Share

ตอนที่ 13 รวยแล้ว

Penulis: Jiraiyajung
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-11 13:57:26

หลานเสวี่ยเดินตามเจ้ากรมทั้งสองมาจนถึงกรมคลัง ตรงหน้าเป็นตำหนักขนาดใหญ่แต่ไม่เท่าตำหนักอันกง ในนั้นมีขุนนางน้อยใหญ่ที่ยังทำหน้าที่ของตน เมื่อเห็นเจ้ากรมก็รีบเดินมาหาทันที

“คารวะ ท่านเจ้ากรมกวน ท่านเจ้ากรมหยาง มิทราบว่ามีธุระอันใดให้ผู้น้อยรับใช้หรือไม่” 

“ข้ามีธุระสำคัญมาก เจ้ารีบไปทำหนังสือเบิกเงินค่าเสบียง แล้วให้คนไปเตรียมคลังเก็บของจำนวน 6000 ชั่งให้เร็วหน่อย นี้ก็ใกล้มืดแล้ว”

เจ้ากรมกวนสั่งลูกน้อง ก่อนจะพาหลานเสวี่ย และเจ้ากรมหยางไปที่ห้องรับรอง

“เชิญนั่งตามสบายเถิดแม่นางจาง”

“เจ้าค่ะ” 

นางรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด ตั้งแต่เช้าก็ได้แต่ยืน และเดินจากตำหนักอันกงมาถึงนี้เกือบสองกิโลเมตร ตอนนี้เธอนั่งดื่มชาโดยไม่สนใจเจ้ากรมสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ พวกเขากำลังเถียงกันเรื่องเตรียมรถม้าไปรับของ เมื่อมาถึงหูของนางก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกว่า มันฝรั่งทั้งหมดอยู่ในถุงมิติเล็ก ๆ นี้

“ข้าว่าเสบียงเยอะเช่นนี้ควรเอาทหารไปเยอะ ๆ หรือจะให้ท่านแม่ทัพเฉินเป็นคนคุ้มกันก็ยิ่งดี” 

“แต่ข้าว่าให้คนของข้าไปด้วยน่าจะดีกว่า เพราะคุ้นเคยเส้นทางดี อีกอย่างเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น คนของข้าก็มีประโยชน์กว่า” 

“ช้าก่อน ท่านทั้งสองเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะข้าจัดการเรียบร้อยดีแล้ว”

“หมายความเช่นไร” 

ทั้งสองคนถามพร้อมกันด้วยความอยากรู้ 

“ข้าน้อยยังไม่ได้บอกท่านว่า ท่านเซียนได้ให้ถุงวิเศษสำหรับบรรจุมันฝรั่งทั้งหมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลยเจ้าคะ”

“ถุงวิเศษอย่างนั้นหรือ เกิดมาหกสิบกว่าปีข้าก็เพิ่งจะเคยเห็นก็ครั้งนี้ ต่อไปนี้ข้าคงมีเรื่องมหัศจรรย์เล่าให้ลูกหลานฟังแล้ว ใช่ไหมเจ้ากรมกวน”

“นับว่าเป็นวาสนาของชายชราผู้นี้เสียจริง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเราก็เบาใจ เช่นนั้นข้าจะไปตามคนทำหนังสือเบิดจ่ายเสียหน่อย” 

เจ้ากรมคลังเดินยิ้มหน้าบานออกไป เขารู้สึกดีใจ และโล่งใจที่วิกฤตภัยแล้งสามารถจัดการได้ง่ายดายเช่นนี้ ต่อไปก็ไม่ต้องรับแรงโทสะของฮ่องเต้ในท้องพระโรงอีก ในห้องเหลือกันสองคน เจ้ากรมหยางก็ไปรีรอหยิบกระดาษเตรียมจดทันที

“แม่นางจาง อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยข้าขอจดบันทึกวิธีปรุงอาหาร กับวิธีเพาะปลูกได้หรือไม่” 

“ได้เจ้าค่ะ” 

หลานเสวี่ยยิ้มเจื่อนเพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันปลูกยังไง ทุกครั้งก็ใช้แต่ระบบปลูกให้ นางมีความคิดดี ๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปด้วยดีแล้ว

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ข้าน้อยจะเขียนเป็นหนังสือให้ท่าน ทั้งวิธีปลูก และวิธีปรุงอาหาร ถ้าให้พูดตอนนี้เวลาคงไม่พอ”

