ตอนที่ 1 พามาให้เจอ
มหาวิทยาลัย
“ยัยหมวยร้านแกเปิดกี่โมงนะ ฉันจะไปเปลี่ยนสีแล้ว”
“เปิดตั้งแต่สิบโมงแล้วไหม แต่ฉันเข้างานบ่าย”
“งั้นฉันรอไปพร้อมแก”
“ไหนขอดูเล็บหน่อย”
พายเป็นเพื่อนสนิทของหมวยเล็ก ทั้งคู่คบกันตั้งแค่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยช่วงปีหนึ่งและคบกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น เพื่อนในสาขาคนอื่นๆ ก็มีเที่ยวด้วยกันบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก
พายคนนี้รู้ความลับของหมวยเล็กทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของเพลิงแต่เธอก็เก็บความลับของเพื่อนได้ดีเช่นกัน ดีชนิดที่ว่าไม่เคยพูดเรื่องของเพลิงให้ใครฟังเลยสักครั้ง
“พอจะทำได้ไหม”
“อือ ตั้งสองเดือนกว่าแล้ว ได้แหละ” หมวยเลขว่าแล้วก็ปล่อมมือเพื่อนให้เป็นอิสระ
” ดีอะ มีเพื่อนเป็นช่างแบบนี้”
“แกว่าสีนี้โอเคไหม” หมวยเล็กเลื่อนดูแบบร้านทำเล็บที่ขึ้นตามอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นตัวอย่างในการออกแบบร้านของตัวเอง เน้นสีชมพูอ่อน ดูหวานๆ
“น่ารักดีนะ เหมาะกับแกเลย” เพื่อนสนิทพยักหน้าเร็วๆ
คนถูกชมทางอ้อมยิ้มกว้าง ยัยพายก็ชอบชมเธอบ่อยแบบนี้ประจำ เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เธออยู่ด้วยแล้วสบายใจมากที่สุดจนเธอไม่อยากมีเพื่อนมากมายไปกว่านี้แล้ว
“ถ้าฉันไปเปิดร้านอยู่นุ่นแล้วแกต้องไปอุดหนุนนะ”
“ฉันต้องเดินทางเกือบพันกิโลเพื่อที่จะไปทำเล็บร้านแกใช่ไหม”
หมวยเล็กหัวเราะลั่นกับคำพูดของเพื่อนสนิท เธอก็พูดไปอย่างนั้น เพราะระยะทางแปดร้อยกว่ากิโลไม่ใช่น้อยๆ ไหนจะต้องเจอรถติดก็ขับรถข้ามวัน ขึ้นเครื่องไปกลับก็หลายพัน
“ถ้าเรียนจบฉันก็คงไม่ได้เจอแกทุกวันแบบนี้แล้วสิ” หมวยเล็กเอียงศีรษะไปซบไหล่เพื่อนสนิทอย่างออดอ้อน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เธอชอบทำประจำ
“แล้วใครบอกให้แกไปอยู่ตั้งไกลขนาดนั้นล่ะ”
ใบหน้าสวยนิ่งไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อน ภายในอกข้างซ้ายคลายมีแรงขยับผิดปกติ ก่อนที่จะค่อย ๆ เผยรอยยิ้มบางๆ ออกไประหว่างที่ตอบคำถามนั้น
“ที่นั่นน่าอยู่ ไม่วุ่นวายเท่าที่นี่ไง ฉันอยากไปหาที่ที่สงบ ไม่ต้องเจอรถติดสองชั่วโมง อีกอย่างยายกับแม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย”
หลายครั้งที่แม่สงสัยว่าเธอเอาเงินจากไหนมากมายไปปลุกบ้านหลังนั้น แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ โกหกไปบ้างเพื่อไม่ให้แม่ต้องมากังวลใจ
ตอนนี้แม่เป็นลูกจ้างร้านเสริมสวย หมวยเล็กคุยกับแม่ไว้แล้วว่าถ้าย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่จะเปิดร้านเสริมสวยด้วยกัน เธอทำเล็บ แม่ทำผม คงพอจะเรียกลูกค้าได้
