามแผน”
“อืม...ช่างโชคดีจริงๆ” เสนาบดียิ้มได้ ใช้มือลูบเคราสีเทาช้าๆ “ส่วนเรื่องคนที่ทำท่าคล้ายไปปล้น กระหม่อมจะจัดการเอง ฮองเฮาบอกม่านอวี้ให้ทำตามแผนได้เลย”
“ลูกจะส่งจดหมายบอกให้นางรู้”
“เรื่องแต่งตั้งจางม่านอวี้เป็นพระสนม ฮองเฮามีกำหนดหรือยังพ่ะย่ะค่ะ”
เดิมทีกำหนดการแต่งตั้งจางม่านอวี้คือวันมะรืนนี้ เนื่องด้วยหลีไทเฮาทรงพระประชวร การแต่งตั้งพระสนมคนใหม่จึงต้องเลื่อนออกไป
“อีกเจ็ดวันท่านพ่อ” เสนาบดีจิวฮุยพยักหน้ารับรู้กับคำตอบ
“กระหม่อมขอตัวก่อนนะฮองเฮา ข้าต้องไปหาท่านเหลียว”
“เจ้าค่ะท่านพ่อ”
เสนาบดีลุกเดินออกจากห้องบุตรสาว จิวฮองเฮาหยิบกระดาษและพู่กันมาเขียนจดหมายตอบกลับให้จางม่านอวี้ ก่อนจะให้นางกำนัลรับใช้ไปส่งให้ว่าที่พระสนมคนใหม่ จากนั้นก็ให้ซูฉิวนางกำนัลรับใช้คนสนิทไปตามอำมาตย์หลิวฮวยเถา เพื่อปรึกษาเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
วันเริ่มแผน
ขบวนเกี้ยวพระสนมมู่เซียนที่เสด็จไปบ้านเทียนเซียง มารดาผู้ให้กำเนิดที่อยู่ชานเมือง ไม่ได้จัดแบบเต็มขบวน เป็นเพราะการเดินทางครั้งนางมาแบบส่วนตัวเช่นทุกครั้งที่มาหามารดา จึงมีเพียงนางกำนัลคนสนิทสองคน นางกำนัลรับใช้อีกหนึ่งคน ทหารสองนาย และคนแบกเกี้ยวสี่คนเท่านั้น
พระสนมมู่เซียนมาถึงบ้านท่านแม่ในช่วงสาย มู่เซียนใช้เวลาอยู่กับมารดาสองชั่วยามจึงเดินทางกลับวัง การเดินทางครั้งนี้นางไม่ได้หวาดกลัวสิ่งใด เพราะคิดว่ามันก็คงปลอดภัยเช่นทุกครั้งที่นางออกนอกวัง แล้วความที่นางไม่ระวังตัวนี้เอง ทำให้เกิดช่องโหว่เป็นช่องทางให้ศัตรูทำตามแผน
93สิบเอ็ดเดือนต่อมา ภายในห้องครัวของบ้านเฉินต้าเหว่ย เจ้าของบ้านกำลังตั้งใจทำหมั่นโถวสูตรพิเศษที่เขาคิดมาเพื่อเมียรักโดยเฉพาะ เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะพลิกแพลงสูตรหมั่นโถวสูตรใหม่ที่ยังคงความอร่อยไม่แพ้สูตรเดิมของครอบครัว “หอมจังเลยท่านพี่” คนพูดเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาในห้องครัว เฉินต้าเหว่ยตกใจที่เห็นเมียรักเดินเข้ามาหาตนตามลำพังไร้สาวใช้คอยประคอง เขารีบละทิ้งหมั่นโถว หันมาสนใจจางม่านอวี้ ที่เขาห่วงใยนางเป็นพิเศษเป็นเพราะ ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ได้เก้าเดือน อีกไม่นานเขาก็จะได้เห็นทายาทคนแรกแล้ว “ทำไมเดินมาคนเดียว เอ่อเหมี่ยวไปไหน” “นางไม่ค่อยสบาย ไอตั้งแต่เช้า ข้าเลยให้นางไปพัก” จางม่านอวี้ตอบขณะนั่งบนเก้าอี้ “ท่านพี่ทำหมั่นโถวเสร็จหรือยัง ข้าอยากกิน” “ห่วงแต่กิน เจ้าไม่ห่วงตัวเองบ้างหรือไง” “ห่วงสิ” นางตอบทันควัน “ห่วงว่าตัวเองจะไม่ได้กินมากกว่า” เฉินต้าเหว่ยส่ายศีรษะและยิ้มกับคำตอบ “รอนึ่งเสร็จก็ได้กินแล้ว รอหน่อยนะ” “ได้สิ ข้าคอยได้ เรื่องกินหมั่นโถวไว้ใจข้า” นางไม่เคยกินหมั่นโถวของใครนอกจากของสามี
