“อ๋อ หรืออยากให้ผมทำให้ก่อน”
ใบหน้าเรียวมนที่สวยลงตัวพยักรับ อย่างน้อยประวิงเวลาให้ตัวเองได้หายใจหายคอสักหน่อยก็ยังดี
และชายหนุ่มเหมือนไม่อยากให้เสียเวลา เขาจับร่างอรชรพลิกอีกครั้งให้หันมาเผชิญหน้า ทว่าซุกใบหน้าลงจูบเม้มลำคอขาว มือยังวนเวียนอยู่บนทรวงอวบอิ่ม กระทั่งข้างหนึ่งเปลี่ยนเป้าหมายต่ำลงไปลูบกลางร่างตรงๆ ทำเอากันยกรสะดุ้งกับความไม่คุ้นเคยแม้มีซับในชิ้นบางเป็นปราการป้องกันก็รับรู้ถึงความแกร่งกล้าจากปลายนิ้วที่ลากไล้ไปมา
หญิงสาวอุทานในลำคอเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยข้างหู
“เกาะผมสิครับ”
บอกแล้วชายหนุ่มก็ยกขาเธอขึ้นให้เกาะสะโพกของเขา กันยกรโอบแขนเรียวรอบลำคออีกฝ่าย ไม่มั่นใจว่าเขาจะทำอะไร แต่ขาของเธอไร้เรี่ยวแรงจึงทำได้เพียงเกาะเกี่ยวร่างสูงกำยำตามที่เขาบอก รับรู้ได้ว่าเขาอุ้มเธอมาจนถึงเตียงเพราะถูกวางลงบนเตียงนุ่ม
เมื่อร่างสูงกำยำขยับคุกเข่า เขาก็เกี่ยวชุดแสกลูกไม้ของเธอออกจากสะโพก กันยกรจับมือหนาห้ามไว้อย่างลืมตัวและสบตาคมเข้มที่เหลือบมามองแล้วก็ต้องรีบกอดอกเปล่าเปลือยของตนเพราะสังเกตเห็นว่าเขาหลุบตาลงมอง แล้วก็เป็นโอกาสให้ชายหนุ่มรั้งซับในตัวน้อยตามไปกับชุดแสกด้วย
“เอ่อ...”
ทั้งที่อยากห้ามแต่เธอก็กัดริมฝีปากอิ่มไว้ เธอเลือกที่จะทำอย่างนี้ และเธอต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หญิงสาวย้ำกับตัวเอง
ทว่าก็ยังอดงอเข่าเอียงตัวหลบนิดๆ ไม่ได้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายปลดกระดุมเสื้อตนเอง เข็มขัดและซิปกางเกงนั้นถูกจัดการไปก่อนหน้านั้นแล้ว หากดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้คิดจะถอดเสื้อผ้าของเขาจริงจัง เพราะเพียงปลดกระดุมหมดแถวก็โน้มกายลงมา
ริมฝีปากอุ่นจูบแขนเรียว ไหล่มน ไล่ไปถึงลำคอและค่อยๆ พลิกร่างอรชรให้กลับมาอยู่ใต้ร่างสูงกำยำ
เมื่อชายหนุ่มมอบจูบดูดดื่มให้อีกครั้งกันยกรก็ตอบรับโดยไม่แข็งขืน หลับตาลงเปิดรับสัมผัสจากอีกฝ่าย ปล่อยใจปล่อยร่างกายให้ความใคร่เสน่หาครอบครองตนเองตามการปลุกเร้าของชายหนุ่ม
ปลายนิ้วแกร่งไล้วนเหนือยอดทรวงกระตุ้นจนชูชันรับก่อนริมฝีปากจะตามไปกลืนกิน แล้วลากปลายนิ้วนำพาให้กระแสวาบหวิวในกายสาววิ่งพล่านตามไปจนถึงสัดส่วนบอบบางที่ชายหนุ่มจงใจบดไล้ ทำเอาสะโพกผายเกร็งลามไปจนถึงปลายเท้า ริมฝีปากอิ่มถูกกัดข่มอารมณ์ร้อนรนที่ตนเพิ่งเคยรู้จัก หากก็หอบหายใจแรงจนทรวงอวบสะท้อนสูง แล้วก็ยิ่งหอบดังขึ้นเมื่อรอยอุ่นชื้นฝากระเรื่อยลงต่ำ ผ่านหน้าท้องเรียบเนียนแล้วก็จบลงในส่วนที่เธอหวงแหน
“อือ”
