ประตูห้องพักในโรงแรมถูกเปิดโดยพนักงานบริการ กันยกรเดินเข้ามาก่อนตามด้วยเจ้าของร่างสูงกำยำ
“ฉันเข้าห้องน้ำก่อน”
เมื่อพนักงานออกไปเธอก็จับประตูห้องน้ำเปิดเข้าไปทันที รู้สึกใจเต้นแรงจนต้องพิงประตูแล้วสูดหายใจเข้าปอดลึก
ไม่เสียใจ กันยกรบอกตัวเอง สิ่งที่ตนกำลังจะทำเหมือนคนโง่ ทว่าเธอต้องการความแข็งแกร่ง อยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้หญิงแกร่งที่สวย เชิด เลิศ ไม่แคร์สิ่งใด
‘แกมันดูเหนียมไปหน่อยยายกันย์ ผู้หญิงที่ไม่เคยอย่างแกน่ะ มันขาดเสน่ห์ ไร้เซ็กซ์แอพพีลก็ตรงนี้แหละ’
ภาวินีเพื่อนสนิทบอกเธอในตอนที่ถูกแฟนบอกเลิกเป็นคนที่สาม นับแต่เรียนมหาวิทยาลัย กันยกรก็คบหากับคนที่เข้ามาจีบตนเพราะคิดว่าตนเองโตพอที่จะทำความรู้จักความรัก แต่กลับถูกคนที่คบด้วยบอกเลิกหลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่งเสมอ
‘ฉันยังไม่พร้อมนี่นา’
‘แล้วแกจะพร้อมเมื่อไร สมัยนี้เขาไม่ถือเรื่องพวกนี้กันแล้ว ของแบบนี้มันต้องลองก่อนว่าไปกันรอดไหม เจอหน้าก็ชวนนอนก่อนเลยย่ะ’
‘แหม พูดเหมือนตัวเองเจอหน้าคนที่ชอบแล้วชวนนอนก่อนงั้นแหละยายนีนี่’
‘ว่าไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าโดนจริงๆ ก็อาจจะขอลองก่อนว่าเด็ดไหม’
เพื่อนรักกระซิบข้างหูแล้วขยิบตาให้เธอจึงตีไหล่อีกฝ่ายไปเพราะหน้าร้อนขึ้นมา
กันยกรไม่ได้ไร้เดียงสา เคยพบเห็นหลายสิ่งมาเหมือนคนอื่นแม้ยังไม่เคยทำ เพราะมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง เธออยากเรียนให้ดี และก็คว้าเกียรตินิยมมาครองจนสำเร็จ ตอนนี้กำลังจะจบปริญญาโท ที่สำคัญเมื่อเห็นคู่หมั้นกับน้องสาวมาสดๆ ร้อนๆ ทำให้เธอตัดสินใจเรื่องเรียนต่อปริญญาเอกที่ค้างคามาพักหนึ่งได้ทันที
และคืนนี้เธอก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นกันยกรคนใหม่ เธอต้องการความมั่นใจในเสน่ห์ของตนเพื่อจบปัญหาแล้วก้าวต่อไปในเส้นทางของตัวเอง
หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึก สงบจิตสงบใจ จัดการธุระส่วนตัว ทำใจให้นิ่งกว่าเดิมแม้จะค่อนข้างยากแต่พยายามตีสีหน้าเรียบสนิทเข้าไว้ก่อนจะเปิดประตูออกไป แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นร่างสูงกำยำยืนรออยู่หน้าประตู ทั้งเขายังขยับมาชิดเท้ามือยันผนังโน้มกายมาใกล้
“พร้อมหรือยังครับ”
เธอพยักหน้า อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นมาวางลูบบนไหล่พลางถามต่อ
“คุณชอบแบบไหน”
ทั้งที่ใส่เสื้อสูทอยู่กันยกรก็รู้สึกใจหายวูบ แปลกที่ตนเหมือนจะไม่ค่อยกล้าสบกับดวงตาคู่คมกล้านัก ผู้ชายคนนี้มีดวงตาคมเข้มทว่าขนตากลับยาวมากทำให้ดูน่ามองไม่น้อย
“ถึงใจ”
ไม่รู้หรอกว่าแบบไหนของเขามันอะไรบ้าง หากกันยกรตอบเสียงเรียบ บังคับดวงตาตนให้นิ่งขณะเชิดหน้าสบตาชายหนุ่ม แล้วก็เห็นว่ามุมปากได้รูปขยับยก
“ได้เลย ผมจะจัดให้ถึงใจ คุ้มค่าตัวแน่นอน”
พลางเอ่ยแขนกำยำก็คว้าเกี่ยวเอวเธอไปชิดร่างหนา หญิงสาวพยายามทำใจดีสู้เสือเหมือนสาวมั่น ขณะที่ใบหน้าคมคายเคลื่อนลงมาชิด เมื่อปากได้รูปบดเบียดลงมากันยกรก็ตอบรับ แม้ไม่เคยพลาดพลั้งเสียความบริสุทธิ์ให้แม้แต่คู่หมั้นของตัวเอง ทว่าเธอเคยจูบมาแล้ว
กรุ่นกลิ่นเหล้าร้อนแรงอ่อนๆ ที่รับรู้ได้จากลมหายใจรุ่มร้อนและริมฝีปากอุ่นทำให้เธอเกร็งเล็กน้อย หากก็ไม่ได้รังเกียจ แรงจูบซับเม้มย้ำแนบแน่นอย่างเร่าร้อนขึ้นเชิญชวนให้จูบกลับเช่นเดียวกัน หรืออาจเพราะเธอกำลังเมากลิ่นอ่อนของเตลีกาก็เป็นได้ ทว่ากันยกรรู้สึกได้ว่าตนเองกระหายที่จะเข้าถึงอารมณ์ใคร่มากกว่าครั้งไหนจากการจูบครั้งนี้
ชายหนุ่มยกเธอขึ้นนิดๆ แล้วพาเคลื่อนกายไปประชิดผนังด้านหนึ่งแทน ร่างหนาเบียดเข้ามาแนบ มือก็เริ่มไต่ลูบไล้ไปทั่วร่างทั้งเอวและสะโพก ก่อนจะวกขึ้นมาถอดเสื้อสูทของเธอ แม้จะรู้สึกหนาวเยือกเมื่อความเย็นกระทบผิวหากกันยกรก็ปล่อยสูทให้หล่นจากแขนไป
รู้สึกได้ถึงมืออุ่นเลื่อนลูบสะโพกและข้างเอวตนก่อนจะเลื่อนสูงไต่มาตามสันหลังทำเอาร่างอรชรสั่นนิดๆ จนต้องถอนหายใจ และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มถอนริมฝีปาก เธอจึงรีบหอบลมหายใจเข้าปอด
ริมฝีปากอุ่นจุมพิตบางเบาระเรื่อยจากปลายคางเล็ก ลำคอบางหอมกรุ่น บ่าบอบบาง พร้อมกับมือก็รูดซิปด้านหลังชุดลูกไม้แขนกุดสีครีมที่พอดีเนื้อตัวอ้อนแอ้น ให้ความรู้สึกทั้งเซ็กซี่และน่าถนอมในคราวเดียวกัน
ผิวเนียนถูกมือหนากระด้างสัมผัสอ่อนโยนพลางปลดเสื้อจากไหล่มน พร้อมริมฝีปากอุ่นก็ไซ้ซอกคอทำเอากันยกรปากสั่นกลืนน้ำลายและห่อไหล่เพราะเป็นครั้งแรกที่คนอื่นถอดเสื้อผ้าตนเอง
เมื่อชุดสวยเลื่อนลงไปกองที่เอว ปากอุ่นก็ขยับมากระซิบข้างใบหูพาให้สยิวขนลุกชัน
“หน้าอกคุณสวยมาก”
แม้ยังมีบราเกาะสองเต้าทรวงหากเนินเนื้อขาวอวบก็เย้ายวนและเห็นชัดว่าสวยเต็มตึงทั้งค่อนข้างเกินตัว ด้วยกันยกรมักใส่สูทตัวโคร่งคลุมเพื่อความเรียบร้อยและท่าทีนิ่งเฉยกับแว่นสายตาของเธอทำให้ดูเป็นสาวเฉิ่มเชยคงแก่เรียน หรือดูเคร่งขรึมในเวลาทำงาน ได้ยินคำชมก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้ ทั้งปากอุ่นยังกัดติ่งหูเบาๆ ราวหยอกเย้าทำเอาเธอแทบขาอ่อน
