Home / โรแมนติก / นางบำเรอแสนรัก / จะเป็นเด็กดีของนาย

Share

จะเป็นเด็กดีของนาย

last update Last Updated: 2025-02-20 15:43:04

จะเป็นเด็กดีของนาย

อัณชญาเดินออกจากห้องสอบพร้อมกับแตงกวาด้วยความโล่งใจ เพราะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายในชีวิตเด็กมัธยมของทั้งสอง จากนั้นก็นอนรอผลสอบ และผลแอดมิดชั่นที่เธอเลือกไว้ถึงห้าอันดับ ทั้งในมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัดและในกรุงเทพฯ ส่วนในกรุงเทพฯ ไม่คิดว่าจะติด เพราะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หรือถ้าสอบติดก็ไม่รู้จะได้ไปเรียนไหม ทุกอย่างขึ้นกับชินภพ เพราะเธอเป็นคนของเขาไปแล้ว ถึงจะอยู่ในตำแหน่งนางบำเรอที่ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก็เถอะ

“ฉลองสอบเสร็จ กินหมูทะกันไหม” แตงกวาชวน

“เอาสิ แต่ขอโทร. บอกน้าพลก่อนนะ”

เธอขออนุญาตน้าชายเรียบร้อย ซึ่งอีกฝ่ายกำชับ ห้ามกลับเกินสองทุ่ม และอัณชญาก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ แต่ขณะเดินพ้นบริเวณโรงเรียนมาเล็กน้อย

“อัณ!”

เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูนั้นทำให้เธอหันขวับไปมองด้วยสีหน้าหวาดหวั่น

“อัณ สบายดีนะ พ่อคิดถึงลูกมากๆ เลย” อาทิตย์โผกอดลูกสาว โดยไม่สนใจท่าทีหวาดๆ ของคนเป็นลูก เพราะเมื่อใดที่พ่อพูดจาไพเราะกับเธอแบบนี้ มันผิดปกติ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายต้องการบางอย่างจากเธอ ไม่ต่างจากตอนที่เกลี้ยกล่อมพาเธอมาขายให้ชินภพ แต่ตอนนั้นเธอยอม เพราะพ่อขู่ว่าจะขายให้ไอ้เสี่ยโต หากไม่ไปด้วย ซึ่งอัณชญาเลือกชินภพมากกว่าไอ้เสี่ยโตอยู่แล้ว เพราะอย่างไรน้าพลก็เป็นลูกน้องคนสนิทของเขา การันตีว่าชินภพเป็นคนดี มีธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ไม่เหมือนไอ้เสี่ยโต มีแต่ธุรกิจสีเทาไปถึงดำก็ว่าได้

“พ่อ มาได้ไง” อัณชญาผลักพ่อออกห่าง เพราะทั้งหวาดระแวง และเหม็นเหล้าด้วย

“ก็พ่อคิดถึงลูกไง”

“กวาไปรอเราที่ร้านก่อนนะ” อัณชญาหันไปบอกเพื่อนที่ยืนมองเธอกับพ่ออยู่

“อือ” แตงกวาขานรับ แล้วเดินไปยังร้านหมูกระทะที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าโรงเรียน

อัณชญาหันมาทางพ่ออีกครั้ง

“พ่อเป็นไงบ้างล่ะ”

“ก็ไม่ค่อยดีนัก”

“ทำไมไม่ดีล่ะ พ่อได้เงินไปตั้งหลายแสนนะ”

“ตอนนี้มันก็หมดแล้ว”

“พ่อ!” เธอร้องอย่างตกใจที่เงินหกแสนหมดไปภายในเวลาสามสี่เดือนเท่านั้น มีเท่าไหร่ก็ไม่พอสำหรับคนที่ถูกผีการพนันเข้าสิง คิดแล้วก็กลุ้ม เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรพ่อจะคิดได้ว่าการพนันไม่เคยทำให้ใครร่ำรวย มีแต่เจ้าของบ่อนเท่านั้น

“หนูมีอยู่ไม่มากนะ เพราะต้องเก็บไว้เรียนต่อมหา’ ลัย” เธอพูดแล้วหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้พ่อ ซึ่งเป็นแบงค์เทาสองใบ