กันยกรหลุดครางเบาหวิวกับแรงจูบผะแผ่วจากริมฝีปากร้อน หากไม่เพียงแค่นั้น ระดับบดเบียดจูบซับยิ่งหนักขึ้นจนเธอต้องปลดปล่อยเสียงตัวเองออกมาเป็นระยะอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ด้วยความอ่อนหัด ทั้งปลายลิ้นชื้นยังลูบโลมเลียไล้สร้างความรัญจวนอันอ่อนโยนทว่าเสียดเสียวรุนแรง หญิงสาวรู้สึกราวตนเองกำลังจะจมน้ำจนต้องผวาสูงขึ้นมาหายใจให้จงได้ แล้วร่างอรชรก็สะท้อนสูงพร้อมอาการร้อนวาบแผ่ซ่านทั้งตัวฉับพลัน
เมื่อแผ่นหลังที่แอ่นสูงหล่นแตะเตียงร่างสูงกำยำก็ตามมาแนบชิด บดจูบหนักหน่วงกับริมฝีปากของเธอ รสชาติที่ได้รับทำเอา กันยกรหน้าร้อนจัด อีกฝ่ายจูบเคล้าจนพอใจแล้วก็ขยับขึ้นไปถอดเสื้อตนเองอย่างรวดเร็ว เสยผมลวกๆ จนยุ่งนิดด้วยมีเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก เธอเผลอมองร่างสูงกำยำด้วยกล้ามเนื้อกับท่าทางที่ดูเซ็กซี่ในแบบชายฉกรรจ์อย่างใส่ใจ
‘นี่สินะเซ็กซ์แอพพีล’
ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์น่ามองด้วยสายตาคมจัดที่ดูลุ่มลึกเพราะขนตางอนยาวทำให้เพียงชายตามอง ผู้หญิงก็คงมองตามเขา แถมหุ่นยังฟิตแบบไร้ไขมันเจือปนอย่างไม่น่าเชื่อ น่าจะผ่านการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ บอกตามตรงเลยว่าเห็นหุ่นทรมานใจสาวของอีกฝ่ายแล้วเธอก็นึกอายตัวเองขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ หากมือหนาก็เริ่มวนเวียนมายังต้นขากับหน้าอกของเธออีกแล้ว
สายตากันยกรเลื่อนลงต่ำเพราะอีกฝ่ายดันขาตนออกห่างแล้วก็ต้องเผยอปากค้างกับสิ่งที่เห็นยังไม่ทันพูดอะไรก็ต้องเกร็งทั้งตัวเมื่อตัวตนกร้าวร้อนเริ่มรุกล้ำ
“อย่าเพิ่ง...”
“หืม?”
ชายหนุ่มชะงักทั้งที่เข้าไปในตัวเธอแล้ว แม้จะเล็กน้อยหากก็ทำเอากันยกรต้องกัดริมฝีปาก คิ้วเข้มขมวดด้วยความแปลกใจ หากก็ระบายยิ้มเครียดแล้วโน้มกายลงมาหา ยันศอกข้างศีรษะของเธอจนใบหน้าทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน มือเช็ดเหงื่อกับเกลี่ยผมที่รุ่ยร่ายข้างแก้มเธอให้อย่างอ่อนโยน
“หรือคุณต้องการให้ป้องกัน แต่ผมไม่ได้พกมานี่สิ หรือคุณเตรียมมา”
กันยกรกลืนน้ำลาย ชายหนุ่มดูเหมือนไม่ขุ่นเคืองที่เธอห้ามแต่น้ำเสียงเข้มและต่ำอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเธอไม่มี หญิงสาวส่ายหน้าอีกฝ่ายก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ใบหน้าคมคายเหมือนจะเซ็งนิดๆ เมื่อได้คำตอบแต่เขาก็ดูใจเย็นพอที่จะไม่อารมณ์เสียใส่เธอ
“ไม่ต้องห่วง ผมรับรองว่าตัวเองสะอาดเอี่ยม ไม่ได้นอนกับใครมาสามเดือนแล้ว”
หญิงสาวแทบไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เธอรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่ยังค้างคาจึงเริ่มขยับสะโพกอย่างไม่สบายนัก ทว่าชายหนุ่มกลับเข้าใจไปอีกอย่าง
“โอเคใช่ไหม งั้นผมต่อเลยนะ”
พร้อมบอกสะโพกแกร่งก็ขยับรวดเร็วทันใด ทำเอาร่างอรชรสะดุ้งพร้อมอุทานออกมา
