แหวนแต่งงานถูกชายหนุ่มโยนมากลางเตียงใหญ่ “ฉันให้ เผื่อเธอจะได้เอาไปขายแลกเป็นเศษเงิน” “ฉันไม่ได้ต้องการ! “มีนาอึ้งอยู่สักพักก่อนจะดันตัวลุกโต้เถียงอย่างไม่พอใจ ยามที่ถูกเขาพูดเชิงดูถูก “แล้วแต่มึงดิ “
View Moreบทนำ
หนึ่งปีที่แล้ว
“ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนนอกจาก เมจิแฟนผม! “ชายหนุ่มโพล่งขึ้นเสียงดุดัน ใบหน้าอันหล่อเหลาฉายแววเกรี้ยวโกรธ นัยน์ตาตาคมกริบจ้องผู้เป็นพ่อตาเขม็ง
“แต่แกต้องแต่งกับลูกสาวของคุณทัศ เขามีพระคุณกับครอบครัวเรา!”
“ฮึ ๆ มีพระคุณ? “เจ้าของใบหน้าหล่อแค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมาอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนอารมณ์ ตามด้วยประโยคอันร้ายกาจ “แต่ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ จนต้องเอาลูกสาวมาเร่ขายเพื่อชดใช้แทนเนี่ยนะ ยัยเด็กนั่นก็คงระริกระรี้อยากแต่งงานกับผมจนตัวสั่น ถึงได้ยอมพ่อตัวเองเอาง่าย ๆ”
“หุบปากเน่า ๆ ของแกซะ! ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูมีนา ถ้าแกยังดื้อด้านทุกอย่างที่เป็นของแกหรือแม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้น ฉันจะทำลายมันทิ้งให้หมด แกเองก็รู้จักนิสัยฉันดีนะ..เพราะฉะนั้นก็คิดเอาเองว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง! “ชายวัยกลางคนยื่นคำขาดด้วยถ้อยคำข่มขู่ และเมื่อจบประโยค จึงเดินหนีไปทันที ปล่อยให้ลูกชายได้ไตร่ตรองถามไถ่ตัวเอง
ฮัททสึ กำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดนูนขึ้นมา พลางกัดกรามดังกรอด~ จนเห็นเป็นสันกรามเด่นชัด อารมณ์เดือดดาลภายในใจปะทุหนักกว่าเดิมเมื่อฟังประโยคของผู้เป็นพ่อ หัวใจแกร่งบีบรัดแน่นจวนปวดหนึบ ยามที่ต้องห่างเหินจากคนรัก หนำซ้ำยังถูกบังคับแต่งงานกับเด็กที่มีอายุเพียงสิบเจ็ดปี คราวนี้คงจนมุมแล้วจริง ๆ หากผู้เป็นพ่อไม่ใช้คนรักเข้ามาต่อรองก็อย่าหวังว่าตนจะยอม
“…”
…….