อาทิตย์หยิบไปยัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเอ่ยกับลูกสาว

“เสี่ยโตบอกว่าจะให้เงินสองล้าน ถ้าลูกไปอยู่กับเขา และเขาจะซื้อบ้าน ซื้อรถให้ลูกด้วย”

“หนูไม่เอา หนูจะอยู่กับคุณภพเท่านั้น!” อัณชญาบอกเสียงแข็ง เพราะรู้จุดประสงค์ที่พ่อมาหาและพูดจไพเราะแบบนี้แล้ว

“แต่อยู่ที่นั่น เป็นแค่นางบำเรอกระจอกๆ เขาเบื่อก็เฉดหัวทิ้ง”

“อยู่ที่ไหน เขาเบื่อเมื่อไหร่ก็เฉดหัวทิ้งทั้งนั้น และพ่อเคยบอกไม่ใช่เหรอว่า หากเสี่ยโตเบื่อ เขาจะส่งหนูเข้าซ่อง”

“แต่ตอนนี้เขารับปากพ่อแล้วว่าจะไม่ส่งอัณเข้าซ่องหรอก เขาจะรับอัณเป็นภรรยา ถ้าอัณทำตัวดี”

“พ่อทำไมทำแบบนี้ ขายหนูให้คุณภพไปแล้วนะ จะขายให้คนอื่นอีกได้ยังไง!”

“ก็เสี่ยโตให้เงินเยอะกว่า เราก็แค่เอาเงินไปคืนคุณภพ เรื่องมันก็จบแล้ว”

“พ่อคิดอะไรง่ายๆ แต่ไม่ว่าเสี่ยโตจะให้เงินมากแค่ไหน หนูก็ไม่ไป หนูรักคุณภพ จะอยู่กับคุณภพ!” พูดจบอัณชญาก็วิ่งหนีไปจากตรงนั้นทันที เพราะกลัวพ่อจะตามมาพูดเรื่องนี้อีก

อัณชญาแอบซ่อนพ่ออยู่ตามร้านต่างๆ อยู่ครู่ใหญ่  กระทั่งเห็นว่าพ่อไม่ได้ตามมาแล้ว จึงเข้าไปหาแตงกวาในร้านหมูกระทะ แต่ก็กินหมูกระทะไปด้วยความไม่สบายใจ

“ร้านนี้ไม่อร่อยเหรอมึง”

“เปล่า อร่อยดี แต่พ่อกูน่ะสิ มาพูดอะไรไม่เข้าท่าว่ะ”

“เขาพูดอะไรล่ะ”

อัณชญาเล่าเรื่องที่พ่อมาคุยกับเธอให้เพื่อนสนิทฟัง

“พ่อมึงกู่ไม่กลับแล้วนะอัณ กูว่าเขาต้องหาทางเอามึงไปประเคนให้เสี่ยโต เพราะอยากได้เงินจากเสี่ยโตแน่ๆ ไอ้เวรนั่นก็ดันเสนอเงินให้ซะเยอะเลยนะ”

“ทำไมพ่อเปลี่ยนไปแบบนี้ ตอนแรกเขาก็ไม่คิดจะขายกูให้เสี่ยโต เพราะเขากลัวว่าถ้ามันเบื่อ กูจะถูกส่งซ่อง แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรแล้ว นอกจากเงิน”

“ผีการพนันแท้ๆ ทำเอาความเป็นพ่อไม่เหลือ”

“กูจะทำยังไงดี พ่อคงไม่ละความพยายามนี้หรอก เพราะมีเงินล้านจากไอ้เสี่ยโตล่อใจแบบนี้”

“กูว่าพ่อมึงอาจโดนหลอก ไอ้เสี่ยโตมันจะยอมจ่ายถึงสองล้านเหรอวะ”

“นั่นสิ แต่ถึงจะจ่ายไม่จ่าย กูก็ไม่ไปอยู่กับมัน ตายเสียจะดีกว่าถ้าจะไปเป็นอีหนูของมัน” นอกจากหน้าตารูปร่างอัปลักษณ์แล้ว นิสัยมันก็เลว ทำมาหากินก็ผิดกฎหมายอีก

“มึงไปบอกน้าพลเถอะ เผื่อเขาจะหาทางจัดการพ่อมึงได้”

“กูกลัวคุณภพจะเล่นงานพ่อน่ะ” เพราะพ่อขายเธอไปแล้ว ยังคิดจะขายต่อให้ไอ้เสี่ยโตอีก นายคงไม่ชอบใจแน่ๆ หรือบางทีอีกฝ่ายอาจจะอยากได้เงินคืน เพราะเขาก็ไม่ได้ชอบเธออยู่แล้ว แถมเกลียดขี้หน้าด้วย ตั้งแต่วันมีเรื่องที่ซุ้มดอกไม้วันนั้น จนถึงตอนนี้ก็สามเดือนแล้ว ที่เธอกับเขาไม่ได้เจอหน้ากัน

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่เขาคงมีวิธีจัดการน่ะ เพราะยังไงมึงก็ถือว่าเป็นอีหนูของเขาแล้วนะ”

“อีหนูอะไร แค่หน้าเขาก็ยังไม่อยากเห็น”

“พูดเหมือนน้อยใจนะ ทำไมอยากเป็นอีหนูของเขาจริงๆ เหรอ”

“เปล่านะ แค่อยากอยู่บ้านของเขาเฉยๆ อยู่ที่นั่นรู้สึกปลอดภัย” จากพ่อตัวเอง และไอ้เสี่ยโตที่จ้องจะเอาเงินไปล่อพ่อให้ขายเธอให้

“รู้สึกปลอดภัยแล้ว รู้สึกอบอุ่นหัวใจด้วยไหมมึง”

“ก็อบอุ่นดี เพราะบ้านที่พักอยู่ มีทั้งป้าหมาย และพี่นุ่ม เวลาว่างๆ เราสามคนก็สวดมนต์ก่อนนอนด้วยนะ จิตใจสงบดี นอนไม่ฝันร้ายด้วย”

“สาธุ”

แล้วสองสาวก็หัวเราะครื้นเครง ความกังวลใจของอัณชญาก็น้อยลง เพราะหากชินภพอยากได้เงินคืน มากกว่าจะให้เธออยู่บ้านของเขา เธอจะหนีไป วันหนึ่งเมื่อหาเงินได้เอง เธอจะเอาเงินหกแสนที่พ่อใช้จนหมดแล้วนั้น มาคืนให้เขาเอง

เมื่อกลับมาถึงเรือนหลัง อัณชญาก็รีบโทร. บอกให้พลมาหาที่บ้านพัก บอกเรื่องที่เจอพ่อ รวมทั้งเรื่องที่พ่อจะพาเธอเป็นไปอีหนูของเสี่ยโต

“พ่อมึงนี่ มันสุดกู่แล้วล่ะ มึงก็ทำใจด้วยนะ ถ้าชีวิตพ่อมึงจะมีจุดจบไม่สวย ไปยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ไปยุ่งกับคนพาลและการพนัน”

“ทำยังไงดีน้าพล หนูกลัวพ่อมาเอาตัวหนูไปให้ไอ้เสี่ยโต”

“ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้ามึงไม่อยากไป ใครจะเอาตัวมึงไปได้ ที่สำคัญมึงก็ขึ้นชื่อเป็นนางบำเรอนาย ถึงจะไม่ได้ใช้งานก็เถอะ”

“นายเขายิ่งไม่ชอบหนูอยู่ด้วย ถ้าพ่อเอาเงินจากไอ้เสี่ยโตมาคืนเขา เขาจะคืนหนูไปหรือเปล่า” น้ำเสียงร้อนรนและหวาดระแวงจนพลรู้สึกเวทนา

“ที่นายซื้อมึงไว้ เขาก็เวทนากลัวพ่อมึงขายให้ไอ้เสี่ยโต เพราะงั้นเรื่องที่นายจะขายมึงคืนให้พ่อมึงน่ะ เลิกคิด นายไม่ใช่คนใจดำแบบนั้นเสียหน่อย”

