“นี่ปล่อยนะ จะมากอดทำไม” ยัยตัวแสบทั้งดิ้นทั้งหยิกผมแล้วตอนนี้ แต่ผมเลือกที่จะเงียบไม่ตอบเธอ
“...........”
“นี่กอดทำไม ปล่อย เจ็บนะ” เมื่อเธอไม่เห็นผมตอบเธอก็ยิ่งดิ้น
จนผมอดใจไม่ไหวแล้ว ผมจับหน้าเธอหันมาหาผม แล้วบดจูบขยี้ริมฝีปากเล็กนั่นทันที ผลใช้ลิ้นของผมเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กของเธอ ทันทีที่ผมได้สัมผัสกับความหวานล้ำในโพรงปากของเธออย่างไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน มันเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ผมต้องการและต้องการเธอคนนี้ จากตอนแรกที่ผมบดจูบเธออย่างต้องการจะลงโทษก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียกร้องทันที ริมฝีปากร้อนระอุของผม บดย้ำ ดึงดูดเก็บเกี่ยวเอาความหอมหวานจากริมฝีปากของคนตัวเล็กเข้ามาในอุ้งปากของผมทันทีอย่างหลงใหล
ลินตัวแข็งท่อทำอะไรไม่ถูก เหมือนจะตกใจทั้ง ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่จูบแรกที่โดนผมจูบสักหน่อย แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เธอไม่ได้สติ มันทำให้ผมไม่อยากถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากเธอเลย ผมคงหลงเสน่ห์เธอจริง ๆ เข้าแล้วล่ะ เพราะผมแทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าไม่ได้อยู่กันสองคน ผมได้สติก็ตอนเธอครางปฏิเสธผมนั่นล่ะ
“อื้อ อื้อ” ผมผละปากออกจากปากเธอแล้วมองหน้าเธอนิ่ง ใช่ถึงผมจะจูบเธอด้วยการลงโทษไปแล้วแต่มันก็ยังไม่ทำให้ผมหายโกรธหรอกนะ ยิ่งเมื่อนึกถึงตอนไอ้โทมัสมันโอบเอวเธอผมก็ยิ่งโมโห มองเธอนิ่ง ๆ
“ไง ยังจะดื้ออีกไหม” ผมถามเธอ
เธอไม่ตอบแต่เม้มริมฝีปากแน่น มือของเธอขย้ำเสื้อผมแน่นเลยล่ะ แถมสายตาที่ใช้มองผมน่ะ ยังเป็นสายตาที่ติดจะงอน ๆ ด้วย และเหมือนเธอจะนึกได้ว่าไม่ได้อยู่กับผมแค่สองคน แต่มันยังมีเพื่อนเธอและเพื่อนผมอยู่ด้วย เธอจึงหันหน้ากลับไปมองพวกนั้นแล้วก็ได้เห็นสายตามองเธออย่างล้อ ๆ ทั้งสายตาจากเพื่อนของผมและของเธอ
“มองอะไรกัน แฮปปี้มากไง” เธอแขวะพวกนั้นอย่างโกรธ แต่พวกมันก็ไม่มีทีท่าจะสลดเลยแถมยังยิ้มขำ ๆ ออกมาอีกต่างหาก
“โอ๊ะโอ โดนจูบกระชากวิญญาณ เป็นไงบ้างล่ะ หึหึ” เสียงนี่เป็นเสียงของไอ้คิมเจ้าของผับมันถามลลินอย่างล้อ ๆ
“ไอ้” ลลินมองทุกคนสลับกันก่อนจะหันหน้ามาหาผมด้วยสายตาเหมือนจะบอกว่า เพราะผมคนเดียวที่ทำให้เธอถูกล้อจนต้องอับอาย
“พอแล้วน่า เดี๋ยวคู่หมั้นฉันจะอกแตกตายซะก่อน” ผมปรามทุกคนก่อนจะมองเธออย่างกวน ๆ
“เอ่อ พี่ลินคะ แล้วเรียบร้อยไหมคะ” น้องแพรวถามลลิน แต่ผมอยากรู้ว่าเรื่องอะไร
“หึ มือชั้นนี้แล้ว ไม่มีพลาดหรอกน่า” เธอระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะตอบน้องแพรว
“ว่าแต่ของของแกเถอะยัยแพรว ใช้งานได้แน่นะ” เสียงนี้เป็นเสียงของปรางค์เพื่อนยัยตัวแสบถามขึ้น
“โธ่ เจ๊ มือชั้นนี้แล้ว ต่อให้โดนน้ำก็ไม่เปียก” น้องแพรวตอบยิ้ม ๆ
“หึ งั้นก็ดีสิ เราจะได้รู้อะไร ๆ มากขึ้น” น้องมีนพูดขึ้นบ้าง ผมทนไม่ไหวล่ะต้องถาม
“เดี๋ยวทำไรกัน หมายถึงอะไร พลาดไม่พลาด” ผมถามขึ้น
