ธามนิธิลงจากเครื่องบินในเวลาตีหนึ่งของวันเสาร์ชายหนุ่มเรียกรถให้ไปส่งที่คอนโดมิเนียมของตนเองก่อนเพราะคิดว่าหากจะไปหากชณิชาในเวลานี้มันก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่เพราะมันเป็นเวลาดึกมากแล้ว
เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บจากนั้นอาบน้ำและเตรียมเข้านอนแต่ไม่ว่าจะพยายามข่มตายังไงก็ยังคงนอนไม่หลับ ธามนิธิไม่รู้ว่าเป็นเพราะจากเจ็ทแลคหรือเพราะใจมันเอาแต่คิดถึงเสียงหวานใสของหญิงสาวที่คุยกับเขาเมื่อวานก่อน
เมื่อคิดว่าฝืนยังไงก็คงนอนไม่หลับแน่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถขับรถตรงไปยังคอนโดมิเนียมของตนเองอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีไว้ให้กับผู้หญิงที่มารับงาน
ระยะทางระหว่างสองคนโดยใช้เวลาเดินทางไม่นานเมื่อมาถึงใช้กับก็เปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเงียบที่สุด
ตอนนี้ด้านในห้องมืดสนิทแต่เขาก็อาศัยความคุ้นเคยเดินตรงไปยังห้องนอนได้ไม่ยากนักและนับว่าโชคดีมากที่กชณิชาไม่ได้ล็อกประตู
ธามนิธิเปิดเข้าไปด้านในและยืนมองร่างที่นอนตะแคงขดอยู่บนเตียงนอนแล้วยิ้มที่มุมปาก ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาอดทนรอคอยมานานเกือบสามสัปดาห์มันนานกว่าทุกคนและเขาคิดว่าหลังจากนี้จะไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์อีกต่อไป
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนที่นอนเบาๆ ขยับเข้าไปจนชิดแล้วใช้แขนกอดเอวเธอจากทางด้านหลัง จมูกโด่งกดจูบไปบนซอกคอทางด้านหลังเพียงแค่ได้กลิ่นกายหอมของหญิงสาวชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
กชณิชายกมือปัดป้องเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาไต่ที่บริเวณลำคอเธอขยับหนีแต่แขนของเขาก็กอดไว้แน่นขึ้น
“เกรซจะนอนขี้เซาไปถึงไหนตื่นมาได้แล้ว”
“ไม่เอาไม่ตื่นเกรซง่วง”
หญิงสาวพูดออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่คำตอบก่อนจะตกใจและขยับตัวหนีขยับตัวออกจากอ้อมกอดเมื่อนึกได้ว่าตนเองอยู่คนเดียวในห้องนี้เพียงคนเดียว
“คุณเป็นใครเข้ามาได้ยังไง” หญิงสาวถามพลางเอื้อมเปิดไฟที่หัวเตียงเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงนั้นคือธามนิธิชายหนุ่มผู้เป็นนายจ้างซึ่งเธอยังไม่เคยเจอเขาเลยสักครัั้ง
“ผมเอง ทำไมต้องตกใจเหมือนกันเห็นผีด้วยล่ะเกรซ สวัสดีนะเราได้เจอกันสักที” ธามนิธิหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของกชณิชา
“สวัสดีค่ะคุณธาม”
“ดูเหมือนเกรซจะแปลกใจที่เห็นผมนะ”
“ก็คุณธามบอกเกรซว่าคุณจะมาวันเสาร์นี่คะ”
“ตอนนี้ก็ตีสามแล้วมันก็เข้าวันใหม่แล้วนะเกรซ”
“เหรอคะเกรซลืมดูเวลาคุณธามมาถึงนานหรือยังคะ”
“ผมมาถึงตั้งแต่ตีหนึ่งแล้วตอนแรกก็คิดว่าจะค้างที่คอนโดของตัวเองแต่พอมาคิดดูอีกทีก็อยากจะมาพิสูจน์อะไรบางอย่างที่เคยคุยกันไว้”
“แต่นี่มันดึกแล้วนะคะคุณธาม คุณเดินทางมาเหนื่อยๆ รีบนอนก่อนดีกว่าไหม”
“แต่ผมไม่เหนื่อยเลยนะเพราะตอนอยู่บนเครื่องผมก็หลับมาตลอด”
“แต่เกรซง่วงนี่คะ ตีสามแล้วมีอะไรค่อยคุยกันตอนเช้าดีไหมคะ”
“พรุ่งนี้วันเสาร์นี่เกรซคงไม่ต้องไปทำงานเพราะฉะนั้นคืนนี้ก็ทำงานให้ผมหน่อยได้ไหม ผมไม่อยากเสียเวลานะ”
