Search
Library
Home / วาย / หลงมนต์พยัคฆ์ (Mpreg) / บทที่ 5 ที่ของคนสวน

บทที่ 5 ที่ของคนสวน

Author: Somoon
2025-06-23 16:50:14

บ้านไพศาลภิรมย์รักษ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางหน้าบ้านหันไปทางถนน เปิดรั้วเข้ามาจะพบกับสวนสวยงามทั้งสองข้างทาง น้ำพุใหญ่ตกแต่งตามยุโรปนิยม สวนของคุณหญิงแก้วตายาวไปถึงข้างบ้านทางขวามือจรดศาลาริมน้ำ มีแปลงดอกกุหลาบสูงเท่าเอวส่งกลิ่นหอมฟุ้ง

ทางซ้ายของบ้านเป็นลานหญ้า เดินเรื่อยเข้าไปถึงส่วนหลังบ้านใหญ่เป็นราวตากผ้าสำหรับเจ้านาย สวนของคุณหญิงแก้วตาก็หยุดอยู่ส่วนนี้ เดินอีกครู่จะเห็นหลังคาของเรือนพักสาวใช้ หน้าเรือนมีเตียงไม้หลังหนึ่งเอาไว้นั่งเล่น มีแปลงคุณนายตื่นสายประดับบริเวณ เยื้องขึ้นมาหน่อยเป็นรั้วตาข่ายกั้นบรรดาพืชสวนครัว ถัดจากเรือนสาวใช้เป็นเพียงลานเล็กที่เอาไว้ตากผ้า

เดินลึกเข้าไปผ่านต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงสามฤดู ที่อยู่ทางขวามือและกอต้นกล้วยทางซ้ายมือจะพบกับเรือนไม้ชั้นเดียวทอดยาวแบ่งห้องเป็นสัดส่วน

“ถึงแล้วครับ…พี่ครามพออยู่ได้ไหม” ฉัตรเกล้าหยุดเท้าที่หน้าเรือนไม้ หันไปถามฟ้าครามอย่างระมัดระวังพอสมควร

เจ้าของชื่อหันมองรอบด้านเล็กน้อย ลมเอื่อย ๆ พัดผ่านทำเส้นผมดำสนิทปลิวไสว คุณหนูคนเล็กของบ้านมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย มุมหน้าด้านข้างที่แสนสมบูรณ์แบบของบุรุษด้วยกันมีเสน่ห์มากมายถึงเพียงนี้ จังหวะที่พี่เขาหันมายังสบตาด้วยแวบหนึ่ง

ฉัตรเกล้าชะงักและหันหลบโดยทันที

“ข้าอยู่ได้” บอกเสียงเรียบ คนถามพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองหาไหมและพลับพลึงที่ให้มาเตรียมห้องก่อนหน้า

“ได้ห้องซ้ายสุดเลยด้วย ไปครับพี่คราม”

“อ้าวคุณฉัตร” ไหมเป็นคนแรกที่เห็นการมาถึงของฉัตรเกล้า เจ้าหล่อนทักเขาครั้งหนึ่ง สายตามองไปยังด้านหลังของคุณชายเล็ก อยู่ ๆ สาวเจ้าก็หน้าแดงซ่านขึ้นมา

“…ทำความสะอาดถึงไหนแล้วล่ะ” ฉัตรเกล้าถาม มองข้ามอาการกระมิดกระเมี้ยนของเธออย่างจงใจ

“ระเรียบร้อยแล้วค่ะคุณฉัตร” สาวใช้วัยสาวตอบกลับ เธออายุย่างยี่สิบปี ถือว่าเด็กที่สุดในบรรดาสาวใช้รุ่นเดียวกัน

“อืม” เจ้านายพยักหน้ารับ

พลับพลึงที่ได้ยินเสียงคุยรีบเดินออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง หล่อนใส่เสื้อตัวเล็กรัดรูปกับผ้าซิ่นเขิน ๆ ดูแล้วช่างเป็นคนมั่นใจกล้าแสดงออก ไม่หวั่นต่อสิ่งใด เธอมีอายุมากกว่าไหมสองปีและกำลังส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มไปทางด้านหลังของฉัตรเกล้าด้วยอีกคน

“พี่ครามมาอยู่ใหม่ มีอะไรก็ถามฉันได้นะจ๊ะ ฉันอยู่เรือนทางโน้น…พี่เรียกหาฉันได้ทุกเวลาเลยจ้ะ” พูดไปก็ยิ้มไป แต่สื่อความนัยไม่น้อย

“…” ฟ้าครามไม่ได้แสดงท่าทีใดตอบรับ ไม่แม้แต่จะมองเธอ ตาคมทำเพียงหลุบต่ำราวพื้นกระเบื้องมีสิ่งใดให้เขาสนใจมากกว่า

“อะฮืม! ขอบคุณทั้งสองมาก เสร็จแล้วก็ไปทำงานอย่างอื่นเถอะ” ฉัตรเกล้ากระแอมขึ้น ใบหน้าติดหวานยกยิ้มก่อนจะเอ่ยปากให้สาวใช้ทั้งสองกลับไปทำงานอย่างอื่น

“งานของพลับพลึงเสร็จหมดแล้วค่ะคุณฉัตร ว่าจะอยู่ช่วยพี่ครามเขาจัดห้องหับเสียหน่อย” เธอเอ่ยบอกเสียงหวาน

“ของไหมก็เสร็จแล้วค่ะ นี่ก็จะบ่ายแล้ว ถะถ้าพี่ครามไม่ว่าอะไรให้ฉันยกข้าวมาให้ไหมจ๊ะ” ไหมตอบเจ้านาย ประโยคหลังรวบรวมความกล้าถามฟ้าคราม พลับพลึงสาวใช้รุ่นพี่หันมองหน้าเธอในทันที

ส่วนคนตัวสูงก็ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง หากไม่ได้ยินเสียงถอนหายใจเล็ก ๆ จากเขา ฉัตรเกล้าจะคิดว่าเป็นรูปปั้นแล้วเชียว

แต่ดูเอาเถอะ

ขนาดพ่อคุณผมยาวเห็นหน้าไม่ชัด เพียงแค่ยืนนิ่ง ๆ ก็มัดใจสาวน้อยไปเสียแล้วถึงสองคน

เสน่ห์เหลือร้าย รูปงามกรามชัด เหล่าสตรีน้อยบอบบางราวบุปผามีหรือจะต้านทานองค์ภมรแกร่งกล้ามากฤทธิ์ได้

“ไม่ต้อง ผมว่าจะพาเขาไปที่ครัวอยู่” ฉัตรเกล้าปฏิเสธแทนคนสวนคนใหม่

“แล้ว…”

“เหมือนป้านิดจะเรียกหา รีบไปสิ เดี๋ยวโดนดุเอานะ” และรีบบ่ายเบี่ยงให้พวกหล่อนไปที่อื่นโดยเอาหัวหน้าของหล่อนมาอ้าง

“รับทราบค่ะคุณฉัตร”

สาววัยสะพรั่งทั้งสองออกไป ทั้งห้องเหลือเพียงบุรุษสองคน ฟ้าครามกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องอย่างสำรวจ ในขณะที่ฉัตรเกล้าเดินไปหยิบจับนั่นนี่ดู ในห้องไม่ได้มีสิ่งของมากมายนัก มีเพียงเตียงนอนที่วางอยู่กลางห้อง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเล็ก ๆ เอาไว้วางของ

ในหัวของร่างโปร่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่ขาดหายไปมากมาย

“ยังขาดอีกหลายอย่างเลย”

“…”

“ว่าแต่พี่ครามมีเสื้อผ้ามาไหมครับ ผมไม่เห็นพี่ถืออะไรไว้ ไม่แน่ใจว่าเอาไปวางไว้ที่ไหนหรือเปล่า” ฉัตรเกล้าหันไปถาม

“…คนที่ชื่อทิวาจะเอามาให้ทีหลัง” ฟ้าครามตอบ เป็นเสื้อผ้าเก่าที่คนนั้นเขาไม่ใช้แล้วนั่นแหละ บอกไว้ตอนออกจากคุก ไม่ต้องซื้อให้เปลืองสตางค์ มีอะไรให้ใส่ก็ใส่ไป

“อ้อ…ถ้างั้นผมจะให้คนเตรียมพวกของใช้ให้แทนนะ”

“ขอบคุณ”

“ไปที่ครัวกันเถอะครับ บ่ายแล้ว”