Chapter 92นี่คือความรู้สึกของจางม่านอวี้ นางอยากวิ่งหนีออกจากห้องเพราะเกรงกลัวความอวบใหญ่ตรงหน้า แล้วเหมือนชายหนุ่มจะรู้ความรู้สึกของภรรยา เฉินต้าเหว่ยยิ้ม มือใหญ่จับความเป็นชายรูดขึ้นรูดลง ก่อนจะเอนตัวลงนอนข้างเมียรัก“ไม่ต้องกลัว จับมันสิ ทักทายมัน มันไม่น่ากลัวสักนิดเดียว มันน่ารักจะตายไป”เขาจับมือเล็กติดสั่นมาวางลงบนแก่นกายใหญ่ที่พองโตเต็มที่ ให้นางได้สัมผัสสร้างความคุ้นเคยกับมัน เพราะอีกไม่กี่อึดใจสิ่งนี้ก็จะสร้างความสุขให้เขาและนาง ใจจางม่านอวี้เต้นถี่แรงเมื่อสัมผัสกับความมหึมาที่แทบจะกำไม่รอบ“เห็นไหมว่ามันน่ารัก ไม่ต้องกลัวนะ เราจะมีความสุขร่วมกัน”เฉินต้าเหว่ยพูดเหมือนให้นางคลายความหวาดกลัว เขาขยับตัวมานั่งกลางร่างสาว จับเรียวขาคู่งามให้แยกออกไปทางด้านข้าง เปิดทางให้เขานำความเป็นชายมุดตัวเข้าไปในคูหาสวรรค์ที่เปิดประตูรอรับด้วยความเต็มใจ“ต้าเหว่ย...” นางเสียงสั่น สั่นกล้าสั่นกลัว“ไม่ต้องกลัว มันอาจเจ็บสักหน่อย แต่หลังจากความเจ็บ มันคือความสุข เชื่อใจข้านะม่านอวี้”นางเชื่อใจสามี เชื่อว่าเขาจะนำความสุขมาให้ตนมากกว่าความเจ็บปวด เวลาอันน่าตื่นเต้นมาถึง เฉินต้าเหว่ยค่อยๆ ดันกา
Chapter 91“อา...” จางม่านอวี้เปล่งเสียงออกมาได้ เพราะเฉินต้าเหว่ยจำใจปล่อยปากนางให้เป็นอิสระ แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะละห่างไปไหนไกล ปากเขาลากไปตามผิวแก้มที่แวะสูดดมความหอมหลายฟอด ก่อนลากต่ำไปยังลำคอระหง ซอกซอนสูดกลิ่นหอมไปโดยรอบ มือเขาก็ไม่น้อยหน้า เปลี่ยนจุดหมายในการจับต้อง เลื่อนมือสัมผัสความนุ่นละเมียดของผิวกาย ต่ำลงไปยังอวัยวะกลางร่างสาวที่ปกคลุมด้วยไหมสีดำที่ปกปิดสิ่งที่น่าค้นหาร่างสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือใหญ่วางแนบลงบนของสงวนสาวที่ไม่เคยมีชายใดแตะต้อง เฉินต้าเหว่ยไม่ได้วางมือลงโดยไม่คิดทำอะไร เขาลูบไปตามรูปทรงขึ้นลงไปมา ก่อนใช้ปลายนิ้วแทรกตรงรอยแยก สัมผัสเม็ดเกสรน้อยอย่างตั้งใจ“อืม...อา...ท่านพี่” จางม่านอวี้ไม่อาจสกัดกลั้นความเสียวกระสันที่แผ่ไปทั่วร่างได้ เขากำลังปลุกปั่นอารมณ์นางเต็มที่ มือเขาสะกิดทักทายจุดอ่อนไหวสาว ใบหน้าเลื่อนมาหยุดตรงทรวงอกสล้าง เขาอ้าปากครอบงับปลายถันสีหวานที่หดตัวขึ้นเป็นรูป ราวกับว่ากำลังรอให้เขามาสัมผัสแทะเล็ม แน่นอนว่าเฉินต้าเหว่ยทำเช่นนั้น เขาดูดดึงยอดถันเข้าออก ใช้ปลายลิ้นตวัดเลีย ส่วนความนุ่มหยุ่นอีกข้างไม่ได้ว่างเว้น ถูกมือใหญ่บีบเคล้นตามห้วงอารมณ์
Chapter 90 สองเดือนต่อมา พิธีแต่งงานครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งในเมืองหลานหยู วันแห่งความสุขวันนี้ถูกจัดเตรียมล่วงหน้ามาร่วมเดือน แขกเหรื่อที่เดินทางมาแสดงความยินดีมีกันหลายชนชั้น แม่ทัพและรองแม่ทัพที่เคยกรำศึกด้วยกัน ชาวบ้านที่คุ้นเคยกับทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พ่อค้าร้านต่างๆ เจ้าเมืองจากเมืองอื่นก็เดินทางมาในงานนี้ด้วย ยังมีขุนนางอีกหลายคน และที่สำคัญที่สุดคือ องค์รัชทายาทที่ทนเสียงออดอ้อนของเมียรักไม่ได้ เขาจึงต้องพาพระชายารองหลินหลินมาร่วมงานแต่งงานด้วยเช่นกัน งานมงคลสมรสครั้งนี้จัดว่าใหญ่ที่สุดของเมืองก็ว่าได้ บุคคลหลายคนที่ไม่รู้ว่า สาวใช้บ้านเจ้าเมืองหลานหยูจะได้เป็นพระชายารอง และตอนนี้กำลังอุ้มท้องทายาทเชื้อกษัตริย์ในอนาคต คนที่เคยดูถูกดูแคลนต้องมาโค้งคำนับให้ความเคารพ คนเราช่างไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆเฉินต้าเหว่ยทำตามประเพณีทุกอย่าง จนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เขาเฝ้ารอคือ วันมงคลสมรส ในวันนี้ เจ้าบ่าวในชุดพิธีการพร้อมด้วยแม่สื่อ ญาติสนิทมิตรสหาย เดินทางไปรับเจ้าสาวที่บ้านด้วยขบวนเกี้ยวขบวนใหญ่ โดยมีเจ้าบ่าวสวมชุดสีแดงปักเป็นลวดลายสวยงามด้วยดิ้
