ในวันแห่งการโกหก ขวัญเมษานักร้องสาวแสนสวยได้พบกับ พี่หมอก เจ้าของผับหนุ่มใหญ่ผู้หล่อเหลาลุคแดดดี้ ทว่าแท้จริงแล้วเขาก็คือ อาจารย์หมอเมธากร หรือหมอเมธ หมอใหญ่ทายาทเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างป้อนคำโกหกให้กัน เธอก็ดันตกหลุมรักเขาเข้าจริง ๆ เนื้อเรื่องสไตล์ฟีลกู้ด โนดราม่า ระหว่างสาวจบใหม่กับคุณลุงหมอคลั่งรักเด็ก ฉากอีโรติกเยอะฉ่ำ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
view more1 เมษายน วัน April Fool’s Day
@ผับ Falling in You
กลิ่นอายอบายมุขนี่มันหอมคละคลุ้งเยียวยาหัวใจได้ดีจริงๆ!
นั่นเป็นความคิดแรกของ ‘นายแพทย์เมธากร เขมาภิวัฒน์’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘อาจารย์หมอเมธ’ ทันทีที่ก้าวเข้ามายังผับสุดหรูของเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคย์’ ใครจะคิดละว่านายแพทย์อย่างเขาที่ควรจะเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม รับประทานอาหารสุขภาพ และตื่นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำที่บอกคนไข้ทุกราย แท้จริงแล้ว...วิธีผ่อนคลายที่ดีสุดๆ มันจะมีอะไรไปได้นอกเสียจาก ‘การร่ำสุรา’
ร่างสูงโปร่งดูสง่าดุดันแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กางเกงยีนส์รัดรูปตัวโปรด ทรงผมเซ็ตเสยอย่างเป็นธรรมชาติ เดินตรงเข้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไอ้เจ้าของผับหน้าเข้มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิวายข้างกายมันยังมีสาวสวยอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ดูผ่านๆ ไม่ต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อชิ้นใหญ่แปะอยู่ตรงกลาง
“หึ” นายแพทย์หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมองเพื่อนด้วยสายตาเคยชิน
“ไงไอ้หมอ! ลมอะไรหอบมึงมาหากูที่นี่คืนนี้วะ” ภาคย์ทักเพื่อนพลางหันไปหอมแก้มสาวๆ คนละฟอดอย่างเท่าเทียมกัน
“กูหิวเหล้า” เขาตอบนิ่งๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับภาคย์ เหล่มองสาวข้างกายของมันที่คอยแต่ทำสายตาเชื้อเชิญเขาทั้งที่กำลังนั่งอยู่ข้างไอ้เสือหิวตัวโตนั่นแท้ๆ
หากเป็นผู้ชายคนอื่นคงนึกอยากจะเรียกเธอมานั่งปรนนิบัติใกล้ๆ ทว่าไม่ใช่สำหรับอาจารย์นายแพทย์ผู้มั่งคั่งอย่างเขา! หลายคนอาจจะมองว่า ‘สุราและนารี’ นั้นเป็นของคู่กัน แต่สำหรับเมธากรแค่มี ‘สุรา’ ก็เพียงพอแล้ว ส่วนนารี...ไว้จะมีเดี๋ยวก็คงมีเอง เพราะเขาไม่มีรสนิยมวันไนท์สแตนด์กับใคร!
“งานเยอะ?” เจ้าของผับชงเหล้าให้เพื่อนอย่างเชื่องช้าก่อนจะยื่นให้มัน เขากับเมธากรเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แม้เมธากรจะหลงรักการดื่มเป็นชีวิตจิตใจแต่มันกลับแยกแยะเรื่องงานออกจากชีวิตส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เพื่อนรักเขาเลือกที่จะเป็นหมอและขยับขึ้นเป็นอาจารย์แพทย์ในเวลาต่อมา
ส่วนภาคย์น่ะหรือ...เขาหลงใหลในชีวิตกลางคืนและทุกสิ่งที่เป็น ‘สีเทา’ ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ หรือแม้แต่บ่อนกาสิโน แต่ถึงอย่างนั้นธุรกิจของเขาก็ทำอย่างมีขอบเขตไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนใกล้ตัว ดังนั้นเขากับไอ้หมอหล่อคนนี้จึงยังคบหาเป็นเพื่อนกันมานานหลายสิบปี
“เออ กูเพิ่งเสร็จจากเคสผ่าตัดที่กินเวลาต่อเนื่องไปแปดชั่วโมง แถมเมื่อเช้าก็เพิ่งสอนนักศึกษาแพทย์ กลับมายังไม่ทันได้พักก็ต้องเคลียร์งานบริหารของโรงพยาบาลอีก จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้แดกอะไรเลย”
“แล้วก็เสือกแดกเหล้าก่อนข้าวด้วยนะ เยี่ยมจริงๆ ไอ้หมอเมธ” ภาคย์ขำให้กับการปฏิบัติตัวที่ต่างสุดขั้วกับหน้าที่การงานของเมธากร แต่ถึงอย่างนั้นก็เข้าใจดีว่าด้วยภาระหน้าที่อันหนักอึ้งอาจจะทำให้มันเครียดจนอยากผ่อนคลายบ้าง
เมธากรเป็นทายาทคนโตของเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเครือภิวัฒน์บำรุง โรงพยาบาลที่มีสาขากระจายอยู่หลายจังหวัด พอเรียนจบเขาเลยต่อแพทย์เฉพาะทาง กลายเป็นแพทย์ศัลยกรรมประสาทและสมอง ที่มีชื่อเสียงด้านฝีมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย เรียกได้ว่าหล่อ รวย คว-เลี่ยมทองของแท้ ทว่า...ไอ้หมอหนุ่มใหญ่คนนี้กลับยังโสดไร้สาวข้างกายเสียได้!