“นั่นสิ” พร้อมเสียงประสานเสียงของไอ้สามตัวที่นั่งอยู่ยัยตัวแสบยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบพวกผม จนทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ
“แก ฉันกลับก่อนนะ” ปรางค์พูดอีกครั้งหลังจากเงียบไปนาน
“อืม” ลินตอบรับเบา ๆ จากนั้นน้องปรางค์ก็เดินออกไปโดยมีไอ้ตินเดินตามออกไปเงียบ ๆ
“เจ๊ลิน แพรวไปก่อนนะ พรุ่งนี้มีเรียนเดี๋ยวไม่ตื่น” น้องแพรวพูดบ้าง
“อืม” ยัยตัวแสบก็ตอบรับเสียงเบา ๆ อีกครั้ง จากนั้นแพรวก็เดินออกไปโดยมีไอ้มาร์คัสจูงมือเดินออกไป ไม่สิจะเรียกว่าจูงมือหรือจับมือคงไม่ถูก เพราะมันกระชากน้องเขาไปเลยต่างหาก หึ พี่น้องคู่นี้นี่มันร้ายทั้งคู่จริง ๆ ในที่สุดก็เหลือแค่คู่ของผมกับไอ้คิม ก็เพื่อนกันก็รู้นิสัยกันใช่ไหม ผมจึงลุกขึ้นกระชากยัยตัวแสบให้ลุกตามทันที
“อ๊ะ!” เธอหลุดเสียงออกมาเล็กน้อย
“ไป กลับ” ผมพูดจบก็กระชากร่างบางออกมาจากคลับทันที
ผมได้ยินเสียงเพื่อนเธอเรียกแว่ว ๆ แต่ใครสนล่ะ ตอนนี้ผมต้องการปราบพยศเด็กดื้อนิดหน่อย และผมก็ทำสำเร็จโดยการกระชากเธอเข้ามาในรถของผมเรียบร้อยพร้อมขับออกไปทันที
“นี่พี่มาร์ท จะพาลินไปไหน นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนะคะพาลินกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
“ใครบอกว่าพี่จะพาเธอกลับบ้าน เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลย”
“เคลียร์อะไรคะ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์หนิ”
เธอถามผมแต่ผมไม่ตอบ ตอนแรกก็ไม่โมโหหรอกแต่พอเห็นท่าทีเธอที่ทำราวกับว่าผมไปฉุดกระชากลากถูกเธอมาทำมิดีมิร้ายเท่านั้นแหละ ของมันขึ้นเลย แล้วยิ่งนึกถึงตอนเธออยู่ที่คลับให้ไอ้โทมัสมันโอบกอดอย่างเต็มใจนั่นอีก ยิ่งทำให้ผมโมโห และตอนนี้รถของผมก็เข้ามาจอดที่โรงจอดรถของคอนโดผมเรียบร้อยแล้ว
เอี๊ยด ปัง!
“ลงมาจากรถ เร็วสิ” ผมพูดอย่างโกรธ ๆ ยิ่งนึกยิ่งโกรธ
“ไม่ เรื่องบ้าอะไรลินต้องลงจากรถด้วยล่ะ” เธอตอบผม
“ลงมา!” ผมตะคอกใส่เธออีกครั้ง
“ไม่!” เธอก็ตะคอกใส่ผมเหมือนกัน ตอนนี้อารมณ์ผมไม่ปกติแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองโมโหมาก ๆ เลยล่ะ
“แน่ใจนะ ว่าจะไม่ลง ได้” ผมพูด
“นี่หยุดนะ จะทำอะไรน่ะ อ๊าย กรี๊ดดดด” ผมก็กระชากร่างบางลงจากรถ และจัดการอุ้มเธอพาดบ่าทันที
“ปล่อยนะ ปล่อยสิ ว้าย” เธอร้องอยู่บนบ่าผม แต่ใครสน ผมโกรธจนคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว
“เงียบ! ถ้าไม่เงียบอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะลิน” ผมพูดอย่างโกรธ ๆ ยิ่งนึกถึงภาพไอ้โทมัสก็ยิ่งโกรธ
“ฝันไปเถอะ ปล่อยลินนะพี่มาร์ท” เธอบอกผม
“เออ! ไม่เงียบใช่ไหมงั้นก็ร้องไปเลย ห้ามหยุดร้องด้วยนะ” ผมพูดจบก็เดินเข้าไปในคอนโดโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น
ผมรู้แค่ว่าผมโกรธผมโมโห ใช่ผมหึงเธอ หวงเธอ และวันนี้แหละผมจะปราบพยศเธอให้ได้ ถ้าวันนี้ผมทำอะไรเธอไม่ได้ อย่ามาเรียกผมว่ามาร์ทปีศาจในคราบเทพบุตรเลย วันนี้แหละผมจะทำให้เธอรู้ว่า เธอเป็นของผม! ร่างกายและใจเธอเป็นของผม ตัวผู้หน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น หึ
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา