“ชื่อฉายใช่ไหม”
“ค่ะ หนูชื่อจันทร์ฉาย เอ่อ... คุณท่านเรียกฉายก็ได้ค่ะ”
จันทร์ฉายตอบด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ ยิ่งเมื่อเห็นสายตาราวกับแม่เสือของคุณแม่สงกรานต์มองมาหญิงสาวก็ยิ่งเกร็ง
“เรียกคุณพ่อเถอะไหน ๆ ก็จะมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“...”
หญิงสาวไม่ตอบทำเพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้คุณพ่อของสงกรานต์เท่านั้น
“คุณสา... คุณก็เลิกมองหนูฉายได้แล้ว ดูสินั่นนั่งตัวเกร็งแล้ว” คุณพ่อของชายหนุ่มหันมาพูดกับภรรยาตัวเอง
คุณสา หรือ สารภี คือชื่อของคุณแม่ของสงกรานต์ที่กำลังทำหน้าเหมือนแม่เสือจ้องมองหญิงสาวอยู่ตอนนี้
ส่วนคุณพ่อของสงกรานต์ท่านมีชื่อว่า โกเมศ หรือ เมศ ชายวัยกลางคนที่มีนิสัยใจดีและเข้าอกเข้าใจผู้เป็นลูกชายที่สุด
“หน้าตาสะสวยดูมีการศึกษาทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองท้อง”
จึก!
ประโยคคำถามเดียวของคุณแม่สงกรานต์กลับทำให้จันทร์ฉายรู้สึกหน้าชา เพียงคำถามเดียวกลับทำให้เธอรู้สึกจุกอก จะให้เธอบอกกับท่านได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้ตั้งใจท้อง แต่ที่ท้องเพราะพลาด แล้วใครเขาจะไปเชื่อ
ดวงตาของจันทร์ฉายไหวระริก
“คุณแม่ครับ!”
สงกรานต์ปรามคุณแม่ตัวเองเสียงต่ำ พร้อมมองท่านด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนัก
“ที่ถามเพราะเห็นว่าหน้าตาดี อายุน่าจะยังน้อย มาท้องตอนนี้แล้วความฝันหรืออนาคตที่เธอใฝ่ฝันล่ะจะทำยังไง ไม่ได้ถามเพราะต้องการจะต่อว่าสักหน่อย เราก็ไม่ต้องมองแม่ด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะตาสง”
คุณสารภีพูดยาว ในส่วนแรกท่านต้องการพูดกับจันทร์ฉาย ส่วนประโยคหลังท่านต้องการพูดกับลูกชายตัวดี
จันทร์ฉายยิ้มบางแต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามของคุณแม่สงกรานต์อยู่ดี หญิงสาวกำลังคิดถึงอนาคตของเธอ สิ่งที่เธอใฝ่ฝัน
จันทร์ฉายยอมรับว่าการที่เธอท้องมันทำให้ชีวิตเธอสะดุด อะไรหลาย ๆ อย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด แต่ว่าการที่เธอท้องก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำสิ่งที่คิดหรือความฝันของตัวเองให้เป็นจริงไม่ได้นี่
“เอาเถอะถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร”
“ฉายตอบได้ค่ะ”
“...” คุณสารภีไม่ได้พูดอะไร ท่านเพียงมองสบตากับหญิงสาวอย่างรอคอยเท่านั้น
“ฉายยอมรับนะคะว่าฉายท้องในขณะที่ตัวฉายยังไม่พร้อม รวมถึงการที่ฉายท้องทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของฉายรวนไปหมด แต่ว่าถึงฉายจะท้องก็ไม่ได้หมายความว่าฉายจะทำสิ่งที่ฉายต้องการไม่ได้”
“เธอกำลังจะบอกว่าเธอจะทำสิ่งที่คิดและคาดหวังในระหว่างที่เธอท้อง”
“ใช่ค่ะ ถึงมันจะเหนื่อยหน่อยแต่ฉายก็จะทำมัน”
หญิงสาวตอบพร้อมแววตาสุกสกาวทำเอาคุณสารภีลอบพยักหน้าให้กับความคิดและคำพูดของเธอ
“แต่หนูฉายทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาของตาสงไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ คือเรื่องนั้น... ฉายเขียนจดหมายลาออกเรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอพูดพร้อมกับปรายสายตามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เล็กน้อย
“ว่าไงนะ! เขียนเมื่อไหร่ ตอนไหน ทำไมพี่ไม่รู้”
สงกรานต์ที่เพิ่งรู้ว่าคนตัวเล็กเขียนจดหมายลาออกก็โวยวายเสียงดังพร้อมทั้งหันไปมองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“หมายความว่ายังไงที่ลาออก” ครั้งนี้เป็นคุณสารภีที่ถาม
ตอนแรกจันทร์ฉายไม่คิดจะตอบคำถามของสงกรานต์ ทว่าเมื่อคุณแม่ของเขาถามขึ้นทั้งยังมีสายตามองมาด้วยความอบอุ่นแต่ว่ากดดันของคุณโกเมศพ่อของชายหนุ่มแล้วล่ะก็ เธอจะไม่พูดก็คงไม่ได้
“ว่าไงฉาย!”
สงกรานต์ถามย้ำ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะพูดมันออกมา
“ฉายลาออกตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องค่ะ แต่จดหมายน่าจะยังไปไม่ถึงพี่สง เพราะฉายบอกพี่มดที่เป็นเลขาของพี่สงว่าให้ยื่นจดหมายลาออกของฉายนี้เมื่อตอนที่ฉายกลับต่างจังหวัดแล้ว”
เธอตอบสงกรานต์ ก่อนจะหันไปมองผู้ใหญ่ทั้งสองท่านแล้วพูดต่อว่า
“ที่ฉายลาออกเพราะฉายต้องการกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัดค่ะ และทำสิ่งที่ฉายอยากทำหรือความฝันของฉายเล็ก ๆ ที่นั่น กับครอบครัวที่ฉายเหลืออยู่ทั้งสองคนรวมถึงลูกของฉายที่กำลังจะเกิดมา” เธอพูดพร้อมกับก้มหน้ามองท้องของตัวเองที่ตอนนี้ยังแบนราบอยู่
“กลับต่างจังหวัดนี่คงไม่ได้คิดจะหอบเอาหลานของฉันกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าวตาสงหรอกนะ”
คุณสารภีพูดพร้อมกับมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาไม่พอใจปนกับไม่ยินยอม
ได้ยังไงกัน นี่มันหลานคนแรกของท่านนะ หลานที่เกิดจากลูกชายของท่าน ไม่ใช่หลานที่เกิดจากเครือญาติหรือลูกพี่ลูกน้อง ถึงจะยังไม่แน่ชัดในสถานะความสัมพันธ์และความรู้สึกของทั้งสองคน แต่ท่านก็ไม่มีวันยอมให้เธอเอาหลานของท่านหนีหายไปแน่ ๆ
จันทร์ฉายยิ้มแห้งก่อนจะตอบออกมา ซึ่งคำตอบของเธอก็ทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะต่างก็ไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดแบบนี้
“ค่ะ ฉายต้องการแบบนั้นจริง ๆ ฉายไม่ต้องการให้พี่สงมารับผิดชอบ ฉาย ไม่อยากให้ความผิดพลาดที่เกิดจากการดูแลตัวเองไม่ดีของฉายมาฉุดรั้งพี่สงไว้ ฉายอยากใช้ชีวิตในแบบของฉาย ที่สำคัญพี่สงไม่ได้รักฉาย ฉายเลยไม่ต้องการเป็นตัวถ่วงหรือภาระให้กับพี่สงค่ะ”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะหนูฉาย ตาสงเป็นคนทำเราท้องตาสงก็ต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้หนูฉายค่อยคุยกับตาสงอีกครั้ง แต่พ่อยังยืนยันว่าพ่อไม่ยอมให้หนูฉายทำอย่างที่หนูฉายคิดแน่ ๆ”
“จะคุยไรกันอีกคุณ ไม่รู้ล่ะ นี่มันหลานคนแรกของฉัน ตาสงทำได้ก็ต้องรับผิดชอบได้อย่างที่คุณเมศบอก เธอจะมาพาหลานฉันหนีไปไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่ยอม”
ทั้งคุณโกเมศและคุณสารภีต่างคัดค้านความคิดของจันทร์ฉายจนหญิงสาวหน้าเสีย ส่วนชายหนุ่มอย่างสงกรานต์ที่ตอนแรกหน้าตึงเพราะคำพูดของจันทร์ฉายก็หลุดยิ้มด้วยความสมใจกับคำพูดของผู้เป็นพ่อและแม่
“เพราะแบบนี้แหละครับผมถึงพาฉายมาที่นี่ เธอจะได้อยู่ในสายตาของคุณพ่อและคุณแม่รวมถึงแม่บ้านในระหว่างที่ผมไปทำงาน จะได้หนีกลับบ้านไม่ได้ และอีกข้อคือคุณแม่จะได้ดูแลและแนะนำฉายได้ถูกว่าอะไรควรทานไม่ควรทานรวมถึงข้อระวังต่าง ๆ”
สงกรานต์พูดในขณะที่จันทร์ฉายก็นั่งขบเม้มริมฝีปากแน่น มองเพียงเท่านี้ชายหนุ่มก็รู้แล้วว่า เจ้าตัวยังไม่คิดล้มเลิกความตั้งใจที่จะพาลูกไปจากเขา!
ใจของสงกรานต์อย่างสั่งสอนเธอใจจะขาดถ้าไม่ติดว่าท้องอ่อน ๆ อยู่ละก็
พ่อจะฟาดให้!
“ไม่รู้ล่ะ ก่อนหน้านี้เธอจะคิดยังไงฉันไม่รู้และไม่ว่า แต่ตอนนี้มาอยู่ที่นี่แล้วและฉันรับรู้แล้วว่าเธอท้อง เธอก็ต้องอยู่กับฉันที่นี่ ฉันไม่ยอมให้เธอพาหลานหนีฉันไปหรอกนะ ไปตาสงพาจันทร์ฉายขึ้นไปพักก่อน กำลังท้องกำลังไส้ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ”
“ครับคุณแม่”
สงกรานต์ตอบรับคำอย่างยินดี ก่อนที่จะประคองคนที่ดื้อเงียบอย่างจันทร์ฉายขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ตรงไปยังห้องนอนของตน
2 วันต่อมาในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่จันทร์ฉายนอนโรงพยาบาลได้สองวัน หญิงสาวก็ได้รับสัญญาณว่าตัวเองจะคลอดแล้ว น้ำคร่ำหญิงสาวแตกออกเยอะมาก สงกรานต์ก็รีบกดกริ่งเรียกพยาบาล พร้อมทั้งขอเข้าไปในห้องคลอดกับคนรักด้วย หลังจากได้รับอนุญาตเขาก็โทรบอกครอบครัวเขาและเธอก่อนจะรีบไปเปลี่ยนชุด และเข้าไปอยู่ข้าง ๆ จับมือเธออย่างรวดเร็ว“โอ๊ย เจ็บ ฟู่วว!” จันทร์ฉายพูดขึ้นยามเมื่อถูกพาเข้ามาในห้องคลอดแล้ว เธอหันไปสบสายตากับคนรัก แล้วก็พบสายตาแห่งความรักความอบอุ่นมองสบมา“คุณแม่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาเลยนะคะ” เสียงคุณหมอที่เป็นคนทำคลอดเอ่ยบอก“อื้ออออออ!”เสียงเบ่งหายใจดังออกมาจากลำคอของจันทร์ฉาย เธอหอบจนตัวโยน“ฉายครับเบ่งอีกนะครับ เราจะได้เจอหน้าลูกแล้วสู้ ๆ นะครับ” สงกรานต์รีบเอ่ยบอก มือก็จับมือไว้แน่น“คุณแม่ไม่ต้องกลั้นเสียงตอนเบ่งไว้นะคะ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาปลดปล่อยเสียงได้เต็มที่ มันจะทำให้คลอดง่ายขึ้นนะคะ” คุณหมอนำคลอดเอ่ยบอก มือก็สาละวนอยู่ที่ช่องคลอดของหญิงสาว“เอานะครับ พร้อมนะฉาย หนึ่ง สอง สาม”“กรี๊ดดดด!” เธอเบ่งคลอดพร้อมคิดออกมา เหงื่อกาฬไหลพราก ด
หลายเดือนผ่านไปในที่สุดอายุครรภ์ของจันทร์ฉายก็ครบเก้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของจันทร์ฉายนูนออกมามาก แม้จะไม่ใหญ่เท่าท้องคนอื่น แต่ก็ใหญ่มากแล้วสำหรับท้องแรกหรือที่เรียกว่าท้องสาวตั้งแต่ท้องของเธอมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม สงกรานต์ก็แทบจะไม่ห่างกายหญิงสาวอีกเลย เขาหอบงานมาทำที่บ้านถ้าไม่มีธุระสำคัญหรือด่วนจริง ๆ เขาจะไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนชายหนุ่มทำหน้าที่สามีได้ดีมาก ๆ และเขาก็ดูแลเธอดีมากเช่นกัน ว่ากันว่าคนท้องมักปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะเท้าและหลัง ชายหนุ่มก็ไปเรียนนวดกับคุณหมอ เขาได้คำแนะนำมามาก แล้วก็เอาความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาปรนนิบัติให้กับหญิงสาวคนรักจันทร์ฉายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้างกาย การมีคนดูแลและเอาใจใส่ตัวเองมากขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสุข และจะมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักและรักเธอแต่ก็ว่าเถอะนะ การมีคนดูแลและใส่ใจมันก็ดี แต่ว่าก็ต้องตั้งอยู่ในความพอดีด้วย ไม่ใช่ว่าห้ามไปซะหมดเหมือนกับสงกรานต์ ที่ไม่ยอมให้เธอทำอะไรเลย จนบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกเบื่อไปเหมือนกัน เหมือนตอนนี้“ฉาย จะไปไหนก็บอกพี่สิครับ พี่จะได้พาไป เดินไ
ตกเย็นจันทร์ฉายก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าหกโมงเย็นแล้วยังไม่มีทีท่าว่ารถของสามีตีทะเบียนจะเข้ามา ก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวออกมานั่งรอเขาที่ศาลาหน้าบ้าน ชะเง้อคอมองไปทางประตูรั้วบ่อยครั้ง“แปลกจริงวันนี้ตาสงกลับช้า”“นั่นน่ะสิคะคุณแม่ ทุกทีห้าโมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วนี่นา” เธอตอบด้วยความกระวนกระวายใจ จนคุณสารภียิ้มขำ“หนูฉายไม่ต้องเป็นห่วง แม่คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกน่าจะเร่งทำงาน เพราะเหมือนแม่ได้ข่าวว่างานเยอะมาก!”“หึ! สมน้ำหน้า เวลาบอกให้ไปทำงานก็ไม่ฟังเอาแต่จะอยู่ดูแลฉาย”“ตาสงเขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ”“ฉายรู้ค่ะ แต่ว่าก็ควรทำหน้าที่ตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่องสิคะ ที่สำคัญฉายอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ เด็กในบ้านรวมถึงคนรถก็มี เขาห่วงฉายมากเกินไปค่ะ” แม้คำพูดจะเหมือนต่อว่าแต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักคุณสารภีมองลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ท่านจะชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หญิงสาวกังวลเรื่องของลูกชายท่านเกินไปนัก ไม่นานรถหรูคุ้นตาก็แล่นเข้ามาในรั้วบ้านก่อนจะขับเข้าไปจอดที่โรงจอดรถจันทร์ฉายมองสภาพหมดเรี่ยวแรงของสงกรานต์ด้วยสายตาสงสาร เธอเข้าไปถามไถ่ชายหนุ่มด้ว
“นี่มันอะไรครับ”“ก็งานของคุณสงไงคะ”“ผมรู้ว่ามันเป็นงาน แต่ทำไมถึงเยอะแบบนี้ ตอนผมอยู่บ้านคุณก็หอบเอางานมากมายไปให้ผมทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ค่ะ... แต่งานที่ดิฉันเอาไปให้คุณสงที่บ้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการซึ่งไม่อาจรอได้ค่ะ ส่วนงานที่อยู่บนโต๊ะคุณสงทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเป็นรายละเอียดงานยิบย่อยที่สามารถรอได้ ดิฉันจึงไม่ได้นำไปให้คุณสงทำที่บ้าน ดังนั้นมันจึงมากมายอย่างที่คุณสงเห็น”“แต่งานพวกนี้มันก็ไม่ได้ยากมากมายอะไรนะคะ เพราะดิฉันจัดการข้อมูลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว รอแค่คุณสงตรวจสอบและเซ็นชื่ออนุมัติก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ความจริงมันเยอะกว่านี้อีกนะคะ แต่ดิฉันเข้าใจว่าคุณสงรีบกลับไปหาน้องฉาย ดังนั้นวันนี้จึงมีเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มกองใหม่ค่ะ”สงกรานต์ที่ได้ฟังคำตอบจากเลขาส่วนตัวก็อ้าปากค้าง พลางก้มมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า‘กองเบ้อเริ่มขนาดนี้ก็ว่าเยอะแล้ว นี่ยังบอกว่ายังไม่หมดและมีรออยู่อีกเหรอ ตาย ๆ ๆ งานเยอะขนาดนี้จะกลับบ้านเร็วได้ยังไงเล่า!’ชายหนุ่มได้แต่บ่นภายในใจคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความรู้สึกออกมาจนเมธ