วันแต่งงาน (ประเทศญี่ปุ่น)
“อึก~ฮื้ออ~ “หญิงสาวในชุดแต่งงานชิโรมุคุสีขาว สวมกอดผู้เป็นแม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก อยู่ในห้องรับรองบ้านของฝ่ายเจ้าบ่าว “นา..ไม่อยากแต่งงาน..อึก~~ “
“แม่ขอโทษนะลูกที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย “ฝ่ามือหยาบของผู้เป็นแม่ลูบหลังปลอบประโลมลูกสาว ด้วยหัวใจที่แทบแตกสลาย ยามเห็นหัวแก้วหัวแหวนต้องเจ็บปวดร้องไห้เพราะต้องฝืนใจ “ลูกสาวของแม่เก่งอยู่แล้วเนอะ แม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นนะลูกรัก “สองมือประคองใบหน้าหวานที่เลอะเปรอะเปื้อนด้วยเม็ดน้ำตาขึ้นมา พลางใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน
แกร๊ก ~~
ขณะเดียวกันบานประตูก็ผลักเข้ามาพร้อมกับร่างใหญ่ของชายวัยกลางคน “หยุดร้องได้แล้วยัยมีนาพิธีงานแต่งใกล้เริ่มแล้ว “
“ไม่ร้องแล้วนะลูก”
หญิงสาวพยักหน้าให้ผู้เป็นแม่อย่างเข้าใจ แววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง จากนั้นเธอจึงเดินคล้องแขนผู้เป็นพ่อเข้ามาในพื้นที่แท่นบูชาหน้าบ้านฝ่ายชาย เพื่อทำตามขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ณ สถานที่ตรงนี้ ไม่มีแขกคนอื่นร่วมด้วย มีเพียงเหล่าลูกน้องที่ยืนเฝ้าตามจุดบริเวณบ้าน เพราะงานถูกจัดขึ้นเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากเจ้าสาวยังอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ จึงยังไม่ต้องการจัดให้งานเอิกเกริก
“แกไปรับน้องมานั่ง “เมื่อลูกชายยังนิ่งเฉยเอาแต่นั่งทำหน้าเคร่งขรึมไร้อารมณ์ ผู้เป็นพ่อจึงเดินเข้ามากระซิบสั่ง
ฮัททสึ ไม่ตอบแต่ดันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง สาวเท้าเข้าหาเจ้าสาวด้วยท่าทางขึงขัง แววตาคมจ้องมองหญิงสาวตาเขม็ง พลางกัดฟันแน่นข่มอารมณ์จนเห็นสันกรามปูดนูนชัดเจน แม้ว่าเธอคนนั้นจะสวยน่ารักมากแค่ไหนก็ตาม แต่กลับไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มหลงใหลได้เลยแม้แต่น้อย
หมับ !
“อ๊ะ! “มือใหญ่กระชากต้นแขนเล็กออกจากท่อนแขนแกร่งของชายวัยกลางคนแล้วบีบรัดอย่างแรง จนหญิงสาวต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบราวกับกระดูกจะแตกหัก พึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกในงานแต่ง ชายหนุ่มก็แสดงท่าทางป่าเถื่อน โดยไม่สนใจสายตาของใครหลายคู่ที่จ้องมองมา
ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวหนักกว่าเดิม เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาดุดันคู่นั้น จนเผลอรอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอโดยอัตโนมัติ หนำซ้ำดวงตาสุกใสยังเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาจวนจะหลั่งไหลออกมาเต็มที
“เจ็บไหมลูก “ทัศเอ่ยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่สามารถต่อว่าลูกชายของเจ้าหนี้ได้ แม้ภายในใจจะเจ็บแค้นแทนลูกสาวมากเพียงใดก็ตาม
มีนาไม่ได้ตอบสิ่งใดเพียงแต่ก้มหน้าหลบสายตาผู้เป็นพ่อเท่านั้น
“แม่ง! “ฮัททสึ สบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างรำคาญ ทั้งที่มือใหญ่ยังบีบต้นแขนของหญิงสาวแน่น “ทำตัวน่าสงสารอยู่ได้ว่ะ รำคาญสัส!”
“แกอย่ามาทำตัวต่ำทรามนะไอ้ฮัท! “คาทสึทนไม่ไหว รีบเร่งเข้ามาปรามลูกชายตัวดี
ฮัททสึ ดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วปล่อยมือออกจากต้นแขนหญิงสาว โดยไม่ตอบโต้ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินตรงไปที่หน้าแท่นพิธีเช่นเดิม คาทสึจึงส่ายหัวเอือมระอา
“ขอโทษคุณทัศ คุณปรีดา แล้วก็หนูมีนาด้วยนะครับ”
“ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ เจ้าฮัทคงเครียดเรื่องงานด้วยน่ะค่ะ “จีร่าแก้ต่างให้ลูกชายต่อจากสามีด้วยความเกรงใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นลูกหนี้ก็ตาม แต่พวกเขาก็เคยช่วยชีวิตเธอและสามีเมื่อหลายปีก่อนครั้งไปคุมงามที่บริษัทประเทศไทย
“ผมเข้าใจครับ”
“หนูมีนาไม่เป็นอะไรนะลูก”
“ค่ะ “มีนาตอบรับอย่างสุภาพ ทั้งที่ภายในใจเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและสิ้นหวัง ไม่ทันได้ใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นก็ต้องมีสามีเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่อายุสิบเจ็ดปี หนำซ้ำยังต้องมารับมือกับสามี ที่ดูท่าทีเขาคงเกลียดและไม่ชอบเธอมากเช่นกัน ดูจากการกระทำรวมถึงวาจาเมื่อสักครู่
เวลาต่อมา ~~
เมื่อทำพิธีข้างต้นเสร็จเรียบร้อยจึงดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย ที่ทั้งคู่ต้องสวมแหวนแต่งงานให้กัน
“ฮัททสึหยิบแหวนในกล่องใส่ให้น้องสิลูก “ จีน่าบอกเจ้าลูกชาย เมื่อฮัททสึเอาแต่นั่งทำหน้าถมึงทึงบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจอย่างเปิดเผย แต่ก็ยอมหยิบแหวนจากกล่องตามคำของผู้เป็นแม่
กรึก !
มีนานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อถูกมือใหญ่กระชากมือเพื่อสวมแหวน หนำซ้ำยังบีบแน่นราวกับต้องการให้แหลกละเอียด เธอได้แต่ข่มอาการเหล่านั้นไว้แล้วเงยหน้าจ้องคนใจร้ายอย่างเกลียดชัง โดยที่อีกคนไม่แม้จะชายตามองมาที่เธอ
“มีนาสวมแหวนให้พี่เลยลูก “ปรีดาบอกลูกสาว
มีนาหยิบแหวนและสวมให้ ฮัททสึ ก่อนจะจิกเล็บลงหลังมือเพื่อเป็นการเอาคืน ทำให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นจ้องเขม็งส่งสายตาอำมหิตมาให้ราวกับจะกินเลือกกินเนื้อ แต่เธอก็ไม่สนใจเลือกที่จะเบือนหน้าหนีแทน
หลังจากจบสิ้นพิธีตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ทุกคนจึงเข้ามารวมตัวกันอยู่ในห้องอาหารเพื่อพูดคุยกันตามประสา
“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับ เมื่อไหร่ที่หนูมีนาอายุครบสิบแปดปี ผมจะให้ทั้งสองย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเดียวกันที่ประเทศไทย หลังจากที่เจ้าฮัทไปรับตำแหน่งประธานบริษัทที่นู่น “คาทสึย้ำข้อตกลงอีกครั้งกับครอบครัวอีกฝ่าย ซึ่งครอบครัวของพวกเขาต่างก็พูดภาษาไทยกันได้อย่างคล่องแคล่ว
ในขณะที่ลูกชายและลูกสะใภ้เอาแต่นั่งอยู่เงียบ ๆ ไม่มีใครหยิบจับอาหารตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งสีหน้าทั้งคู่อมทุกข์ไม่ต่างกัน
“ครับคุณคาทสึ “ทัศตอบรับ
“ครับ ระหว่างนี้ผมจะให้เจ้าฮัททสึรับตำแหน่งรองประธานที่นี่หนึ่งปี รอจนกว่าหนูมีนาจะอายุครบ ผมจะส่งตัวเจ้าลูกชายผมไปที่เมืองไทยทันทีครับ “คาทสึอธิบายต่อ
“สำหรับผมยังไงก็ได้ครับ ตามที่ตกลงกันไว้เลย”
“ค่ะจี..ว่าเรามาทานข้าวกันดีกว่าค่ะ “ภรรยาของคาทสึเอ่ยขึ้นทุกคนจึงพยักหน้ารับ “ฮัทลูกตักอาหารให้น้องสิคะ”
ฮัททสึตักอาหารให้ภรรยาตัวเองที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างไม่เต็มใจ
มีนาระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างอ่อนจิตอ่อนใจ พยายามกล้ำกลืนฝืนทนยอมจำนนกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ เธอต้องเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อตัวเองและครอบครัว
เวลาต่อมา ~~
หลังจากส่งบ่าวสาวเข้าหอตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศไทย ซึ่งต่อจากธรรมเนียมประเทศญี่ปุ่น จึงเหลือเพียงฮัททสึและมีนาอยู่ในห้องด้วยกันสองคน
“ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย “มีนาพึมพำถามตัวเองอยู่บนเตียงใหญ่ด้วยความกระวนกระวาย หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำจนรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว ซึ่งฮัททสึหนีเข้าห้องน้ำตั้งแต่เข้ามาแล้ว
แกร๊ก ~~