“ให้น้องๆ ดูแลหน่อยไหม” ภาคย์หยั่งเชิงอีกครั้ง ทว่ากลับได้รับเพียงสายตาดุดันที่มองมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีว่า…ต่อให้ยุยงให้ตาย ไอ้หมอคุณธรรมล้ำเลิศคนนี้มันก็ไม่คิดที่จะ ‘กิน’ ผู้หญิงไปเรื่อย
เมื่อนั้นเจ้าของบาร์จึงหันไปสั่งให้สาวสวยทั้งสองคนออกไปก่อนเพื่อใช้เวลาคุยกันตามประสาหนุ่มๆ
“อะไรกันวะ อยู่มาจะค่อนชีวิตแล้วมึงไม่คิดอยากลองวันไนท์กับใครสักคนเลยหรือไง” ภาคย์เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ พร้อมสอดส่องสายตามองบรรดาลูกค้าสวย ๆ ในผับ
“กูไม่ชอบมึงก็รู้” เมธากรตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก พลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างเมามัน ราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่าก็ไม่ปาน หากแต่เขารู้ลิมิตของตัวเองดี คนอย่างหมอเมธไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเมามายไร้สติจนกลับบ้านไม่ได้ต้องเป็นภาระของใคร
“มึงไม่ได้คบใครมาตั้งนานแล้ว ไม่อึดอัดบ้างเหรอวะ” เจ้าของบาร์หนุ่มยังคงสงสัยอยู่ เพราะหากเป็นเขา...แค่อาทิตย์เดียวที่ไม่ได้กอดก่ายผู้หญิงก็รู้สึกว่าจะขาดใจแล้ว
“แล้วมันมีวิธีระบายแค่นอนเอากับผู้หญิงหรือไง?” นายแพทย์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงอยู่ว่าเขาไม่นิยมนอนกับผู้หญิงที่รู้จักกันแค่คืนเดียว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะด้านชาจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องอย่างว่า ผู้ชายที่อยู่มาถึงอายุสี่สิบปี อย่างเขาย่อมมีวิธีปลดปล่อยด้วยตัวเองมากมายจนไม่จำเป็นต้องนอนกับใคร
“เออๆ แต่มึงมาคืนนี้ก็ดี เพราะคืนนี้มีวงดนตรีเพลงร็อคสไตล์ที่มึงชอบมาเล่นด้วย จะว่าไปก็คิดถึงสมัยเรียนเหมือนกันนะ มึงแม่งเป็นนักร้องนำวงมหาลัยที่สาวๆ กรี๊ดหนักสุดในรุ่นแล้วกูว่า นี่ถ้ามึงไม่อินดี้นะ…ป่านนี้มีเมียมีลูกไปแล้วไอ้หมอ” ภาคย์ยังคงจำได้แม่น ตอนนั้นไม่ว่าจะดาวคณะไหนต่างก็ให้ความสนใจเมธากรเสียจนหนุ่ม ๆ หลายคนต่างพากันอิจฉา รวมถึงเขาเองก็ด้วย เพราะไอ้เวรนี่ไม่ยอมคบหาใครเป็นจริงเป็นจัง จะมีก็แต่ลองคบดู พอผ่านไปสามเดือนก็เลิกราจนตอนนี้เขาเองก็ได้แต่ลุ้นว่าใครกันจะมาเป็นคู่ชีวิตของมัน
หรือจะโสดไปจนแก่ตายให้ผู้หญิงเสียดายเล่น?
“กูไม่รีบครับ ถ้ามึงรีบก็แต่งงานไปก่อนกูเลย” เมธากรตอบยิ้มๆ ไม่สะทกสะท้านใดๆ
“ไอ้เมธ! ถ้ากูรูปหล่อพ่อรวยแถมสมองอัจฉริยะอย่างมึงกูไม่โสดมาถึงวันนี้หรอกโว้ย อายุเราก็ล่อไปไกลแล้ว มึงไม่กลัวจะแก่ตายไปก่อนหรือไง นี่น้องชายสองคนของมึงก็ชิงแต่งงานมีลูกไปหมดแล้ว มึงไม่อยากมีบ้างเหรอวะ”
“นี่ไอ้ภาคย์ กูจะบอกอะไรมึงให้นะ สี่สิบนี่แหละเป็นช่วงชีวิตที่ผู้ชายมีเสน่ห์ดึงดูดที่สุด” นายแพทย์เมธากรตอบอย่างมั่นอกมั่นใจในเสน่ห์อันล้นเหลือของตัวเอง
แต่ก็จริงของภาคย์ที่ว่า ‘ณัฐกร’ กับ ‘เขมกร’ สองหมอผู้เป็นน้องชายในสายเลือดต่างแต่งงานมีลูกนำพี่ชายของมันไปหมดแล้ว แต่เมธากรกลับไม่รู้สึกกดดันอะไร เขามีความเชื่อว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวเสมอไป หากแต่ก็ไม่ได้ปิดใจเสียทีเดียวเพียงแต่เขายังไม่เจอผู้หญิงที่พร้อมจะมอบตำแหน่งแม่ของลูกให้ก็เท่านั้นเอง…
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน
Mga Comments