ฟู่เจิงพูดเสียงเรียบ “ผมแค่กลัวว่าเขาเห็นข่าวแล้วจะไปชี้แจงน่ะ มันจะส่งผลถึงคุณ ประวิงเวลาได้เท่าไรก็เท่านั้น เอาไว้กดกระแสเรื่องนี้ได้แล้วก็จะไม่ส่งผลถึงทุกคน”
พอฉู่ซืออี๋ได้ยินดังนั้น ในดวงตาวาบความกระหยิ่มใจเสี้ยวหนึ่ง พูดอย่างรู้สึกผิด “แต่แบบนี้จะไม่ดีกับอาเหลียงนะคะ อาเจิง ไม่งั้นเราก็ชี้แจงให้เขาเถอะ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเลย ฉันอยากอยู่กับคุณอย่างเปิดเผย ต่อให้ทุกคนจะด่าจะตำหนิยังไงฉันก็ไม่สน”
ฟู่เจิงขมวดคิ้วนิด ๆ “ตอนนี้ยังไม่เหมาะ ผมยังคุมความคิดเห็นของมวลชนไม่ได้ทั้งหมด ตอนนี้คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าชี้แจง จะกระทบถึงงานของคุณแน่”
ฉู่ซืออี๋หนักใจทันที
เป็นเพราะงานเธอหรือว่าเขาไม่อยากเปิดเผยกันแน่
“ฉันก็แค่...”
“ซืออี๋ เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง เป็นผมที่ไม่ให้คุณชี้แจง ถ้าเวินเหลียงจะโทษก็ควรโทษผม คุณตั้งใจทำงานเถอะ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเอง”
รอยยิ้มของฉู่ซืออี๋แข็งทื่อไปเล็กน้อย เธอพยักหน้า โอบเอวของฟู่เจิงจากด้านหลังแล้วซบใบหน้าลงไป “อาเจิง คุณดีกับฉันจริง ๆ เลยค่ะ”
“เอาละ คุณออกไปรอเถอะ กับข้าวจะเสร็จแล้ว”
“ค่ะ” ฉู่ซืออี๋ออกจากห้องครัว
ฟู่เจิงหันไปมอ