“อือ”
กันยกรหลุดครางพร่าแผ่วก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ ชายหนุ่มเบาๆ ขณะเดียวกันมือหนาก็กระชับหน้าอกข้างหนึ่งเคล้นไปด้วย ไม่เพียงแค่นั้นท่อนขาแกร่งยังขยับมาแทรกระหว่างของเธอบดเคล้าเรียกเลือดสาวร้อนฉ่า สติที่ค่อยๆ หลุดแตกกระเจิงทันที
เธอเกร็งและร้อนไปทั้งตัว ขาอ่อนแรงราวกำลังลอยอยู่ หากไม่ถูดดันจนชิดผนังคงทรุดไปกองกับพื้นแล้ว
ใบหน้าคมคลายเคลื่อนลงมาหาหน้าอกคู่งามซุกไซ้จูบฟัดเนินอวบขาว ปลายนิ้วไต่ไปสะกิดตะขอด้านหลัง ผ้าลูกไม้ที่เกาะความอวบอิ่มอยู่ก็เลื่อนลงโดยง่าย ปากแกร่งเม้มปลายยอดสีหวานทันใดเหมือนรอที่จะลิ้มรสไม่ได้แล้ว
กันยกรถอนหายใจยาว แรงดูดเม้มจากปากอุ่นทั้งลิ้นร้อนยังปัดป่ายก่อนรวบรัดเต้าทรวงเข้าอุ้งปากจนเต็มคำทำให้อกสาววาบหวามหายใจลำบาก ชายหนุ่มกลืนกินเป็นจังหวะเดียวกับที่มืออีกข้างเคล้นทรวงอวบที่เหลือทั้งท่อนขาก็ยังบดเบียดจนเธอร้อนชื้นอึดอัดเหงื่อซึมทุกสัดส่วน
“อ๊ะ”
เสียงดูดดื่มนั้นดังจนเธอต้องร้องเบาๆ ประท้วงพร้อมผลักไหล่กำยำ หากเขาก็เพียงเปลี่ยนไปคลุกเคล้าอีกข้างอย่างเท่าเทียม สุดท้ายหญิงสาวก็ทำได้เพียงเกาะจิกไหล่หนา ขณะอีกมือเกาะเกี่ยวกลุ่มผมดกหนาแน่นระบายอาการสยิวภายในกาย แหงนเงยหน้าหอบแรงโดยไม่รู้จะทำอย่างไร
สัมผัสจากมืออุ่นเลื่อนไล้ต้นขากับสะโพกบีบกระชับปลุกอารมณ์สาว ทว่าเวลานี้กันยกรมึนและเบลอกับการจู่โจมช่ำชองรวดเร็วจนไม่อาจควบคุมอารมณ์กับความคิดตัวเองได้แล้ว มือหนาเคลื่อนไปทุกส่วนทำให้เข่าอ่อนเหมือนชายหนุ่มเป็นฝ่ายควบคุมร่างกายแทนเธออย่างนั้น
ปลายกระโปรงถูกรั้งสูงพร้อมสองมือของชายหนุ่มสอดเข้าไปบีบขยำสะโพกผายเต็มมือกระตุ้นเร่าหนัก ขณะที่ริมฝีปากอุ่นกลับมาจูบซับกลีบปากอิ่มสวย ปลายลิ้นสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวรัดพัวพันให้หญิงสาวยิ่งมัวเมาในรสจูบปะปนเตกีลาอ่อนๆ ก่อนผละจูบแล้วพลิกร่างอรชรให้หันหน้าชิดกำแพง
กันยกรงุนงงกับสิ่งที่ชายหนุ่มทำ ทว่าเพราะร่างหนาเบียดแผ่นหลังพร้อมจูบไซ้ซอกคอแล้วเม้มติ่งหูทำเอาตัวอ่อนปวกเปียกจนต้องพยายามยันผนังพยุงตนเอง ทว่าอยู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แข็งแกร่งบดไล้สะโพกด้านหลังที่ชุดเลื่อนสูงขึ้นมาอยู่บนบั้วเอวแล้ว
“ดะ...เดี๋ยว...”