คุณหญิงแก้วตาสร้างศาลาเอาไว้ให้คนงานในบ้านทานข้าวโดยเฉพาะ ศาลาหลังนั้นตั้งอยู่ตรงข้ามกับราวตากผ้าตรงหลังบ้าน โดยทุกเช้าแม่ครัวนำโดยป้าสายจะเป็นคนตื่นมาทำอาหารให้ทั้งเจ้านายและของบ่าวด้วยกัน ช่วงสายพวกคนงานชายจะมายืนรอที่ศาลา สาว ๆ ก็จะยกหม้ออาหารมาวางเรียงให้คนงานตักไปกิน

ฉัตรเกล้าอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟ้าครามฟัง ซึ่งตอนที่เดินไปห้องพักก็สังเกตเห็นศาลาหลังหนึ่งทางขวามืออยู่แล้ว

เมื่อมาถึงห้องครัวที่อยู่ส่วนหลังบ้าน คนที่เจอคือมะลิและศรีแพร

มะลิเป็นน้องสาวของไม้ เธอมองเหยียดหยามฟ้าครามตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ปิดบัง ฉัตรเกล้าพยายามส่งสายตาปรามแต่ไม่เพียงไม่ได้ผล ซ้ำร้ายตอนที่มะลิจะเดินออกจากห้องครัวยังจงใจชนฟ้าครามเข้าเต็มแรง

“มะลิ…” คุณชายเล็กของบ้านเอ่ยชื่อเธอเสียงดุจนสาวเจ้าหันมามอง

“ยืนเกะกะขวางทาง ไม่รู้จักที่ของตัวเอง” เธอมองเจ้านายแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนหันไปพูดกระแทกเสียงกับร่างสูงที่ยังยืนนิ่ง

ฉัตรเกล้าตกใจ ถึงจะรู้มาว่ามะลิได้รับอิทธิพลจากพี่ชายที่เป็นรองหัวหน้าคนงานมาไม่น้อยจึงได้มีพฤติกรรมอวดเบ่งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าต่อหน้าเขาจะยังกล้าพูดขนาดนี้

‘ให้ฉันสั่งสอนมันหน่อยไหมจ๊ะพ่อ…’ เสียงเย็น ๆ ของบริวารสาวสวยกระซิบข้างหู ใบบัวเกาะอยู่ด้านหลังของฟ้าคราม เล็บยาวแหลมเกลี่ยไปมาที่กรอบหน้าคม บ่งบอกว่าเจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติ ณ ตอนนี้

ในฐานะบริวารที่จงรักภักดี ใบบัวโมโหจนแทบอยากจะคลั่งเมื่อได้ยินและได้เห็นท่าทางดูถูกจากเด็กสาวนั่น

มันกล้าดีอย่างไร

“ถ้าผมไม่ได้ยินกับหูตัวเองคงไม่รู้ว่ามะลิจะก้าวร้าวขนาดนี้ ฟ้าครามเขาอายุมากกว่าเธอ ขอโทษเขาเสีย” ฉัตรเกล้าดุเธอเสียงเรียบ คิ้วเรียวขมวดมุ่น ไม่พอใจอย่างมาก

“ทำไมมะลิต้องขอโทษคนชั่วแบบมันด้วยคะ” สาวใช้เชิดหน้า ร้องหึในลำคอก่อนจะถามกลับมาอย่างดื้อรั้น

“มะลิ” ศรีแพรรีบเดินเข้ามาห้ามเพื่อนที่ถือดีกล้ามีปากเสียงกับเจ้านาย

มะลิสะบัดแขนออก

“หรือไม่จริง อดีตเสืออย่างมันจะกลับตัวกลับใจแน่หรือคะ ดีไม่ดีเราได้ตายกันหมดทั้งบ้านขึ้นมาจะทำยังไงค…”

“ถ้าไม่พอใจก็ไปลาออก คุณแม่ก็บอกเธอแล้วนี่ หรือไม่กล้า ให้ฉันช่วยพูดดีไหม” ไม่รอให้หล่อนพูดจบ คุณชายเล็กของบ้านก็พูดขึ้นมาก่อน ฉัตรเกล้าจ้องตาดุ น้ำเสียงที่เปล่งออกไปยากนักที่จะได้ยิน

“รีบขอโทษคุณฉัตรสิมะลิ” ศรีแพรเห็นท่าไม่ดีรีบบอก

นี่คุณฉัตรเกล้านะ คุณชายเล็กที่คุณหญิงแก้วตาและคุณชนาโอบอุ้มอย่างกับไข่ในหิน ถ้าทำให้ท่านไม่พอใจ คำพูดเพียงนิดก็ตัดสินชีวิตภายหน้าของพวกเธอได้เลย

