Share

บทที่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-26 12:50:35

“คุณมาทำอะไรที่นี่” ประโยคคำถามที่เหมือนกันดังขึ้นจากปากของทั้งคู่อีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองต่างเลิกลั่กกระทั่งรติชาชิงตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”

“แล้วคุณล่ะครับมาทำอะไรที่นี่” แทนที่จะตอบคำถามนั้นของรติชา ปิลันธน์กลับตั้งคำถามแบบเดียวกันกลับมาเสียได้ รติชาเป่าลมออกปากหนักๆ เพราะถ้ามัวแต่ถามกันไปถามกันมาคงไม่ได้คำตอบแน่ 

“ฉันมาทำงาน”

“ทำงาน”

“ค่ะ” รติชาเอ่ยรับพร้อมกับเพ่งสายตามองชายตรงหน้าไปด้วยหรือว่าเขาจะเป็นเจ้านาย ถ้าใช่นี่โลกมันจะกลมไปถึงไหน 

“หรือว่าคุณคือเลขาคนใหม่ที่จะมาช่วยงานตอนที่คุณเอมลาคลอด” ปิลันธน์เอ่ยถามขึ้นทันที อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดนี้ 

“ใช่ค่ะ...ฉันชื่อรติชา” รติชาพยักหน้ารับอย่างตรงไปตรงมา 

“โอเค งั้นเราก็คนกันเอง”

“คนกันเองหรือคะ” เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นบนใบหน้าของรติชาอีกครั้งเพราะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำว่าคนกันเองที่ชายตรงหน้าพูดสักเท่าไหร่ จะว่าไปแล้ววันนี้มันวันอะไรของเธอ

“คุณเอมน่าจะบอกคุณบ้างแล้วว่าเจ้านายของเธอชื่อว่าอะไร”

“บอกค่ะว่าชื่อคุณปิลันธน์ อย่าบอกนะคะว่าคือ...คุณ” 

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการคุณเลขา” ปิลันธน์ส่งยิ้มให้รติชาซึ่งน้อยคนนักจะเห็นรอยยิ้มของเขา ทว่าเวลานี้รติชายืนอึ้งจึงไม่ได้สนใจรอยยิ้มนั้นของอีกฝ่ายเท่าไหร่ ก่อนจะดึงสติกลับมาแล้วเอ่ยทักทายกลับไป

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

“เมื่อเช้าเราคงทำความรู้จักกันรุนแรงไปหน่อย แต่ผมก็ให้อภัยได้เพราะเข้าใจว่าคุณคงไม่ได้ตั้งใจ”

“ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

“แต่ผมขอชมเรื่องงานว่าคุณเก่งอย่างที่คุณเอมบอกไว้” นั่นเพราะวันนี้ตอนประชุมเขาขอไฟล์งานจากรติชาหลายไฟล์โดยคิดว่าเป็นอรสาและเธอก็ทำได้ดี

“ขอบคุณค่ะ”

“ผมเห็นรถผมจอดอยู่ที่หน้าบริษัท คุณขับมาเหรอ”

“ค่ะ...ฉันไม่อยากจอดไว้ริมถนน ก็นึกแปลกใจอยู่ว่าทำไมตอนมาถึงรปภ.ถึงยกกรวยตรงที่จอดวีไอพีออกให้แถมยังตรงมาตะเบ๊ะใส่ฉันอีก” ความสงสัยในใจของรติชาตอนนั้นเวลานี้เหมือนจะกระจ่างแล้ว ที่แท้ก็คงคิดว่าเธอคือบอสสินะ

“เขาคงคิดว่าเป็นผม แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยจัดการให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะยังไงฉันก็ผิดแต่คุณก็ไม่ควรไว้ใจฉันถึงขนาดยื่นกุญแจรถให้แบบนั้น ถ้าฉันเป็นโจรขึ้นมาทำไง”

“รถผมติดจีพีเอส ถ้าคุณขับออกนอกลู่นอกทางผมจะรู้และตำรวจจะไปทันที” คำพูดของปิลันธน์ทำให้รติชาแอบมองบนใส่เล็กน้อย ก่อนที่เสียงทุ้มจะถามต่อ “แล้วเมื่อกี้คุณก้มไปหาอะไรใต้โต๊ะ” 

