Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-03-26 12:45:18

อรสาพารติชาไปยังโต๊ะทำงาน พอนั่งลงบนเก้าอี้ได้ก็เอนหลังพิงแล้วออกอาการนิ่วหน้าเล็กๆ เพราะลูกในท้องถีบชุดใหญ่

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่เอม”

“ลูกถีบน่ะ” 

“จริงเหรอคะ ปิ่นขอจับท้องหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ” อรสาเอ่ยรับ แต่คนขอจับดูกล้าๆ กลัว ว่าที่คุณแม่จึงยื่นมือไปจับมือของรติชาไว้แล้วนำมาวางบนหน้าท้องกลมๆ ของตัวเอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกดิ้นพอดี แม้จะยังไม่เคยท้องแต่รติชาก็รู้สึกมหัศจรรย์ใจกับการอุ้มท้องและการให้กำเนิดของผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้มาก

“ถีบใหญ่เชียว” 

“อื้อ...ถีบจนบางทีพี่ไม่ได้นอนเลยก็มี”

“ปิ่นขอโทษนะคะที่วันนี้มาสาย ทั้งๆ ที่เป็นวันทำงานวันแรกแท้ๆ”

“ไม่เป็นไร อีกอย่างเช้านี้บอสไม่เข้าด้วย มาอีกทีบ่ายๆ นั่นล่ะ” อรสาส่งยิ้มให้รติชา จากนั้นก็เริ่มสอนงานแต่เอาจริงเธอก็แทบไม่ต้องสอนอะไรเพราะนี่คืองานที่รติชาพอจะคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เรียนรู้บางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้นเอง 

กระทั่งพักเที่ยงทั้งคู่ก็ลงไปกินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไปเรียกได้ว่าเวลาพักช่างผ่านไปไวเพราะแป๊บๆ ทั้งสองก็กลับขึ้นมาทำงานแล้ว แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ระทึกเมื่ออรสาน้ำเดินและเกิดความโกลาหลขึ้นทันที จากนั้นรถพยาบาลก็มารับตัวว่าที่คุณแม่ไปโรงพยาบาล

รติชาอยากตามไปด้วยแต่คนกำลังจะคลอดกลับห้ามไว้บอกมีงานด่วนต้องส่งให้บอสและอยากให้รติชาทำแทน รติชาจึงจำต้องรับปากแต่ก็พอจะโล่งอกเพราะรู้ว่าสามีของอรสาไปรอที่โรงพยาบาลแล้ว เมื่อส่งอรสาเสร็จรติชาก็กลับมานั่งทำงาน ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความไปหาเจ้านายเพื่อแนะนำตัวและบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

‘สวัสดีค่ะ ฉันชื่อรติชาเป็นเลขาคนใหม่ ตอนนี้พี่เอมกำลังไปโรงพยาบาลเพราะน้ำเดินน่าจะคลอดเร็วๆ นี้ ฉันจึงรับหน้าที่ดูแลงานต่อ ซึ่งตอนนี้ฉันกำลังทำ...ขอความกรุณาบอสช่วยแนะนำว่านอกจากนี้ฉันควรทำอะไรบ้าง’

เมื่อพิมพ์ข้อความแจกแจงงานเสร็จรติชาก็กดส่งไปยังไลน์ของเจ้านายที่ตอนนี้เธอรู้ว่าเขาชื่อปิลันธน์ แม้จะสงสัยว่าทำไมเขาถึงชื่อเหมือนกับเจ้าของรถปอร์เช่ 911คันนั้นแต่คนชื่อซ้ำก็มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เมื่อคิดแบบนั้นรติชาจึงเลิกที่จะสงสัย ก่อนจะให้ความสนใจกับข้อความที่บอสส่งกลับมา

‘วันนี้ผมคงยังไม่มีอะไรแนะนำ แต่ถ้าไม่เป็นการรบกวนผมอยากได้ไฟล์งาน...ไฟล์สรุปยอดขาย...’ 

ปิลันธน์พิมพ์บอกว่าเขาต้องการอะไรบ้าง รติชาตั้งสติแล้วเริ่มงานของตัวเอง ยังดีที่ก่อนอรสาน้ำจะเดินได้บอกเธอไว้บ้างแล้วว่าวันนี้เจ้านายต้องใช้เอกสารอะไรเพื่อไปประชุมกับลูกค้า รติชาจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์สลับรับสายที่โทรเข้ามาเป็นระยะๆ กระทั่งกดส่งงานที่ปิลันธน์ต้องการไปแล้วจึงเป่าลมออกปากหนักๆ 

ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันสุดระทึกที่สุดในรอบปี เช้ามารถชนบ่ายอรสาน้ำเดิน ตอนนี้เธอจึงโซโล่ลุยงานที่ยังไม่คุ้นเคยตามลำพังแต่ถึงอย่างนั้นรติชาก็เอาตัวรอดมาได้ พอมีเวลาว่างจึงโทรศัพท์ไปหาสามีอรสาเพื่อสอบถามการคลอดของรุ่นพี่สาวว่าตอนนี้ถึงขั้นไหนแล้ว

ปากมดลูกเปิดสี่เซ็นคือประโยคที่สามีของอรสาเอ่ยบอก กว่าที่ปากมดลูกจะเปิดได้ตามที่หมอต้องการคงรออีกพักใหญ่ดีไม่ดีอาจคลอดคืนนี้ รติชาสลัดความคิดเรื่องอรสาออกไปจากสมองก่อนชั่วคราว ก่อนจะนั่งจัดการงานของตัวเองกระทั่งมารู้ตัวอีกทีคือเลยเวลาเลิกงานมาพอสมควรแล้ว

รติชานั่งบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบของร่างกาย โดยขณะนั้นปิลันธน์เองก็กำลังกลับเข้าออฟฟิศ ชายหนุ่มนั่งรถแท็กซี่มาจอดตรงประตูทางเข้า ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นก็รีบตรงมาเปิดประตูรถให้พร้อมกับตะเบ๊ะทำความเคารพทันที สีหน้ายังคงสงสัยเล็กๆ ว่าใครกันที่เป็นคนขับรถเจ้านายมาแถมเธอเหมือนจะทำงานที่นี่อีกด้วย แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปตั้งคำถาม

“นั่นมันรถฉันนี่” เมื่อหันไปมองเห็นรถตัวเองจอดอยู่ในตำแหน่งเดิม ทั้งๆ ที่เมื่อเช้าเขาไหว้วานผู้หญิงเจ้าของรถมินิคูเปอร์สีแดงคันนั้นให้ดูแทนเพราะติดประชุมด่วน แต่ทำไมตอนนี้รถเขาถึงมาจอดอยู่ที่นี่หรือเธอคนนั้นมาทำอะไรที่บริษัทเขา

“คนที่ขับรถฉันมาจอดที่นี่ใช่ผู้หญิงหรือเปล่า”

“ใช่ครับบอส” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอ่ยรับ

“แล้วเธอได้ฝากกุญแจรถไว้ไหม”

“ไม่ได้ฝากครับ เพราะว่า...” ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะทันได้เอ่ยจนจบประโยค เสียงของปิลันธน์ก็แทรกขึ้นเสียก่อน 

“ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันติดต่อเธอเองแล้วกัน”

“ครับ” เอ่ยรับเสร็จก็ตะเบ๊ะให้บอสหนุ่มอีกครั้ง ปิลันธน์พยักหน้ารับจากนั้นก็เดินเข้าออฟฟิศ ซึ่งสวนทางกับพนักงานบางคนที่เริ่มทยอยกลับบ้านเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างเอ่ยทักทายกันอย่างเป็นกันเอง จากนั้นปิลันธน์ก็ตรงไปยังห้องทำงานก่อนจะคิ้วขมวดเมื่อเห็นว่าคอมพิวเตอร์บนโต๊ะเลขาส่วนตัวยังเปิดหน้าจอค้างไว้อยู่ 

“ยังไม่กลับอีกเหรอ” คนที่ปิลันธน์เอ่ยถึงนั้นคือเลขาคนใหม่ที่มาทำงานได้ตรงกับวันที่อรสาคลอดพอดี ถ้าจำไม่ผิดเหมือนเธอจะบอกว่าชื่อ...รติชา

แต่เสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ที่ดังขึ้นจากใต้โต๊ะทำงานก็ดึงความสนใจของปิลันธน์จนต้องเดินอ้อมมาดูว่าใครกันอยู่ตรงนั้น กระทั่งเห็นผู้หญิงคนหนึ่งก้มๆ เงยๆ เหมือนกับกำลังหาอะไรสักอย่าง ชุดแบบนี้ทำไมถึงดูคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เขาก็ถึงบางอ้อเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาจากใต้โต๊ะ เพราะรีบรวมถึงตกใจทำให้ศีรษะเธอชนเข้ากับขอบโต๊ะทำงานอย่างจัง

“โอ้ย...เจ็บ” รติชาบ่นอุบรู้สึกเจ็บจี๊ดจะเห็นดาววนไปวนมารอบๆ ศีรษะ ก่อนจะรีบขยับออกมาให้ห่างแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า

“คุณ/คุณ” ทั้งปิลันธน์และรติชาต่างอุทานออกมาอย่างตกใจเพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอกัน

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 31 (จบ)

    “ก็ยังอยากมาทำงานนี่คะ”“สงสัยผมต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบายรอคุณแล้วมั่งเนี่ย”“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ น้ำเดินแล้วค่อยไปโรงพยาบาลก็ได้ ว่าแต่เหตุการณ์ตอนนี้มันคุ้นๆ เหมือนกันนะคะบอส ตอนนั้นเอมก็ท้องแก่แบบนี้แล้วก็ให้ปิ่นมาช่วยงาน ทำงานอยู่ดีๆ เอมก็น้ำเดินจนต้องรีบไปโรงพยาบาล พูดแล้วก็คิดถึงปิ่น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” อรสาคิดถึงรติชามากจริงๆ แต่เพราะยุ่งๆ ระยะนี้จึงไม่ค่อยได้คุยกันเท่าที่ควร“สบายดีครับ วันก่อนพึ่งจะไปเล่นสกีมา”“เอมประทับใจความรักของบอสกับปิ่นจริงๆ นะคะ อยากให้มีคนเอาไปทำละครจัง”“งั้นช่วยตัดช่วงที่ผมกลัวแมลงออกก็ดีนะครับ” ปิลันธน์เอ่ยติดตลก เพราะคงไม่มีพระเอกที่ไหนกลัวแมลง“เอางั้นเหรอคะ”“ครับ”“สรุปบอสจะไม่รับเลขาจริงๆ เหรอคะ” อรสาเอ่ยถามอีกครั้ง“ไม่ครับ ผมจัดการงาน

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 30

    “ทำไมหรือว่าคุณปิลันธน์ไม่อยากให้ปิ่นทำงาน”“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่ปิ่นคิดว่าที่บริษัทไม่เหมาะกับปิ่น ยังไงปิ่นฝากพี่ฤดีดูแลและรักษามันด้วยนะคะ” รติชาส่งยิ้มให้ฤดี ซึ่งอีกคนก็ส่งยิ้มที่ออกมาจากใจให้รติชาเป็นครั้งแรกเช่นกัน“พี่สัญญา” ฤดีเอ่ยรับอย่างหนักแน่น เมื่อหยุดคิดว่าตัวเองนั้นดีหรือวิเศษกว่าใครลงได้ ก็เหมือนเปิดโลกให้ฤดีมองเห็นความดีของคนอื่นและใช้ชีวิตในเส้นทางที่ถูกที่ควรหลังจากนั้นอีกสามวันรติชาก็พาปิลันธน์ไปหาโสภิตาที่เชียงราย ซึ่งครั้งนี้คนที่ถูกแซวจนหน้าแดงก่ำคือเธอบ้าง ส่วนปิลันธน์นั้นก็เหมือนจะชอบการใช้ชีวิตที่ไร่ของโสภิตามากเช่นกัน จนอยากมีบ้านที่นี่สักหลัง“ถามจริงๆ นะ แกยังอยากไปต่างประเทศอยู่อีกหรือเปล่า”“ไป”“คุณปิลันธน์ไปด้วยใช่ไหม”“ไม่รู้” รติชาตอบเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ นั่นเพราะปิลันธน์เองก็มีงานที่ต้องทำที่นี่ คงไปอยู่กับเธออย่างถาวรที่ต่างประเทศไม่ได้ แต่จะใ

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 29

    “ครับผม” ปิลันธน์เอ่ยรับแล้วหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสที่จะเกิดขึ้น รติชาส่ายหน้าให้เขาเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวขึ้นไปหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ตามที่เขาร้องขอแต่จังหวะที่เธอกำลังขยับออกก็ถูกคนเมารวบตัวไว้แล้วมอบจูบให้อย่างดูดดื่มซึ่งรติชาเองก็จูบเขากลับไปเช่นกัน รสจูบของทั้งคู่ร้อนแรงเต็มไปด้วยความต้องการ ยิ่งมีกลิ่นแอลกอฮอล์เจืออยู่จางๆ ในรสจูบด้วยแล้วก็ยิ่งกระตุ้นให้เลือดในตัวสูบฉีดจนร้อนรุ่ม“อันที่จริงผมไม่อยากเมาแบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกเมื่อถอนจูบออก แววตาของปิลันธน์นั้นแพรวพราวเจ้าเล่ห์นัก“เดือดร้อนยังไงคะ” รติชาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะตอนนี้ปิลันธน์ก็ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนอะไรด้วยซ้ำ อีกอย่างการดูแลคนเมาเธอเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร“เพราะถ้าเมาผมยิ่งต้องการคุณ ผมจะกลืนกินจนคุณเข่าอ่อนมากกว่าทุกๆ ครั้ง”“ไม่เชื่อ”“ผมชอบจังที่คุณเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แบบนี้ เพร

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 28

    “ปิ่นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่ได้รู้จักคุณ” คำพูดของรติชาทำให้ปิลันธน์ยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับยื่นมือมาสัมผัสแก้มของเธออย่างอ่อนโยน“ผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอปิ่น” ทั้งคนพูดและคนฟังต่างยิ้มออกมาอย่างมีความสุขกับช่วงเวลาในขณะนี้ แต่ความรักที่ปิลันธน์มอบให้จากใจจริงก็ทำให้รติชารู้สึกผิดกับเขาอย่างบอกไม่ถูก นั่นเพราะแผนที่จะย้ายไปต่างประเทศก็ยังคงอยู่ เธอเหมือนคนโลภที่ไม่อยากเสียอะไรไปแม้แต่อย่างเดียวในที่สุดฤดีก็ยอมออกจากห้องและไปร่วมงานเผาศพของลูกชาย แม้จะทำใจยอมรับได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ร้องไห้และเป็นลมล้มพับไปหลายต่อหลายครั้งโดยมีสามีและลูกสาวคอยอยู่ข้างๆ งานวันนี้มีญาติ เพื่อนและคนรู้จักเดินทางมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและร่วมส่งร่างที่ไร้วิญญาณของน้องเอเป็นครั้งสุดท้ายมากมาย หนึ่งในนั้นคืออรสาและสามี ก่อนจะแปลกใจที่เห็นปิลันธน์อยู่ในงานด้วยอรสากำลังประติดประต่อเรื่องราว ยิ่งเห็นว่าทั้งคู่สนิทกันกว่าที่คิดก็ยิ่งให้จินตนาการไปไกล แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ของปิลันธน์กับรต

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 27

    ฤดีคว้ารูปของลูกชายมากอดอย่างคิดถึงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าทุกคน เธอยังคงร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารจนตัวไหวสะอื้น เสียงร้องไห้ของฤดีดังลงไปถึงชั้นล่างส่งผลให้ทุกคนที่ได้ยินอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกันรติชาเข้าไปสวมกอดพี่สะใภ้เป็นครั้งแรก แม้จะดูขัดๆ ไปบ้างแต่เธอก็อยากกอดเพื่อให้ฤดีรับรู้ว่าไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เพียงแค่คนเดียว อ้อมกอดของรติชายิ่งกระตุ้นให้ฤดีร้องออกมาหนักกว่าเดิมเสียอีก นั่นเพราะความรู้สึกผิดที่เคยทำไว้ต่อรติชามันผุดขึ้นมาเช่นกันและคนที่ตรงเข้ามากอดฤดีต่อจากนั้นคือสามีและลูกสาวคนเล็ก สามคนพ่อแม่ลูกนั่งร้องไห้และกอดกันกลมราวกับต้องการให้น้ำตาช่วยชะล้างความเสียใจครั้งนี้ออกไป รติชายืนปาดน้ำตาตัวเองเช่นกัน หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น เธอหวังแบบนั้นจริงๆ เมื่อเสร็จเรื่องเธอจึงขอตัวกลับ“นี่ก็ค่ำมากแล้วไม่นอนด้วยกันที่บ้านหรือปิ่น” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้น เพราะหลังจากกลับจากวัดรติชาก็ตรงมาบ้านเพื่อเข้าไปคุยกับฤดี“ไม่ดีกว่าค่ะแม่”“

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 26

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาลสิ่งที่รติชาเห็นคือภาพการร้องห่มร้องไห้ของพี่สะใภ้พร้อมกับเอ่ยโทษทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่พรากลมหายใจของลูกชายสุดที่รักไป ฤดีกอดร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชายไม่ยอมปล่อย ร้องไห้ปานจะขาดใจตายตาม ไม่สนใจใครทั้งนั้นแม้กระทั่งสามีและลูกสาวอีกคนการเสียชีวิตของน้องเอทำให้ชีวิตของฤดีเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ อาจเพราะความเสียใจอย่างกะทันหันเธอจึงตั้งสติรับไม่ทันจนกลายเป็นคนซึมเศร้าและไม่เอาอะไรทั้งนั้น วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องลูกชายไม่ยอมออกไปไหนแม้กระทั่งงานศพก็ไม่ไปร่วมงานแม้แต่วันเดียว“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป” ฤดีขว้างปาข้าวของใส่สามีที่พยายามเข้าไปคุยเรื่องลูกชาย แจกันดอกไม้ลอยมากระแทกเข้ากับใบหน้าจนเลือดอาบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่นึกโกรธเคืองแต่อย่างใดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้รติชาต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจัดการงานศพของหลานชาย เธอแทบไม่ได้พักด้วยซ้ำยังดีที่มีปิลันธน์คอยดูแลไม่งั้นกว่าจะเสร็จงานก็คงล้มพับไม่สบายไปอีกคน แม้ใครในงานจะสงสัยว่าปิลันธน์นั้นเป็นอะไรกับรติชา แต่บรรดาญาติๆ ก็ไม่กล้าถาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status