“…ขอโทษค่ะ” มะลิกล่าวอย่างจำยอม

“คนที่เธอควรขอโทษคือฟ้าคราม” หากแต่ฉัตรเกล้าไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากหล่อน

สตรีร่างบางหากแต่สัดส่วนชัดเจนกัดฟัน ทำราวอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด เธอหันไปทางฟ้าครามแทน

“…ขอโทษนะ ไอ้คนชั้นต่ำ” พูดประโยคแรกออกมา ส่วนประโยคหลังเธอกระซิบอย่างแน่ใจว่าฟ้าครามได้ยินแน่นอน

ศรีแพรเองก็ได้ยิน สาวเจ้าตาโตตกใจกับคำพูดนั้น ครู่ต่อมาก็รีบเก็บอาการเพราะฉัตรเกล้าที่ยืนไกลออกไปน่าจะไม่ได้ยินด้วย

“น้ำหน้าอย่างมึงรีบไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง อย่าให้กูต้องสั่งสอน บ้านผู้รากมากดีแบบนี้ไม่เหมาะกับสวะอย่างมึงหรอก” สาวใช้ยังกระซิบคำหยาบกร้าวรุนแรงต่อร่างสูง เธอแสยะยิ้มเย้ย ก่อนเดินสวนออกไป

ส่วนศรีแพรก้มหน้างุดเพราะได้ยินทุกถ้อยคำ กลัวว่าจะเผลอแสดงอาการให้ฉัตรเกล้าจับสังเกตได้

ฟ้าครามยืนนิ่ง เหลือบมองเด็กสาวที่คงอายุน้อยกว่าเขาสิบกว่าปีอย่างเฉยชา หากดวงตาคมกล้าพิจารณาลึกซึ้ง

อะไรทำให้สาวใช้ไม่เกรงกลัวแม้จะอยู่ต่อหน้าเจ้านายเช่นนี้?

‘คิก…คิก’ เสียงหัวเราะของหญิงสาวดังที่ข้างหูฟ้าคราม มันใสกังวานราวมีความสุข แต่ที่จริงแล้วคืออาการของใบบัวที่กำลังโกรธเป็นอย่างมาก

ผีสาวคลี่ยิ้ม ปากบางสีแดงสดมีเลือดข้นไหลออกมา เธอรอคำสั่งจากเจ้านาย เมื่อไร้วี่แววใบบัวจึงเป็นฝ่ายผละออกไป

ไม่สนบทลงโทษที่จะได้รับหลังจากนี้ด้วยซ้ำ

‘คิก เด็กอวดดีต้องโดนสั่งสอน‘

พ่อเสือใหญ่รับรู้ได้ทันทีว่าบริวารจะทำอะไร เขารีบหันหลังกลับไปทางประตู ปากหยักสวยพึมพำเรียกใบบัวกลับมา ในขณะที่มะลิพึ่งก้าวพ้นประตูไปหมาด ๆ กำลังเดินลงบันไดเพื่อไปเรือนนอนของตน

สายลมวูบหนึ่งพัดมาปะทะหน้า ร่างโปร่งแสงของใบบัวชนเข้าอย่างจังกับร่างเล็กของสตรีแรกแย้ม

“อึก…” มะลิชะงักอย่างแรง ลมหายใจสะดุด รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผ่านร่างของเธอไป ขนอ่อนลุกชันไปทั้งร่าง รู้สึกวูบโหวงราวภายในร่างกายไร้อวัยวะ

“นับวันจะยิ่งเสียนิสัย ขอโทษอีกครั้งแทนมะลิด้วยนะคะคุณฉัตร” ศรีแพรพูดกับฉัตรเกล้า สาวงามโค้งกายอย่างนอบน้อมก่อนจะรีบเดินตามมะลิไป

“มะลิ? เป็นอะไร” เขย่าแขนเพื่อนที่ยืนนิ่งเหม่อลอย

“หา...อ้อ เปล่านี่ ไปเถอะ ไม่อยากหายใจร่วมกับคนคุก” ได้สติกลับมาเดี๋ยวนั้น แม้จะแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองอยู่บ้างแต่เธอเลือกที่จะเมินเฉย จนทั้งสองสาวเดินจากไป

