ทะลุมิติเวลามาเป็นคุณหนูไร้ค่าที่ถูกทอดทิ้ง

ทะลุมิติเวลามาเป็นคุณหนูไร้ค่าที่ถูกทอดทิ้ง

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-04-09
Bahasa: Thai
goodnovel16goodnovel
10
0 Peringkat. 0 Ulasan-ulasan
47Bab
17.2KDibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

วิศวะสาวปีสามข้ามมิติเวลามาพร้อมความสามารถจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ทว่ากลับได้เป็นคุณหนูรองที่บิดาทอดทิ้งให้เติบโหญ่ในดินแดนรกร้างห่างไกล ซ้ำยังถูกลากตัวไปอภิเษกกับรัชทายาทที่ไม่เคยพานพบด้วยความจำใจ!

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1 คุณหนูรองตระกูลซ่งผู้ถูกทอดทิ้ง

ตำบลเลี่ยงหลินเป็นพื้นที่ห่างไกลซ้ำยังทุรกันดาร เรื่องเกษตรกรรมการเพาะปลูกล้วนฝืดเคือง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล แม้จะนับว่าอยู่ในเขตการปกครองของแคว้นฮุ่ยเหอซึ่งมากล้นด้วยพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ทว่าการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านยามแร้นแค้นกลับได้รับเพียงกะพร่องกะแพร่ง เกรงว่าบรรดาขุนนางที่ดูแลเขตแดนแห่งนี้ ล้วนมีแต่พวกคดโกง อาศัยว่าตนมีอำนาจและตำแหน่งสูงส่งผนวกความรู้มากหน่อย ก็เอาเปรียบชาวบ้านตาดำ ๆ โดยคิดว่าเทพไม่รู้ผีไม่เห็น 

ซ่งซูหลานก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ริมลำธารกลางป่าไผ่ นางเป็นคุณหนูรองตระกูลซ่งทว่าบิดากลับไม่เหลียวแล ส่งตัวของนางมายังตำบลที่แสนอัตคัด เพียงเพราะหลงงมงายในคำทำนายไม่มีมูล แม้ซ่งซูหลานทราบดีว่าเป็นกลอุบายของฮูหยินรองกระนั้นนางก็เป็นลูกที่เกิดมาแล้วทำให้มารดาของตนต้องสิ้นใจจริง ๆ หากบิดาจะเกลียดชังบุตรสาวเช่นนางก็คงสมควรกระมัง 

"คุณหนูเจ้าคะ ท่านทำเหยาะแหยะเช่นนั้นแล้วเมื่อใดจะเสร็จเล่า ตะวันจะลับขอบฟ้าแล้วเร่งมือเข้าเถิด" 

เสียงสตรีวัยกลางคนแผดขึ้น ลี่ถังเป็นผู้ดูแลเรือนของที่นี่ ตระกูลซ่งกว้านซื้อที่ดินและเรือนหลายหลังเอาไว้ บิดาของซ่งซูหลานส่งตัวบุตรสาวมาอยู่กับนางตั้งแต่แบเบาะ ซ่งซูหลานถูกเลี้ยงดูโดยแม่บ้านลี่หรือลี่ถัง นางไม่เคยถูกประคบประหงมจากบ่าวผู้นี้เลยสักหน ถึงแม้ตนเป็นคุณหนูรองของตระกูลก็ตาม ตรงกันข้าม ซ่งซูหลานถูกเลี้ยงดูดุจดั่งลูกของบ่าวไพร่ผู้หนึ่ง อาหารการกินที่ดีที่สุดของนางคงนับว่าเป็นโจ๊กต้มเกลือกระมัง 

เรียวมือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาทว่าเหลืองซูบแหงนขึ้น นางเหลือบมองผ้าที่ยังไม่ได้ซักพะเนินเทินทึกกองกันอยู่ ก็พลันผ่อนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย 

ซ่งซูหลานตอบกลับเสียงค่อย "แม่บ้านลี่ กลับไปพักผ่อนเถิด ไว้เรียบร้อยแล้วข้าจะตามไป" 