“ขอบคุณแม่นางจาง” 

“ไม่ต้องเกรงใจเจ้าค่ะ”

หลานเสวี่ยรู้สึกยังว่าเจ้ากรมทั้งสองมองเธอเป็นอาจารย์ผู้มีความรู้แทนนางกำนัลไปแล้ว ทั้งให้ความเคารพ พูดจาสุภาพ ไม่รู้จะวางตัวยังไงดี

“แม่นางจาง ตรวจดูเถิดว่าครบหรือไม่”

“ใช่แล้ว เกินไม่ว่าแต่ถ้าขาดไปสักตำลึงเดียวคงไม่ดี เพราะจะทำให้ท่านเซียนคิดว่าพวกเราไม่ให้เกียรติ อนาคตอาจไม่ได้รับการช่วยเหลือเช่นนี้อีก”

หลานเสวี่ยยิ้มแซงเมื่อได้รับตั๋วเงินมา ตั๋วใบละร้อยตำลึงทองเต็มไปหมด นางนับสองสามรอบจึงมั่นใจว่าครบแล้ว ก่อนจะใส่ไว้ในถุงมิติ 

“เรียบร้อยดีแล้วเจ้าคะ แล้วคลังเก็บของพร้อมแล้วหรือยังเจ้าค่ะ” 

“น่าจะพร้อมแล้ว เราไปกันเถอะ” 

ทั้งสามคนมาที่คลังหลวง ที่เก็บสมบัติทุกอย่างของราชวงศ์เอาไว้ ที่นี่ถูกเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา มีทหารเกราะทองเต็มไปหมด แตกต่างจากตำหนักว่าการของเจ้ากรมคลัง มาก็เลยทีเดียว

แต่ที่ทำให้ตกใจคงเป็นคลังเก็บของขนาดใหญ่ พอเข้ามาข้างในยิ่งก็รู้สึกว่าทุกอย่างดูโล่งมาก และก็ได้เวลาแสดงละครฉากสำคัญแล้ว ถึงมิติที่ส่งมันฝรั่งเป็นร้อยตันจะเป็นยังไงเจ้าก็ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

“ไม่ต้องเป็นห่วงข้าได้สั่งห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาแล้ว แม่นางจางรีบจัดการเถอะ ข้าอยากเห็นใจจะขาดแล้ว” 

“ข้าน้อยจะเอาออกมาแล้วนะ” 

“เอาออกมาเลย ข้าพร้อมแล้ว” 

เจ้ากรมสองคนยืนอยู่ข้างหลังหลานเสวี่ย รอดูความมหัศจรรย์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทันใดนั้นนางก็เอาถุงมิติออกมา แล้วเอามันฝรั่งทั่งหมดออกจากถุง เพียงพริบตาเดียวมันฝรั่งกองโตก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของทั้งสามคน แม้แต่หลานเสวี่ยยังไม่เคยเจอมันฝรั่งที่สมบูรณ์ และเยอะมากขนาดนี้มาก่อน

นางหันมาดูข้างหลังก็เห็นทั้งสองคนยืนนิ่งอยู่ ก่อนจะตบหน้าตัวเองเพื่อดูว่าฝันไปอยู่หรือเปล่า ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปจับเอาลูกมันฝรั่งมาดู 

“ของอร่อยเยอะขนาดนี้ข้ายอมเอาข้าวที่บ้านมาแลกเลย” 

“ข้าก็เช่นกัน แถมจะซื้อเก็บไว้ปลูกอีกด้วย ท่านกวนก็อย่าเอาไปเยอะละให้คนอื่นได้ลองชิมเสียบ้าง” 

“บอกเจ้าเองเถอะ ข้าเอาไม่มากหรอกก็แค่ข้าวสามตันกับมันฝรั่งนี้หนึ่งตันก็พอ” 

“ใจกล้าไม่เบานี่ ข้าก็ไม่น้อยหน้าหรอก ว่าแต่แม่นางจาง เจ้าพวกนี้สามารถเก็บได้นานเท่าใด” 

“ข้าลืมคิดเรื่องนี้เลย ถ้าท่านหยางไม่พูดคงคิดไม่ถึง”

“หากจะเก็บรักษามันฝรั่งให้ได้นาน ๆ ต้องหาที่ที่ทั้งเย็นและมืด เพราะอากาศเย็นจะช่วยชะลอการงอก และแสงสว่างจะทำให้ผิวของมันฝรั่งเปลี่ยนเป็นสีเขียวซึ่งเป็นพิษไม่ควรกินเจ้าค่ะ” นางกล่าวอย่างรู้ลึก ทำให้เจ้ากรมทั้งสองจดบันทึกเอาไว้คนละม้วน

แต่หลานเสวี่ยยังคงรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบเมื่อรู้ว่ามันฝรั่งจากระบบมันมีค่าแค่ไหน คิดแล้วก็อยากเอาคืนฮ่องเต้ให้สาสมกับที่นางโดนหรอก แต่นางไม่อยากยุ่งวุ่นวายมากกว่านี้ เพราะได้เงินมาแล้วคืนนี้นางจะรีบกลับไปที่ตำหนักเย็นเตรียม ก่อนอื่นก็หาคนที่พอจะซื้อตัวได้ แล้วยัดเงินให้พาออกไป

แค่คิดก็มีความสุขแล้ว หมื่นตำลึงทองใช้ทั้งชีวิตคงไม่หมดแล้ว 

“ถ้าหมดธุระแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอตัวลาเจ้าค่ะ” 

“เจ้าไปเถอะ ฝ่าบาทคงรออยู่” 

“รอข้าหรือ?” 

“ใช่แล้ว ในเมื่อทำความดีความชอบก็ต้องได้รับรางวัล เจ้าไปรับเถอะเดี๋ยวไปช้าจะถูกตำหนิ” 

รางวัลอะไรนะที่เขาจะให้ หลานเสวี่ยคิดไม่ออก จะเป็นเงินหรือเครื่องประดับพวกนี้หรือเปล่า แต่ขอให้ขายได้ก็พอแล้ว เดินมาก็ว่าเหนื่อยแล้ว เดินกลับยิ่งเหนื่อยกว่าอีก ยังต้องรักษากิริยาให้สง่างามเวลาเดินอีก เป็นคนวังยากจริง ๆ 

เมื่อมาถึงตำหนักอันกงนางก็เมื่อยไปทั้งตัว ดีที่มีน้ำพุวิเศษค่อยดับกระหายทำให้ร่างกายฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง จึงค่อยเข้าเฝ้าฮ่องเต้

“คารวะ ฉ่างกงกง ข้าน้อยมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเจ้าค่ะ” 

“เข้าไปได้~” 

“ข้าน้อยมีเรื่องอยากถามกงกง เสียหน่อยจะสะดวกหรือไม่” 

หลานเสวี่ยอยากถามเรื่องของรางวัล ว่าขออะไรได้บ้าง นางอยากลองดูถ้าเป็นอย่างที่คิดชีวิตของหลานเสวี่ยคงจะดีกว่าเป็นพระชายาหนีวัง

“ถามมาได้ ข้าสะดวกตอบ” 

“เช่นนั้นหรือ” 

หลานเสวี่ยหยิบถุงเงินสีแดงที่ใช้สำหรับตกรางวัลขันที และข้าราชบริพารที่ได้รับความดีความชอบจากเจ้าของ เรียกว่าถุงแดง ฉ่างกงกง ก็รับตามธรรมเนียมแต่นางก็รู้ว่ากงกงตำหนักนี้ร่ำรวยแค่ไหน 

“ข้าน้อยอยากรู้ว่า สามารถทูลขอรางวัลอย่างอื่นได้ไหม อย่างเช่นขอให้ทรงอภัยโทษ พวกนี้”

“ได้อยู่แล้ว หากเจ้ามีญาติพี่น้องที่โดนทำโทษอยู่ก็จงไปขอเถอะ แต่มีแค่คนเดียวที่ขอให้อภัยโทษไม่ได้”

“ผู้ใดกันหรือ” 

หลานเสวี่ยใจเต้นตึกตัก คิดว่าคงไม่ใช่หลานเสวี่ยหรอกนะ ขออย่าให้เป็นนาง

“พระชายา ห้ามขอเด็ดขาดนอกจากจะไม่ได้รับรางวัลแล้วยังต้องโดนโทษอีก” 

“พระชายานี้เอง ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอบคุณกงกงที่ช่วยเหลือ

“ด้วยความยินดี” 

หลานเสวี่ยยิ้มเจื่อนเดินเข้าไป เกือบหัวหลุดจากบ่าแล้วไหมล่ะ ดีที่นางฉลาดถามกงกงก่อน คิดแล้วก็ไม่เข้าใจว่าฮ่องเต้จะโกรธเกลียดนางทำไม ในความทรงจำของหลานเสวี่ยยังไม่มีคำตอบ เพราะมันมีความทรงจำที่เธอยังไม่สามารถรับรู้ได้

“มาแล้วหรือ”

“เพคะ หม่อมฉันจางเสี่ยวหลงถวายบังคมฝ่าบาท”

“ไม่ต้องมากพิธีหรอก แล้วอยากได้อะไรก็พูดมาได้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ข้าจะไม่บ่ายเบี่ยงแน่นอน”

หลงเยี่ยนวางมือจากหนังสือ แล้วหันมาสนใจสตรีตรงหน้า ดูเหมือนนางจะไม่พอใจอะไรสักอย่างจนทำให้หัวคิ้วชนกันอยู่อย่างนั้น 

“มีอันใดทำให้เจ้าไม่สบายใจหรือ” 

“ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันแค่ยังไม่รู้ว่าจะขออะไร เช่นนั้นพระองค์ทรงให้รางวัลอันใดก็ได้ หม่อมฉันจะรับไว้ด้วยความดีใจเพคะ” 

“เช่นนั้นข้ามีอยู่อย่างหนึ่ง” 

เขาเดินไปหยิบม้วนสีท้องออกมาก่อนจะใช้พู่กันเขียนอะไรบางอย่าง 

“ฉ่างกงกง เข้ามาอ่านราชโองการ”

“กระหม่อมมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉ่างกงกงรีบเดินเข้าไป ถือพระราชโองการในมือ ก่อนจะเดินมาที่หลานเสวี่ย 

“จางเสี่ยวหลงคุกเข่ารับราชโองการ”

นางรับทำตามอย่างว่าง่าย คุกเข่ามือโค้งประสานอยู่เหนือศีรษะ ก้มหน้ารับพระราชโองการ

“นางกำนัล จางเสี่ยวหลง ข้าขอแต่งตั้งเจ้าให้กลายเป็นนางกำนัลส่วนพระองค์รับใช้แต่ข้าเพียงผู้เดียว ตำแหน่งเทียบเท่าหัวหน้านางกำนัล รับราชโองการเอาไว้” 

นางรับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม้จะไม่ได้อยากรับตำแหน่งเท่าไหร่ เพราะอีกไม่นานก็จะออกจากวังไปอยู่ดี 

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” 

“ต่อไปเจ้าก็มาดูแลข้า รายละเอียดก็ให้ถามหัวหน้านางกำนัลเอา” 

“เพคะ”

“เจ้าไปพักผ่อนเถิด” 

“เพคะ หม่อมฉันขอทูลลา”

หลานเสวี่ยออกมาจากห้องหนังสือ ก่อนจะมาที่เรือนนางกำนัล ก็เห็นคนอื่นนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่ พอเห็นนางก็รีบเอาน้ำชามาให้ดื่ม ถ้าดื่มของทุกคนคงท้องแตกตายแน่

“ทำดีกับข้าแบบนี้คงมีเรื่อง ดี ๆ มาใช่ไหม”

“ใช่แล้ว ตอนนี้ในวังรู้ว่ายาวิเศษดีแค่ไหน ใคร ๆ ก็อยากได้ ท่านพอจะมีมาปล่อยบ้างไหม” 

“ช่วงนี้ของขาดมาก ราคาเลยแพงหน่อยนะ แต่ใช้ครั้งเดียวแล้วหมั่นทำความสะอาดใบหน้า รักษาใบหน้าให้ดีเท่านี้ความสวยใส่ก็อยู่นานเป็นเดือน”

หลานเสวี่ยแค่ไม่อยากยุ่งยาก เพราะตัวเองได้เงินมาเยอะแล้ว ไม่อยากเสี่ยงทำเรื่องอื่น  แต่ถ้าราคาเหมาะสมนางก็ไม่บ่ายเบี่ยงแน่

“เรื่องราคาไม่ต้องกังวลเพคะ เจ้านายของนางกำนัลที่ข้าเคยคุยด้วยเสมอให้ห้าสิบตำลึงต่อขวด” 

“อย่างนั้นหรอกหรือ ราคานี้ก็เหมาะสมอยู่” 

“ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ใช่เงิน ห้าสิบตำลึงทองไปแล้ว เช่นนี้เจ้าไม่ขาดทุนหรือ” 

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ได้คืนมาแล้ว แต่ไม่เป็นอันตรายใช่ไหม ไม่ใช่เรื่องหวงห้ามใช่หรือเปล่า”

หลานเสวี่ยถามนางกำนัลรุ่นเดียวกัน 

“ไม่เป็นไร เรือเล็กน้อยเช่นนี้ฝ่าบาทไม่สนพระทัยอยู่แล้ว นอกเสียจากจะค้าขายใหญ่โต ร้อยสองร้อยขวดก็ว่าไปอย่าง” 

“แล้วมีคนสั่งกี่ขวดละ” 

“50 สิบขวด” 

หลานเสวี่ยกลืนน้ำลายทันที แค่ขายของนิดเดียวก็ได้มาเยอะขนาดนี้เลย เทียบกับการขายมันฝรั่งเพื่อการกุศลไม่ได้เลย รายนั้นอย่างกับทำบุญจริง ๆ 

“รอพรุ่งนี้ข้าจะเตรียมมาให้นะ อีกอย่างดูนี้ก่อน” 

หลานเสวี่ยยกพระราชโองการให้ดู ทุกคนต่างสนใจ และรีบวิ่งมาดู 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 53 แม่น้ำสองสายไม่มีทางบรรจบกัน

    หลานเสวี่ยเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวัน แต่นางยังคงเป็นกังวลเรื่องหลงเยี่ยน แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ควรสนใจ แต่ภาพของเขายังคงวนเวียนอยู่ในใจ ตลอดเวลาหลายวัน นางนอนพลิกไปพลิกมา เพราะเรื่องเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนป่านนี้คงกลับโลกเดิมไปแล้ว เพราะคะแนนเพียงพอ แต่นางยังคงรอให้เขากลับมาก่อน “หวังว่าเขาจะปลอดภัย” นางพึมพำก่อนหลับตาลงวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวจากสนามรบมาถึงเมืองหลวง โดยมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ได้ยินว่าท่านแม่ทัพบาดเจ็บ ก็ทำเอาหลานเสวี่ยใจคอไม่ดี รีบเตรียมน้ำวิเศษเอาไว้รอเขา ร่างเพรียวบางสวมอาภรณ์สีน้ำเงินอ่อน เดินไปมาหน้าจวนตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าได้รับชัยชนะนางก็มารอ แม้ทหารยามจะบอกว่าอีกสี่ห้าวันถึงจะมาถึงแต่นางไม่อาจอยู่นิ่งได้ ราวกับมีก้อนไฟที่สุมอยู่ในอกข้างซ้าย นางถึงขั้นนั่งรอตั้งแต่เช้ายันฟ้ามืด โดยหารู้ไม่ว่าหลงเยี่ยนมาถึงแล้ว แต่ใช้ประตูมิติไปที่ห้องหนังสือแทน พอรู้ว่านางรอเขาก็ได้แต่หัวเราะออกมา “ต่อให้ทำดี ข้าก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ” เขาได้แต่มองนางอยู่ข้างในจวนราวกับว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ความรู้สึก และความต้องการที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทำให้เ

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 52 ออกรบอย่างเร่งรีบ

    เช้าตรู่ของวันใหม่ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของทหารดังสะท้อนไปทั่วจวน ก่อนที่ทหารคนหนึ่งจะเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ท่าทีเร่งรีบของ แม่ทัพเฉินพร้อมใบหน้าเคร่งขรึมเดินเข้ามา “กราบทูลท่านแม่ทัพ! ทัพศัตรูจากแคว้นกุ้ยโจว กับแคว้นหานโจวได้เคลื่อนพลประชิดชายแดนแล้วขอรับ!”หลงเยี่ยนที่กำลังอ่านรายงานอยู่ เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคมปลาบแสดงถึงความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว ก่อนจะออกคำสั่ง “จัดเตรียมกองกำลัง ข้าจะออกไปบัญชาการศึกด้วยตัวเอง”แม่ทัพเฉินคำนับและออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลงเยี่ยนลุกขึ้นและเดินผ่านห้องโถง หลานเสวี่ยที่เพิ่งตื่นและได้ยินข่าวลือในจวน รีบตรงไปหาหลงเยี่ยน นางเอกก็แปลกใจอยู่หลายส่วน เพราะต้าเหยียนไม่ใช่เมื่อก่อนที่ขาดแคลนเสบียง แถมตอนนี้กำลังทหารน่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วนกุ้ยโจว กับ หานโจ คิดทำอันใดอยู่ถึงกล้าทำเช่นนี้ นางเดินมาส่งหลงเยี่ยนอย่างจำใจ ถ้าหากเขาออกไปแล้วนางก็จะไม่ขออยู่จวนแม่ทัพอีก “ท่านแม่ทัพ ข้าได้ยินว่าศัตรูมาประชิดชายแดน ท่านจะไปออกศึกหรือเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของหลานเสวี่ยเจือความกังวล แม้จะพยายามปกปิดความดีใจของตน“เจ้าคงดีใจ และสาปแช่งให้ข้ามีอันเป็นไปกระมัง ถึงยิ้มออกน

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 51 บทรักต้องห้าม

    หลานเสวี่ยถูกกักบริเวณไว้ในจวนของแม่ทัพ นางไม่สามารถออกไปได้เพราะมีทหารเฝ้าอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะคะแนนความดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่แปลกคือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ราวกับว่านางเปิดร้านเป็นร้อยสาขาไม่นานก็ตกเย็นยังไม่เห็นเงาของหลงเยี่ยนเลย แต่ก็ดีนางคิดในใจ ก่อนจะเดินไปมาในจวน แล้วนึกขึ้นได้เมื่อเห็นทหารยาม“ข้าถามอะไรได้หรือไม่” นางเดินมาถามทหารยาม เมื่อเห็นว่าเป็นหลานเสวี่ย ทหารยามก็ทำความเคารพอย่างเคร่งครัด สงสัยคงไม่ได้รู้เรื่องของนาง นับว่าฮ่องเต้บ้าอำนาจยังเป็นคนดีอยู่บ้าง“มีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ” ทหารยามก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ“แค่อยากถามเท่านั้นเอง แล้วท่านแม่ทัพหายไปไหนหรือ มืดค่ำเช่นนี้ยังไม่กลับมาอีก” สงสัยคงไม่อยากเจอหน้านางหรือ“ท่านแม่ทัพออกไปแจกเสบียงขอรับ” “เสบียงอะไรหรือ” “แม่นางคงยังไม่รู้ ท่านแม่ทัพเอาเงินส่วนตัวมาซื้อเสบียงแจกจ่ายให้กองทัพ เห็นที่ร้านสะดวกซื้อของท่านสินค้าคงไม่เหลือแล้ว” ทหารยามพูดไปยิ้มไป หลานเสวี่ยจึงพอเข้าใจ ที่แท้เป็นเขาเองหรือที่อยากให้นางกลับโลกเดิมเร็ว ๆ จนใช้วิธีนี้ ชิงชังกันขนาดนั้นเชียวหรือ นางกัดฟันแน่นคิดแล

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 50 เข้าหอย้อนหลัง

    ร่างเพรียวถอยห่างแต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้ ไม่ยอมให้ริมฝีปากหวานหนีพ้น มือเล็กอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน เสียงหัวใจพลันเต้นโครมครามราวกับกลองศึก เลือกในกายสูบฉีด ไปต่างจากคนตัวโตที่ทุบกำแพงสูงใหญ่ข้ามความกลัวของตัวเอง เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกัน เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยนางไปอีกครั้ง ต่อให้นางยอมตรอมใจตายตามคนอื่น เขาก็จะชุบชีวิตนางขึ้นมา หลงเยี่ยนกอดรัดร่างแบบบางให้แนบชิดแผ่นอก ริมฝีปากหนักหน่วงดันลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากหวาน หลานเสวี่ยตาเบิกกว้างเมื่อสัมผัสลิ้นนุ่ม ทว่าทุกอย่างราวกับสายฟ้าแลบ เพียงชั่วอึดใจ นางก็ถูกหลงเยี่ยนดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจ ความหิวโหยหนักหน่วงไม่ลดละ เข้าไม่ปล่อยให้นางได้หลีกหนี ร่างสูงรวบตัวยาวขึ้นก่อนจะเดินไปที่ห้องนอน หลานเสวี่ยอายจนหน้าแดงก่ำ แต่นางกลัวมากเมื่อรู้ว่าถูกพาเข้ามาในห้อง“ฝ่าบาทจะมำอันใดหรือเพคะ...” นางพูดเสียงสั่นเครือ เรียกด้วยสถานะจริงของเขา “ทำเช่นนี้ไม่เหมาะกระมัง” หลานเสวี่ยไม่อยากฉวยโอกาส ใช้ร่างกายของคนอื่น แม้ว่าหัวใจนางจะปลิวละล่องไปตามเขาแล้ว“วันนี้เรามาเข้าหอกันใหม่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าอีกแล้ว เป็นของข้าทั้งตัวทั้งใจเถิด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 49 จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

    หลงเยี่ยนกระชากแขนเรียวดึงเข้าหาตัว สายตาพลันจับจ้องดวงหน้าสวย ทั้งคู่มองตาไม่กะพริบ มือเรียวดันแผ่นอกเอาไว้ หลงเยี่ยนมองนางด้วยสายตาสับสน เหมือนความคิดของเขาที่ไม่ตรงกัน ยิ่งหลานเสวี่ยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกความจริง หัวใจของเขาพลันเจ็บแปลบขึ้นมา ใบหน้าคมสวยไม่กล้าสบตาคู่นั้น หันไปมองโคมไฟข้างฝาแทน แต่มือหนาประคองแก้มนวลให้หันมาสบตาเช่นเดิม“เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือ ถึงขนาดนี้เจ้ายังมองข้าเป็นคนอื่นหรือไร บอกความจริงเถิด” หลงเยี่ยนคิ้วขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ใบหน้าแสดงออกถึงความสับสนและร้อนรุ่มในใจ แต่จะให้หลานเสวี่ยทำอย่างไร หากบอกไปชีวิตนางจะยังเหลือให้กลับบ้านอีกหรือ นางกลัวจนหัวใจเต้นระรัว ร่างกายแบบบางสั่นเทา “ข้าน้อยบอกไม่ได้...ข้าน้อยไม่มีทางคิดเป็นอื่น” นางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สายตาคู่งามยามจ้องมองฉายแววเศร้าหมอง คิ้วสวยหักลงยามที่นึกถึงชะตากรรมตัวเอง เขารักหลานเสวี่ยมากเท่าใดไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ หากทุกอย่างเปิดเผยถึงคราวนั้นชีวิตจางเสี่ยวหลงจะเป็นยังไง “เหตุใดถึงปากแข็งนัก แค่เจ้าพูดมาข้าก็ช่วยเจ้าได้ หรือที่เจ้าไม่พูดเพราะเกี่ยวกับกวนเหยาหมิง” หลงเยี่ยนพูดพลางบีบมือเรียวสุด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 48 ปากแข็งยิ่งนัก

    หลังจากเดินทางมายาวนานก็มาถึงเมืองหลวง หลานเสวี่ยที่ไม่มีอะไรทำมาหลายวันก็ตรงไปที่หอการค้าร้านสะดวกซื้อทันที ทว่าเมื่อนางมาถึงก็ทำให้ผู้คนตามสองข้างทางมองตามไม่กะพริบตา สตรีที่งดงามเช่นนี้มีในเมืองหลวงด้วยหรือ ทุกสายตาต่างสงสัยผู้คนรายล้อมมองดู ต่างก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนตระกูลไหน การมาถึงของหลานเสวี่ยทำให้พ่อสื่อแม่สื่อมีงานล้นมือเป็นแน่ เพราะเหล่าชายโสดต่างติดต่อถามไถ่ถึงนางกันทั่วหน้า หลานเสวี่ยเดินไปไม่สนสายตาของผู้คน เหล่าชายหนุ่มตระกูลสูงศักดิ์หรือสามัญชนคนธรรมดาก็ไม่อยู่ในสายตา เพียงแค่นางก้าวเดินคนก็พร้อมจะเปิดทางให้อย่างเต็มใจ จนมาถึงหอการค้าของตน คนคุ้มกันก็ยืนทำหน้าที่อย่างทุกวันแต่วันนี้คนคุ้มกันตกตะลึงจนหันไปมองตาม แค่นางเข้ามาในร้านยิ่งดูโดดเด่น เสี่ยวเอ้อร์ในร้านต่างก็มาให้การบริหารอย่างเต็มใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาถามกันไปมาว่าแม่นางผู้นี้เป็นคุณหนูบ้านไหนกัน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“แม่นางต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” หลานเสวี่ยยิ้มอย่างเบาบางแต่ไม่ตอบอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของหยางในการเปิดเผยเรื่องนี้ “ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ข้ามีเรื่องจะแจ้ง” หยางได้ส่งจดหมายใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status