เสียงหวานสั่นพร่าเมื่อความกร้าวแกร่งพยายามเบียดระหว่างขา กันยกรขนกายลุกทั้งตัว ตื่นตระหนกจนตาสว่างจากอารมณ์มึนเบลอไปชั่วขณะ
“คุณชอบแบบถึงใจไม่ใช่เหรอ”
เสียงเข้มต่ำกระซิบข้างหู หากมือหนาก็ไม่อยู่นิ่ง สอดมากุมเคล้าคลึงทรวงอวบด้านหน้าราวหยอกเอิน
“มัน...เร็วไป”
เธอยังทำใจไม่ทัน แม้จะหลงเพริดเต็มที่แต่รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายรุกเธอยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ แถมนี่ก็ยังยืนอยู่ ขาเธอแทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว เขารีบเกินไปหรือเปล่า
“อ๋อ หรืออยากให้ผมทำให้ก่อน”
ใบหน้าเรียวมนที่สวยลงตัวพยักรับ อย่างน้อยประวิงเวลาให้ตัวเองได้หายใจหายคอสักหน่อยก็ยังดี
=====
นางเอกของเราบอกว่า ‘ถึงใจ’ แต่ตั้งรับไม่ทัน มาเอาช่วยกันย์ กันค่า ^^
“อย่าแรงมากนะคะ”คำเตือนหญิงสาวราวคำบอกชี้ทางสว่างจากนางฟ้าในความรู้สึกนภณต์ เขาจูบแก้มนุ่มแล้วไล้ไปจูบริมฝีปากอิ่มสีอ่อนซ้ำอีกพลางจัดการปราการส่วนล่างของทั้งคู่ แล้วเชื่อมกายแกร่งเข้ากับความนุ่มอบอุ่นช้าๆกันยกรกัดริมฝีปากกับความเสียดเสียวที่ได้รับ ก่อนจะครางผะแผ่วตามแรงรักเน้นแนบแน่นที่ส่งมาจากสะโพกแกร่ง ชายหนุ่มทำตามคำขอกระนั้นก็ยังรัญจวนใจอย่างรุนแรง มือบางเกาะขอบสระไม่ให้ตนทรุดลงไปหรืออาจลื่นขึ้นมา หากก็มีแขนกำยำโอบกายเธอประครองไว้ด้วยริมฝีปากอุ่นจูบเม้มคอกับบ่าของเธอไม่หยุด สัมผัสรุกเร้าเอื่อยเฉื่อยอัดเต็มไปด้วยอานุภาพแห่งเสน่หา สองร่างโยกคลอนไปด้วยกันคลอกับระลอกคลื่นที่กระเพื่อมไหวตามแรงขยับ อารมณ์เร่าร้อนเดือดพล่านไปพร้อมกับความลุ้นระทึกใจกับบทรักแปลกใหม่ กระตุ้นทั้งสองให้ยิ่งเร้าใจมากกว่าเดิมเสียงหวานครางพร่าเบาในลำคอด้วยพยายามสะกดตัวเองไม่ให้ส่งเสียงดังเกินไปนัก ขณะที่ชายหนุ่มก็หอบแรง ลมหายใจร้อนหนักๆ เป่าแก้มกับลำคอเธอตลอดเวลา ทำให้ผิวที่เย็นจัดหวิววาบจนกันยกรรู้สึกราวตัวเองกำลังไข้ขึ้น“เมฆคะ”เธอเร่งชายหนุ่มเมื่อกระแสแปลบปลาบกำลังแผ่ซ่านรวดเร็ว และอีกฝ่ายก็เน้นส่งสะโพก
‘ตอนนี้บ้านเรากำลังมีปัญหาหลายอย่าง กันย์คิดว่าจัดงานคงไม่หมาะเท่าไร คุณพ่อไม่โกรธใช่ไหมคะ ที่กันย์เลือกทำแบบนี้’‘อืม พ่อเข้าใจ อีกอย่างจัดงานแต่งใหญ่โตแล้วยังไง ไม่ได้รับประกันว่าชีวิตคู่จะมีความสุขสักหน่อย ถ้าลูกไม่น้อยใจว่าพ่อไม่จัดงานให้ใหญ่และทุกคนรับรู้กันทั่วเมืองเหมือนยายเก๋ พ่อยังไงก็ได้’กันยกรกราบขอบพระคุณบิดาพร้อมกับนภณต์ หลังจากพูดคุยกันเรื่องสินสอดทองหมั้นแล้วเธอบอกว่าตั้งใจเพียงแค่จะจดทะเบียนสมรสกับนภณต์เท่านั้นท่านก็อนุญาต‘จะจดเมื่อไรก็บอก พ่อจะไปเซ็นเป็นพยานให้เอง’ส่วนคุณการันต์คิดเพียงว่ากันยกรมีความสุขก็พอใจแล้ว เมื่อท่านไม่สามารถดูแลบุตรสาวให้มีความสุขได้ตั้งแต่เด็กจนโต หากเวลานี้เจ้าตัวกำลังจะสร้างชีวิตครอบครัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความสุขท่านก็มีความสุขไปด้วยและทั้งสองก็ได้ฤกย์ยามกับวันดีแล้วก็จดทะเบียนสมรสในเดือนต่อมา นอกจากบิดาของกันยกรมาเป็นพยานแล้ว นิชาดาน้องสาวของนภณต์ก็บินมาจากเชียงรายด้วย‘พี่ชายคนเดียวแต่งงาน หมอกจะไม่มาได้ยังไงคะ’แม้จะเป็นเพียงการจดทะเบียนก็ถือว่าแต่งงาน แล้วจากนั้นคุณการันต์ก็พาทุกคนไปเลี้ยงอาหารที่โรงแรม ซึ่งมีธีรดนย์ส