ระหว่างนั้นบานประตูห้องน้ำก็เปิดออก พลันให้หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งตัวโหยงตกใจกับเสียง แล้วหันขวับมองด้านหลังโดยอัตโนมัติ ก็เจอกับร่างสูงของฮัททสึที่ยืนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนสีดำ เซตผมหน้าม้าขึ้นอย่างหล่อเหลาเตรียมตัวออกไปเที่ยว ทั้งที่เป็นคืนเข้าหอของตัวเองแท้ ๆ
“มองทำไม!? “เจ้าของใบหน้าหล่อตะคอกถามอย่างไม่สบอารมณ์ ครั้นสบเข้ากับนัยน์ตาคู่งามที่ฉายแววหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด
“เปล่าค่ะ”
ฟิ้ววว ~
แหวนแต่งงานถูกชายหนุ่มโยนมากลางเตียงใหญ่ “ฉันให้ เผื่อเธอจะได้เอาไปขายแลกเป็นเศษเงิน”
“ฉันไม่ได้ต้องการ! “มีนาอึ้งอยู่สักพักก่อนจะดันตัวลุกโต้เถียงอย่างไม่พอใจ ยามที่ถูกเขาพูดเชิงดูถูก
“แล้วแต่มึงดิ “ฮัททสึไหวไหล่ ก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจท่าทางของหญิงสาว ทำเอามีนาถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ในหัวอยากจะฟาดคนปากหมาหยาบคายด้วยรองเท้าแตะซะเต็มประดา
---------------------------------------------------
#วันต่อมา @ร้านเบเกอรี่“ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ?” กล่าวถามทันทีที่เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถาดเค้กมะพร้าวในมือ เจอกับแก๊งเพื่อนของสามีที่กำลังเดินเข้ามาในร้านพอดี ในมือหนาแต่ละคนต่างเต็มไปด้วยถุงกระดาษใส่ของเล่น อีกทั้งลูกชายในอ้อมแขนแกร่งของสามียังถือโมเดลไอรอนแมนตัวใหม่แกะกล่อง“ของเล่นลูกน่ะ ไอ้พวกนี้มันสายเปย์” ฮัททสึตอบพลางยิ้มกริ่มอย่างไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่มีนาหม่นคิ้วเข้าหากันเป็นปม ส่งถาดเค้กให้กับพนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ สาวเท้าเดินมาหยุดตรงหน้าสามีจ้องมองนิ่ง “มีอะไรหรือเปล่า?”“ของเล่นลูกเต็มบ้านแล้วนะคะ จนไม่มีที่จะเก็บแล้ว” กล่าวเสียงเข้มอย่างต้องการตำหนิ“เห็นหลานอยากได้ พวกพี่เลยซื้อให้ครับ น้องมีนาอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ ส่วนไอ้ฮัทโกรธมันเลยเต็มที่” เคนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแหย ๆ อย่างเอาตัวรอด แล้วโยนขี้ให้กับพ่อของลูก“เฮ้ย! พูออย่างนี้ได้ไงวะไอ้เคน จะยุให้เมียกูโกรธกูอีกทำไมวะ ไอ้เพื่อนชั่ว ยิ่งง้อยากอยู่ แถมยังขี้บ่นอีก บ่นจนกูหูชา แม่ง!” ฮัททสึหันขวับแหวใส่เพื่อนรักอย่างใจไม่ดี ก่อนหลุดปากพูดความคิดที่อยู่ในหัวออกมาอย่างลืมตัว พอรู้ตัวอีกทีถึงกับหน้าถอดสี ส่วนเคนได้แต