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง จะมีก็แต่หลังนี้ที่กำลังปลุกสร้าง ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่โตอะไรแต่ก็คงพออยู่กันได้สามคน
ตั้งแต่รุ่นยายที่ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง มีเพียงที่ดินผืนหนึ่งบนทำเลทองที่ยายใช้เป็นพื้นที่ให้จอดรถ พอมีรายได้เข้ามาทุกเดือน แต่มันก็แค่พอใช้จ่ายไปวันๆ สำหรับยายตั้งแต่ไหนแต่ไร
บางทีก็นึกอยากขอบคุณเขาที่ให้เธอได้มากขนาดนี้ แต่ก็แลกมากับการอดหลับอดนอนบางคืนเหมือนกัน เพราะเพลิงไม่ได้มีเวลาว่างตรงกับเธอ บางวันเขาก็ต้องอยู่เวรเหมือนแพทย์ทั่วไป วันไหนกลับดึกเธอก็ต้องรอเจอเขาตามคำสั่ง
เพลิงเป็นผู้ชายปากร้าย เอาแต่ใจ แถมยังหน้าดุ บางทีก็ดุเหมือนหมาเวลาโกรธเธอ แต่มันก็อยู่ในระดับที่เธอรับมือได้ทั้งนั้น
“หมวย ไอ้เซฟทักมาถามถึงแกอีกแล้ว”
“...” หมวยเล็กทำเพียงหัวเราะเบาๆ กับประโยคนั้น
เซฟคือเพื่อนสมัยมัธยมของพาย เขาเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ทั้งคู่เคยเจอกันอยู่หลายครั้งแล้วไม่ว่าจะในมหาวิทยาลัยหรือข้างนอกอย่างเช่นร้านเหล้า แต่พักหลังมานี้เธอไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยว เพราะคนเอาแต่ใจคนนั้นจะเรียกหาเธอเวลาที่เขาว่าง ไหนจะต้องทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านท้เล็บอีก เวลาว่างจึงหายากเหลือเกิน
“เซฟมันก็หล่อนะ ทำไมไม่มีแฟนล่ะ น่าสงสัย” หมวยเล็กขยับแขนเล็กไปกอดอกไว้
ไอ้คำที่ว่าปลื้มเธออยู่มันดูจะเกินจริงไปสักหน่อย เซฟปลื้มเธอมาตั้งปีกว่า ระยะเวลาพอๆ กับที่เธอได้รู้จักกับเพลิง ตลอดเวลาเธอไม่เคยให้ความสนใจกับผู้ชายคนไหน เพราะแค่มีเพลิงคนเดียวเธอก็เหนื่อยจะแย่แล้ว
เรื่องที่ว่าคบหลายคนแล้วจะมาหึงหวงเธอมันคงไม่ได้อยู่ในความคิดเขาอยู่แล้ว เพลิงไม่ๆ ด้สนใจว่าเธิจะทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใครบ้าง แต่เธอถือคติคบทีละคนมาแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้ว่าสถานะระหว่างเธอกับหนุ่มรุ่นพี่จะไม่ใช่แฟนก็ตาม
“แต่มันก็ปลื้มแกจริงๆ นะ”
“แล้วแกไม่เตือนเพื่อนหน่อยเหรอ ฉันมันผู้หญิงมีตำหนินะ” หมวยเล็กพูดพลางหัวเราะกับตัวเอง
สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ต่างจากแม่ จากยายนักหรอก
ตั้งแต่เด็กจนโตที่หมวยเล็กเฝ้าถามแม่ว่าพ่อของเธอไปไหน เขาคือใคร สุดท้ายก็ไม่เคยได้คำตอบ พอโตขึ้นจนคิดได้ถึงได้คำตอบว่าที่แม่ไม่เคยบอกเธอมันเพราะอะไร
ทั้งแม่และยาย ต่างก็เป็นตัวสำรอง
“พูดอะไรของแกเนี่ย เดี๋ยวนี้มันไม่มีใครมาคิดเรื่องแบบนี้แล้วมั้ง รอแกโสดสนิทฉันจะบอกให้มันรุกแกแบบเหยียบคันเร่งจนมิดเลย”
หมวยเล็กนั่งขำ ไม่แน่เวลานั้นมันอาจจะมาถึงในไม่ช้า ก็ในเมื่อ คนสำคัญของเขา...กลับมาแล้วนี่
@ร้านทำเล็บ J Nails