“หากุญแจรถค่ะ พอดีฉันทำตกแต่ตอนนี้หาเจอแล้ว ส่วนนี่กุญแจรถบอสค่ะ” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็ยื่นกุญแจรถให้ซึ่งปิลันธน์ก็รับคืนไป 

“ขอบคุณ ส่วนคุณเลิกงานแล้วก็กลับไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องรอผมหรอก” ปิลันธน์เอ่ยบอกจากนั้นก็ตรงไปยังห้องทำงานเพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในวันนี้

“ไม่ต้องบอกก็ตั้งใจจะกลับอยู่แล้วค่ะบอส” รติชาเอ่ยตามหลังเพราะเธอไม่มีความจำเป็นต้องรอเจ้านายอย่างปิลันธน์ในเมื่องานของตัวเองเสร็จหมดแล้ว เวลาเลิกงานคือต้องเลิกงานไม่ใช่นั่งติดเก้าอี้เพื่อให้คนอื่นมองว่าเธอขยัน 

เมื่อเธอเดินไปแล้วปิลันธน์ก็หันกลับมามอง เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้งแถมยังมาทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวตอนที่อรสาลาคลอดอีกด้วย ปิลันธน์หยุดคิดเรื่องนี้แล้วดึงสติกลับมาทำงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ 

ส่วนรติชาก็แวะซื้อมื้อเย็นระหว่างทางเล็กน้อยจากนั้นก็ตรงไปยังคอนโดมิเนียมส่วนตัว เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้ก็จัดการถอดรองเท้าส้นสูงออกมาใส่สลิปเปอร์นุ่มๆ แทน ดึงชายเสื้อออกมาจากกางเกงทำงาน มัดผมขึ้นแล้วม้วนเป็นมวยไว้กลางศีรษะ 

ล้างมือจนสะอาดแล้วจึงหันมาจัดการเทอาหารใส่จานลายสวยที่ไปเดินเลือกซื้อเองทุกชิ้น รินน้ำเย็นๆ ใส่แก้ว หยิบผลไม้และสลัดในตู้เย็นออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็นั่งกินมื้อเย็นริมกระจกเสพบรรยากาศมุมสูงของชั้นยี่สิบสอง วิวตรงนี้สามารถมองเห็นเมืองกรุงได้เกือบร้อยแปดสิบองศา แม้กลางคืนจะดูเหงาแต่มันก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

รติชานั่งกินข้าวไปได้เกินครึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวยื่นมือไปคว้ามาดูพอเห็นว่าใครจึงกดรับสาย

“ว่าไงจ๊ะ”

“ฉันต่างหากที่ต้องถามคำถามนั้น” โสภิตาแย้งกลับไป เธอรู้ว่าวันนี้เพื่อนสนิทไปรับจ๊อบเป็นเลขาชั่วคราว เพราะรุ่นพี่อย่างอรสากำลังจะลาคลอด 

“อ้าวเหรอ”

“ไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง” 

“ระทึกตั้งแต่เช้า”

“ยังไง ไหนเล่าสิ”

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 31 (จบ)

    “ก็ยังอยากมาทำงานนี่คะ”“สงสัยผมต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบายรอคุณแล้วมั่งเนี่ย”“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ น้ำเดินแล้วค่อยไปโรงพยาบาลก็ได้ ว่าแต่เหตุการณ์ตอนนี้มันคุ้นๆ เหมือนกันนะคะบอส ตอนนั้นเอมก็ท้องแก่แบบนี้แล้วก็ให้ปิ่นมาช่วยงาน ทำงานอยู่ดีๆ เอมก็น้ำเดินจนต้องรีบไปโรงพยาบาล พูดแล้วก็คิดถึงปิ่น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” อรสาคิดถึงรติชามากจริงๆ แต่เพราะยุ่งๆ ระยะนี้จึงไม่ค่อยได้คุยกันเท่าที่ควร“สบายดีครับ วันก่อนพึ่งจะไปเล่นสกีมา”“เอมประทับใจความรักของบอสกับปิ่นจริงๆ นะคะ อยากให้มีคนเอาไปทำละครจัง”“งั้นช่วยตัดช่วงที่ผมกลัวแมลงออกก็ดีนะครับ” ปิลันธน์เอ่ยติดตลก เพราะคงไม่มีพระเอกที่ไหนกลัวแมลง“เอางั้นเหรอคะ”“ครับ”“สรุปบอสจะไม่รับเลขาจริงๆ เหรอคะ” อรสาเอ่ยถามอีกครั้ง“ไม่ครับ ผมจัดการงาน

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 30

    “ทำไมหรือว่าคุณปิลันธน์ไม่อยากให้ปิ่นทำงาน”“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่ปิ่นคิดว่าที่บริษัทไม่เหมาะกับปิ่น ยังไงปิ่นฝากพี่ฤดีดูแลและรักษามันด้วยนะคะ” รติชาส่งยิ้มให้ฤดี ซึ่งอีกคนก็ส่งยิ้มที่ออกมาจากใจให้รติชาเป็นครั้งแรกเช่นกัน“พี่สัญญา” ฤดีเอ่ยรับอย่างหนักแน่น เมื่อหยุดคิดว่าตัวเองนั้นดีหรือวิเศษกว่าใครลงได้ ก็เหมือนเปิดโลกให้ฤดีมองเห็นความดีของคนอื่นและใช้ชีวิตในเส้นทางที่ถูกที่ควรหลังจากนั้นอีกสามวันรติชาก็พาปิลันธน์ไปหาโสภิตาที่เชียงราย ซึ่งครั้งนี้คนที่ถูกแซวจนหน้าแดงก่ำคือเธอบ้าง ส่วนปิลันธน์นั้นก็เหมือนจะชอบการใช้ชีวิตที่ไร่ของโสภิตามากเช่นกัน จนอยากมีบ้านที่นี่สักหลัง“ถามจริงๆ นะ แกยังอยากไปต่างประเทศอยู่อีกหรือเปล่า”“ไป”“คุณปิลันธน์ไปด้วยใช่ไหม”“ไม่รู้” รติชาตอบเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ นั่นเพราะปิลันธน์เองก็มีงานที่ต้องทำที่นี่ คงไปอยู่กับเธออย่างถาวรที่ต่างประเทศไม่ได้ แต่จะใ

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 29

    “ครับผม” ปิลันธน์เอ่ยรับแล้วหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสที่จะเกิดขึ้น รติชาส่ายหน้าให้เขาเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวขึ้นไปหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ตามที่เขาร้องขอแต่จังหวะที่เธอกำลังขยับออกก็ถูกคนเมารวบตัวไว้แล้วมอบจูบให้อย่างดูดดื่มซึ่งรติชาเองก็จูบเขากลับไปเช่นกัน รสจูบของทั้งคู่ร้อนแรงเต็มไปด้วยความต้องการ ยิ่งมีกลิ่นแอลกอฮอล์เจืออยู่จางๆ ในรสจูบด้วยแล้วก็ยิ่งกระตุ้นให้เลือดในตัวสูบฉีดจนร้อนรุ่ม“อันที่จริงผมไม่อยากเมาแบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกเมื่อถอนจูบออก แววตาของปิลันธน์นั้นแพรวพราวเจ้าเล่ห์นัก“เดือดร้อนยังไงคะ” รติชาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะตอนนี้ปิลันธน์ก็ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนอะไรด้วยซ้ำ อีกอย่างการดูแลคนเมาเธอเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร“เพราะถ้าเมาผมยิ่งต้องการคุณ ผมจะกลืนกินจนคุณเข่าอ่อนมากกว่าทุกๆ ครั้ง”“ไม่เชื่อ”“ผมชอบจังที่คุณเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แบบนี้ เพร