ตอนที่ 49 เป็นผัวที่ดี“ปะลูกเข้าห้องกับมี้” หยัดกายลุกขึ้นเมื่อasลูกชายวิ่งเตาะแตะเข้ามาหาหลังจากถูกลงโทษให้นั่งนิ่ง ๆ อยู่กับผู้เป็นพ่อในห้องรับแขก“ปะป๊า”“ปะป๊าเขายังถูกทำโทษอยู่นะครับ”“ป๊างอน ” เด็กชายกล่าวบอกความต้องการด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางเอียงศีรษะทุยเล็กซบท่อนขาผู้เป็นแม่“แต่…”“มี้~” แหงนคอมองผู้เป็นแม่ตาแป๋วขอความเห็นใจ ทำเอามีนาถึงกับหนักใจแต่ก็ยอมตกลงตามความต้องการของลูกชาย ทำให้ทั้งพ่อทั้งลูกต่างดีใจกันยกใหญ่#เวลาต่อมา“ลูกหลับแล้วก็ออกไปนอนข้างนอก” เมื่อลูกชายหลับสนิทจึงลุกขึ้นนั่งเอ่ยกับคนตัวสูงที่นอนอยู่อีกฝั่งข้างของลูกชาย“พี่ง่วงจังครับ” แสร้งหลับตาแล้วทำเสียงงัวเงีย“อย่ามาเจ้าเล่ห์นะ ออกไป!”“อย่าเสียงดังสิเมียจ๋า เดี๋ยวลูกตื่นเอานะ”“ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ต้องเรียกแบบนั้น” แหวใส่คนเจ้าเล่ห์เสียงเบาหวิวอย่างเริ่มหงุดหงิด ทั้งที่ความเป็นจริงเธอกำลังหวั่นไหวให้เขา ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับเงียบทำหูทวนลมแล้วข่มตานอนต่อ “บอกให้ออกไปนอนข้างนอกไง” ไม่ยอมแพ้ก้าวลงจากเตียงดึงแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพรึ่บ!“อ๊ะ!” เพียงคนบนเตียงออกแรงกระตุกท่อนแขนเล็กเบา ๆ ร่างบางก็เสียหลักล้มทับค
ตอนที่ 48 บทลงโทษ“วันนี้คุณมีนาดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะคะ” เจนกล่าวแสดงความคิดเห็นกับฮัททสึที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย หลังจากมีนาเดินเข้ามาก่อนด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด“คงงอนผมน่ะครับ”“สู้ ๆ นะคะ คุณฮัททสึ ง้ออีกนิดเดียวคุณมีนาต้องยอมใจอ่อน แน่ ๆ ค่ะ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ”“ขอบคุณครับ” เริ่มมีแรงฮึดสู้อีกครั้ง เขาจะไม่ยอมแพ้“ให้พี่ช่วยไหม?” ฮัททสึเดินจากหน้าร้านเข้ามากล่าวอาสา เมื่อเห็นว่ามีนากำลังทำบัญชีอยู่หน้าตาเคร่งเครียด โดยที่ลูกชายตัวน้อยนั่งดูการ์ตูนอยู่บนโซฟา“ไม่ต้อง ไปช่วยพี่เจนหน้าร้านเถอะ” ตอบเสียงห้วน ๆ โดยไม่ละสายตาไปจากบัญชีตรงหน้าที่เธอไม่ถนัดเอาเสียเลย แต่ก่อนเป็นหน้าที่ของมาเรีย แต่เพราะแม่ป่วยเธอจึงลาออกกลับไปดูแลแม่ที่บ้าน“คนไม่มีแล้ว มาเดี๋ยวพี่ทำให้เอง พี่ถนัด”“ไม่เข้าใจหรือวะ…ว้าย!” ไม่ทันได้กล่าวจบเพราะความรำคาญ ทว่าต้องหวีดเสียงแทนด้วยความตกใจ เมื่อก้นลอยขึ้นจากเก้าอี้เข้าสู่อ้อมแขนแกร่งในท่าเจ้าสาวเสียก่อน เธอจึงรีบตวัดรัดลำคอแกร่งกร้านไว้โดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ทำให้ใบหน้าทั้งสองใกล้กันเพียงคืบนิ้วเท่านั้น“ปล่อยเดี๋ยว
มีนาจูงมือลูกชายเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อทุกโต๊ะในร้านถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงขนมหวานต่าง ๆ ที่เธอทำเตรียมเอาไว้ในตู้เย็นหลังร้านถูกนำมาจัดเข้าตู้โชว์พร้อมเปิดรับลูกค้าทั้งที่พนักงานเหลือเพียงคนเดียวคงจัดการทุกอย่างไม่ทัน เพราะมาเรียลาป่วยได้ห้าวันแล้ว เธอจึงต้องรีบพาลูกชายมาที่ร้านเร็วกว่าเดิม เพื่อช่วยพนักงานเตรียมเปิดร้าน แต่ผิดคาด ห้าวันมานี้เธอแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย มาถึงก็รอขายและทำขนมหวานบางอย่างที่หมด“สวัสดีค่ะคุณมีนา”“สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เตรียมร้านเสร็จเร็วมาก ๆ เลยนะคะพี่เจน คงเหนื่อยแย่เลยค่ะ”“ไม่เหนื่อยเลยค่ะคุณมีนา ดีที่มี…” รีบหยุดพูดแทบไม่ทัน เมื่อกำลังจะเผยความลับบางอย่างออกมา“มีอะไรคะ?”“เอ่อ...” ตอบอย่างอึก ๆ อัก ๆ ท่าทางมีพิรุธ “มะ...มีแฟนพี่มาช่วยค่ะ เลยเสร็จเร็วกว่าปกติ”“อ๋อ ๆ ค่ะ นาฝากขอบคุณแฟนพี่เจนด้วยนะคะ เย็นนี้นาฝากขนมไปให้แฟนพี่เจนด้วยนะคะถือว่าเป็นการตอบแทน”“ค่ะ”มีนาส่งยิ้มให้พนักงานสาวอย่างใจดีถึงแม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้เอาความ จูงมือลูกชายเดินเข้าไปหลังร้าน เจนยกมือทาบอกพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่
@อเมริกา“แอะ~" ฮาชิยิ้มร่าจนตาหยีเป็นรูปสระอิด้วยความคิดถึงปู่และย่าที่นาน ๆ ทีมาเยี่ยมหน ความตาตี่และเค้าโครงหน้าคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดตอนเยาว์วัยไม่มีผิดเพี้ยน“อย่าวิ่งครับลูก” มีนาปรามลูกชายด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะล้มหน้าคะมำเอาได้ แต่มีหรือเด็กชายแสนแสบจะฟัง เร่งฝีเท้าอันเล็กตรงมาหาผู้เป็นปู่ ก่อนปีนป่ายขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างซุกซน ทำเอามีนาถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา“ไปไหนมาครับหลานปู่”“ปู" ริมฝีปากน้อย ๆ พยายามเปล่งเสียงเรียกผู้เป็นปู่อย่างรู้ความ พลางแก้มป่องซบบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน ท่ามกลางสายตาเอ็นดูของผู้เป็นแม่และผู้เป็นย่า“คิดถึงแค่ปู่เหรอครับหลานย่า” จีน่าแสร้งปั้นสีหน้าน้อยใจ ทำให้เด็กชายวัยหนึ่งขวบรีบผละใบหน้าจิ้มลิ้มออกจากแผงอกของผู้เป็นปู่ แล้วปีนลงจากตักแกร่งด้วยตัวเอง เดินเตาะแตะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นย่าราวกับเป็นการปลอบใจ“ตึ๋ง~ ” “ไหนย่าขอหอมหน่อยสิ” จีน่าอุ้มหลานชายขึ้นมานั่งบนตัก แล้วโน้มใบหน้าฟัดแก้มป่องของหลานชายทันทีอย่างมันเขี้ยว เมื่อหลานชายขี้อ้อนทำแก้มป่องอนุญาตยอมให้ผู้เป็นย่าหอมอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้คนเป็นแม่ที่มองอยู่ถึงกับยิ้มแก้มปริ
ตอนที่ 45 หนีมาไกล / ยังไร้ร่องรอยหนึ่งปีต่อมา@อเมริกาออด ออด ออด เสียงออดประตูหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่กำลังพับเสื้อผ้าใส่ตะกร้าอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ละความสนใจออกจากสิ่งที่ทำ หยัดกายลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้กับแขกที่มาเยือน“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ “สองมือยกขึ้นไหวพ่อและแม่ของสามี ที่เธอต้องการหย่าขาดอย่างสุภาพ แล้วเชิญเข้าไปนั่งในบ้านหลังจากที่ท่านทั้งสองพยักหน้ารับ“เป็นยังไงบ้างหนูมีนา ไม่ลำบากอะไรนะ “จีน่าเอ่ยถามลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่กับหลานชายเพียงสองคนในต่างถิ่นต่างแดนหากย้อนไปปีก่อน หลังรู้เรื่องราวจากลูกชายตัวดี สามีของเธอจึงให้คนตามสืบเบาะแสเพิ่มเติมของลูกสะใภ้ระหว่างอยู่ที่ไร่ส้มในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทราบข่าวว่าลูกสะใภ้กำลังจะหนีลูกชายไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเธอและสามีจึงตัดสินใจอาสาพาลูกสะใภ้หนี โดยการติดต่อผ่านบิดามารดาของลูกสะใภ้ให้ช่วยเหลืออีกแรง ด้วยความเป็นห่วงหลานชายที่กำลังจะลืมตาดูโลก ไม่อยากให้ไปใช้ชีวิตลำบากกันตามประสากันสองคนแม่ลูก บวกกับความรู้สึกผิดที่เลือกตัดอนาคตเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะได้ศึกษาต่อจนจบ มีหน้าที่การงานก
ตอนที่ 44 ขอโอกาสแก้ตัว“เมื่อกี้เธอจะล้มน่ะครับผมเลยเข้าไปช่วยได้ทัน “เลือกที่จะไม่แสดงสถานะ จนกว่าเขาจะทำให้แม่ของลูกยอมใจอ่อนกลับไปกับเขา หากลั่นวาจาอะไรออกไปคงยากที่จะเข้าถึงตัวแม่ของลูก ดูท่าแล้วไอ้หน้าจืดนี่ก็คงชอบเมียเขาอยู่มากทีเดียว“อ๋อครับ น้องเขาน่าสงสารมากเลยนะครับ ครอบครัวเธอเป็นหนี้จนเธอต้องเสียสละตัวเองไปแต่งงานกับลูกชายเจ้าหนี้เพื่อเป็นการทดแทน โคตรจะไม่แฟร์กับเธอเลยครับ แต่ผมก็เข้าใจนะถ้าเป็นผม ผมก็คงไม่มีทางเลือกเช่นกัน หนำซ้ำไอ้ผู้ชายคนนั้นยังทำร้ายจิตใจเธอสารพัด ขนาดท้องยังจะพรากลูกไปจากเธออีก ทำให้ท้องเพราะผลประโยชน์ของตัวเองล้วน ๆ ไม่แมนเอาซะเลย”ฮัททสึแทบอยากจะพุ่งเข้าไปตะบันหน้าเจ้าของไร่ส้มให้หายแค้น เมื่อเจ้าของไร่ส้มสาธยายยาวเหยียดในความเลวชามของเขา ราวกับถูกตบหน้าย้ำ ๆ แต่ก็ได้กัดฟันแน่นข่มกลั้นอารมณ์เดือดดาลเอาไว้ในใจ ไม่ให้ปะทุออกมาทำลายความตั้งใจ“แล้วคุณแทนเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นหรือเปล่าครับ? “กล่าวถามเสียงเรียบแข็งลองเชิง จ้องมองเจ้าของไร่ส้มนิ่ง“ไม่เลยครับ น้องชายแค่เล่าให้ฟังครับ แต่ไม่ได้เอารูปไอ้สารเลวคนนั้นให้ดู”ไอ้สารเลวเหรอวะ !ทำได้เพียงทวนค
ตอนที่ 43 ตามอยู่ห่าง ๆ สามวันต่อมา@เชียงใหม่“ไอ้หน้าจืดนั่นกล้าดียังไงมาแตะต้องเมียกูวะ! “กำหมัดแน่นด้วยความหึงหวง อยากจะเข้าไปตะบันหน้าให้หายหงุดหงิดก็ทำไม่ได้ ทำได้แต่ตามดูอยู่ห่าง ๆ จากไร่ส้มจนถึงตลาดสด “ผมว่านายเข้าไปแสดงตัวเลยดีกว่าครับ เอาแต่ตามเฝ้าดูแล้วหงุดหงิดอยู่คนเดียวอย่างนี้ ก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอกครับ “เทนกล่าวไปตามความจริง เกือบสองวันเต็มที่ผู้เป็นนายเอาแต่ติดตามอยู่ห่าง ๆ“เข้าไปให้โดนด่าดิไอ้สัส! ไหนจะไอ้หน้าจืดนั่นอีก”“นายพูดเหมือนกลัวคุณมีนาเลยนะครับ ทั้งที่เมื่อก่อน….”“มึงหยุดพูดไอ้เทน! กูไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น กูแค่รอจังหวะให้เด็กนั่นอยู่คนเดียวซะก่อน ทางจะได้สะดวก “แหวใส่แล้วแก้ต่างให้กับตัวเอง นัยน์ตาเลิ่กลั่กอย่างเสียอาการ“ครับ “เทนตอบรับไปอย่างส่ง ๆ ด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม โดยไม่เชื่อคำพูดของผู้เป็นนาย“หายไปไหนแล้ววะ! “ครั้นเงยหน้าขึ้นมอง แม่ของลูกกลับหายไป ทั้งที่เมื่อครู่ยังยืนเลือกซื้อปลาอยู่กับไอ้หน้าจืด “โถ่เว้ย! เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้เทนชวนกูคุย คาดสายตาจนได้ “โยนความผิดให้ลูกน้องสนิทอย่างหัวเสีย แล้วเร่งฝีเท้าเดินตามหาคนตัวเล็ก“กูผิดอีกแล้วสิ
ตอนที่ 42 สภาพ“หึ “ไทหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างนึกขำกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนที่กำลังจะเป็นแม่คน “เฉไฉเก่งนะมึง”มีนามุ่ยหน้าจิ๊ปากใส่คนรู้ทันอย่างหมั่นไส้“กูไม่หิวหรอก ว่าแต่ไอ้พี่แทนอยู่ไหน?”“พี่แทนออกไปซื้อปุ๋ยกับคนงานน่ะ เดี๋ยวอีกสักพักก็คงมา”“อือ”“แล้ววันนี้แกจะค้างที่นี่ไหม?”“ตอนเย็นก็กลับแล้ว”“อันตรายนะขับรถตอนกลางคืนอ่ะ”“กูเป็นผู้ชายมึงไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอกน้า หลานกูดิ้นบ้างหรือเปล่าวะ? “ไทเลื่อนสายตามองไปที่ท้องนูนของมีนา“ดิ้นทุกวันเลยล่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ฉันพูดด้วยจะดิ้นแรงเป็นพิเศษ เหมือนหนูน้อยในท้องกำลังตอบโต้ให้ฉันรู้ว่าแกได้ยินที่ฉันพูด “มือบางลูบท้องนูนเบา ๆ ขึ้นลงแววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เมื่อเอ่ยถึงลูกน้อยในท้อง เพราะลูกเธอถึงมีแรงยึดสู้ต่อไป และ เพิ่มพลังให้เธอเข้มแข็งยืนหยัดด้วยตัวเอง“กูขอจับดูได้ไหม?”“อือ เอาสิ”ไทยิ้มบาง ๆ หลังจากได้รับอนุญาต จากนั้นจึงย้ายที่ไปนั่งข้าง ๆ มีนา ฝ่ามือใหญ่วางทาบหน้าท้องนูนอย่างเบามือด้วยความตื่นเต้น“ขยับหน่อยสิครับหลาน”“พูดจาอ่อนโยนก็เป็นนิไท “มีนาอดที่จะแซวไม่ได้ แทบไม่เคยได้ยินไทใช้โทนเสียงนุ่มนวลเลยด้วยซ้ำ“กูพูดออกจ
Comments