“แต่หนูก็ทำอะไรให้เขาไม่พอใจเยอะมากเลย” เธอยังไม่คลายวิตก

“เออ รู้ตัวก็ดีแล้ว จะได้ทำตัวเป็นเด็กดี นายให้ทำอะไรก็ทำไป”

“ถ้านายไม่ส่งหนูคืนให้พ่อ หนูยินดีทำทุกอย่างที่นายบอก”

“ดีมาก ตอนนี้สอบเสร็จแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ รอแค่ผลสอบ กับลุ้นผลสอบเข้ามหา’ ลัยค่ะ”

“คิดว่าจะติดสักที่ไหม”

“ติดแน่นอนค่ะ อย่างน้อยก็มหา’ ลัยในตัวจังหวัด”

“อย่าโม้นะ”

“ไม่โม้หรอก น้าพลก็รู้ว่าหนูตั้งใจเรียนมาตลอด” เพราะเกิดมาในครอบครัวยากจน แม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่เธอเรียนชั้นมัธยมต้น ชีวิตครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้วก็ยิ่งลำบาก เพราะที่ผ่านมาแม่เป็นเสาหลักครอบครัว เพราะพ่อก็ทำงานที่ไหนได้ไม่นานก็ถูกไล่ออกตลอด ก็มีน้าพลที่ช่วยเหลือบ้าง

อัณชญาคิดว่าการตั้งใจเรียนคือหนทางจะทำให้ชีวิตดีขึ้น เธออยากเรียนจบมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้หางานดีๆ ที่เงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองกับพ่อได้ ก่อนหน้านั้นเธอมืดแปดด้านที่จะหาเงินเรียน หรือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว คิดว่าจบมัธยมปลายแล้วจะทำงานพาร์ทไทม์สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนค่าเทอมนั้นจะกู้กยศ. ทว่าตอนนี้เธอได้เงินเดือนจากชินภพ มากพอจะจ่ายค่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้ แต่อย่างไรเธอก็ต้องประหยัด เพราะไม่รู้ว่าจะได้อยู่ในความดูแลของชินภพนานแค่ไหน

ตำแหน่งนางบำเรอ เธอถามนุ่มมาแล้ว อยู่นานสุดแค่สามปี เพราะนายเบื่อ ก็หาคนใหม่มาแทนที่ได้

แต่เธอนั้นนอกจากเป็นได้แค่นางบำเรอที่ยังไม่ได้ใช้งาน นายจะเบื่อหรือไม่เบื่อก็ไม่รู้ว่าจะขึ้นอยู่กับอะไร ก็คงความพอใจของเขาล้วนๆ

แต่น้าพลบอก ถ้าเธอเป็นเด็กดี เชื่อฟังเขา ชินภพก็ไม่ขายเธอคืนพ่อกับไอ้เสี่ยโต

อัณชญาจะเชื่อฟัง และเป็นเด็กดีของนาย

แต่เศร้าจัง คำสั่งนายคือ...เธอห้ามเอาหน้าไปให้เขาเห็นนี่สิ

:::::::::::::::::::::::::

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางบำเรอแสนรัก   ตอนพิเศษ 2.1