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 28

    “ปิ่นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่ได้รู้จักคุณ” คำพูดของรติชาทำให้ปิลันธน์ยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับยื่นมือมาสัมผัสแก้มของเธออย่างอ่อนโยน“ผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอปิ่น” ทั้งคนพูดและคนฟังต่างยิ้มออกมาอย่างมีความสุขกับช่วงเวลาในขณะนี้ แต่ความรักที่ปิลันธน์มอบให้จากใจจริงก็ทำให้รติชารู้สึกผิดกับเขาอย่างบอกไม่ถูก นั่นเพราะแผนที่จะย้ายไปต่างประเทศก็ยังคงอยู่ เธอเหมือนคนโลภที่ไม่อยากเสียอะไรไปแม้แต่อย่างเดียวในที่สุดฤดีก็ยอมออกจากห้องและไปร่วมงานเผาศพของลูกชาย แม้จะทำใจยอมรับได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ร้องไห้และเป็นลมล้มพับไปหลายต่อหลายครั้งโดยมีสามีและลูกสาวคอยอยู่ข้างๆ งานวันนี้มีญาติ เพื่อนและคนรู้จักเดินทางมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและร่วมส่งร่างที่ไร้วิญญาณของน้องเอเป็นครั้งสุดท้ายมากมาย หนึ่งในนั้นคืออรสาและสามี ก่อนจะแปลกใจที่เห็นปิลันธน์อยู่ในงานด้วยอรสากำลังประติดประต่อเรื่องราว ยิ่งเห็นว่าทั้งคู่สนิทกันกว่าที่คิดก็ยิ่งให้จินตนาการไปไกล แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ของปิลันธน์กับรต

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 27

    ฤดีคว้ารูปของลูกชายมากอดอย่างคิดถึงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าทุกคน เธอยังคงร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารจนตัวไหวสะอื้น เสียงร้องไห้ของฤดีดังลงไปถึงชั้นล่างส่งผลให้ทุกคนที่ได้ยินอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกันรติชาเข้าไปสวมกอดพี่สะใภ้เป็นครั้งแรก แม้จะดูขัดๆ ไปบ้างแต่เธอก็อยากกอดเพื่อให้ฤดีรับรู้ว่าไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เพียงแค่คนเดียว อ้อมกอดของรติชายิ่งกระตุ้นให้ฤดีร้องออกมาหนักกว่าเดิมเสียอีก นั่นเพราะความรู้สึกผิดที่เคยทำไว้ต่อรติชามันผุดขึ้นมาเช่นกันและคนที่ตรงเข้ามากอดฤดีต่อจากนั้นคือสามีและลูกสาวคนเล็ก สามคนพ่อแม่ลูกนั่งร้องไห้และกอดกันกลมราวกับต้องการให้น้ำตาช่วยชะล้างความเสียใจครั้งนี้ออกไป รติชายืนปาดน้ำตาตัวเองเช่นกัน หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น เธอหวังแบบนั้นจริงๆ เมื่อเสร็จเรื่องเธอจึงขอตัวกลับ“นี่ก็ค่ำมากแล้วไม่นอนด้วยกันที่บ้านหรือปิ่น” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้น เพราะหลังจากกลับจากวัดรติชาก็ตรงมาบ้านเพื่อเข้าไปคุยกับฤดี“ไม่ดีกว่าค่ะแม่”“

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 26

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาลสิ่งที่รติชาเห็นคือภาพการร้องห่มร้องไห้ของพี่สะใภ้พร้อมกับเอ่ยโทษทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่พรากลมหายใจของลูกชายสุดที่รักไป ฤดีกอดร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชายไม่ยอมปล่อย ร้องไห้ปานจะขาดใจตายตาม ไม่สนใจใครทั้งนั้นแม้กระทั่งสามีและลูกสาวอีกคนการเสียชีวิตของน้องเอทำให้ชีวิตของฤดีเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ อาจเพราะความเสียใจอย่างกะทันหันเธอจึงตั้งสติรับไม่ทันจนกลายเป็นคนซึมเศร้าและไม่เอาอะไรทั้งนั้น วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องลูกชายไม่ยอมออกไปไหนแม้กระทั่งงานศพก็ไม่ไปร่วมงานแม้แต่วันเดียว“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป” ฤดีขว้างปาข้าวของใส่สามีที่พยายามเข้าไปคุยเรื่องลูกชาย แจกันดอกไม้ลอยมากระแทกเข้ากับใบหน้าจนเลือดอาบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่นึกโกรธเคืองแต่อย่างใดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้รติชาต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจัดการงานศพของหลานชาย เธอแทบไม่ได้พักด้วยซ้ำยังดีที่มีปิลันธน์คอยดูแลไม่งั้นกว่าจะเสร็จงานก็คงล้มพับไม่สบายไปอีกคน แม้ใครในงานจะสงสัยว่าปิลันธน์นั้นเป็นอะไรกับรติชา แต่บรรดาญาติๆ ก็ไม่กล้าถาม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status