นภณต์ดื่มด่ำรสชาติล้ำลึกแทบเหือดแห้ง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเรือนร่างงามหอบหนักตัวอ่อนระทวยเขาก็โน้มไปจูบริมฝีปากสวยที่เผยอหายใจอย่างปลอบใจ มือหนาลูบเต้ากลมกลึงเคล้นหนักมือตามความต้องการอันร้อนแรงที่กำลังพุ่งสูงของตน พลางลุกขึ้นนั่งเพื่อปฏิบัติการรักให้ปลอดภัยกับลูกน้อยนภณต์เคลื่อนกายเชื่องช้าเข้าหาร่างนุ่มอุ่นที่บีบแน่นจนเขาต้องกัดฟันข่มใจตัวเองไม่ให้ทะยานกายรวดเร็วเต็มรักในคราวเดียว ชายหนุ่มหักห้ามร่างกายตัวเองยั้งสะโพกแกร่งยามโยกไหว ไม่ส่งแรงรักทุ่มทั้งตัวใส่ไปยังหญิงสาว เพียงคุกเข่ายันสะโพกขยับเอวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ถึงอย่างนั้นก็รับรู้ถึงความอิ่มเอมจากสัมผัสอ่อนโยนระหว่างร่างกายดวงตาคู่เรียวงามมองร่างสูงกำยำกำลังผลักเบียดสะโพกอย่างใส่ใจจนเห็นกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัดสวย แม้อีกฝ่ายจะกัดริมฝีปากแน่น หากแววตาที่ส่งมาถึงเธอก็เต็มไปด้วยความพอใจ และบทรักเชื่องช้าก็นำพาให้หญิงสาวผวาเฮือกอีกครั้งนภณต์พึงพอใจยามได้มองกันยกรหมดสิ้นเรี่ยวแรง นอนครวญครางระทดระทวยหรือดิ้นเร่าเพราะตนเอง เขาเบียดสะโพกไม่หยุด พลางปลายนิ้วโป้งก็บดแนบส่วนบอบบางทำเอาร่างสาวสั่นระรัว ส่งเสียงห้ามเครือพร่า“คุณเมฆ ฉั
“น้องสาวกับแม่เลี้ยงคุณใจร้ายมาก ทำกันขนาดนี้ได้ยังไง ยังดีที่ลูกของเราปลอดภัย”นภณต์ทายาตรงมุมปากรวมถึงแขนและเข่าของเธอพลางบ่นอุบเพราะกันยกรมีรอยชกช้ำแทบจะทั้งตัว โดยที่แขนกับเข่านั้นหนักที่สุดกันยกรซึ่งนั่งพิงหัวเตียงถอนหายใจยาว ทั้งคู่ไปหาหมอมาแล้ว ทั้งตรวจร่างกายและฝากท้องเรียบร้อย เธอโล่งใจมากที่ลูกปลอดภัยดีไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด“ยายเก๋เสียใจมากก็เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนอาภัสจะสติแตกตามไปด้วยไม่แปลกหรอกค่ะ ท่านรักยายเก๋มาก เป็นฉันก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน”นภณต์จับมือเธอขึ้นกุมพลางลูบแผ่วเบา ขณะสายตามองมาอย่างแสนรักและกันยกรก็รับรู้ได้“คุณเก่งมากเลยครับที่อยู่กับสองแม่ลูกใจร้ายนั้นมาได้โดยไม่เสียคน ไม่หนีออกจากบ้าน แถมยังการเรียนดีมากอีก ผมนับถือจิตใจของคุณจริงๆ”ชายหนุ่มเอ่ยจากใจอย่างชื่นชม“ฉันต้องใช้ความอดทนมากค่ะตอนที่ยังเด็ก อยากหนีออกจากบ้านตั้งแต่พ่อบอกว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ แต่คุณแม่เคยพูดกับฉันตอนที่ท่านป่วยหนักก่อนเสีย ว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้ามฉันออกจากบ้านเด็ดขาด แต่ฉันก็ออกมาอยู่ข้างนอกตอนเรียนมหา’ ลัยนะคะ ตอนนั้นฉันคิดว่าดูแลตัวเองได้แล้ว มีจุดมุ่งหมายในใจ ไม่ใ
“คุณเมฆเป็นคนรักของกันย์ค่ะ”กันยกรขอคุยกับบิดาภายในห้องทำงานของท่านพร้อมกับนภณต์ แม้ท่านจะบอกให้เธอไปหาหมอก่อนแล้วค่อยคุยวันหลัง ทว่าหญิงสาวบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญบิดาจึงตกลง“ฉันก็พอเดาได้ ถามเมฆเขาไปแล้วเหมือนกัน ว่ามารู้จักคบหากับแกได้ยังไง”คุณการันต์บอกเสียงเรียบทำให้กันยกรรีบหันมองคนที่นั่งข้างตน ว่าบอกอะไรกับบิดาไปบ้าง ทว่าชายหนุ่มยิ้มบาง“ตกลงเรื่องที่แกจะคุยมันเรื่องอะไร”เหมือนบิดาต้องการเข้าเรื่องให้เร็วที่สุดกันยกรสีหน้าไม่ค่อยดีนักจนนภณต์สังเกตได้ เข้าใจว่าหญิงสาวกลัวที่จะบอกบิดาว่าท้อง ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เขามาด้วยเพื่ออยู่เคียงข้าง“ผมผิดเองครับ”ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง กันยกรหันมองเขาอย่างงุนงง ทว่าพออีกฝ่ายพูดต่อเธอก็เผยอปากค้าง“คุณกันย์ท้องครับ”มือบางรีบคว้ามือหนาไว้แต่พูดไม่ออกแล้วหันไปมองบิดาช้าๆ เมื่อท่านเอ่ยเสียงเบา“ท้องเหรอ?”สีหน้าของบิดาที่สงบนิ่ง ทว่าแววตาเอ่อคลอด้วยน้ำทำให้เธอขอบตาร้อนผ่าวไปด้วยส่วนนภณต์มองสองพ่อลูกอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดทั้งสองจึงมีสีหน้าท่าทางเสียใจ เขาคิดว่าจะถูกด่าที่ชิงสุกก่อนห่าม หรือไม่ก็ไม่ระวังจนทำให้กันยกรท้องก่อนแต่งให
คืนวันเสาร์กันยกรพักที่บ้านเพราะบิดาคิดว่าเธออาจระบมที่ถูกทำร้ายจนไข้ขึ้น‘บ้านมีคนอยู่เยอะ ช่วยกันดูแลได้ กลับไปนอนไข้ขึ้นคนเดียวแกจะทำยังไง’เพิ่งเกิดเรื่องหมาดๆ กันยกรจึงไม่อยากขัดใจบิดา รู้ว่าท่านค่อนข้างเครียด เธอเองมารู้เรื่องสูญเสียหลานยังเสียใจ บิดาของเธอคงเสียใจมากไม่น้อยไปกว่าแม่เลี้ยงกับน้องสาว ใบหน้าท่านจึงได้ดูไม่ดีนักในตอนที่เธอถามถึงเกวลินหญิงสาวปวดระบมไปทั้งตัว และเรื่องลูกของเกวลินก็ทำให้เธอนึกถึงตัวเองขึ้นมา เผชิญเรื่องยุ่งมาหลายวันทำให้กันยกรมีความเครียดสะสม แม้จะกินยาไม่เคยขาดแต่ก็อดกังวลไม่ได้หลังจากถูกทำร้าย ตอนที่ถูกผลักล้มเธอเอาลำตัวด้านข้างและแขนลง ไม่ใช่ส่วนก้นหรือสะโพกกระแทกพื้นตรงๆ แต่กันยกรก็นึกเป็นห่วงลูกมากจนนอนพลิกไปมา‘มารับฉันที่บ้านได้ไหมคะ’หญิงสาวส่งข้อความไปหานภณต์และชายหนุ่มก็โทรกลับมาทันที‘ได้ครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า’กันยกรเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดออกไป“ฉันท้องค่ะ”เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งราวใช้เวลาประมวลข้อมูลนาน ทำเอากันยกรใจเต้นแรงขณะรอฟังว่าชายหนุ่มจะพูดอะไร‘ยะฮู้!!’เสียงตะโกนดังมาทำเอาเธอสะดุ้ง‘จริงเหรอครับ คุณไม่ได้อำผมนะ แต่จะว่า