"หึ!...ตามใจท่าน รีบมาให้ทันมื้อเย็นเล่า ไม่เช่นนั้นหมดก่อนอย่ามาต่อว่าข้าเชียว" ลี่ถังกระฟัดกระเฟียดเดินจากไป 

ลำพังนางเลี้ยงดูบุตรของตนถึงสองคนก็ลำบากมากพอแล้ว หน้าที่ของนางคือการดูแลเรือนหลังโตซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ทุรกันดารซ้ำยังห่างไกลความเจริญมิให้ทรุดโทรม กระนั้นซ่งหยวนหมิงกลับส่งบุตรสาวของตนมาให้นางดูแลอีกหนึ่ง เงินเดือนหรือก็หาได้เพิ่มมาสักอีแปะ นางเลี้ยงดูลูกที่พ่อทอดทิ้ง ซ้ำยังเป็นบุตรมาตุฆาตมารดาจนเติบใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ก็นับว่าบุญหัวเท่าใดแล้ว 

ทว่ากลับมิใช่เรื่องโชคร้ายเสมอไป ครั้นเมื่อซ่งซูหลานอายุไม่กี่หนาวนางก็สามารถช่วยลี่ถังแบ่งเบาภาระงานบ้านงานเรือนได้มากโข ในเมื่อฮูหยินรองบอกเองว่าไม่ต้องดูแลนางอย่างดี เช่นนั้นสิ่งที่ลี่ถังกระทำไปคงถูกจุดประสงค์ของนายหญิงแล้วกระมัง 

ซ่งซูหลานมองตามอีกฝ่ายก็พลอยส่ายศีรษะ จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาทำงานที่ล้นมือต่อไป อาทิตย์กำลังอัสดง ซ่งซูหลานจึงเร่งทำความสะอาดเสื้อผ้าเหล่านั้นอย่างขมีขมัน ทว่าไม้ที่ใช้เคาะตียามซักกลับหลุดมือลอยละล่องไปตามกระแสน้ำ นางจึงสาวเท้าลงไปด้วยความทุลักทุเลพลางเอื้อมคว้าไม้ขนาดพอเหมาะซึ่งลอยห่างออกไปเรื่อย ๆ 

ตู้ม!

ซ่งซูหลานหน้าคะมำหล่นลงน้ำ ผู้ใดจะทันคาดคิดว่าลำธารแห่งนี้ช่างลึกนัก ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ซ่งซูหลานว่ายน้ำไม่เป็น! 

"...ช่วยด้วย!" 

มือเรียวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อขอความช่วยเหลือ มือทั้งสองโผล่พ้นผิวน้ำ ใบหน้าพยายามแหงนเงยเพื่อหายใจรับอากาศเข้าปอด กระนั้นนางกลับดื่มน้ำเข้าไปหลายอึกแล้ว ซ่งซูหลานตบตีน้ำจนแตกกระจายพร้อมศีรษะซึ่งผลุบ ๆ โผล่ ๆ 

"ชะ...ช่วยด้วย...ไม่ไหวแล้ว" 

ร่างบอบบางลอยไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกราก พร้อมกับเรี่ยวแรงที่หลงเหลือเพียงกะพร่องกะแพร่ง เปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดปรือเมื่อกายจมดิ่งลงใต้ผืนน้ำ ซ่งซูหลานคงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว ถึงอย่างไรการมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ก็ไม่เคยใจดีกับนางเลยสักนิด ต่อให้นางทำดีเป็นร้อยเท่าพันทวีกลับไม่เคยมีผู้ใดมองเห็น เช่นนั้นจิตวิญญาณดวงนี้ปรโลกก็มารับนางไปเถิด...

