ตอนที่ 6
“เสนอความคิดมาสิ อย่าเอาแต่เงียบ” น้ำเสียงยังเย้ยหยันและสายตาก็ดูแคลนจนคนถูกถามชาไปทั้งหน้า พลางคิดทบทวนว่าตั้งแต่เกิดมาไปทำเรื่องเสียหายอะไรไว้งั้นหรือ อยู่ดีๆ ถึงได้โดนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงแพศยา แต่มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าไม่เคยทำตัวอย่างที่เขากล่าวหา
“ตอบ!”
“ไอ้บ้า! ออกไปห่างๆ ฉันนะ”
“ก็ตอบมาสิ” คนตัวโตคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้
“ฉันบอกให้ออกไปห่างๆ ฉัน ไอ้ผู้ชายปากสกปรก”
“ผู้ชายปากสกปรกงั้นเหรอ” เคลย์ริกยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็นแล้วพูดต่อ “แต่จะว่าไป คนปากสกปรกอย่างฉัน ก็เหมาะกับผู้หญิงแพศยาอย่างเธอดีเหมือนกัน เธอว่าจริงไหม”
“ไอ้เลว” มธุรารู้สึกเจ็บจี๊ดอีกครั้งเมื่อถูกตอกย้ำว่าเป็นหญิงแพศยา ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งโตเป็นสาวสะพรั่ง เธอไม่เคยทำเรื่องที่จะสื่อไปในทางผู้หญิงแพศยาอย่างที่เขากล่าวหา
“คนอย่างเคลย์ริก แม็คเคลตัน ไม่สะดุ้งสะเทือน เพราะคำว่าเลวหรอกยาหยี” ปากหยักแสยะยิ้มร้าย สีหน้าก็ยียวนจนน่าฟาดฝ่ามือใส่
“ไอ้คนปากสุนัข” ด่าไปแล้วเธอก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าเขาจะเข้าใจความหมายหรือไม่ แต่สำหรับเคลย์ริก ตั้งแต่เขาคิดจะลงทัณฑ์ผู้หญิงแพศยา เขาก็เริ่มเรียนรู้ภาษาไทยมาจนพอเข้าใจ เลยเป็นเหตุให้ตอนนี้สันกรามบนหน้านูนขึ้นเป็นสัน
“ถ้าเก่งจริง ก็ด่าอีกสิ” เคลย์ริกท้าให้ด่าประหนึ่งพวกโรคจิตที่ชอบฟังคำด่าที่เจ็บแสบ
“ไอ้เถื่อน ไอ้โรคจิต ไอ้เส็งเคร็ง ไอ้เฮงซวย ไอ้คนทุเรศ ไอ้คนน่ารังเกียจ ไอ้...โอ๊ย!” มธุราร้องเสียงหลงเมื่อต้นแขนถูกมือหนาบีบจนเธอรู้สึกเหมือนกระดูกจะหัก หน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ แต่เธอก็ไม่ร้องขอความเห็นใจ ซึ่งนั่นทำให้เคลย์ริกรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นที่สุด
“อดทนเก่งงั้นเหรอ” เคลย์ริกเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ลงแรงบีบแขนเรียวจนเส้นเลือดนูนปูด เพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงแพศยาคนนี้จะทนได้นานแค่ไหน
“โอ๊ะ!” มธุราน้ำตาร่วงอาบแก้ม แต่ถึงแม้จะเจ็บจนจะทนไม่ไหว เธอก็ยังไม่อ้าปากขอร้องให้เขาปล่อย
“อวดดี!” เคลย์ริกตะคอกใส่เสียงเหี้ยม ใบหน้าดุดันน่ากลัว
“ไอ้บ้า ไอ้เลว ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามาตะคอกใส่ฉัน” มธุรายกมือขึ้นมาทุบตีกายแกร่งแบบไม่เลือกที่ ขอเพียงได้ล้างแค้นที่เขาบีบแขนเธอจนแทบหัก
ขณะที่เคลย์ริกก็ปล่อยให้สาวเจ้าตบตีไปได้ไม่กี่ครั้ง เขาก็ละมือจากต้นแขนมารวบสองมือเล็กเอาไว้ แล้วขยับกายเข้ามาชิดจนแผ่นอกที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อบดเบียดกับอกอวบ ที่คงจะใหญ่โตน่าดู
