Share

Chapter4. ไฟไหม้

last update Last Updated: 2024-12-02 12:23:20

            “เจ้า...ตุ๋นไก่ให้ข้า”  

            ที่คิดจะออกปากตำหนิจึงพูดไม่ออก พลันรู้สึกวูบไหวในอก นานเพียงใดที่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้

 รู้สึกเป็นพิเศษ เป็นคนสำคัญ

            “ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ ฮูหยินเพียงต้องการลงมือทำอาหารบำรุงให้ท่าน ไม่ได้มีเจตนาร้าย ขอท่านแม่ทัพอย่าโกรธเคืองฮูหยินเลยนะเจ้าคะ”

            ป้าหวงฝูอธิบาย  ทหารคนอื่นก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ฮูหยินท่านแม่ทัพเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมและงดงาม มีจิตใจดี รักใคร่ห่วงใยท่านแม่ทัพถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะเกือบเผาห้องครัวไปก็เถิดนะ

            หรูซื่อช้อนตาขึ้นมอง “ข้าไม่ได้ตั้งใจเผาห้องครัวของท่านจริงๆ นะ”

            เสียงถอนหายใจดังขึ้น เขาเองไม่ได้อยากตำหนินาง “เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ บาดเจ็บที่ใดหรือเปล่า”

            น้ำเสียงแม้ไม่ได้อ่อนโยนนัก แต่บรรดาทหารที่มักได้รับคำสั่งต่างอ้าปากค้างตะลึงงันกับสิ่งที่ได้ยิน แม่ทัพซุนมีอีกชื่อที่เรียกขานลับหลังว่า ‘แม่ทัพปีศาจ’  ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินท่านแม่ทัพปีศาจใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อน

            หญิงสาวฉีกยิ้มหวานส่ายหน้าไปมา แต่ซ่อนมือไว้ด้านหลัง รอยยิ้มของนางไม่ได้ช่วยกลบเกลื่อนอะไรได้เลย ซุนหลวนคุนเอื้อมมือไปจับมือของนางยกขึ้นมาดู  ปลายนิ้วน้อย ๆ แดงจนน่าสงสาร

            “ข้าไม่เจ็บ” นางร้อนรนรีบบอกเขาแล้วชักมือกลับ แต่เขายึดข้อมือนางไว้แน่นทำให้นางขยับไม่ได้ ดวงตาคู่งามหลุบลงไม่กล้าสบตากับเขา

            “อย่างไรก็ต้องทำแผล”  เขาจับมือนางนางขึ้นเป่าเบาๆ “อย่าทำอะไรให้ตนเองต้องบาดเจ็บอีก”

            “ข้า...ข้าทราบแล้ว”

            “พวกเจ้าดูแลที่นี่ให้เรียบร้อย ข้าจะพาฮูหยินไปทำแผล”

            “ขะ...ขอรับท่านแม่ทัพ”

            เหล่าทหารต่างยืนตะลึงงันมองร่างสูงสง่าของท่านแม่ทัพประคองฮูหยินเดินออกไปสุดสายตาแล้วจึงได้สติ

            เมื่อครู่...

            เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น

            ท่านแม่ทัพ ‘เป่า’ นิ้วให้ฮูหยิน

            ท่านแม่ทัพ ‘ประคอง’ฮูหยิน

            ท่านแม่ทัพไม่ลงโทษผู้กระทำผิด

            คนผู้นั้นคือบุรุษที่ถูกเรียกขานว่าเป็น ‘แม่ทัพปีศาจ’ นะหรือ?

            “ยืนงงอะไรกัน รีบจัดการห้องครัวให้เรียบร้อยสิ” ป้าหวงฝูเตือนบรรดาทหารที่ยืนงงอยู่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกชายของนางวิ่งกระหืดกระหอบตามมา

            “ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นขอรับ” หวงอี้ถามมารดา เขาเพิ่งปฏิบัติภารกิจให้ท่านแม่ทัพเสร็จจึงตามกลับเข้าจวนมาทีหลัง พอได้ยินว่าห้องครัวไฟไหม้และท่านแม่ทัพมาดูด้วยตนเองจึงวิ่งตามมาที่นี่ แต่มาถึงก็ไม่พบท่านแม่ทัพแล้ว

            “ไม่มีอะไรแล้ว” นางโบกมือไปมา

            “ท่านแม่ทัพเล่า”

            “ฮูหยินบาดเจ็บ ท่านแม่ทัพพาไปรักษาแล้ว”

            “อ๊า! ฮูหยินบาดเจ็บ ข้าจะไปตามหมอทหาร”  หวงอี้ทำท่าจะวิ่งออกไปแต่ถูกมารดาดึงคอเสื้อไว้ก่อน

            “ไม่ต้องๆ ท่านแม่ทัพรักษาให้ฮูหยินเอง”

            “แต่ท่านแม่ทัพไม่ใช่หมอนะขอรับท่านแม่”

            นางหวงฝูกลอกตามองท้องฟ้า

            “เอาล่ะ ไม่ต้องตามท่านแม่ทัพกับฮูหยินไปก็พอแล้ว”

            มิน่าเล่า ป่านนี้ลูกชายคนเดียวของนางยังหาสะใภ้ไม่ได้เสียที เดิมทีนางไม่อยากเป็นฝ่ายหาคู่ให้บุตรชาย เผื่อว่าหวงอี้มีนางในดวงใจ แต่เห็นท่าทางซื่อ ๆเช่นนี้แล้ว นางคงต้องลงมือหาสะใภ้ให้ลูกชายด้วยตนเองแล้ว

            แม่ทัพหนุ่มพาภรรยาตัวน้อยกลับมาที่เรือนของตนซึ่งใกล้กว่าเดินไปที่เรือนของหรูซื่อ เขาสั่งบ่าวรับใช้ให้ยกน้ำอุ่นเข้ามา จับร่างเล็กนั่งบนตั่งแล้วหยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดใบหน้าให้นางอย่างเบามือ

            “ท่านพี่ ข้าทำเองได้” นางยื่นมือไปหมายจะหยิบผ้ามาเช็ดหน้าด้วยตนเอง แต่เขาเพียงพลิกข้อมือหลบนางก็เอื้อมมือไม่ถึงมือของเขาแล้ว

            “เจ้ามองไม่เห็นจะเช็ดไม่หมด” เขาให้เหตุผล แต่มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ทำเอาหรูซื่อตาพร่าไปชั่วขณะ

            ยามแย้มยิ้ม ใบหน้าของเขาน่ามองถึงเพียงนี้

            นางรู้สึกไม่เหมาะที่จ้องมองบุรุษ

            แต่...

            เขาเป็นสามีของนาง

            ภรรยาจ้องมองใบหน้าสามีคงไม่เป็นอะไรกระมัง

            ซุนหลวนคุนเห็นนางยอมนั่งนิ่งจึงบรรจงเช็ดคราบเขม่าบนใบหน้าใ จากนั้นจึงเปลี่ยนผ้าแล้วเช็ดปลายนิ้วมือที่ละนิ้วอย่างทะนุถนอม หรูซื่อเองก็ไม่รู้ว่าตนเองได้แผลมาเมื่อใด แต่เห็นเขาทำเพื่อนางขนาดนี้ หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นรัว และยิ่งนึกถึงคำสอนของป้าหวงฝูที่นางต้องพยายามใกล้ชิดสามีให้มาก ๆ หัวใจของนางก็ยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ

            ‘ต้องใกล้ชิดมาก ๆ เอ๋? มากแค่ไหนหรือป้างหวงฝู’

            ‘มือไม้สัมผัส ดวงตาประสาน เรือนร่างแนบชิด’

            ‘มือไม้สัมผัส ดวงตาประสาน เรือนร่าง..นะ..แนบ แนบชิด’

            ‘ใช่เจ้าค่ะ ฮูหยินมิต้องเขินอาย ท่านเป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ การใกล้ชิดถูกเนื้อต้องตัวมิใช่เรื่องผิด’

            ‘ทำเช่นนี้แล้ว ข้าจะมีทายาทให้ท่านแม่ทัพได้หรือ?’ นางยังคงสงสัย

            ‘เรื่องนั้น...เรื่องนั้นท่านแม่ทัพจะเป็นผู้มอบบุตรให้ท่านเองเจ้าค่ะ’

            ซุนหลวนคุนเห็นสีหน้าภรรยาแปลกไป ประเดี๋ยวซีดขาว ประเดี๋ยวแดงระเรื่อ  คิ้วกระบี่พลันขมวดปมอย่างวิตกกังวล เขายื่นหน้าไปใกล้ ลมหายใจผ่าวร้อนรินรดใบหน้าหญิงสาว หรูซื่อคิดจะถอยหลบแต่เมื่อนึกถึงถ้อยคำของป้าหวงฝูก็ฝืนทำตัวแข็งเกร็งไม่หลบสายตา เพื่อให้ ‘ดวงตาประสาน’ กัน

            “เจ้าไม่สบายเป็นแน่ ข้าจะไปให้คนไปเชิญหมอมาตรวจ”

            ดวงตางามกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง จนเมื่อเห็นร่างสามีหมุนตัวก้าวออกไป นางจึงได้สติรีบยื่นมือไปหมายจะดึงเขาไว้ก่อน ทว่านางรีบร้อนจนกลายเป็นสวมกอดเขาจากด้านหลัง  ร่างกายแม่ทัพหนุ่มกำยำดั่งหินผา หรูซื่อเหมือนเอาตัวไปกระแทกกับกำแพงหิน เจ็บจนน้ำตาร่วงสองหยด แต่นับว่าได้ผล เพราะร่างของเขาหยุดชะงักไปทันที

            แผ่นหลังสัมผัสเรือนร่างอ่อนนุ่ม กลับทำให้เขานิ่งงันราวกับถูกจี้สกัดจุด ร่างของนางนุ่มเสียจนเขาไม่คิดว่าตนเองเคยสัมผัสอะไรที่นุ่มอย่างนี้มาก่อน เขามิใช่บุรุษไก่อ่อนไม่รู้จักรสชาติอิสตรี  ทว่าเมื่อแต่งนางมาเป็นภรรยาแล้ว เขามิได้ข้องแวะกับหญิงใด แม้แต่หญิงนางโลมก็ไม่เคยเรียกมารับใช้ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวแนบชิดแผ่นหลังเรียกสติชายหนุ่ม  เขาจับมือนางออกแล้วค่อยๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับนาง

            “ไม่...ไม่ต้องตามหมอ...ข้า...ข้าไม่ได้..ปะ..ป่วย”

            “เจ้าไม่ป่วย แต่เหตุใดหน้าแดงถึงเพียงนี้”   เขารู้แล้วแต่อยากหยอกเย้าภรรยาตัวน้อย โน้มหน้าลงให้หน้าผากของตนสัมผัสกับหน้าผากของนาง “ตัวก็ไม่ร้อน”

            “ข้า...ข้า...”  จุดที่เขาสัมผัสทำก่อเกิดไอร้อนลามเลียไปทั่วใบหน้า แต่นางไม่รู้ว่า แม้กระทั้งติ่งหูดุจไข่มุกของนางก็แดงระเรื่อไปด้วย

            “น้องหญิงต้องการสิ่งใดรึ”

            ‘น้อง...น้องหญิง’

           นางเบิกตากว้าง ใครเลยจะคิดว่าสามีที่ตีหน้าเคร่งขรึมเสมอกลับเอ่ยวาจาหยอกล้อนางเช่นนี้

            “ข้า...ข้า...” นางพูดไม่ออกและเขาก็ใจเย็นเอาแต่จ้องมองดวงตาของนาง นางถูกเขาจ้องจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลมแล้ว

            “ว่าอย่างไร”  ถามคาดคั้นแต่สองมือกลับจับเอวบางไว้มั่นเพราะกลัวนางจะร่วงลงไปกองกับพื้น

            “ข้า...ข้าต้องการ...”

            “ต้องการ?”

            ถูกเขาต้อนจนไม่รู้จะทำเช่นไร นางหลับตาแน่นแล้วพูดรัวเร็วออกมา

            “ข้าต้องการลูก  ข้าอยากมีทายาทให้ท่าน ท่านมอบลูกให้ข้านะ!”

            น่าแปลก

          นางความจำเสื่อมก็จริง แต่เรื่องบางเรื่องนางกลับทำได้ดี

            ซุนหลวนคุนให้นางย้ายข้าวของมาอยู่เรือนเดียวกับเขา แม้ใบหน้ายามสั่งการให้บ่าวไพรเคร่งขรึม ทว่าผู้คนเหล่านั้นกลับรับคำสั่งด้วยรอยยิ้ม ไม่มีใครกล้าพูดอะไร นอกจากส่งยิ้มให้นาง ทำเอาหญิงสาวเขินอายจนไม่รู้จะซ่อนหน้าที่ไหน

            ‘งานที่ค่ายทหารรัดตัวมาก ข้าอาจกลับมาดึก เจ้าไม่ต้องรอข้า’

            ‘เจ้าค่ะ’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 35.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 2. (จบ)

    “เข้ามาคุยด้านในเถิด” เขาปล่อยมือจากไหล่ของนางแล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ทว่าสายตาของนางถูกตำรามากมายดึงดูดไว้จนหลงลืมว่ามี ‘สามี’ อยู่ใกล้ๆ “ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะชอบสะสมหนังสือมากขนาดนี้” ‘ท่านแม่ทัพ’ ภรรยาหมาดๆ สนใจแต่หนังสือมากมายเหล่านั้น จึงไม่ได้เห็นแววตาไม่พอใจของสามีหมาดๆ อย่างเขา ซุนหลวนคุน ลอบถอนหายใจ นางเพิ่งย่างเท้าเข้าบ้านมาเป็นคนสกุลซุน คงไม่คุ้นชินกับการเรียกขานนัก “อีกห้าวันข้าต้องออกเดินทางแล้ว” “เดินทาง? ท่านแม่ทัพจะไปไหนรึ” หลิวหรูซื่อหันมามองหน้า ‘สามี’ นางทำหน้างุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขบกรามเน้นเช่นนั้น“ได้ ข้าจะเตรียมตัว” “เจ้าไม่ต้องไป” น้ำเสียงของเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย บอกตนเองว่าต้องให้ ‘เวลา’ นางมากกว่านี้ เขาจะโมโหนางไม่ได้เด็ดขาด “เหตุใดไม่ให้ข้าไป” นางเอียงคอถาม ท่าทางไร้เดียงสา “เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมารดาข้าเถิด” เขากดน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดจนเกินไป “นับจากนี้เจ้าเป็นนายหญิงของจวน ต้องรับภาระดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในบ้านร่วมกับมารดาข้าแล

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 34.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 1.

    “แต่งงาน! น้องเล็กอายุแค่สิบเอ็ดจะให้แต่งงานแล้วหรือ?” “อีกสองเดือนน้องเล็กคนนี้ก็สิบสองแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างเล็กเดินเร็วๆ ยื่นมือมาหยิบขนมดอกกุ้ยฮวาที่วางบนโต๊ะเข้าปากกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ซื่อเอ๋อร์ เจ้าแอบฟังพ่อกับพี่ๆ คุยกันอีกแล้วนะ”ราชครูหลิวถอนหายใจเบาๆ แต่กลับยิ้มเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของสกุลหลิวไม่ได้ แม้นางเป็นหญิงแต่เฉลียวฉลาดแต่เด็ก หากไม่นับเรื่องวรยุทธแล้ว นางก็ไม่ด้อยกว่าบุรุษเลย “ซื่อเอ๋อร์ไม่ได้แอบฟังเสียหน่อย แต่เสียงพี่ๆกับท่านพ่อดังไปนอกห้องเอง” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ได้ยิน “แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” บิดาเอ่ยถามพลางรินน้ำให้ลูกสาวอย่างเอาใจ “คนแซ่ซุนอยากแต่งข้าเป็นภรรยา ก็แต่งสิ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” นางรับน้ำมาดื่มเล็กน้อยแล้วกินขนมต่อ มุมปากเลอะคราบขนมทำให้พี่ใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้นาง “คนแซ่ซุนไม่มีอะไรเหมาะสมกับเจ้าเลยสักนิด” พี่ชายคนรองเอ่ยอย่างหงุดหงิด “แค่ทหารปลายแถวที่ถีบตนเองขึ้นมาจากดินโคลน” “ข้าเชื่อว่าคนแซ่ซุน

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status