" ฉันต้องการหย่า " เขาบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาไร้ความรู้สึกใดๆ เธอจึงได้แต่ตอบไปว่า " ได้ค่ะ " โดยที่ไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา
View Moreในค่ำคืนที่แสงไฟจางลงและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม อัศวินประธานหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่หัวเราะและพูดคุยกับแฟนสาวของเขา หล่อนคือสุดา แฟนสาวของเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของการแต่งงานคนถูกชนครั้งนี้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าเขาถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับพลอยไพลิน ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมเสียสละร่างกายเพื่อแลกกับการปลดหนี้ของครอบครัว เธออาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แสนดีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่สำหรับเขาเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงินโดยไม่รู้ถูกผิด ทั้งที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขานั้นมีคนรัก เธอก็ไม่สนใจและยอมที่จะตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ดี
อีกด้านหนึ่งของงาน พลอยไพลินที่ไม่รู้จักใครเลยในงานได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองภาพสวีทหวานระหว่างสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความหนาวเหน็บในใจ ถึงจะรู้สึกเจ็บหัวใจมากสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงของสามีเธอ และเธอกับครอบครัวก็ยังต้องพึ่งพาเงินจากอัศวินเพื่อรักษาความอยู่รอด และดำเนินธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปก่อน พลอยไพลินมองดูสามีตลอดเวลาจนเพื่อนของเขานั้นนึกสงสารและถามกับอัศวินไปว่า "นายทำแบบนี้ไม่กลัวว่าภรรยาจะไม่พอใจเอาหรอ?" อัศวินหัวเราะเบา ๆในลำคอ นอกจากเขาจะไม่ชายตามองไปยังภรรยาแล้ว เขายังตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ไร้ความรู้สึก ไร้ความสงสาร เพราะคิดว่าคนที่โดนกระทำและเสียเปรียบคือตัวเขามากกว่า เขาต้องหาเงินให้เธอและครอบครัวใช้โดยที่เขาไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย "หัวเราะไปเถอะ ภรรยาขอหย่าเมื่อไหร่จะขำไม่ออก" ปรเมศรู้สึกสงสารภรรยาของเพื่อนเพราะเขาเองก็มีน้องสาวที่รุ่นเราคราวเดียวกันกับพลอยไพลิน น้องของเขาก็โดนผู้ชายเมินเฉยเหมือนกัน เขาจึงเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเพราะน้องสาวระบายให้ฟังทุกวัน เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับใครก็คงไม่รู้สึก และสักวันเพื่อนของเขาจะต้องเสียน้ำตาแน่นอน "เธอไม่มีทางหย่ากับฉันหรอก เพราะครอบครัวเธอยังต้องใช้เงินจากฉันอยู่" อัศวินตอบอย่างมั่นใจเพราะคนอย่างพลอยไพลินไม่มีปัญญาที่จะหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้หรอก เงินที่ใช้อยู่ในตอนนี้ก็มีแต่เงินของเขาทั้งนั้น "นายไม่คิดบ้างเลยหรอว่าการที่นายทำแบบนี้มันทำร้ายจิตใจภรรยามากแค่ไหน?" "ทนไม่ไหวก็แค่หย่า " ปรเมศได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ และรอวันที่จะปลอบใจเพื่อนสนิทก็เท่านั้น พลอยไพลินเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ สักวันอัศวินจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะเสียดายภรรยา "ผู้หญิงที่แต่งงานกับผู้ชายเพราะเงินคงไม่เสียใจหรอกถ้ามีฉันอยากเกิดขึ้น ฉันมาถึงอาจจะเรียกร้องค่าเสียเวลาด้วยซ้ำ" "อยู่กันมาตั้งสองปีเลยไม่มีความรู้สึกอะไรให้เธอเลยหรอ" "มีแต่ความรู้สึกเบื่อและอยากหย่าแค่นั้นแหละ" พลอยไพลินที่ได้ยินก็รีบหันหลังกลับไปเพื่อกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมา เธอต้องยืนอยู่อย่างเดียวดายท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ของสามี แม้ว่าสถานที่นี้จะไม่เหมาะกับเธอแต่เธอก็อดทนยืนรอให้สามีมีความสุขกับเพื่อนๆ มีความสุขกับผู้หญิงที่เขารัก แม้ว่าตอนนี้มันไม่มีใครอยู่เคียงข้างเธอก็ตาม ขอแค่เธอได้อยู่เคียงข้างสามีเธอก็ดีใจมากแล้ว เธอจะทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่จนกว่าจะถึงวันนั้น... นอกจากเขาจะไม่สนใจเธอแล้ว เขายังพาแฟนสาวออกจากงานไปโดยไม่สนใจว่าเธอจะกลับบ้านอย่างไร เมื่อเขาหายไปนานเกินไป เธอก็จำใจต้องเรียกแท็กซี่กลับเอง และเป็นอย่างนี้แทบทุกครั้งที่ออกงานด้วยกัน ถึงแม้ว่าอัศวินจะพาเธอออกงานด้วยทุกครั้งตามที่พ่อแม่ของเขาบอก เธอก็เป็นได้แค่ตุ๊กตาไร้ชีวาที่ยืนอยู่ข้างกายของสามีไม่มีสิทธิ์พูดไม่มีสิทธิ์ออกเสียงหรือแสดงอารมณ์ใดๆ ทำได้แค่เสียใจอยู่ข้างๆเขาเพียงเท่านั้นอัศวินถือของมากมายช่วยแม่ยายโดยที่เงินทั้งหมดนี่คือเงินของเขาเอง ใช่แล้ว! เมื่อวานนี้ท่านโทรหาเขาบอกจะซื้อของมาเยี่ยมหลานชาย เขาเลยให้เงินก้อนใหญ่กับท่านเพื่อไปซื้อของ เพื่อเป็นการผสานรอยร้าวแบบฉบับของเขาเอง อย่างน้อยก็ยังมีแม่เมียคอยหนุนหลัง"สวัสดีค่ะคุณเชาวลิต สวัสดีค่ะคุณอารีรัตน์"เพชรลดายกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยท่าทางสุภาพ ทั้งสองท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใครๆต่างเคารพนับถือ ชื่อเสียงของตระกูลก็โด่งดังในสังคม ครอบครัวของเขาเธอโชคดีมากๆที่ได้เป็นดองกับตระกูลเศรษฐี แต่ลูกสาวไม่รักดีก็โง่ไปยอมเซ็นใบหย่าง่ายๆโดยไม่ได้อะไรสักบาท พูดแล้วก็หงุดหงิดที่มีลูกใสซื่อเกินไป แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่พลอยไพลินท้อง โอกาสที่จะได้กลับมาเป็นครอบครัวจึงมีโอกาสสูง และหล่อนนี่แหละที่จะช่วยให้ลูกได้สามีกลับมา"หลานยายน่าชังจังเลย"เพชรลดาพุ่งตัวไปหาหลานตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนพลอยไพลิน เด็กน้อยกินอิ่มแล้วเลยเริ่มง่วง"สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่มากับใครเหรอคะ?"คำพูดของพลอยไพลินทำให้อัศวินและคนรอบข้างรับรู้ได้ถึงความห่างเหินระหว่างแม่กับลูก พลอยไพลินถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมเพราะเพชรลดากับสามีเป็นนักธุรกิ
ตึก!พลอยไพลินที่กำลังคุยรายละเอียดเบื้องต้นกับลูกค้ารายใหม่พร้อมรอยยิ้มได้หันไปเจอสายตาของอัศวินเข้าพอดี ไม่รู้ว่าเขามองเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เธอรับรู้ได้เพียงว่าสายตาของเขาดูไม่ปกติ หรือว่าลูกน้อยงอแงแล้ว คิดได้อย่างนี้พลอยไพลินก็ขออนุญาตวางสายและเดินออกมาดูลูก แต่ลูกก็ไม่ได้งอแงแล้วยังเล่นกับคุณปู่คุณย่าพร้อมรอยยิ้ม มีแค่ใบหน้าของอดีตสามีที่บึงตึงไม่รู้ไปโกรธใครมา'สงสัยจะมีปัญหากับแฟนล่ะมั้ง' เธอคิดอย่างนั้นเพราะได้ยินแม่กับพ่อของเขาพูดคุยกันว่าเขาไปขอจบกับแฟนหลายครั้งแล้ว แต่แฟนไม่ยอมจบ ซึ่งเธอไม่เชื่อหรอกนะ เขาสองคนรักกันมากขนาดนั้น จะจบกันได้ง่ายๆ ได้อย่างไร"ง่วงหรือยังครับคนเก่ง"พลอยไพลินเดินผ่านอดีตสามีไปหาลูกน้อย เธอยิ้มหวานและหยอกล้อกับลูกน้อยอย่างสดใส สายตาที่มองลูกชายเต็มไปด้วยความรัก ต่างจากสายตาว่างเปล่าที่มองพ่อของลูก ท่าทางเย็นชาของเธอตอกย้ำว่าอัศวินเป็นคนอื่นสำหรับพลอยไพลินไปแล้ว"ได้ยินว่าหนูพลอยมีธุระช่วงบ่ายเหรอ?"คุณปู่ของตัวเล็กเอ่ยถามอดีตลูกสะใภ้ด้วยท่าทางใส่ใจ ท่านเห็นหญิงสาวอยู่ในสายตามาตลอดหลายเดือน ผู้หญิงคนนี้นิสัยใจคอคล้ายกับอารีรัตน์ภรรยาของท่า
"ทำไมไม่หางานทำก่อนละลูก ค่อยย้ายออกไป"อารีรัตน์ยังคงพยายามที่จะยื้ออดีตลูกสะใภ้เอาไว้เช่นเคย เพราะท่านเองก็รักและห่วงใยพลอยไพลินเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง อีกทั้งยังรักหลานจนไม่อยากให้ไปไหนไกลหูไกลตา แต่อีกใจก็เข้าใจว่าหญิงสาวคงจะอึดอัดที่ต้องอยู่ในบ้านของอดีตสามี"เรื่องนั้นคุณท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พลอยรับออเดอร์ทำขนมไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ หลังจากย้ายออกไปพลอยก็จะเริ่มทำและรับมัดจำล่วงหน้ามาก่อนห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พลอยคิดคำนวณดูแล้วรายได้ที่มีพอค่าใช้จ่ายอยู่ค่ะคุณท่าน"พลอยไพลินยิ้มให้กับแม่อดีตสามี แล้วบอกให้ท่านสบายใจว่าเธอจะย้ายไปยังบ้านของเพื่อนสนิท บ้านหลังนั้นเพื่อนไม่ได้อยู่ แล้วเพื่อนยังช่วยหาลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินมัดจำก่อนส่งขนมให้อีกด้วย รายได้พอจะใช้ชีวิตกับลูกน้อยได้แน่นอน"คุยอะไรกันเหรอครับ?"อัศวินแสร้งไม่ได้ยินในสิ่งที่พลอยไพลินพูดก่อนหน้านี้ เขาเดินเข้าไปด้วยท่าทางที่ยังปกติ วางของมากมายที่ซื้อลงบนโต๊ะแล้วรีบเข้าไปอุ้มลูกอย่างช่ำชองทักษะของเขาเหมือนผู้ชายที่มีลูกมาแล้วหลายคน ไม่มีท่าทางเขินๆ ที่จะหยิบจับอะไรเกี่ยวกับลูก ที่ผ่านมาเขาพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงล
ขณะที่สถานการณ์กำลังวุ่นวายพยาบาลก็มาเอาเด็กน้อยไปดูแลต่อ การคลอดก่อนกำหนดนั้นต้องดูแลเป็นพิเศษทั้งแม่ทั้งลูก พอพยาบาลออกไปสถานการณ์ในห้องก็ปกคลุมไปด้วยความอึดอัด อัศวินยืนนิ่งงันอยู่หลายนาทีโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาเอาแต่มองหน้าซีดเซียวของผู้หญิงที่เพิ่งจะบอกว่ารักเขาและตัดใจจากเขาไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าเธอจะตัดใจจากเขาทำไมในเมื่อเขากำลังยื่นโอกาสให้เธอกลับมาเป็นครอบครัว เขาลดทิฐิลดความเป็นตัวเองลงไปเพื่อเธอ เพื่อลูก แล้วเธอยังต้องการอะไรอีก"ที่พูดออกมาคิดดีแล้วเหรอ?"เขาถามเธออีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จะบอกว่าไม่พอใจก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียว เรียกว่าไม่อยากจบความสัมพันธ์กับเธอจะดีกว่า"คิดดีแล้วค่ะ"พลอยไพลินยังคงยืนยันคำเดิม แววตาของเธอแน่วแน่"แต่ลูกต้องมี..."หมับ! อารีรัตน์รีบคว้ามือลูกชายไว้ ไม่อยากให้เรื่องแย่ไปกว่านี้"ออกไปคุยกับแม่หน่อย"อัศวินถูกผู้เป็นแม่จูงมือออกมาจากห้องพิเศษด้วยท่าทางเคร่งเครียด ตอนนี้ท่านไม่สามารถปล่อยให้ทั้งสองคนคุยกันเองได้ ท่านที่มีประสบการณ์มาก่อนจึงต้องเป็นตัวกลางประสานความสัมพันธ์ให้ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้กลับมาเป็นครอบค
10 นาทีต่อมาพลอยไพลินนอนนิ่งอยู่บนเตียงโดยมีอัศวินนั่งอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลเธอและลูกน้อย คุณหมอที่ถูกเรียกมาโดยด่วนได้มาถึงเพื่อทำการตรวจแผลผ่าคลอดและพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลคนไข้หลังคลอด หมอยิ้มและเริ่มพูดกับอัศวินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน หมอเองก็ไม่เคยเห็นสามีคนไหนใส่ใจภรรยาขนาดนี้มาก่อน ทำเอาคนที่เห็นอบอุ่นหัวใจไปด้วย"แผลผ่าคลอดหายช้ากว่าการคลอดธรรมชาติหน่อยนะคะ ในช่วงนี้ยังต้องการการดูแลคุณแม่เป็นพิเศษ หมอขอแนะนำวิธีการดูแลภรรยาหลังคลอดเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้เร็วขึ้น"อัศวินยืนฟังอย่างตั้งใจ สายตาของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็ดูมุ่งมั่นในการฟังหมออธิบาย พลอยไพลินไม่เข้าใจในการกระทำของอดีตสามีเลย เขากำลังทำดีกับเธอไปเพื่ออะไร ทั้งที่ผ่านมาก็ไม่เคยชัดเจนและแสดงว่าอยากดูแลเธอมาก่อนแล้วที่สำคัญไปกว่านั้น... เขามาอยู่ในวันที่เธอต้องการความช่วยเหลือได้ยังไง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นั่น คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด แต่พอนึกถึงตัวเล็กที่เพิ่งจะคลอดมาออกมาก่อนกำหนด หัวใจของเธอก็บีบรัดแน่น น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอเครียดหนักจนส่งผลถึงลูกจนได้ เธอเกือบจะเสียลูกไปแล้ว"ร
อัศวินถูกเชิญออกมาอยู่ด้านนอกให้หมอรักษาได้อย่างเต็มที่ เขาเหลือบไปมองดูคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ใบหน้าของเขาแสดงความวิตกกังวลตลอดเวลา แม้จะออกมาจากห้องตรวจก็ยังคงกังวลอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นเลือดที่ยังติดอยู่ที่เสื้อของตนก็ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง อัศวินยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อระบายความเครียด "คุณแม่ของคุณพลอยโทรมาค่ะ"ยุพาเอามือถือของพลอยไพลินมาให้กับเจ้านายหนุ่ม เพราะคิดว่าคนที่เคยเป็นสามีน่าจะแก้ปัญหานี้ได้ เธอทนเห็นหญิงสาวสะสมความเครียดไว้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงพลอยไพลินจะยิ้มให้กับทุกคน แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเครียด"ที่ผ่านมาคุณพลอยเธอเข้มแข็งมากนะคะ"อัศวินยืนตัวแข็งทื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่แม่บ้านสาธยายออกมา ทุกสิ่งที่พูดมาล้วนแต่ทิ่มแทงหัวใจของเขาเป็นอย่างมาก เขาเอาแต่ใจและละเลยความรู้สึกของเธอมาตลอด คิดว่าเงินสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เลย!!สายเรียกเข้าจากคุณแม่มือถือของพลอยไพลินยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอัศวินตัดสินใจที่จะรับสาย เขาจะแก้ปัญหาให้กับเธอเอง เพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเธอต้องการอะไรจากเธอ"อัศวินรั
Comments