“พี่ไม่อยากไปเลยฉาย ให้พี่อยู่กับฉายหนึ่งวันนะ” สงกรานต์มีท่าทีไม่อยากไปทำงาน พร้อมทั้งขอร้องหยุดอยู่บ้านกับเธออีกหนึ่งวัน“ไม่ได้ค่ะ พี่สงเกเรไม่ยอมไปทำงานหลายวันแล้วนะคะ”“ขอวันนี้อีกแค่วันเดียวนะ นะครับ”“ไม่ได้ค่ะ ฉายไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าวันนี้พี่สงไม่ไปทำงานก็นอนนอกห้องไปเลย” หญิงสาวยื่นคำขาดจนชายหนุ่มหน้าเสียสงกรานต์รู้สึกไม่ยินยอม เขาอยากอยู่กับจันทร์ฉาย อยากดูแลเธอ แล้วทำไมเธอไม่เข้าใจเขาบ้างนะ ชายหนุ่มขบคิดหาทางออกให้ตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วใครจะดูแลฉายล่ะครับ ดูสิตอนนี้ฉายท้องโตแล้วนะ เดินเหินก็ยาก พี่ว่าให้พี่อยู่ดูแลฉายดีกว่า”“ไม่! ถ้าพูดไม่ฟังล่ะก็นอนนอกห้องไปเลย”พูดจบหญิงสาวก็สะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดของเขาพร้อมทั้งเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วสงกรานต์มองตามร่างภรรยาตีทะเบียนที่เขาทั้งรักและหลงเธอด้วยสายตาตัดพ้อ แถมยังบืนปากขัดใจที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของตัวเองได้จันทร์ฉายน่าจะเข้าใจเขาสักนิด ว่าที่เขาต้องการอยู่กับเธอก็เพราะว่ารักและเป็นห่วงเธอกับลูกในท้องทั้งนั้น ตอนนี้ตัวเธอเองก็ท้องโตมากแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เดินอุ้ยอ้ายอย่างคุณแม่คนอื่น ๆ เพราะ
‘ตกลงครับ เลื่อนไปก่อนได้ รอจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดและอายุครบสามปีเดินได้คล่อง เราค่อยแต่งงานกัน แต่ว่า... ฉายต้องจดทะเบียนสมรสกับพี่นะครับ หากไม่ตกลงข้อเสนอของฉายก็ถือว่าเป็นโมฆะ’‘ฉายกับพี่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน หากฉายไม่ตกลง งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันที’ประโยคนี้คือคำพูดของสงกรานต์ที่ได้พูดไว้ในวันที่ครอบครัวของเขามาทำการสู่ขอเธอวันนั้นหลังจากที่ได้ฟังเธอก็ได้แต่ยิ้มค้างไว้จนได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เจือความเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่อาจปฏิเสธอะไรได้เธอจึงได้ตอบตกลงเขาไป ซึ่งหลังจากนั้นเจ็ดวันให้หลัง เธอและเขาต้องมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหลังจากที่สงกรานต์ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับจันทร์ฉายแล้ว ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่บันทึกและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อยู่อย่างสงบระหว่างรอสงกรานต์ก็เอาแต่สนใจและกุมมือจันทร์ฉายไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน จวบจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกชื่อพวกเขาเพื่อสอบถามข้อมูล ชายหนุ่มถึงได้หันไปให้ความสนใจกับเจ้าหน้าที่ทะเบียน“ไม่ทราบว่าพวกคุณแต่งงานกันวันไหนครับ”“ยังไม่แต่งครับ”คำตอบของชายหนุ่มทำให้เจ้าหน้าที่ชะงักเล็กน้อยแต่ก็