    บาลีเดินออกมาจากในครัว หลังจากจัดเก็บจานชาม และเครื่องครัวเรียบร้อย ได้ยินเสียงเปียโนที่ผู้เป็นสามีกำลังสอนลูกสาวเล่นเพลง twinkle little starส่วนอิฐนั้นกำลังนั่งซ้อมกีตาร์อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน เป็นโถงกว้าง มีโซฟานั่งเล่นอยู่หลายมุม แบ่งโซนสำหรับการพักผ่อน และทำกิจกรรมที่ชอบ รวมทั้งมุมดูโทรทัศน์สำหรับบาลีกระทั่งใกล้เวลาเด็กๆ จะแยกย้ายเข้านอน ทุกคนก็มารวมตัวกันในมุมเปียโน ร้องเพลงที่เป็นเพลงโปรดของเด็กหญิงอัญมณีด้วยกัน เจ้าตัวเล็กของบ้านที่ทุกคนพร้อมจะเอาใจและดูแลประดุจเจ้าหญิง ทั้งพ่อและพี่ชายตามใจสุดๆ ส่วนแม่จะตามใจเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น ไม่ใจดีสุดๆ เหมือนพ่อกับพี่ชายอยู่แล้ว เพราะบาลีกลัวลูกสาวโตขึ้นมาเป็นเด็กเอาแต่ใจ“วันนี้หนูจะให้แม่อ่านนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงให้ฟังค่ะ” เด็กหญิงอัญมณีที่อายุสามขวบกว่าๆ แต่พูดจาชัดถ้อยชัดคำเกินวัย บอกความประสงค์ซึ่งทุกคืนก่อนนอน เจ้าตัวจะรีเควสเองว่าจะให้พ่อหรือแม่อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน และคืนนี้บาลีก็ได้ทำหน้าที่ ซึ่งภายในสัปดาห์หนึ่ง เธอจะถูกเลือกอย่างมากสุดแค่สามวัน ที่เหลือเจ้าตัวน้อยของบ้านจะเลือ

  • นางบำเรอแสนรัก   ตอนพิเศษ 2

    “ฉันห่วงแกนั่นแหละ ทำงานเยอะไปแล้ว เป็นเจ้าของโรงแรมยังไง วันหยุดแทบไม่มี เวลาพักผ่อนน้อย เห็นพี่ดินบ่นนอนดึกทุกคืน”“เออ หลังแต่งงาน ฉันจะทำงานน้อยลง จะจ้างผู้ช่วยเพิ่ม และไอ้เอใกล้เรียนจบแล้ว ก็มาช่วยแบ่งเบางาน ฉันจะหยุดเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ให้ดู” อัณญาเอ่ยถึงน้องชายต่างแม่ ที่ตอนนี้อธิปกำลังเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก“ดีแล้วแก ฉันจะได้มีเพื่อนคุย เพื่อนช้อป”“แหม เห็นไปช้อปกับยัยพิมและยัยรตีในเมืองบ่อยๆ” คนหลังนี่ ปรับปรุงนิสัยดีขึ้น บาลีเลยยอมคุยดีๆ ด้วย เพราะจะว่าไปรตีเป็นเพื่อนคนเดียวในละแวกนี้ที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีเหมือนบาลี ทั้งสองเลยคุยกันได้มากขึ้น“บ่อยที่ไหน เดือนละครั้งสองครั้ง”“ตกลงยัยรตี มันคืนดีกับไอ้พี่วันหรือยัง”“ยังเลย มันบอกเจ็บแล้วจำ และมันรู้สึกว่าไอ้พี่วันอยากกลับมาคืนดี เพราะไม่มีที่ไปมากกว่าจะคิดได้ว่ารักมันกับลูก”“โอ๊ย จู่ๆ ยัยรตีก็ฉลาดขึ้นมางั้นเลย”“ก็แหงสิ ใครมันจะฉลาดมาตั้งแต่เกิดเหมือนเธอละยะ!” เสียงแว้ดขึ้นมาก่อนเจ้าตัวจะเดินเฉิดฉายมานั่งในศาลา จากนั้นก็ส่งค้อนให้อัญญา“แหะๆ ขอโทษนะแก ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เมื่อก่อนไอ้พี่วัน มันก็ไม่เห็นว่าจะรักใค

  • นางบำเรอแสนรัก   ตอนพิเศษ 1.1

    บาลีเองก็ยังดูแลเรื่องบัญชีทั้งหมด ดูเหมือนคนที่ค่อนข้างจะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในชีวิตก็คืออัทธ์ เพราะเขาแทบจะหันหลังให้วงการบันเทิงหลังจากละครเรื่อง ไร่แสนเสน่หา คุณพ่อลูกสองยังไม่ได้รับงานแสดงอีก แต่กำลังเลือกบทงานภาพยนตร์ ที่มีบทแตกต่างจากที่เคยเล่น ส่วนงานโฆษณาต่างๆ ก็ยังรับเหมือนเดิมแต่งานที่ยังทำต่อเนื่อง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังแต่งงาน ก็คืองานเพลง อัทธ์ออกเพลงใหม่ทุกปี ยังคงร้องเพลงในสวนอาหารของไร่ในทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ ทำให้คืนวันหยุดมีคนเข้าร้านมากที่สุด เป็นธุรกิจที่มีผลกำไรมากที่สุดในตอนนี้“จะห้าโมงเย็นแล้ว ไปเปลี่ยนชุดเตะบอลดีกว่า เดี๋ยวน้องอิฐกับเพื่อนๆ คงใกล้มาถึงแล้ว” ธรินท์บอก ก่อนลุกจากศาลา แล้วเดินกลับบ้านของตนเอง“น้องอิฐ นี่ยิ่งโตยิ่งหล่อเหมือนพ่อจริงๆ แถมชอบเล่นกีฬา โตกว่านี้ หุ่นว้าวแน่ๆ แก” เพราะเด็กชายอิฐ ตอนนี้อายุสิบเอ็ดขวบแล้วนอกจากเรียนดี กีฬาเด่น ยังเล่นกีตาร์ร้องเพลงได้ดี ไม่แตกต่างจากพ่อ อัทธ์อนุญาตให้ลูกชายรับงานแสดงได้ปีละเรื่อง ส่วนงานโฆษณาที่ใช้เวลาถ่ายทำน้อยกว่าละครนั้น รับได้ตลอดเรียนเสร็จเด็กชายอิฐก็ยังว่ายน้ำ กลับบ้านมาเล่นฟุตบอล กินข้าว

  • นางบำเรอแสนรัก   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ “น้องอิงคะ วิ่งช้าๆ เดี๋ยวล้มนะลูก” น้ำเสียงทุ้ม ที่ร้องห้ามลูกสาววัยสามขวบนั้นอ่อนโยน จนคนได้ยินถึงกับเอ่ยชม“พี่อัทธ์ เป็นพ่อที่แสนดีอบอุ่นเหมือนเตาไมโครเวฟเลย” อัณญาว่า ขณะมองตามพระเอกหนุ่มที่แทบจะหันหลังให้วงการบันเทิงมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว เพื่อดูแลลูกทั้งสอง “เตาไมโครเวฟกี่องศาดีล่ะ” คนที่พูดคือธรินท์ ที่นั่งอยู่ข้างๆ แฟนสาว ซึ่งเดือนหน้าก็จะเข้าพิธีวิวาห์กันแล้ว “แหม ก็ต้องไฟกำลังพอดี อุ่นๆ สิ” “แล้วพี่นี่ต้องกี่องศา หือ” คนถามทำตามกรุ้มกริ่มใส่ว่าที่เจ้าสาวด้วย“จะบ้าเหรอ มาถามอะไรแบบนี้” อัณญาปาเม็ดอัลมอนด์ที่กำลังกินเป็นของว่างยามบ่ายใส่ว่าที่เจ้าบ่าว “งั้นคืนนี้...”“ฮะ แฮ่ม นี่คิดว่าอยู่กันสองคนหรือไง!” คนที่แว้ดออกมานั้นคือบาลี ซึ่งกำลังเคี้ยวมะม่วงเปรี้ยวจิ้มพริกเกลืออย่างเอร็ดอร่อย พอได้ฟังว่าที่บ่าวสาวคุยกันท่าทางจะออกนอกลู่นอกทาง เลยต้องเบรกไว้ก่อน “แกเหอะ กินของเปรี้ยวแบบนี้ แพ้ท้องหรือเปล่า”“ไม่ได้แพ้ แค่อยากินไรเปรี้ยวๆ แก้เลี่ยนความหวานของแกกับพี่ดินนี่แหละ” ทั้งสามนั่งคุยกัน พร้อมกินของว่างยามบ่ายจัด ที่แดดอ่อนแสงไปแล้ว อยู่ใต้ซุ้มไม้ใหญ่ข้างบ้าน ท

  • นางบำเรอแสนรัก   บทส่งท้าย 2

    “เหนื่อยไหมครับลูก” อัทธ์ถามลูกชาย ขณะเอนตัวลงนอนเคียงข้างลูกชาย อยู่ในชุดนอนเรียบร้อยกันทั้งสามคน ส่วนบาลีนั้นนอนอยู่อีกฝั่ง ข้างลูกชายเช่นกัน และเธอกำลังไล่ดูภาพของเพื่อนๆ อัทธ์ ที่ทยอยโพสต์ภาพงานในอินสตาแกรม ยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นรูปของตัวเองที่สวยเกือบทุกภาพ ส่วนอัทธ์กับน้องอิฐนั้น ไม่ต้องกังวล คือหล่อทั้งสองคน ก็เพราะคนพ่อเป็นดาราระดับซุป’ ตาร์ ส่วนลูกชายนั้น นักแสดงเด็กอนาคต ซุป’ ตาร์ ตามรอยพ่อเลยนะ “ลี เลิกเล่นโทรศัพท์ และปิดไฟได้แล้ว เลยเวลานอนมาสองชั่วโมงแล้วนะ” อัทธ์บอกบาลีเสียงจริงจัง“ได้ค่ะ คุณพ่อตัวอย่าง” แล้วเธอก็ปิดโคมไฟ แล้วขยับตัวไปกอดลูกชายหลวมๆ“พ่อครับ ร้องเพลงให้ผมฟังหน่อย”“ได้สิ เพลงอะไรดี” “ทวิงเคิลลิทเทิลสตาร์ครับ” “ได้ครับ” บาลีแอบยิ้มอยู่ในความสลัวภายในห้อง เพราะเพลงนี้เป็นเพลงกล่อมนอนเพลงโปรดของลูก แต่เธอร้องเพลงไม่เพราะ จึงเปิดคลิปเสียงให้ลูกฟังทุกวันตั้งแต่เด็กแบเบาะ โตแล้วก็ยังชอบฟังก่อนนอน คงเห็นว่าพ่อเป็นนักร้องเสียงเพราะที่สุดในโลก เจ้าตัวก็คงอยากฟังเพลงกล่อมนอนเพลงโปรดของตนเอง ทวิงเคอ ทวิงเคอ ลิทเดิท สตาร์ ฮาว ไอ วันเดอร์ วอท ยูว์ อาร์ อัพ

  • นางบำเรอแสนรัก   บทส่งท้าย 1

    บทส่งท้าย ‘ฉันกำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า’ บาลีครุ่นคิดในใจ ขณะมองเงาที่สะท้อนในกระจก หญิงสาวที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวเกาะอก ผมยาวคลุมเข่า เกล้าผมสูง โชว์ใบหน้าเรียว แต่งหน้าอย่างประณีต ด้วยฝีมือ เมกอัพอาร์ตติสชื่อดังของวงการ ที่เจ้าบ่าวเป็นคนจ้างมา รวมทั้งชุดที่เธอสวมใส่ก็จากแบรนด์หรู เครื่องประดับ ทั้งสร้อย ต่างหูและกำไลข้อมือก็เช่นกัน ยกเว้นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งเป็นแหวนหมั้นจากตระกูลอัครพิสุทธ์ ที่มารดาของอัทธ์เป็นคนส่งมอบให้อัทธ์มาเพื่อหมั้นเธอ “ว้าว เมื่อเช้าชุดไทยก็ว่าสวยแล้ว ตอนนี้ก็สวยยิ่งกว่า” คนที่พูดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าบ่าวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเจ้าสาวนั่นเอง อัทธ์อยู่ในชุดสูทสีเทาของแบรนด์ดัง ผมยาวระต้นคอถูกเซ็ทอย่างดี ปกติก็หล่ออยู่แล้ว พอเป็นเจ้าบ่าว ราศีสามีของบาลีก็พุ่งทะลุทุกแสงบนโลกนี้ทั้งสองแยกห้องแต่งตัวเพราะมีเพื่อนๆ ครอบครัวและญาติของทั้งสองฝั่งมานั่งพักรองาน หรือมาพูดคุยทักทายก่อนงานเริ่มตอนนี้ถึงเวลาต้องลงที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมขุนเขาของครอบครัวอัณญานั่นเองหลังจากพิธีช่วงเช้า ซึ่งมีแต่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status