“อื้อ เจ็บ”
เสียงหวานสั่นพร่า ตัวสั่นนิดๆ ทั้งเจ็บร้าวทั้งจุกจนไม่กล้าขยับ แทบไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ ราวกับว่าเพียงแค่หายใจตนเองก็จะแตกสลายได้
ร่างสูงกำยำชะงักกึก เหมือนตาสว่างทันควัน แม้จะถูกเล็บเล็กจิกแขนก็ยังแทบไม่รู้สึกเพราะอาการที่รับรู้ได้จากหญิงสาวทำเอาเขาเพิ่งกระจ่างชัดกับท่าทีกระมิดกระเมี้ยน ไม่มั่นใจของอีกฝ่าย
‘นี่เขาถูกหลอกเหรอวะ’
ดวงตาคู่คมเข้มมองใบหน้าสวยที่เอียงไปอีกด้าน หลับตากัดฟันอย่างเจ็บปวดแล้วก็กัดฟันกรอด เขาเองก็รวดร้าวไม่น้อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญ หากก็ยังฝืนตัวเองให้หยุดนิ่งแล้วถามเสียงต่ำพร่า
“คุณไม่ได้จะหลอกให้ผมฟัน แล้วเรียกค่าเสียหายหรอกนะ ผมไม่มีจ่ายนะคุณ”
คนถูกถามลืมตาโพลงในทันใด ดวงตาเรียวงามขุ่นจัด พร้อมใบหน้าที่เจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ
เพียะ...
มือบางเลื่อนมาตบหน้าเขา แม้จะเบาแต่เห็นชัดว่าเจ้าตัวเจ็บใจมากเพียงใด จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มทุบตีเขาจนต้องจับมือบางกดลงข้างตัว
“ออกไปเลยนะ”
กันยกรบอกเสียงต่ำด้วยความโมโห ทว่าอีกฝ่ายกลับจ้องเธอนิ่งก่อนจะยิ้มมุมปาก
“แหม เข้าแล้วก็ต้องต่อให้จบสิ คุณไม่ค้างเหรอ”
“คุณดูถูกฉัน”
“ก็ใครจะไปคิดว่ายังซิง...”
“ออกไป”
เธอกัดฟันพูดเสียงเข้ม ทั้งที่เวลานี้เริ่มเกิดความรู้สึกแปลกๆ ในกายตนเข้ามาแทนความเจ็บแปลบแล้ว
“ไม่เอาน่า มาต่อกันนะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมรับปากว่าจะสั่งคุณขึ้นสวรรค์ชั้นเก้าเลยล่ะ”
เอ่ยจบอีกฝ่ายก็โน้มใบหน้าลงมา กันยกรหันหนีแต่เขาจูบลงบนแก้มเธอหนักๆ ก่อนกระซิบ
“ผมไม่ได้อวดนะ บอกเลยว่าเสร็จแล้วคุณต้องขอต่อแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วง ผมพร้อมจัดให้ทั้งคืนเต็มอัตราศึกสมกับห้าหมื่นที่คุณจ่ายแน่ๆ”
เพราะลมร้อนกับคำหวิวที่กระซิบใกล้หูไม่หยุดทำให้หญิงสาววูบวาบในอกจนรู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่หวั่นไหวตามอีกฝ่าย อาจเพราะร่างกายของเธอกำลังอัดแน่นไปด้วยความต้องการที่ยังไม่ได้สานต่อเรียกร้องให้อยากขยับสะโพก แต่กันยกรไม่อยากยอมรับ
“หยุดพูดไร้สาระ จะทำอะไรก็รีบทำให้จบๆ ไป ฉันจะได้จ่ายเงินแล้วแยกย้ายสักที”
เธอทำเสียงแข็งสวนกลับไป แล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำหัวเราะอยู่ในลำคอหนา ก่อนสะโพกแกร่งจะเบียดหมุนวนราวทำความคุ้นเคยครู่หนึ่งจากนั้นก็สรรค์สร้างบทเพลงแห่งความใคร่อย่างเร่าร้อน พาเธอท่องสวรรค์ซ้ำซ้อนหลายครั้งแม้จะเพียงบทรักเดียวที่เธอยอมให้เขาแตะต้องตนเอง