ปากหยักร้ายกระตุกยิ้มนิดๆ เมื่อเจ้าของความนุ่มนิ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาขุ่นขวาง
“เนื้อนมไข่ดีแบบนี้นี่เอง ผู้ชายถึงได้ชอบ” เคลย์ริกหลุบตามองอกอวบ มธุราหน้าเห่อร้อนเมื่อถูกจดจ้อง
“ไอ้คนลามก โรคจิต เลิกมองฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“เคยชินแต่ให้ทำล่ะสิ” เขาขยับปากยิ้มอย่างดูแคลน
“พูดบ้าอะไร” มธุราโต้กลับเสียงเขียว ขยับมือที่ถูกรวบไว้หยุกหยิกๆ แต่ก็ไม่หลุดจากพันธนาการเสียที จนเธอชักหงุดหงิดคนปากเสียไม่ได้
“ฉันชอบจริงๆ ผู้หญิงปากเก่งอย่างเธอ แต่อย่างเธอ...คงไม่ได้เก่งแค่ปาก” เคลย์ริกหยุดพูดแล้วขยับตัวออกห่างเล็กน้อย แล้วใช้สายตามองสำรวจร่างเล็ก ประหนึ่งกำลังจ้องมองสินค้า อึดใจปากหยักก็เผยยิ้มที่คนเห็น เกลียดแสนเกลียด เพราะเธอไม่เข้าใจเลยว่าไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้โกรธเคืองตอนไหน เขาถึงได้มากล่าวหา ว่าเธอเป็นผู้หญิงแพศยา แล้วยังมามองเธอ เหมือนเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ด้วยเงิน
“หยุดมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ซะทีไอ้คนเฮงซวย แล้วก็พูดมาว่าฉันไปทำอะไรผิด หรือทำอะไรให้ไม่พอใจตอนไหน ทำไมจะต้องจับฉันมาขังไว้ด้วย”
“ก่อนจะบอก เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันสักรอบสองรอบก่อนดีไหม” แววตาเขาไม่ได้พูดเล่น แต่คิดจะทำจริง
“ไม่!” มธุราปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดทบทวนให้เปลืองรอยหยักในสมอง ขณะที่คนตัวโตก็กดยิ้มมุมปาก และยังคงใช้สายตาจดจ้องร่างเล็กไม่เลิก ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้น
“แต่เรื่องสนุกที่ว่าเป็นงานที่เธอถนัดนะ” เคลย์ริกยังไม่เลิกชักชวน เพราะเวลานี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าริมฝีปากคู่นี้จะหวานแค่ไหน ทำไมผู้ชายถึงได้ชอบเธอนัก โดยเฉพาะผู้ชายที่เขารู้จัก ชอบถึงขนาดที่ว่ามีเท่าไหร่ก็ทุ่มให้ไม่อั้น
“ฉันไม่สนเรื่องสนุกของคุณ”
“แน่ใจ”
“หยุดไร้สาระ แล้วบอกฉันมาว่าจับฉันมาทำไม หรือคิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้ามากหรือไง ถึงทำอะไรได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย” มธุรายกเอากฎหมายมากล่าวอ้าง เผื่อจะทำให้คนหน้าโหดสำนึกได้บ้างว่าประเทศนี่ยังมีกฎหมาย หาใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน
“คิดจะเอากฎหมายมาขู่งั้นเหรอ” เคลย์ริกเหยียดปากยิ้มเย้ยคนตัวเล็ก ที่คิดจะเอากฎหมายมาขู่คนอย่างเขา แล้วถ้าเขากลัวติดคุกติดตารางจริง คงไม่ไปดักฉุดเจ้าหล่อนมาไว้ที่นี่นานนับสัปดาห์
“ใช่!” มธุราตอบกลับเสียงกระแทกกระทั้น พลางยกเข่าขึ้นหวังจะกระทุ้งใส่จุดยุทธศาสตร์ ทว่าอีกคนกลับรู้ทันหลบไปได้อย่างหวุดหวิด
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