เนสิตาได้เจอกับฐากูรเจ้าของไร่องุ่นผู้เย็นชา เธอตกหลุมรักและอยากได้เขาเป็นแฟน เริ่มต้นจากการยั่วยวนและการแบล็กเมล์ไปสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งร้อนแรงที่เต็มไปด้วยความลับและความปรารถนาที่ซ่อนเร้น
View More“เฮ้อ....เสร็จซะที” เนสิตาหญิงสาวลูกครึ่งไทย-อิตาลีวัยสิบเก้าปีถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากล้างจากกองโตเสร็จในเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม
“วันนี้ลูกค้าเยอะมาก ขอบใจนะเนสที่ช่วยพี่ล้างจาน ถ้างั้นพี่คงล้างคนเดียวถึงห้าทุ่มแน่” มาลีหญิงสาววัยยี่สิบห้าพูดขณะคว่ำจานใบสุดท้ายลงบนชั้น
“ไม่เป็นไรค่ะพี่มาลี แล้วนี่พี่ลูกปลาจะมาทำงานเมื่อไหร่คะ” เนสิตาหมายถึงลูกปลาพนักงานอีกคนของทางร้านที่ไม่สบายและลางานไปหลายวันแล้ว
“ที่ถามถึงพี่ลูกปลานี่เพราะคิดถึงหรือเพราะเหนื่อยที่ต้องมาช่วยงานกันล่ะหนูเนส” น้ามาลีแม่ครัวถามเนสิตาลูกสาวเจ้าของร้าน
“ก็ทั้งสองอย่างค่ะน้ามาลี”
“เมื่อตอนบ่ายลูกปลาเขาโทรมาบอกว่าจะขอหยุดอีกสองวัน ช่วงนี้ทุกคนก็เหนื่อยกันหน่อยนะ” คุณนีรนุชบอกกับพนักงานของร้านทั้งสามคนและลูกสาวที่มาช่วยงานร้านอาหารในช่วงปิดเทอม
“แบบนี้แม่ต้องให้ค่าจ้างพวกเราเพิ่มนะคะ”
“แน่นอนแม่จะให้ค่าเหนื่อยทุกคนเพิ่ม แต่คืนนี้ไปพักกันก่อนเถอะพรุ่งนี้เรายังต้องทำงานกันอีก”
“พี่นุชคะ พรุ่งนี้เป็นเวรของลูกปลาไปซื้อของพี่นุชจะให้มาลีไปซื้อแทนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรพรุ่งนี้พี่จะไปเองจ้ะ จะพาเจสไปดูด้วยว่าอะไรต้องซื้อตรงไหน”
“ได้ค่ะ มาลีไปก่อนนะคะ”
“ขี่รถดีๆ นะพี่มาลี”
“ขอบใจนะเนส”
“เหมียวก็ขอกลับก่อนนะคะพี่นุช”
“ขอบใจมากนะเหมียวที่อยู่ช่วยจนเก็บร้าน” ที่นีรนุชพูดแบบนี้เพราะปกติแล้วเหมียวจะมีหน้าที่ช่วยเธอทำอาหารในครัวและไม่จำเป็นต้องช่วยเก็บกวาดร้านแต่งวันนี้เธออยู่ช่วยจนร้านปิด
“ไม่เป็นไรค่ะพี่นุช เราไม่ได้ยุ่งแบบนี้ทุกวันสักหน่อย วันไหนยุ่งก็ต้องช่วยกันไปล่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”
“พรุ่งนี้เนสจะซื้อขนมในตลาดมาฝากนะคะน้าเหมียว”
“ขอบใจจ้ะหนูเนส น้าไปก่อนนะ”
เมื่อพนักงานทุกคนกลับไปแล้วนีรนุชและเนสิตาก็ปิดประตูกระจกหน้าร้านก่อนจะดึงประตูเหล็กแบบม้วนลงมาจากนั้นก็ล็อกอีกทีก่อนจะพากันเดินไปยังรถกระบะที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน
“แม่คะแวะเซเว่นหน่อยได้ไหม” เนสิตาบอกมารดาเมื่อรถใกล้จะถึงร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยเข้าบ้าน
“หิวเหรอลูก”
“เปล่าค่ะแม่ เนสจะซื้อครีมทาผิวค่ะ ขวดที่เอามาจากหอมันหมดแล้วค่ะ”
“ได้สิ ไหนๆ ก็แวะแม่ฝากซื้อเบียร์ให้หน่อยนะ”
“นึกยังไงถึงจะกินเบียร์ล่ะแม่”
“วันนี้มันเหนื่อยน่ะลูกแม่อยากหาอะไรเย็นๆ กินหน่อยจะได้หลับสบาย”
“เอากี่กระป๋องคะแม่”
“แค่กระป๋องเดียวก็พอแล้วหนูล่ะเอาด้วยไหม”