หมวยเล็กเลิกเรียนเวลาสิบเอ็ดโมงหลังจากทานข้าวกลางวันกับเพื่อนในคณะแล้วก็ออกมาทำงาน เวลาทำงานของเธอไม่แน่นอน แต่ก็มีตารางทำงานล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ออกมา เหตุผลที่ร้านยังรับเธอทำงานอยู่ก็เพราะฝีมือในการทำเล็บของเธอเด่นกว่าคนอื่นๆ
ค่าจ้างของร้านนี้จะคิดตามคิวที่ได้ลงมือทำให้กับลูกค้า ซึ่งทางร้านจะแบ่งให้ 60 เปอร์เซนของราคาเต็ม รายได้ต่อวันถ้าหากมาทำงานก็ได้อย่างน้อยสองพันแล้ว ซึ่งถือว่ามันทำเงินให้เธอค่อนข้างดีทีเดียว
“น้องหมวย มีลูกค้าโทรจองคิวเราคิวแรกแล้วนะลูก” มัดหมี่เจ้าของร้านหันมาบอกหมวยเล็ก
ลูกค้าส่วนใหญ่มักดูผลงานที่ร้านคอยโพรโมททางเพจและช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ร้านจะลงฝีมือช่างแต่ละคน หากผลงานใครถูกใจลูกค้าก็จะนัดจองคิวล่วงหน้าก่อน แต่หากลูกค้าไม่ได้จองช่างทำเล็บคนไหนไว้ หากเข้ามาทำที่ร้านก็จะให้ช่างที่ว่างทำให้
“ค่ะพี่หมี่”
“อย่างนี้ฉันก็ไม่ได้ทำกับแกแล้วสิ” พายหันมามองเพื่อนด้วยสีหน้าผิดหวัง
“แกรอไหวไหม ถ้าทำคิวแรกเสร็จฉันทำให้แก”
“แม่นัดให้ไปส่งหาหมอตอนบ่ายสองน่ะสิ ไม่เป็นไรแก ทำกับพี่คนอื่นก็ได้”
หมวยเล็กพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าหลังร้านไปใส่เสื้อคลุมกันเปื้อนที่ทางร้านมีไว้ให้ แล้วเดินออกมาเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำเล็บลูกค้า ไม่นานก็ได้ยินเสียงมัดหมี่เดินเข้ามาเรียก
“หมวยๆ ลูกค้ามาแล้ว ทำสวยๆ เลยนะลูก ลูกค้าวีไอพี” เธอบอกกับรุ่นน้องแล้วยิ้มให้กำลังใจ
หมวยเล็กพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้สาวรุ่นพี่ที่หาลูกค้าให้ก่อนจะเดินออกมาในส่วนหน้าร้าน พอได้ยินว่าลูกค้าวีไอพีก็ทำเอาเธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ประสบการณ์เกือบปีก็พอทำให้จิตใจสงบลงได้บ้าง
สองขาก้าวไปข้างหน้าและมันก็เริ่มช้าลงอย่างรู้สึกได้ เมื่อเห็นลูกค้าที่มัดหมี่บอกว่าเป็นวีไอพี เธอมากับผู้ชายอีกคนที่หมวยเล็กรู้สึกคุ้นเคยถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงแผ่นหลังของเขา
“เชิญเลยค่ะน้องไอ ช่างคนนี้พี่รับรองถูกใจน้องไอแน่นอน”
ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของหมวยเล็กค่อย ๆ ขยับแรงขึ้นกว่าเดิม มันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อคนทั้งคู่หันมามองเธอ คนหนึ่งคือผู้ชายที่เธอนอนด้วยเกือบทุกคืน อีกคนคือผู้หญิงที่เธอแอบส่องโปรไฟล์ของหล่อนมาตลอด
“รับประกันนะคะพี่หมี่”
“รับกระกันค่ะ”
หมวยเล็กฝืนยิ้มออกไป มันเป็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้นยากที่สุดตั้งแต่เธอเกิดมาเลยก็ว่าได้ หัวใจที่เต้นแรงอยู่นี้มันก็ไม่ได้เต้นเฉยๆ แต่มันรู้สึกจุกและเจ็บอย่างบอกไม่ถูก
เธอเผลอสบตากับเขาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรีบหลบไปทางอื่น หันไปมองเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังจับจ้องมา แววตาของพายคล้ายจะสื่อว่า ‘ไหวไหมเพื่อนรัก’
------------
หนีไปหมวยลูกก อีพี่เพลิงมันใจร้ายมากกก
กดเข้าชั้น กดติดตามกันน้าทุกคน
ตอนที่ 34 แค่เธอตลอดไปเพลิงตื่นตั้งแต่ตีห้าเหมือนอย่างที่เขาตื่นมาทุกวัน ถึงจะนอนดึกแค่ไหนเขาก็ยังคงตื่นเวลาเดิม ส่วนหมวยตอนนี้ยังคงหลับสนิท อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาจัดให้หมวยยกใหญ่หลาย ๆ ยกเขาออกมาช่วยยายเปิดร้านก่อนที่พนักงานคนอื่น ๆ จะมา ไม่ได้มีอะไรให้ทำเพราะส่วนใหญ่เป็นงานในครัว ยายทำกับข้าวให้เขาก่อนเป็นพิเศษ ก่อนที่เขาจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน“น้องหมวยไม่ตื่นเหรอวันนี้”“ยังเลย” ยายตอบแล้วหันมามองไอ้หมอหน้าดุที่กำลังมองยายสลับกับไอ้ช่างไฟฟ้านี่“มีอะไรกับหมวยเหรอ” เขาเดินไปถาม เห็นไอ้นี่มาหลายวันแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่ถามมันเพราะกลัวหมวยไม่พอใจแต่วันนี้กูเป็นผัวหมวย ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบ“อ้าวหมอ ถามทำไม อยากรู้ด้วยเหรอ”“ก็พี่ถามถึงเมียผม ก็เลยอยากรู้ว่าถามทำไม” เพลิงถามหน้านิ่ง จริงจังจนอีกฝ่ายหน้าถอดสีน้องหมวยมีผัวใหม่แล้วหรือผัวเก่าหมวยกลับมายายแอบฟังอยู่ตรงนั้น หัวเราะจนไหล่สั่นเพราะความหึงหวงของหลานเขยตัวดี ให้ค้างคืนกันคืนเดียวอ้างเป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว ไอ้หมวยมันคงไม่รอดหมวยตื่นมาช่วงสาย ๆ พร้อมกับลูก อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาหน้าร้าน เวลานี้คนซาลงบ้างแล้วแต่เพรา
ตอนที่ 33 รู้สึกเช่นเดิม“ห้ามเสียงดังนะ”“เข้าใจแล้วครับ”“พูดเพราะจัง”“ก็ดีใจไง” เขากระซิบข้างใบหูเธอ ได้กลิ่นอ่อนของโลชั่นจากตัวหมวยเล็กยิ่งกระตุ้นอารมณ์ความต้องการของเขาให้มันลุกโชน ก่อนอาบน้ำก็ว่าหอมแล้วหลงอาบน้ำทำเอาเขาแทบคลั่งเลยจะไม่ให้ดีใจได้ไงวะ หมวยเล่นบอกให้เขาว่า... ทำให้เสร็จหน่อย ให้กูช่วยหมวยจนกูตายไปวันนี้เลยก็ยอม กล้ามากหมวย กล้ามาก !“พี่เพลิงจะไม่ทำให้หมวยเสียใจแล้วใช่ไหม” เธอถามย้ำเรื่องนี้ก็เพราะกลัวว่าหากคืนนี้ผ่านพ้นไปแล้ว เธอคงให้เขาไปทั้งตัวและหัวใจที่ปั้นมันขึ้นมาใหม่ในระยะเวลาสองปีนี้อีกครั้งหากเขาทำลายมันก็คงแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี“พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้หมวยต้องเสียใจ จะไม่ทำให้หมวยต้องร้องไห้เลย” ยกเว้นตอนอยู่บนเตียง“งั้น...” เธอขัดเขินที่จะบอกว่า งั้นก็อนุญาตเขาก็คงรู้คำตอบของเธอดีเพลิงระบายยิ้ม ทิ้งมาดความหน้าดุของเขาทิ้งไปหมด เหลือแค่ผู้ชายหน้าหื่น ๆ อยู่ตรงนี้“คิดถึงเธอมากเลยรู้ไหม อยากทำ... ตั้งนานแล้ว”“พี่เพลิง”จมูกของเขาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น มือซุกซนสอดเข้าไปใต้ชุดนอนบางเบาที่เขาเพ่งเล็งมันไว้ตั้งแต่หัวค่ำ บีบคลำเต้าทรวงทั้งสองข้างของหมวยที