ค่ำคืนนี้กันยกรปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ชายที่เธอตัดสินใจซื้อมาทำให้ตนสัมผัสรสชาติแห่งรสรักอย่างถึงแก่น
“คุณกลับไปได้แล้ว”
เธอโอนเงินเข้าเลขบัญชีที่ชายหนุ่มบอกแล้วสั่งทันที อีกฝ่ายมองเธอนิ่งไม่นานก็ยอมลุกขึ้นจากเตียงใส่เสื้อผ้าแล้วจากไปโดยดี ทำตามข้อเสนอที่ตกลงกันอย่างชัดเจน
ต่างคนต่างไม่จำเป็นต้องรู้จักกันและกัน
=====
นางเอกของเราผ่านมันมาจนได้ จากนี้จะเป็นยังไงต่อไปน้า ^^
“อย่าแรงมากนะคะ”คำเตือนหญิงสาวราวคำบอกชี้ทางสว่างจากนางฟ้าในความรู้สึกนภณต์ เขาจูบแก้มนุ่มแล้วไล้ไปจูบริมฝีปากอิ่มสีอ่อนซ้ำอีกพลางจัดการปราการส่วนล่างของทั้งคู่ แล้วเชื่อมกายแกร่งเข้ากับความนุ่มอบอุ่นช้าๆกันยกรกัดริมฝีปากกับความเสียดเสียวที่ได้รับ ก่อนจะครางผะแผ่วตามแรงรักเน้นแนบแน่นที่ส่งมาจากสะโพกแกร่ง ชายหนุ่มทำตามคำขอกระนั้นก็ยังรัญจวนใจอย่างรุนแรง มือบางเกาะขอบสระไม่ให้ตนทรุดลงไปหรืออาจลื่นขึ้นมา หากก็มีแขนกำยำโอบกายเธอประครองไว้ด้วยริมฝีปากอุ่นจูบเม้มคอกับบ่าของเธอไม่หยุด สัมผัสรุกเร้าเอื่อยเฉื่อยอัดเต็มไปด้วยอานุภาพแห่งเสน่หา สองร่างโยกคลอนไปด้วยกันคลอกับระลอกคลื่นที่กระเพื่อมไหวตามแรงขยับ อารมณ์เร่าร้อนเดือดพล่านไปพร้อมกับความลุ้นระทึกใจกับบทรักแปลกใหม่ กระตุ้นทั้งสองให้ยิ่งเร้าใจมากกว่าเดิมเสียงหวานครางพร่าเบาในลำคอด้วยพยายามสะกดตัวเองไม่ให้ส่งเสียงดังเกินไปนัก ขณะที่ชายหนุ่มก็หอบแรง ลมหายใจร้อนหนักๆ เป่าแก้มกับลำคอเธอตลอดเวลา ทำให้ผิวที่เย็นจัดหวิววาบจนกันยกรรู้สึกราวตัวเองกำลังไข้ขึ้น“เมฆคะ”เธอเร่งชายหนุ่มเมื่อกระแสแปลบปลาบกำลังแผ่ซ่านรวดเร็ว และอีกฝ่ายก็เน้นส่งสะโพก
‘ตอนนี้บ้านเรากำลังมีปัญหาหลายอย่าง กันย์คิดว่าจัดงานคงไม่หมาะเท่าไร คุณพ่อไม่โกรธใช่ไหมคะ ที่กันย์เลือกทำแบบนี้’‘อืม พ่อเข้าใจ อีกอย่างจัดงานแต่งใหญ่โตแล้วยังไง ไม่ได้รับประกันว่าชีวิตคู่จะมีความสุขสักหน่อย ถ้าลูกไม่น้อยใจว่าพ่อไม่จัดงานให้ใหญ่และทุกคนรับรู้กันทั่วเมืองเหมือนยายเก๋ พ่อยังไงก็ได้’กันยกรกราบขอบพระคุณบิดาพร้อมกับนภณต์ หลังจากพูดคุยกันเรื่องสินสอดทองหมั้นแล้วเธอบอกว่าตั้งใจเพียงแค่จะจดทะเบียนสมรสกับนภณต์เท่านั้นท่านก็อนุญาต‘จะจดเมื่อไรก็บอก พ่อจะไปเซ็นเป็นพยานให้เอง’ส่วนคุณการันต์คิดเพียงว่ากันยกรมีความสุขก็พอใจแล้ว เมื่อท่านไม่สามารถดูแลบุตรสาวให้มีความสุขได้ตั้งแต่เด็กจนโต หากเวลานี้เจ้าตัวกำลังจะสร้างชีวิตครอบครัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความสุขท่านก็มีความสุขไปด้วยและทั้งสองก็ได้ฤกย์ยามกับวันดีแล้วก็จดทะเบียนสมรสในเดือนต่อมา นอกจากบิดาของกันยกรมาเป็นพยานแล้ว นิชาดาน้องสาวของนภณต์ก็บินมาจากเชียงรายด้วย‘พี่ชายคนเดียวแต่งงาน หมอกจะไม่มาได้ยังไงคะ’แม้จะเป็นเพียงการจดทะเบียนก็ถือว่าแต่งงาน แล้วจากนั้นคุณการันต์ก็พาทุกคนไปเลี้ยงอาหารที่โรงแรม ซึ่งมีธีรดนย์ส