“ก็ได้ค่ะ นานแล้วที่เราไม่ได้กินเบียร์ด้วยกันแม่รอแป๊บนะคะเดี๋ยวหนูมาค่ะ” เนสิตาหยิบธนบัตรใช้เก็บของหน้ารถก่อนจะลงไปยังร้านสะดวกซื้อ
หญิงสาวได้ครีมทาผิวแล้วจากนั้นก็เดินไปหยิบเบียร์มาอีกสองกระป๋องก่อนจะเดินมาชำระเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานมองหน้าเธอแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น
“ขอดูบัตรประชาชนด้วยค่ะ”
“ต้องใช้ด้วยเหรอคะ” หญิงสาวเพิ่งเคยมาซื้อเบียร์เป็นครั้งแรกมองหน้าพนักงานอย่างสงสัย
“ค่ะ เราต้องดูก่อนว่าน้องอายุถึงสิบแปดปีหรือยัง”
“เอาแค่รูปบัตรได้ไหมคะบัตรตัวจริงของหนูอยู่ในรถค่ะ” เนสิตาเอารูปบัตรประชาชนที่ตนเองเก็บไว้ในโทรศัพท์ให้กับพนักงานดู
“ได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวจ่ายเงินแล้วเดินกลับมาที่รถ
“นานเลยนะเนส มีอะไรหรือเปล่า”
“เขาขอดูบัตรประชาชนค่ะแม่ หนูก็เลยเอารูปบัตรในโทรศัพท์ให้เขาดูค่ะ หนูเพิ่งรู้ว่าที่นี่เขาขอดูบัตรด้วย”
“ก็หน้าลูกสาวแม่ยังดูเหมือนอายุไม่ถึงสิบแปดเขาก็เลยขอดูไงล่ะ” นีรนุชพูดกับลูกสาวก่อนจะขับรถกลับ
บ้านของพวกเธออยู่ห่างจากร้านอาหารไม่ไกลเท่าไหร่ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
ตั้งแต่สามีเสียชีวิตเมื่อปีก่อนนีรนุชก็ตัดสินใจพาลูกสาวกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองที่จังหวัดนครราชสีมาเธอใช้เงินหนึ่งในสามที่ได้จากประกันชีวิตของสามีมาลงทุนเปิดร้านอาหารโดยเช่าด้านล่างของตึกสองคูหาแห่งหนึ่ง
ร้านอาหารของเปิดตั้งแต่ 10.00 น.-14.00 น. ซึ่งในช่วงกลางวันจะมีอาหารตามสั่งพวกข้าวผัดและผัดกะเพราเสริมจากอาหารพวกสเต๊กและพาสต้าอีกด้วย ส่วนช่วงเย็นเปิดตั้งแต่ 16.30 น.-21.00 น. ซึ่งช่วงนี้จะเน้นไปทางอาหารอิตาลี
“เหนื่อยหน่อยนะเนส ช่วงนี้คนเราไม่พอ หนูกลับมาพักผ่อนช่วงปิดเทอมแท้ๆ แต่ยังต้องมาช่วยแม่ทำงาน”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ก็นี่เป็นร้านของเรานี่คะ เราก็ต้องช่วยกันค่ะ” หญิงสาวนั่งลงข้างมารดาในห้องรับแขกก่อนจะเปิดกระป๋องเบียร์ส่งให้
“หนูเป็นเด็กดีมากเลยรู้ไหมเนส แม่ดีใจนะที่หนูเกิดมาเป็นลูกแม่” นีรนุชหันมามองลูกสาวด้วยแววตาอ่อนโยน
“แต่วันนี้หนูรับออเดอร์ผิดทำให้ลูกค้าบ่น”
“ไม่เป็นไรนะลูก ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป หนูไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนมันก็ต้องพลาดกันบ้าง”
“แม่คะหนูคิดถึงพ่อค่ะ ถ้าพ่อยังอยู่แม่คงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้”
“แม่เองก็คิดถึงพ่อเหมือนกัน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือความเสียใจจากการจากไปอย่างกะทันหันของสามียังคงเกาะกุมจิตใจของเธอ
“แม่คะ หนูไม่เรียนต่อก็ได้หนูอยากจะช่วยแม่ที่ร้าน”
“นั้นไม่ใช่สิ่งแม่ต้องการ อันที่จริงพ่อเขาก็ทิ้งเงินประกันไว้เรามากพอที่จะอยู่กันได้อย่างสบาย แต่ที่มาเปิดร้านเพราะอยากให้เงินที่ได้มันงอกเลยและแม่ก็ไม่อยากจะอยู่เฉยๆ”
“หนูรักแม่นะคะ และก็ขอบคุณที่ทำเพื่อหนู หนูสัญญาค่ะว่าจะตั้งใจเรียนค่ะ” เนสิตาขยับเข้ามานั่งข้างมารดาแล้วกอดไว้แน่น เธอวางคางเกยไหล่แม่
“แม่ก็รักหนูจ้ะ เด็กดีของแม่ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนแล้วนะลูก เราต้องรักกันให้มากๆ นะ” นีรนุชลูบบนศีรษะลูกสาวเบาๆ ตอนนี้เนสิตาคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขและเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวมีความสุขแม้จะต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ก็ตาม
สามวันแล้วที่เนสิตาไม่ติดต่อมาหาหลังจากวันที่เขาจูบกับเธอที่น้ำตกท้ายไร่ ฐากูรรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับเธอแต่ในตอนนั้นบรรยากาศและอารมณ์มันพาไป เขาอยากจะเจอเนสิตาและขอโทษเธอแต่จะโทรศัพท์ไปหาแต่ก็ละอายใจเกินกว่าจะทำแบบนั้นเขาคิดว่าบางทีตอนนี้เนสิตาอาจจะโกรธเขาจนไม่อยากจะคุยกับเขาแล้วก็ได้เพราะปกติเธอมักจะโทรศัพท์หาเขาในเวลาหัวค่ำทุกวัน แต่นี่มันก็ผ่านมาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยจากที่เป็นคนชอบความสันโดษชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเนสิตาเข้ามาในชีวิต เขารู้สึกชอบในความสดใสชอบเสียงคุยเจื้อยแจ้วที่คุยอยู่ข้างหูมันทำให้ความรู้สึกเหงาหายไปจนหมดสิ้นฐากูรต้องคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับเนสิตาให้รู้เรื่องเขาต้องขอโทษเธออย่างจริงจังต่อหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เขาจัดการเคลียร์งานทุกอย่างในไร่จนเสร็จจากนั้นก็ขับรถมาอย่างร้านอาหารของคุณนีรนุชเพื่อหวังว่าจะได้เจอกับเนสิตาอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะวันนี้หญิงสาวไม่ได้มาทำงานฐากูรนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ ลูกค้าในร้านค่อนข้างเยอะทำให้เขาไม่มีโอกาสถามถึงเนสิตาเลย เมื่อมื้ออาหารจบลงเขาก็เดินออกจากร้านมาด้วยความผ
ทั้งสองเหมือนตกอยู่ในภวังค์เนิ่นนานกว่าจะผละออกจากกัน“ผมขอโทษ” เขาพูดอย่างสำนึกผิดก่อนจะประคองหญิงสาวกลับมาที่รถเนสิตานั่งเงียบมาตลอดทางเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกของตนเอง“จะกลับเลยเหรอ”“ค่ะเนสต้องรีบกลับไปอาบน้ำ”“เจ็บอยู่ไหมขับรถไหวหรือเปล่า” เขาถามอย่างห่วงใย“ไม่ค่ะ ไปก่อนนะคะ”“ขับรถดีๆ นะ” เขามองตามหลังรถคันเล็กของเธอไปจนสุดสายตาเนสิตาขับรถออกมาจากไร่ของฐากูรพอพ้นเขตรั้วได้ไม่นานหญิงสาวก็จอดรถข้างทาง ตอนนี้เธอแทบไม่มีสมาธิขับรถเลยเพราะสมองคิดถึงแต่จูบของฐากูรเมื่อครู่จูบแรกในชีวิตของเธอมันเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งกับผู้ชายที่เธอรู้จักมาได้ไม่นานนัก แต่กลับรู้สึกผูกพันอย่างประหลาด ความรู้สึกที่เพิ่งได้รับนั้นไม่ใช่แค่การแตะต้องกันของริมฝีปาก แต่มันคือการเปิดโลกใบใหม่ที่ไม่เคยรู้จักเป็นประตูสู่ความรู้สึกที่ซับซ้อนและลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เคยเข้าใจตอนนี้ในใจของเนสิตาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความสุขที่เอ่อล้นจนอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนั้น ความกลัวที่อาจจะเกิดขึ้นกับการถูกรุกรานไม่มีอยู่เลย มีแต่ความรู้สึกปลอดภัยและอ่อนโยนที่แผ่ซ่านมาจากสัมผัสของเขา ความรู้สึกว่าโลกทั