ลมหายใจสุดท้ายที่ถูกกลั้นเอาไว้จึงขาดสะบั้นลงในที่สุด ผืนป่ากลับสู่ความเงียบสงัด ร่างบอบบางยังคงลอยเคว้งอยู่ใต้ผืนธารา ทว่าลี่ถังกลับไม่คิดมาตามซ่งซูหลานสักนิด ซ้ำยังนั่งทานอาหารกับลูกชายของตนด้วยท่าทีสบายอารมณ์ยิ่ง หยางเชาเด็กน้อยวัยสามขวบชะเง้อตามองว่าเมื่อใดซ่งซูหลานจะกลับเสียที 

"ท่านแม่ พี่ฉาวยังไม่กลับอีกหรือขอรับ อาหารจะหมดอยู่แล้ว ท่านไม่แบ่งไว้ให้นางหรือ" 

ลี่ถังตวัดสายตามองฉับ มือที่ป้อนอาหารให้เด็กน้อยราวหนึ่งขวบชะงักลง 

"หม่ำ หม่ำ" เด็กแก้มยุ้ยพยายามยืดใบหน้าเพื่องับเอาข้าวในมือของมารดา 

"อาเชา เจ้าเป็นห่วงนางยิ่งกว่ามารดาเช่นข้าเสียอีก ข้าบอกนางให้เร่งกลับมาแล้ว ในเมื่อนางไม่ยอมทำตามที่ข้าบอกเช่นนั้นอาหารนี่ก็ไม่ต้องเหลือ กินให้หมด!" 

เด็กน้อยหน้าสลดลงเดี๋ยวนั้น ตอบรับเสียงแผ่ว "ขอรับ" 

"ข้าล่ะหน่ายกับเจ้า ทำราวกับว่าเป็นพี่น้องคลานตามกันมา เจ้าจำเอาไว้ต่อให้นางเป็นคุณหนูรอง แต่นางเป็นตัวกาลกินี ไยชอบเข้าใกล้นางนัก หากข้าเห็นเจ้าข้องเกี่ยวเที่ยวเล่นกับนางอีกจะฟาดให้หลังลาย" 

หยางเชาก้มหน้างุด เขาเป็นลูกของลี่ถังก็จริงอยู่ ทว่านิสัยใจคอกลับแตกต่างจากมารดามากนัก แม้อายุเพียงไม่กี่ขวบกลับรู้ประสามากกว่าผู้ใหญ่บางคน 

"ค่ำมืดแล้ว กินเสร็จก็เก็บด้วยเล่า ข้าจะพาหยางเอ๋อร์เข้านอน" ลี่ถังก้มลงอุ้มบุตรชายคนเล็กขนาบเอว เด็กน้อยโบกไม้โบกมืออ้อแอ้ 

หยางเชากวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะที่เหลือไม่ถึงครึ่ง เจ้าตัวเล็กไม่หยิบตะเกียบทานต่อ เพียงเก็บอาหารที่ยังมีเนื้อบ้างประปราย พร้อมข้าวสวยหนึ่งถ้วยซ่อนเอาไว้ไม่ให้ลี่ถังเห็น เด็กน้อยชะเง้อมองทางต่อไปอย่างมีหวัง  

"พี่ฉาวท่านไปเล่นชาหนุกที่ใดกัน มืดค่ำเพียงนี้ยังไม่กลับอีกหรือ อาเชาเป็นห่วงท่าน" หยางเชานั่งเฝ้าอาหารถ้วยนั้นเพื่อรอซ่งซูหลานด้วยใจห่อเหี่ยว เทียนที่จุดไว้เพื่อให้ความสว่างค่อย ๆ หรี่แสงลงเรื่อย ๆ น้ำตาเทียนย้อยหยดดุจใครบางคนกำลังร่ำไห้ เนื่องจากยามนี้ดึกมากแล้ว เด็กน้อยไม่อาจทานทนความง่วงงุนไหว ใบหน้าเล็กคล้อยต่ำลงเนิบช้า กระทั่งแก้มป่องแนบลู่บนโต๊ะอาหาร หยางเชาพลันม่อยหลับลงในที่สุด

.

.

บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง...

เฮือก!!...

ซ่งซูหลานโผล่พรวดขึ้นเหนือผิวน้ำ นางแหงนหน้าอ้าปากพะงาบๆ เฉกเช่นตะพาบโผล่หัว เสียงหอบหายใจกะพร่องกะแพร่งสะท้อนก้องไปทั่วผืนป่า นัยน์ตาดอกท้อกวาดมองสรรพสิ่งท่ามกลางความอนธการ 

"นี่มันที่ไหนกัน!?" 

