เสียงกลองศึกดังขึ้นพร้อมกันทั่วสนามรบ สถานการณ์ยังคงดุเดือด ซีจิงต่างกระวนกระวายยิ่งกว่าวันก่อน ต่างคนต่างพุ่งเข้าใส่ประหนึ่งไม่กลัวตาย
ซูลันซือไม่ได้ออกศึก หากแต่บัญชาการอยู่ด้านหลัง ซ่งซีซีจึงคิดว่าการจับโจรต้องจับหัวหน้าเสียก่อนนั้นทำไม่ได้
ในสถานการณ์ที่ศัตรูเหนือกว่าหลายเท่า แม่ทัพใหญ่เซียวจึงลงศึกด้วยตนเอง และนำทัพอยู่แนวหน้า เพื่อปลุกใจทหารให้ฮึกเหิม
ซ่งซีซีเป็นกังวลยิ่ง กลัวว่าเขาจะถูกธนูจนบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ แม้อาจทำให้ตนถูกเปิดโปง นางก็จำต้องเบียดเข้าไปใกล้เขา
เหล่าบุตรหลานตระกูลเซียวต่างก็ล้อมคุ้มกันแม่ทัพใหญ่เซียวไว้ แม่ทัพใหญ่เซียวจึงฮึกเหิมยิ่งนัก นำขุนพลทะลวงศัตรูออกไป
ซ่งซีซีจึงมีสมาธิต่อสู้กับข้าศึก ศัตรูแต่ละรายล้มลงใต้ปลายทวนของนาง
แม่ทัพใหญ่เซียวสังเกตเห็นนางเข้า แต่ยังจำไม่ได้ว่าเป็นใคร จนกระทั่งมีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาทางเขา ซ่งซีซีจึงกระโจนขึ้น หมุนทวนในมือสะบัดลูกธนูนั้นตกลง แล้วหันกลับไปมองเขาเพียงครู่เดียว แม่ทัพใหญ่เซียวจึงจำได้ว่านางเป็นใคร ถึงกับตกตะลึง
เพียงแต่สนามรบกำลังระอุ แม่ทัพใหญ่เซียวจึงทำได้เพียงตะโกนบอกนางว่า “ระวังตัวด้วย”
ซ่งซีซีรู้ว่