วันนี้เนสิตาตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้ไปเที่ยวที่ไร่องุ่นของฐากูร เธอขับรถเก๋งคันเก่าของมารดาเข้าสู่ถนนสายเล็กที่มุ่งหน้าสู่ไร่องุ่นของฐากูรอีกครั้ง กลิ่นหอมจางๆ ของดินและองุ่นที่คุ้นเคยลอยมาปะทะจมูกตั้งแต่ก่อนจะเห็นรั้วไร่เธอไม่ได้ติดรถเขามาอย่างเคย แต่การได้ขับรถมาด้วยตัวเองแบบนี้กลับให้อิสระและรู้สึกเหมือนตัวเองโตขึ้นกว่าเดิมเมื่อรถจอดสนิทที่หน้าออฟฟิศทางด้านหลังของร้านอาหารนวพลก็เดินออกมาต้อนรับหลาน“น้านึกว่าเนสจะหลงไปที่อื่นแล้ว ทำไมถึงช้าจัง”“ก็สองข้างทางวิวดีมากนี่คะหนูเลยขับช้า วันนี้น้าพลยุ่งไหมคะ”“ไม่เท่าไหร่ อยากดูเขาทำไวน์ใช่ไหม”“ใช่ค่ะแต่หนูไม่รบกวนน้าพลหรอกค่ะหนูนัดกับคุณฐาไว้แล้ว” เนสิตาบอกกับน้าชายเพราะเมื่อวานเธอโทรศัพท์มานัดกับฐากูรไว้แล้ว“แน่ใจนะว่านัดไว้แล้ว”“แน่ค่ะ แล้วตอนนี้คุณฐาอยู่ที่ไหนคะ”“อยู่ในห้องทำงาน ห้องนั้นไง” นวพลชี้ไปยังห้องหนึ่งที่อยู่อีกด้านของออฟฟิศ“หนูขอตัวก่อนนะคะ”“อย่าไปกวนเขามากล่ะ” เขากำชับหลานสาวแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะฟังคำเตือนของเขาหรือเปล่าหญิงสาวเคาะประตูพอเขาอนุญาตก็รีบเปิดเข้าไป เธอยิ้มทักทายเจ้าของห้องที่นั่งทำงานเอกสารกองโตอยู
เช้าวันใหม่เนสิตาตื่นตั้งแต่เช้า เธอเลือกสวมชุดที่เน้นความสบายคล่องตัวแต่ยังคงความน่ารักอย่างที่ชอบ เสื้อกล้ามคอกลมผ้าคอตตอนสีขาวซึ่งเป็นสีโปรดจากนั้นสวมทับคาร์ดิแกนสีเบจตัวบางเหมาะสำหรับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ท่อนล่างกางเกงผ้าลินินสีเบจขาสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นเรียวขาสวยรับกับรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่โปรดที่เธอสวมอยู่เป็นประจำผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบขึ้นเป็นหางม้าสูงปล่อยปอยผมบางส่วนหลุดลุ่ยลงมาข้างแก้มอย่างเป็นธรรมชาติ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆ เผยผิวหน้าใสรับริมฝีปากที่เจือสีระเรื่อจากลิปออยด์สีหวานทำให้เธอดูมีเสน่ห์ตามวัยอย่างน่ามอง หญิงสาวหมุนตัวหน้ากระจกจนมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกมาช่วยมารดาเอาแซนด์วิชลงกล่อง“ถึงแล้วโทรบอกแม่ด้วยนะลูก”“ได้ค่ะแม่หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วง”เมื่อรถของฐากูรเล่นเข้ามาหน้าบ้านสองแม่ลูกก็จัดแซนด์วิชลงกล่องเสร็จพอดีฐากูรดับเครื่องและเดินลงมาจากรถวันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นถึงข้อศอกกับกางเกงยีนสบายๆ เหมือนกับทุกวันจะต่างก็ตรงรองเท้าเพราะวันนี้เขาสวมรองเท้าผ้าใบแทนที่จะเป็นรองเท้าบูตเหมือนตอนที่อยู่ในไร่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้กดออดที่หน้าบ้านคุณนีรนุชและลูกส
แม้ตอนนี้เนสิตาจะหายจากอาการไข้แล้วแต่มารดาของเธอก็ยังไม่ให้ไปช่วยงานที่ร้านด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้เธอได้พักผ่อน แต่ดูเหมือนเนสิตาจะไม่ได้คิดแบบนั้นเลย สองวันมานี้เธออยู่บ้านและรู้สึกเหงามากแม้ตอนกลางวันจะโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนและดูซีรี่ส์เรื่องโปรดแต่มันก็ไม่สนุกเลยเมื่อเทียบกับการออกไปที่ไร่องุ่นของฐากูรเมื่อวานหญิงสาวโทรศัพท์ไปชวนเขาคุยในเวลาหัวค่ำแต่ก็คุยได้ไม่นานเพราะฐากูรขอตัวไปทำงานก่อนหญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเขายังจะต้องทำงานอะไรกลางคืนอีกแต่ถ้าเจอกันครั้งหน้าเธอจะต้องถามเขาให้ได้ว่าที่เขาชอบพูดว่าขอตัวไปทำงานนั้นเพราะเขาไม่อยากจะคุยกับเธอหรือเพราะเขามีงานที่จะต้องทำจริงๆเหตุผลที่ไม่ถามทางโทรศัพท์ก็เพราะอยากจะเห็นสีหน้าและท่าทางของเขาขณะตอบคำถามของเธอด้วยว่ามันมีความจริงใจหรือกำลังโกหกถึงกันแน่เนสิตานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงจนกระทั่งได้ยินเสียงรถของมารดาที่ขับเข้ามาในบริเวณบ้านในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวรีบเปิดประตูต้อนรับทันที“เหนื่อยไหมคะแม่วันนี้ลูกค้าเยอะไหม”“เยอะจ้ะลูกค้าเต็มทุกโต๊ะเลย”“กินน้ำเย็นๆ ก่อนนะคะแม่ กินข้าวมาหรือยังคะ” เนสิตารีบเอาน้ำในตู้เย็นมาให้มารดาแล้
หลังจากจัดการงานทุกอย่างที่ไร่เสร็จแล้วฐากูรก็ยกลังไวน์ขึ้นหลังรถกระบะก่อนจะขับรถเข้ามาในเมืองวันนี้เขาต้องส่งไวน์ให้กับร้านอาหารของคุณนีรนุชลูกค้าประจำ“สวัสดีค่ะคุณฐา คุณวันนี้มาส่งเองเหรอคะ”“สวัสดีครับคุณนุช ผมจะเข้ามาทานข้าวที่นี่อยู่แล้วก็เลยเอาไวน์มาส่งเองจะได้ไม่เสียเที่ยวครับ” เขาพูดขณะยกกล่องไวน์เข้าทางหลังร้าน“ขอบคุณนะคะที่เอาไวน์มาส่งก่อนเวลา ช่วงนี้ลูกค้าสั่งไวน์กันเยอะก็เลยต้องสั่งด่วน”“ไม่เป็นไรครับ ลูกค้าคุณนุชเยอะผมเองก็ขายไวน์ได้เยอะ” เขายิ้มก่อนจะยกไวน์ลังสุดท้ายเข้าไปวางในห้องครัวจากนั้นก็เดินออกมาด้านหน้าเลือกโต๊ะนั่งประจำของตนเองก่อนจะสั่งเมนูคุ้นเคยมาทานระหว่างรออาหารนีรนุชก็มาชวนคุย“เมื่อวานลูกสาวฉันไปกวนอะไรคุณฐาหรือเปล่าคะ”“ไม่หรอกครับเธอก็เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป”“ถ้าลูกสาวของฉันไปกวนคุณฐาบอกมาได้เลยนะคะ เนสยังเด็กไม่ค่อยรู้กาลเทศะเท่าไหร่บางครั้งก็ติดจะพูดมากไปหน่อย ฉันกลัวคุณฐาจะรำคาญค่ะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับแล้วนี่เจ้าตัวไปไหนล่ะ ปกติผมจะเห็นมาคอยรับออเดอร์”“ไม่สบายค่ะ”“อ้าวเป็นอะไรล่ะครับ”“ก็คงตากแดดทั้งวันน่ะค่ะก็เลยเป็นไข้”“ผมขอโทษนะครับที่พาล
Comments