นภณต์ดื่มด่ำรสชาติล้ำลึกแทบเหือดแห้ง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเรือนร่างงามหอบหนักตัวอ่อนระทวยเขาก็โน้มไปจูบริมฝีปากสวยที่เผยอหายใจอย่างปลอบใจ มือหนาลูบเต้ากลมกลึงเคล้นหนักมือตามความต้องการอันร้อนแรงที่กำลังพุ่งสูงของตน พลางลุกขึ้นนั่งเพื่อปฏิบัติการรักให้ปลอดภัยกับลูกน้อยนภณต์เคลื่อนกายเชื่องช้าเข้าหาร่างนุ่มอุ่นที่บีบแน่นจนเขาต้องกัดฟันข่มใจตัวเองไม่ให้ทะยานกายรวดเร็วเต็มรักในคราวเดียว ชายหนุ่มหักห้ามร่างกายตัวเองยั้งสะโพกแกร่งยามโยกไหว ไม่ส่งแรงรักทุ่มทั้งตัวใส่ไปยังหญิงสาว เพียงคุกเข่ายันสะโพกขยับเอวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ถึงอย่างนั้นก็รับรู้ถึงความอิ่มเอมจากสัมผัสอ่อนโยนระหว่างร่างกายดวงตาคู่เรียวงามมองร่างสูงกำยำกำลังผลักเบียดสะโพกอย่างใส่ใจจนเห็นกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัดสวย แม้อีกฝ่ายจะกัดริมฝีปากแน่น หากแววตาที่ส่งมาถึงเธอก็เต็มไปด้วยความพอใจ และบทรักเชื่องช้าก็นำพาให้หญิงสาวผวาเฮือกอีกครั้งนภณต์พึงพอใจยามได้มองกันยกรหมดสิ้นเรี่ยวแรง นอนครวญครางระทดระทวยหรือดิ้นเร่าเพราะตนเอง เขาเบียดสะโพกไม่หยุด พลางปลายนิ้วโป้งก็บดแนบส่วนบอบบางทำเอาร่างสาวสั่นระรัว ส่งเสียงห้ามเครือพร่า“คุณเมฆ ฉั
“น้องสาวกับแม่เลี้ยงคุณใจร้ายมาก ทำกันขนาดนี้ได้ยังไง ยังดีที่ลูกของเราปลอดภัย”นภณต์ทายาตรงมุมปากรวมถึงแขนและเข่าของเธอพลางบ่นอุบเพราะกันยกรมีรอยชกช้ำแทบจะทั้งตัว โดยที่แขนกับเข่านั้นหนักที่สุดกันยกรซึ่งนั่งพิงหัวเตียงถอนหายใจยาว ทั้งคู่ไปหาหมอมาแล้ว ทั้งตรวจร่างกายและฝากท้องเรียบร้อย เธอโล่งใจมากที่ลูกปลอดภัยดีไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด“ยายเก๋เสียใจมากก็เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนอาภัสจะสติแตกตามไปด้วยไม่แปลกหรอกค่ะ ท่านรักยายเก๋มาก เป็นฉันก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน”นภณต์จับมือเธอขึ้นกุมพลางลูบแผ่วเบา ขณะสายตามองมาอย่างแสนรักและกันยกรก็รับรู้ได้“คุณเก่งมากเลยครับที่อยู่กับสองแม่ลูกใจร้ายนั้นมาได้โดยไม่เสียคน ไม่หนีออกจากบ้าน แถมยังการเรียนดีมากอีก ผมนับถือจิตใจของคุณจริงๆ”ชายหนุ่มเอ่ยจากใจอย่างชื่นชม“ฉันต้องใช้ความอดทนมากค่ะตอนที่ยังเด็ก อยากหนีออกจากบ้านตั้งแต่พ่อบอกว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ แต่คุณแม่เคยพูดกับฉันตอนที่ท่านป่วยหนักก่อนเสีย ว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้ามฉันออกจากบ้านเด็ดขาด แต่ฉันก็ออกมาอยู่ข้างนอกตอนเรียนมหา’ ลัยนะคะ ตอนนั้นฉันคิดว่าดูแลตัวเองได้แล้ว มีจุดมุ่งหมายในใจ ไม่ใ
“คุณเมฆเป็นคนรักของกันย์ค่ะ”กันยกรขอคุยกับบิดาภายในห้องทำงานของท่านพร้อมกับนภณต์ แม้ท่านจะบอกให้เธอไปหาหมอก่อนแล้วค่อยคุยวันหลัง ทว่าหญิงสาวบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญบิดาจึงตกลง“ฉันก็พอเดาได้ ถามเมฆเขาไปแล้วเหมือนกัน ว่ามารู้จักคบหากับแกได้ยังไง”คุณการันต์บอกเสียงเรียบทำให้กันยกรรีบหันมองคนที่นั่งข้างตน ว่าบอกอะไรกับบิดาไปบ้าง ทว่าชายหนุ่มยิ้มบาง“ตกลงเรื่องที่แกจะคุยมันเรื่องอะไร”เหมือนบิดาต้องการเข้าเรื่องให้เร็วที่สุดกันยกรสีหน้าไม่ค่อยดีนักจนนภณต์สังเกตได้ เข้าใจว่าหญิงสาวกลัวที่จะบอกบิดาว่าท้อง ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เขามาด้วยเพื่ออยู่เคียงข้าง“ผมผิดเองครับ”ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง กันยกรหันมองเขาอย่างงุนงง ทว่าพออีกฝ่ายพูดต่อเธอก็เผยอปากค้าง“คุณกันย์ท้องครับ”มือบางรีบคว้ามือหนาไว้แต่พูดไม่ออกแล้วหันไปมองบิดาช้าๆ เมื่อท่านเอ่ยเสียงเบา“ท้องเหรอ?”สีหน้าของบิดาที่สงบนิ่ง ทว่าแววตาเอ่อคลอด้วยน้ำทำให้เธอขอบตาร้อนผ่าวไปด้วยส่วนนภณต์มองสองพ่อลูกอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดทั้งสองจึงมีสีหน้าท่าทางเสียใจ เขาคิดว่าจะถูกด่าที่ชิงสุกก่อนห่าม หรือไม่ก็ไม่ระวังจนทำให้กันยกรท้องก่อนแต่งให
คืนวันเสาร์กันยกรพักที่บ้านเพราะบิดาคิดว่าเธออาจระบมที่ถูกทำร้ายจนไข้ขึ้น‘บ้านมีคนอยู่เยอะ ช่วยกันดูแลได้ กลับไปนอนไข้ขึ้นคนเดียวแกจะทำยังไง’เพิ่งเกิดเรื่องหมาดๆ กันยกรจึงไม่อยากขัดใจบิดา รู้ว่าท่านค่อนข้างเครียด เธอเองมารู้เรื่องสูญเสียหลานยังเสียใจ บิดาของเธอคงเสียใจมากไม่น้อยไปกว่าแม่เลี้ยงกับน้องสาว ใบหน้าท่านจึงได้ดูไม่ดีนักในตอนที่เธอถามถึงเกวลินหญิงสาวปวดระบมไปทั้งตัว และเรื่องลูกของเกวลินก็ทำให้เธอนึกถึงตัวเองขึ้นมา เผชิญเรื่องยุ่งมาหลายวันทำให้กันยกรมีความเครียดสะสม แม้จะกินยาไม่เคยขาดแต่ก็อดกังวลไม่ได้หลังจากถูกทำร้าย ตอนที่ถูกผลักล้มเธอเอาลำตัวด้านข้างและแขนลง ไม่ใช่ส่วนก้นหรือสะโพกกระแทกพื้นตรงๆ แต่กันยกรก็นึกเป็นห่วงลูกมากจนนอนพลิกไปมา‘มารับฉันที่บ้านได้ไหมคะ’หญิงสาวส่งข้อความไปหานภณต์และชายหนุ่มก็โทรกลับมาทันที‘ได้ครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า’กันยกรเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดออกไป“ฉันท้องค่ะ”เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งราวใช้เวลาประมวลข้อมูลนาน ทำเอากันยกรใจเต้นแรงขณะรอฟังว่าชายหนุ่มจะพูดอะไร‘ยะฮู้!!’เสียงตะโกนดังมาทำเอาเธอสะดุ้ง‘จริงเหรอครับ คุณไม่ได้อำผมนะ แต่จะว่า