ซ่งซูหลานเบิกตากว้างตะลึงลาน นางยกมือทั้งสองของตนขึ้นสำรวจ พลางตบเปาะแปะบริเวณใบหน้าซีดขาวดุจไร้วิญญาณเพื่อเรียกสติ ฝ่ามือเย็นเยียบลูบคลำสะเปะสะปะด้วยความงุนงง 

"เกิดอะไรขึ้น เรามาอยู่ในน้ำได้ยังไง จำได้ว่าก่อนหน้ายังทำงานวิจัยอยู่ในห้องทดลอง แล้วนี่ นี่..." ริมฝีปากบางเฉียบขึ้นสีม่วงคล้ำ อ้าค้างสั่นระริกด้วยอาการตื่นตระหนก หัวสมองของนางว่างเปล่าขาวโพลนชั่วขณะ เมื่อตั้งสติได้แล้วซ่งซูหลานจึงพยายามตะกุยตะกายพาร่างอันไร้เรี่ยวแรงขึ้นจากน้ำ พลางหายใจเหนื่อยหอบ ซ่งซูหลานขบคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก 

 เสียงฝีเท้าย่างกรายเข้าใกล้จากทางเบื้องหลัง พร้อมดวงไฟให้ความสว่างหรุบหรู่ดุจผีน้อยแขวนคอล่องลอยเข้าใกล้ ทว่ายามนี้ซ่งซูหลานหูดับสติหลุดลอยไปเสียแล้ว คิ้วเรียงสวยเคลื่อนเข้าหากันแทบผูกเป็นปม

"พี่ฉาว...ท่านอยู่ที่นี่เองหรือ" เสียงเด็กเรียกจากทางด้านหลัง

ซ่งซูหลานผงะพลันแหงนหน้าขึ้นเนิบช้าด้วยหัวใจไหวระรัว อากาศหนาวทำให้กายสั่นสะท้านไม่พอ คนเบื้องหน้ายิ่งส่งผลให้ริมฝีปากบางกระตุกยิก ๆ พร้อมฟันที่กระทบกันจนแทบสิ้นสติ 

"เหวอ ผะ...ผีเด็ก!!" 

หยางเชาตื่นตระหนก ขว้างโคมไฟในมือทิ้ง จากนั้นกระโดดโหยงลงมาเกาะแขนผู้ที่ตนเรียกว่าพี่สาวเดี๋ยวนั้น 

"ผะ...ผีหรือ ไหนขอรับ ไหน!?" 

ซ่งซูหลานตัวแข็งทื่อ ลมหายใจของนางผิดจังหวะไปเสียหมด 

"นะ...หนูเป็นใคร" 

เด็กน้อยแหงนหน้ามองซ่งซูหลาน พลางคลี่ยิ้มอวดเหงือกที่ฟันหน้าหายไปถึงสองซี่ มิน่าเล่าเขาถึงเรียกนางว่าพี่สาวไม่ชัดเจน "พี่ฉาว ท่านหิวข้าวจนชาติเลอะเลือนเชียวหรือ" 

"หา...พี่ฉาว เอ๊ย!...พี่สาว เมื่อกี๊หนูเรียกพี่ใช่ไหมจ๊ะ" ซ่งซูหลานกะพริบตามองอีกฝ่ายปริบ ๆ พลางชี้นิ้วไปที่ตน 

หยางเชาพยักหน้าหงึกหงัก "อาหารเย็นชืดแล้ว ท่านรีบกลับไปกินก่อนท่านแม่จะตื่นเถิด" 

ซ่งซูหลานอึ้งงัน นางไม่ทราบว่าตนมาโผล่ในพื้นที่เปลี่ยวร้างเช่นนี้ได้อย่างไร คงมีเพียงการตามเด็กคนนี้ไปเสียก่อน แล้วเหตุใดกายของนางจึงเปียกมะล่อกมะแล่กประดุจลูกสุนัขจมน้ำ นี่เป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ นางคงไม่ได้ทำการทดลองแล้วเกิดระเบิดจนสมองเลอะเลือนใช่หรือไม่

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status