“คุณธามจะไม่ให้เวลาเกรซเตรียมตัวหน่อยเหรอคะ”
“ผมว่าผมให้เวลาเกรซเตรียมตัวมานานมากพอแล้วนะและผมไม่อยากเสียเวลาอีก อย่าลืมสัญญาของเรานะถ้าเกรซไม่ทำตามต้องเสียค่าปรับสิบเท่าเลยนะ”
ชายหนุ่มพูดก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้เขาจับหญิงสาวพลิกตัวลงบนที่นอนสองมึอประครองใบหน้าของเธออย่างทะนุถนอม
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะเกรซมันเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงผู้ชาย”
“คุณธามคะเกรซรู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติและเกรซก็ตัดสินใจที่จะมาทำงานนี้เอง”
“แล้วยังกลัวอะไรอยู่” เขาถามเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาตื่นตระหนกของหญิงสาวผ่านแสงไฟจากโคมไฟหัวเตียง
ตอนเห็นเธอจากรูปถ่ายก็คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากแล้วแต่พอได้อยู่ใกล้ก็รู้สึกว่านอกจากเธอจะสวยน่ารักและดูมีเสน่ห์มาก ใบหน้าสวยสีชมพูระเรื่อยิ่งต้องแสงไฟแบบนี้ก็ยิ่งสวยสะดุดตามากขึ้นไป อีกดวงตากลมโตมีแววครุ่นคิดอยู่ข้างในมันยิ่งดึงดูดให้เขาอยากจะทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้านี้มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย
“คุณธามคะถ้าเกรซทำให้คุณไม่พอใจคุณจะยกเลิกสัญญาหรือเปล่า” หญิงสาวเป็นกังวลว่าถ้าหากตัวเองไม่ถูกใจชายหนุ่มแล้วเขาจะยกเลิกสัญญาก่อนสามเดือน
“ผมไม่เคยยกเลิกสัญญาของใครก่อนสามเดือนหรอกนะสัญญาก็คือสัญญาถึงเกรซจะทำให้ผมไม่ถูกใจแต่ผมเชื่อว่าของแบบนี้มันเรียนรู้กันได้อยู่ที่เกรซพร้อมจะเรียนรู้จากผมหรือเปล่า” เขาถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ค่ะคุณธามเกรซพร้อมจะเรียนรู้และทำให้คุณธามมีความสุขที่สุด คุณจะไม่เสียเงินเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน” หญิงสาวจำคำพูดมาจากพี่พลอยใส
“พูดจาน่ารักแบบนี้ผมคงต้องพิสูจน์แล้วใช่ไหม”
“เดี๋ยวค่ะคุณธาม”
“อะไรอีกล่ะ”
“จะไม่ปิดไฟหน่อยเหรอคะ”
“แค่นี้ผมก็ว่าห้องมันมืดเกินไปแล้วนะ ผมอยากเห็นว่าคุณว่ารูปร่างของคุณจะสวยเหมือนกับหน้าตาของคุณหรือเปล่า”
“คุณธามแต่เกรซอายนี่คะ”
“ไม่เห็นจะต้องอายเลยฝึกไว้ให้ชินสิ ถ้าทำให้ผมพอใจอาจจะได้โบนัสอีกก้อนโตเลยนะ ในเมื่อตัดสินใจรับงานแล้วผมว่าเกรซควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คุณจี๊ดบอกว่าเกรซจะรับงานแค่ผมคนเดียวใช่มั้ย”
“ค่ะครั้งนี้เกรซจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ”
“ผมก็ไม่เคยจ่ายเงินใครล่วงหน้าก่อนเลย นี่เป็นกรณีพิเศษเพราะฉะนั้นเกรซก็เอาใจผมหน่อยก็แล้วกันนะ เผื่ออะไรพิเศษๆ มันจะตามมาอีกหลายอย่าง”
ธามนิธิมองหน้าเธอในระยะประชิด ในขณะที่เธอก็มองหน้าเขาด้วยความประหม่าเธอไม่เคยใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้มาก่อน สายตาที่จ้องมานั้นราวกับมีมนต์สะกดเมื่อธามนิธิโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กชณิชาก็ไม่คิดจะถอยหนี
กชณิชาใจเต้นแรงเมื่อเขาโน้มใบหน้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ หญิงสาวหลับตาลงเมื่อริมฝีปากจุมพิตลงที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัวนะเกรซ”
เขากระซิบข้างหูริมฝีปากอุ่นเคลื่อนมายังแก้มเนียนและปลายจมูกก่อนจะประกบลงบนริมฝีปากอิ่มจูบที่อ่อนหวานทำให้คนไร้ประสบการณ์ใจเต้นแรงและทำตัวไม่ถูก หญิงสาวพยายามจะครางประท้วงแต่นั่นกลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนเอาหวานจากโพรงปากเล็กจากจูบที่อ่อนหวานก็เริ่มจะเร่าร้อนขึ้นไปตามอารมณ์
ปลายลิ้นเล็กพยายามหลบหลีกแต่ก็หนีไม่พ้น หญิงสาวรู้สึกสับสนและมึนงงไปหมด มือของเธอจิกลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างลืมตัวจูบนั้นเนิ่นนานจนเธอแทบขาดใจ
“อื้อ...คุณธาม”
“ถ้ารู้ว่าจูบเกรซหวานแบบนี้ผมคงให้เกรซเริ่มงานตั้งแต่ก่อนไปยุโรปแล้ว”
“หวานจริงเหรอคะ”
“หวานสิ ตอนนี้ผมก็ชักอยากจะรู้แล้วว่าเกรซจะหวานไปทั้งตัวไหม ขอผมพิสูจน์นะ”
เสียงกระซิบที่แหบพร่าทำให้คนฟังยากที่จะปฏิเสธ
เกือบสองเดือนแล้วที่ธามนิธิไม่ได้ข่าวคราวของกชณิชาเลย เขาไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหนเพราะไม่รู้จักเพื่อนหรือครอบครัวของหญิงสาวเลย ในทุกวันจึงได้แต่หวังว่าจะบังเอิญเจอกับเธอที่ไหนสักแห่งชายหนุ่มไปยังร้านอาหารที่เคยพาหญิงสาวไปทาน บางครั้งก็ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่เคยพาเธอไปเดินซื้อของแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาธามนิธิไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัวหญิงสาวเลยสักนิดชายหนุ่มให้คุณสุจิตราติดต่อไปที่โมเดลลิ่งแต่ก็ทางโมเดลลิ่งก็บอกว่าหญิงสาวไม่ได้ติดต่อมาที่นี่นานแล้วชายหนุ่มได้เบอร์โทรศัพท์ของกัญญาวีร์มาจากโมเดลลิ่งเขาโทรไปถามเธอแต่กัญญาวีร์ก็บอกว่าเธอเองก็ไม่ได้เจอกับกชณิชานานแล้วเหมือนกันเขาไม่รู้เลยว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างเธอจะทำงานที่ไหน มีชีวิตที่สุขสบายดีหรือเปล่าและจะคิดถึงเขาบ้างไหม ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงเธอวันนี้เขารู้สึกเซ็งสุดขีดเนื่องจากเพื่อนสนิทอย่างภากรและณัฐวิทย์ไม่ว่างทำให้เขาต้องออกมานั่งดื่มที่ผับแห่งนี้ตามลำพังธามนิธิเลือกที่จะนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์แทนการขึ้นไปนั่งบริเวณโซนวีไอพีชั้นสองอย่างเคยเพราะขึ้นไปนั่งบนนั้นคนเดียวก็รู้สึกเหงา ชายหนุ่มนั่งดื
ธามนิธิรู้เรื่องลาออกของกชณิชาก็ตกใจเป็นอย่างมากเขารีบโทรศัพท์มาคุยกับเธอทันทีเมื่อทราบเรื่อง“ผมว่าเราต้องคุยกันนะเกรซว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเกรซต้องลาออกด้วย”“คุณธามยังจะต้องถามเกรซอีกเหรอคะ คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไมเกรซถึงต้องลาออก”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ”“คุณอย่าทำเหมือนไม่รู้เรื่องเลยนะคะ เกรซรู้หมดแล้วว่าคุณมีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า”“ผมขอโทษที่ไม่บอก ผมไม่คิดว่ายุ้ยจะกลับมาเร็วแบบนี้”“คุณรู้มาตลอดว่าคุณมีคู่หมั้นแต่คุณก็มาขอคบกับเกรซ เกรซคงเป็นแค่ผู้หญิงคั่นเวลาสำหรับคุณใช่มั้ยคะ”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะเกรซ”“คุณธามไม่คิดแล้วทำไมถึงมาขอคบกับเกรซทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะคะ”“มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะเกรซ”“แล้วมันเป็นแบบไหนคะ”“ที่ผมบอกคุณว่าจะบอกทุกคนเรื่องของเราในงานปีใหม่ผมพูดจริงนะเกรซจากนั้นผมก็จะบอกคุณพ่อคุณแม่ให้ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับยุ้ย”“แต่มันก็สายเกินไปแล้วค่ะคุณธาม ตอนนี้คุณสองคนกำลังจะแต่งงานกันแล้วจะให้เกรซทนทำงานอยู่ในบริษัทได้ยังไงคะ”“แล้วคุณจะไปทำงานที่ไหนล่ะเกรซ เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคุณไม่ต้องทำงานเลยผมจะให้เงินเดือนคุณเอง ผมจะให้คุณอยู่ที่คอนโ
บ่ายนี้กชณิชาไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิดแต่เธอก็พยายามเคลียร์งานตรงหน้าให้เสร็จทันตามเวลาหญิงสาวอยากจะโทรศัพท์ไปถามธามนิธิว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังเลยสักครั้ง เมื่อวานชายหนุ่มเพิ่งพูดว่าจะบอกคนอื่นเรื่องที่คบกับเธอในงานปีใหม่ แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีเรื่องคู่หมั้นของเขามาให้เธอได้ยินกชณิชาอยากโทรศัพท์ไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่คิดว่าคงไม่ได้รับคำตอบอย่างแน่นอนหญิงสาวเลยคิดจะไปดักรอเขาที่ลานจอดรถเมื่อถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ไปยืนแอบอยู่ที่เสาต้นใหญ่ใกล้รถของธามนิธิและคิดว่าเมื่อเขามาถึงเธอจะเข้าไปถามเขาให้รู้เรื่อง หญิงสาวรอด้วยหัวใจที่เต้นแรงและหวังว่าเรื่องที่วนิดาได้ยินมามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเธอยืนแอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางลานจอดรถ ตอนนี้เหลือเพียงแค่รถของธามนิธิเพียงคันเดียวเท่านั้นเธอกำลังจะก้าวขาออกมาแต่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดเขามาเสียก่อน“พี่ธามคะคุณแม่บอกว่าวันเสาร์นี้เราต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันนะคะพี่ธามว่างไหมคะ”“ไม่ว่างก็ต้องว่างนั่นแหละ แล้วยุ้ยล่ะโอเคไหมสำหรับงานแต่งงาน”“โอเคค่ะ สำหรับ
เพราะตนเองก็มีใจให้กับธามนิธิอยู่แล้วกชณิชาจึงใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เธอเห็นถึงความพยายามของเขาที่ทั้งโทรศัพท์มาหาและตามรับส่ง หญิงสาวก็ยอมตกลงคบกับเขาการคบกันครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินหรือสัญญาเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ทั้งสองก็ยังไม่บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคุณสุจิตราเลขาของชายหนุ่มเองก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับกชณิชาเลยเพราะเธอเองก็ชอบที่จะอยู่เงียบๆ แบบนี้หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าสถานะของตนเองกับธามนิธินั้นจะคบกันได้นานแค่ไหนเธอรู้แค่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากธามนิธิเอาใจเธอทุกอย่างและเธอเองก็ตามใจเขาในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องบนเตียงซึ่งทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เธอกับเขาใช้เวลาในทุกๆ วันด้วยกันอย่างมีความสุขตอนนี้กชณิชาย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งเดิมแล้วโดยที่ธามนิธิก็ย้ายของใช้ของตนเองเข้ามาอยู่กับเธอด้วยหญิงสาวรู้ว่าเขาเองก็มีคอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งแต่เธอก็ไม่เคยถามหรืออยากจะไปที่นั่นเพราะเข้าใจดีว่าเขาก็อาจจะอยากมีโลกส่วนตัวเหมือนกับเธอที่ถึงแม้จะย้ายมาอยู่กับเขาได้เดือนกว่าแล้วแต่ก็ยังคงเช่าหอพักไว้อย่างเดิมและมักจะแวะไปทำความสะอาดอยู่บ่อยๆใ
ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ธามนิธิไม่ได้เจอกชณิชา เขาเว้นระยะเพราะคิดว่าถ้าห่างจากเธอแล้วความรู้สึกของตนเองจะชัดเจนขึ้นและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้เขารู้ใจตัวเองแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้กับกชณิชานั้นมันมากกว่าคู่นอนและอาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ ธามนิธิไม่อยากชักช้าอีกต่อไปเขาคิดว่าจากนี้จะจัดการทุกอย่างไปตามที่หัวใจตนเองต้องการชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหากชณิชาแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับสายเขาจึงใช้โทรศัพท์ภายในโทรไปที่โต๊ะทำงานของเธอ“สวัสดีค่ะแผนกธุรการค่ะ” กชณิชารับสาย“เกรซผมเองอย่าเพิ่งวางสายนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”“เกรซไม่มีเรื่องจะคุยอะไรกับคุณหรอกนะคะ”“แต่ผมมี”“คุณธามคะนี่มันเป็นเวลางานเกรซขอทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวกระซิบเพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมงานจะได้ยินว่าเธอคุยกับใคร“เกรซถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะไปหาคุณที่แผนกนะ” ธามนิธิขู่เสียงเข้ม“อย่านะคะ” หญิงสาวตกใจเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะมาหาที่แผนกตามที่พูดจริงๆ“ถ้าไม่อยากให้ผมไปหาคุณที่แผนกเย็นนี้เจอกันหน่อยได้ไหม”“แต่.....”“ไม่มีแต่นะเกรซครั้งนี้ผมขอสั่งคุณในฐานะเจ้าของบริษัทก็แล้วกัน คุณไปเจอผมร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมที่เราเคยไปด้วยกัน
ธามนิธิรู้สึกโกรธและโมโหมากที่กชณิชาไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยอมทำสัญญากับตนเองอีกครั้ง ครั้นจะไปบังคับเธอก็ไม่ใช่นิสัยของเขาหรือจะไปขอร้องเธอก็กลัวเสียศักดิ์ศรีวันนี้เขารู้สึกเบื่อๆ จริงออกมานั่งดื่มกับเพื่อนที่ผับประจำของพวกเขา“ว่าไงวะหายไปนานเลยวันนี้ไม่พาน้องเกรซมาด้วยเหรอ” ภากรทักทายเพื่อนเป็นคนแรก“จะพามาได้ยังไงล่ะตอนนี้หมดสัญญาแล้ว”“สามเดือนนี่ไวเหมือนกันนะ แล้วผู้หญิงคนต่อไปล่ะเป็นใครพามาให้เพื่อนรู้จักนะจะได้ไม่ทับทางกัน” ณัฐวิทย์พูดอย่างอารมณ์ดี เขารู้ว่าเพื่อนมักจะขาดผู้หญิงไม่ได้เมื่อคนเก่าครบสัญญาเขาก็จะหาคนใหม่มาทำสัญญาทันที“ตอนนี้เบื่อว่ะฉันยังไม่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่”“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำว่าเบื่อออกมาจากปากนายนะธาม”“ก็มันเบื่อจริงนี่กร”“แต่ท่าทางนายเหมือนคนอกหักเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า” ภากรสังเกตว่าวันนี้เพื่อนของตนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม“นิดหน่อยน่ะ”“มันเรื่องอะไรเหรอธาม ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลย”“นายว่าเกรซเป็นยังไงล่ะณัฐ”“เท่าที่ได้เจอกันสองสามครั้งฉันก็ว่าเธอเป็นคนน่ารักดีนะหรือที่ยังไม่ยอมมีคนใหม่เพราะเกิดต