Chapter 89“มันก็จริงของเจ้า” หลีไทเฮารู้ตื้นลึกหนาบางของวังหลวงดี คนที่อยู่รอดได้ต้องเก่งพอตัว เก่งทั้งประจบสอพลอ เก่งเอาตัวรอด และเก่งสวมหน้ากากเข้าหากัน“ถ้าเจ้าต้องการแบบนั้นข้าก็ตามใจเจ้า” ฮ่องเต้จูหมิงคิดว่าดีเสียอีก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเฉินต้าเหว่ยให้เจ็บใจ“ก่อนที่เจ้าจะพาพระสนมจางออกจากวัง ข้าจำเป็นต้องปลดพระสนมจางออกจากการเป็นพระสนมเสียก่อน เพื่อไม่ให้นางถูกคำครหา และเพื่อไม่ทำให้ฝ่าบาทเสื่อมเสียไปด้วย” หลีไทเฮาเตรียมการไว้พร้อมสรรพ“ขอบพระทัยไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ใบหน้าเฉินต้าเหว่ยมีรอยยิ้มน้อยๆ ที่ฮ่องเต้เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้มาก “กระหม่อมคืนป้ายประกาศิตพ่ะย่ะค่ะ”เฉินต้าเหว่ยนำป้ายไปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนเดินกลับมายืนที่เดิม“เอาล่ะ คงหมดเรื่องแล้ว ข้าจะให้หลิวกงกงนำราชโองการไปให้พระสนมจาง” หลีไทเฮาเรียกหลีกงกงเข้ามาในห้องโถง ยื่นราชโองการให้อีกฝ่ายที่รีบนำไปให้อำมาตย์หลิวฮวยเถาเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป “ข้าว่า รออีกสักครึ่งชั่วยามเจ้าค่อยไปหาจางม่านอวี้ รอให้ท่านอำมาตย์ประกาศราชโองการเสียก่อน เจ้ากับม่านอวี้จะได้ไม่ถูกครหา”“พ่ะย่ะค่ะ” เฉินต้าเหว่ยรับคำ“เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ ข
Chapter 88ฮ่องเต้จูหมิงนิ่งเงียบ สบพระเนตรหลีไทเฮาแวบหนึ่งก่อนหลบสายตาเขายอมรับว่า ตนเองกำลังเป็นไปตามคำพูดของหลีไทเฮา“ในเมื่อรู้ผลแพ้ชนะ ฝ่าบาทก็สมควรยอมรับผลนั้น เฉินต้าเหว่ยออกทำศึกด้วยความกล้าหาญ ด้วยสติปัญญาจนสามารถปราบกองกบฏได้ แล้วยังจับรองแม่ทัพฮัน คนทรยศมาลงโทษ ถือว่าเฉินต้าเหว่ยมีความดีความชอบไม่น้อย แต่ฝ่าบาทกลับประทานความตายให้คนที่สู้เพื่อบ้านเมือง หากเรื่องนี้รู้ถึงหูคนภายนอก มันจะไม่เกิดผลดีกับฝ่าบาทเลย พระสนมจางม่านอวี้เป็นเพียงอิสตรี จะมีความสำคัญเท่าเกียรติยศและสูงศักดิ์ของฝ่าบาทหรือเพคะ และคงไม่สำคัญเท่าบ้านเมืองด้วย ฝ่าบาทต้องยอมรับผลที่ออกมา ไม่ใช่ฆ่าเฉินต้าเหว่ยเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว”ฮ่องเต้จูหมิงเข้าใจทุกอย่างที่หลีไทเฮาตรัสมา ทว่าเขายอมรับการสูญเสียพระสนมจางม่านอวี้ไม่ได้ อาจเป็นเพราะรักมาก และรู้สึกเสียหน้า เขาจึงไม่คิดยอมแพ้“กระหม่อมรักพระสนมจาง ไม่อยากเสียนางไปพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างเฉินต้าเหว่ยท้าทายกระหม่อม โทษสมควรตายอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องเฉินต้าเหว่ยท้าทายฝ่าบาท โทษตายก็สมควร” หลีไทเฮากลับเห็นด้วยกับข้อนี้ “แต่การท้าทาย คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็