‘คิก…’ ทิ้งไว้เพียงร่างบอบบางในชุดยาวสีขาวที่ยืนอยู่ในจุดเดียวกันกับมะลิก่อนหน้านี้

ฟ้าครามจ้องมองบริวารของตน ตาคมเข้มขึ้นระดับหนึ่งจนเหล่าบริวารเสียววาบไปทั่วร่าง มือหนาเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น เปิดเผยใบหน้าราวพระเอกหนังดัง ในขณะที่ใบบัวช้อนสายตามองพ่อของเธอราวเด็กน้อยที่เพียงเล่นซุกซนจนต้องโดนดุ

“อย่าถือสามะลิเลยนะครับพี่คราม เดี๋ยวผมจะให้ป้าสายอบรมเธอเสียหน่อย” ฉัตรเกล้าเห็นท่าทางของร่างสูงจึงรีบเดินเข้ามาใกล้ มือขาวแตะที่ข้อศอกอีกฝ่ายเบา ๆ ฟ้าครามละสายตาจากบริวารสาว หันมามองคุณหนูของเขา

ฉัตรเกล้าชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตาไม่น้อยเลยพ่อคุณ ดวงตาคมกล้า รูปหน้าคมคาย หุ่นดึงดูดน่าสัมผัส ลักษณะดีเช่นนี้เชียว ในอดีตจะเคยถูกเหล่าบุปผาเอนกายเข้าหาเพียงใดหนอ

“ไม่เป็นไร ที่เธอว่าก็ความจริง ข้ารู้ตัวดี คุณหนูไม่ต้องไปตำหนิเธอหรอก” ฟ้าครามพูด อัยที่จริงก็ไม่ผิดไปจากที่เด็กสาวคนนั้นว่าสักนิด เขามันต่ำช้า เลวทราม ไม่แปลกที่จะถูกรังเกียจเหยียดหยาม

ฟ้าครามมีชีวิตอยู่เพื่อจดจำและสำนึกผิดในทุกขณะจิต จะปฏิบัติกับเขาอย่างไร เขาก็ไม่ถือโทษทั้งนั้น

‘ทรมานงั้นรึ ให้กูช่วยมึงสิ หลับไปเสีย เดี๋ยวกูใช้ชีวิตแทนเอง ฮี่ฮี่ฮี่’ เสียงในหัวของสตรีตนเดิมเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า สายรยางค์สีดำลักษณะเรียวรีคล้ายลิ้นของอะไรบางอย่างลอยในอากาศจากด้านหลังของฟ้าครามพุ่งไปใกล้ฉัตรเกล้า แน่นอนว่าคุณชายเล็กไม่เห็น เขายังแตะแขนของฟ้าครามค้างเอาไว้ และจ้องมองเพียงใบหน้าคมคายอย่างตกในภวังค์

‘อย่าหาว่ากูไม่เตือน’ ฟ้าครามตอบกลับไปในตอนที่สายรยางค์สีดำกำลังจะต้องใบหน้าขาวนวล จิตสังหารแรงกล้าสายหนึ่งวูบขึ้นกะทันหัน พลันสายรยางค์นั้นแข็งทื่อไม่อาจขยับ ก่อนมันจะหายไป

‘ฮี่ฮี่ฮี่’ ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะชอบใจของบางอย่างในกาย

มือเรียวขาวยื่นมาตรงหน้า กำลังจะสัมผัสผิวแก้มของฟ้าคราม

หมับ

“อะ…”

“มีอะไรงั้นรึคุณหนู” ร่างสูงคว้าข้อมือนั้นได้ก่อนอย่างรวดเร็ว ราวเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ที่เป็นไปเองของร่างกาย

ฉัตรเกล้าที่ยื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว ในใจคิดเพียงหวังอยากสัมผัสใบหน้าคมสักครั้ง ไม่นึกว่ามือของตนจะยื่นไปไวเพียงนี้

“อ้อ…คะคือ...อ่า ผมของพี่น่ะ ยาวเกินไปหรือเปล่าครับ ผมพาไปตัดได้นะ รู้จักช่างฝีมือดีอยู่คนหนึ่ง ที่บ้านไปใช้บริการบ่อย ๆ น่ะครับ” ข้ออ้าง เป็นข้ออ้างที่มีมูลอยู่บ้างเพราะผมของฟ้าครามยาวเกินไปจริง ๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าตัดเอง” ศีรษะเป็นของสูง ยิ่งกับคนเล่นของ มีวิชาอาคมมากมาย จึงยิ่งไม่อาจให้ใครแตะต้องได้ง่าย ๆ