ตอนที่ 32 ย่าของหลาน“หนูจะไม่หนีไปไหนอีกแล้วนะ และไม่รับเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น” หมวยเล็กตอบกลับคำพูดนั้นของพิมพ์ภิรมณ์ด้วยความรู้สึกโมโหสุดขีดตอนนั้นที่เธอไม่สู้ก็เพราะไม่รู้ว่าจะสู้ไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอมแพ้แน่ ๆ เพราะหมวยจะสู้เพื่อให้ลูกของตัวเองได้อยู่อย่างสงบสุขและมีชีวิตที่ดี“…”“ถ้าคุณอยากจะฆ่าหนูก็ฆ่าเลย หนูรู้ว่าคุณคงอยากให้หนูหายไปจากโลกนี้ด้วยซ้ำเพื่อไม่ให้หนูเจอเขา”“แต่หนูขอคุณแค่เรื่องเดียว”“…”“อย่าฆ่าคนที่เขามีเลือดเนื้อของพวกคุณอีกครึ่งหนึ่งเลย”“ฉันจะฆ่าหลานตัวเองทำไม แล้วจะฆ่าแม่ของหลานได้ยังไง คิดอะไรอยู่ ฮึ” พิมพ์ภิรมณ์หมดความอดทนเอาตามจริงนางก็เหมือนลูก ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากหรอก มันรู้สึกเสียฟอร์มจะตายไป แต่ยัยลูกสะใภ้คนนี้ชักไปกันใหญ่แล้ว มองไม่ออกอีกรึว่านางมาดี“ก็คุณจะเอาเงินให้หนูทำไม”“ชดเชยที่ฉันกับเจ้าเพลิงมันไม่ได้มาดูแลไง ไม่สิ ที่แม่กับเพลิงไม่ได้มาช่วยดูแลหลาน” คุณนายพิมพ์รู้สึกกระดากปาก แต่พอพูดไปแล้วมันก็ไม่เลวเลย“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”“กว่าจะรู้ว่าหมวยอยู่ที่นี่ กว่าลุงเจตเขาจะบอกว่ามีหลานก็ปล่อยให้ฉันเหงาอยู่คนเดียวตั้งนา
ตอนที่ 31 รักก็ว่ารักกลับจากเที่ยวก็ไปแวะที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ให้ลูกแล้วค่อยกลับเข้าบ้าน กว่าจะมาถึงบ้านของหมวยก็ตอนหกโมงเย็น เพราะไอ้พี่เพลิงจริงจังกับการจะนอนกับลูกคืนนี้มาก เขาแวะไปเอาเสื้อผ้าตัวเองอีกเป็นกระเป๋า“เอามาทำไมเยอะแยะ หมวยให้นอนคืนเดียว”“เธอบอกว่าแล้วแต่พี่ พี่ถามลูกแล้วลูกให้นอนทุกคืน”“เพ้อเจ้อ” ลูกบอกได้ที่ไหน มากสุดก็แค่ตอบตกลง“มังกรให้พ่อนอนด้วยทุกคืนใช่ไหม” เขาก้มลงไปถามลูกแต่มังกรหลับอยู่บนตักของหมวย คาร์ซีทซื้อให้ก็ไม่ยอมนั่ง ร้องโวยวายใหญ่ สงสัยเขาต้องฝึกลูกเป็นเรื่องเป็นราวสักวัน“ไม่คุยด้วยแล้ว บ้าไปกันใหญ่ จะนอนกี่คืนก็แล้วแต่พี่ นอนนอกห้องนู่น” หมวยบอกแล้วทำท่าจะลงเขาก็คว้าแขนเธอไว้ อีกข้างเธออุ้มลูกอยู่“หมวย”“อะไรอีก”“รู้ไหมว่าสองปีมานี้ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเธอเลย”“...” หมวยเล็กได้แต่เงียบ ไม่คิดว่าเขาจะมาพูดในเวลาแบบนี้ จอดรถไว้หน้าร้านแต่ก็ไม่ยอมดับเครื่องสักทีเพราะจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังหรือไง“วันที่เธอหายไปพี่อยู่ไม่ได้เลย ยิ่งเธอปิดช่องทางติดต่อทุกทางก็ยิ่งเหมือนจะเป็นบ้าเลย ตอนนั้นแหละที่รู้ว่ารักเธอแล้ว รู้ตอนที่เธอไม่อยู่นั่
ตอนที่ 30 ให้โอกาสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็มาจัดการกับลูกต่อ หมวยจับเจ้ามังกรแต่งตัวหล่อแล้วจึงพาไปขึ้นรถ ไม่ใช่รถหมวยหรอกแต่เป็นรถคนที่ขอไปด้วย บอกว่าจะอาสาขับรถให้ทั้งวันหมวยเล็กไม่ขัดเขาอยากไปก็ให้ไปบอกเขาไปตั้งนานแล้วว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแต่ดูเหมือนไอ้พี่เพลิงมันจะเริ่มไม่อยากเป็นแค่นั้นแล้ว“แต่งตัวโป๊ไปหรือเปล่า”“ก็ไม่นะ เมื่อก่อนก็แต่งแบบนี้”เขาเงียบ อันนั้นยอมรับ เมื่อก่อนก็แต่งแบบนี้แต่ตอนที่ใส่แบบนี้เขาก็อยู่ด้วยตลอด ตอนที่หมวยไปข้างนอกไม่ได้อยู่กับเขาอันนั้นไม่รู้ว่าใส่ไหม แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้มันถึงไม่ค่อยชอบใจนัก“ลูกหนึ่งแล้ว เบาบ้างก็ได้”“เบาทำไม ไม่ได้หนักหัวใครนี่” เธอบอกแล้วหันหนีไปอีกทาง บนตักมีเด็กชายมังกรนั่งบีบของเล่นอยู่ด้วยเงียบ ๆ“…” เพลิงเป็นฝ่ายที่ต้องเงียบเถียงคำไม่ตกฟาก ไม่หนักหัวใครแต่หนักหัวกู ทั้งหัวล่างหัวบนเลยหมวย ทีกูมองบอกลามกแล้วไปให้คนอื่นดูฟรี ๆ ได้ยังไงวะ“ถ้าไม่สะดวกใจจะไปกับหมวยก็บอกหมวยจะไปกับลูกสองคน” หมวยไม่ง้อหรอก“สะดวก สะดวกมาก อยากใส่อะไรก็ใส่แล้วแต่เธอเลย”พูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากบ้าน เงียบตลอดทางเพราะเผื่อว่าหมวยจะง
ตอนที่ 29 อ่อยไม่ได้แปลว่ายอมเขายังคงตื่นเช้าเหมือนเช่นทุกวันเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองที่มันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยตั้งแต่วันที่เจอกับหมวย มันไม่ได้น่าเบื่ออะไรเลยเพราะเหมือนกับว่าเขามีเป้าหมายในแต่ละวันว่าจะทำอย่างไรให้หมวยมันใจอ่อนกับเขาสักทีสามเดือนแล้ว…สามเดือนที่ได้ทำความรู้จักกับลูกและพยายามเข้าใกล้หมวย ถึงแม้ว่าหมวยจะยังคนทำเย็นชาใส่แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าหมวยเริ่มยอมแล้วกับบางเรื่องในหนึ่งเดือนเขามักจะมีวันหยุดหนึ่งวันหรือแค่ครึ่งวัน ช่วงเวลานั้นแหละที่เขาพยายามเก็บเกี่ยวโอกาสของตัวเองให้ได้มากที่สุด“มาทำอะไรแต่เช้า” หมวยเอ่ยปากถามเพราะวันนี้เขาตั้งใจจะมาเล่นกับลูกทั้งวันในวันหยุด และการตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติของร่างกายไปแล้ว เขาจึงออกห้องตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาช่วยหมวยดูลูก“วันนี้ว่าง”หมวยเล็กไม่ได้แปลกใจที่เขาจะมีวันว่างขนาดนี้เพราะที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้เห็นว่าเขาจะว่างบ่อย ทุกวันเธอจะเห็นเขาแค่ตอนเช้า มากินข้าวที่ร้านแล้วก็ไปหาลูกสิบยี่สิบนาทีก่อนจะไปทำงาน ถ้าไม่มีเวรดึกเขาก็จะมาหาลูกช่วงเย็นอีกรอบพอสองทุ่มก็กลับห้องยอมรับว่าเธอเริ่มใจอ่อนกับการกระทำของเขา แต่ก็ยังไม่