ฉัตรเกล้าพยักหน้ารับ หลุบตามองมือแกร่งที่กอบกุมข้อมือของตนไว้อยู่

ข้อมือของลูกผู้ดีดูเล็กไปถนัดตาเมื่ออยู่ในกำมือของฟ้าคราม

“ข้าขอโทษ” ฟ้าครามมองตามสายตาของเจ้านายที่เลื่อนไปมองข้อมือของตนก็รีบปล่อยในทันที พร้อมกับเอ่ยขอโทษไปด้วย

“อื้อ พี่ครามหิวหรือยัง ปกติแล้วตอนเที่ยงอาหารจะถูกยกไปวางไว้ที่ศาลาแต่ตอนนี้บ่ายแล้วพวกคนงานเลยเอามาเก็บไว้ในครัว น่าจะมีอะไรเหลืออยู่นะ” ฉัตรเกล้าเดินไปเปิดหม้อที่วางอยู่ตรงโต๊ะตรงกลางห้องครัว

หากเคยได้ยินว่าพวกมีของมีครูกินของเหลือจากคนอื่นไม่ได้

นั่นก็ใช่ แต่กับฟ้าคราม บางทีเขาไม่อาจเลือกได้เท่าใดนัก ด้วยชีวิตเคยผกผันมามาก ของเหลือ ของที่คนอื่นไม่กิน ของทิ้งแล้ว เพื่อประทังชีวิต ฟ้าครามเคยกินมาหมดทั้งสิ้นในตอนที่ถูกไล่ออกจากวัด เร่ร่อนเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งอยู่นานกว่าเสือแหวนจะเก็บไปเลี้ยงในรังเสือ

“ไม่มีเลย คนบ้านนี้กินข้าวเก่งเสียจริง”

“ข้ายังไม่ค่อยหิว” ฟ้าครามบอกแม้จะไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้วก็ตาม

“รอผมที่นี่ ผมจะไปเรียกให้คนมาทำให้” ฉัตรเกล้าไม่สนใจประโยคนั้น ร่างโปร่งกำลังจะเดินเข้าไปในตัวบ้านใหญ่เพื่อดูว่าบรรดาแม่ครัวอยู่ที่ไหน หากแต่เสียงหนึ่งกลับรั้งเขาไว้ก่อน

“เดี๋ยวศรีแพรทำให้ค่ะคุณฉัตร” ศรีแพรเดินกลับมาจากเรือนนอน สตรีร่างเพรียวบางใส่ผ้าถุงยาวกรอมข้อเท้าเล็กบอกอย่างนอบน้อม

“ฝากด้วยนะครับ” ฉัตรเกลาหันกลับมา เขายิ้มให้หล่อนก่อนจะพูดออกไป ฟ้าครามมองตามรอยยิ้มสวยเงียบ ๆ

“รสมือฉันไม่รู้ว่าจะถูกปากพี่หรือเปล่านะจ๊ะ หากไม่ชอบพี่ติเตียนฉันได้เลยจ้ะ ฉันจะได้ปรับปรุง”

“ข้าไม่เลือกกิน ทำอะไรมาก็กินได้หมดนั่นแหละ” ฟ้าครามหันไปมองศรีแพรแล้วตอบเธอ เป็นครั้งแรกเลยที่ร่างสูงพูดกับสตรีในบ้านหลังนี้

“พี่…” ฉัตรเกล้ากำลังจะเอ่ยเรียก

“คุณฉัตรครับ คุณท่านเรียกหาครับ” แต่ถูกเสียงของทิวาดังแทรกมาก่อน

“…คุณพ่ออยู่ไหน”

“ห้องทำงานครับ” คุณชายเล็กพยักหน้ารับ หันไปทางคนสวน รู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องปล่อยให้ฟ้าครามอยู่กับศรีแพรเพียงสองคน

“ผมต้องไปหาคุณพ่อ พี่ครามทานข้าวในนี้ไปก่อนนะครับ ส่วนเรื่องงาน…”

“เดี๋ยวศรีแพรพาไปหาพี่ไม้เองค่ะคุณฉัตร”

“อ้อ…ดีเลย ขอบใจนะ” ฉัตรเกล้ามองหน้าฟ้าคราม ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างสุดท้ายก็ไม่พูด

TBC

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP