ถามแบบนี้ก็เข้าแผนน่ะสิ!
“ไม่” น้ำเสียงหนักแน่น พร้อมเบื่อนหน้าไปอีกทาง
“ไอติมร้านโปรดเย็นนี้” ถึงกับต้องเอาของกินมาล่อซื้อกันแล้ว ทว่า...
“ไม่” พี่คิณมาง้อทั้งที ของที่ได้ต้องใหญ่ไว้ก่อน
“ชานมไข่มุกทั้งเดือน”
“ไม่”
“อย่างกับผัวเมียง้อกัน” อาเธอร์กับมาวินที่ยืนดูอยู่เงียบๆหันมากระซิบคุยกันเอง และคาดว่านักศึกษาคนอื่นก็คิดแบบเดียวกันกับพวกเขา
“อึม อนาคตกูว่ายังไง...ก็ได้กัน” การินที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ลงความเห็น เพื่อนอีกสองคนก็พยักหน้าเห็นตาม
“งั้นเป็นชาบูชุดใหญ่ ทุกครั้งที่เธออย่างกิน”
“...” ดวงหน้าหวานผุดรอยยิ้มบางๆ พลางกรอกตาไปมาครุ่นคิด
“งั้นเอางี้” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กมีท่าที่ลังเล อคิณจึงไม่รอช้า “ฉันยอมให้เธอเขียนหน้าเพิ่มเลยอะ” ว่าแล้วก็หย่อนก้นนั่งกับเก้าอี้ตัวใกล้ๆ รู้ว่าเด็กน้อยมักจะมีปากกาเมจิกติดตัวไว้ตลอดเพราะหวังจะได้แกล้งเขาเมื่อมีโอกาศ จึงล้วงออกมา “อ่ะ ใบหล่อๆของฉัน ตอนนี้เป็นของเธอ”
“เอาจริงเหรอพี่คิณ” ตั้งคำถามเหมือนจะไม่มั่นใจ ทว่าปากกาที่ถูกยัดใส่ในมือ กลับถูกเปิดฝาออกในทันทีแล้วขยับแทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาของอีกฝ่าย
“แต่ขออย่าเละเทะแบบทุกทีก็พอ” มาขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็ไม่ได้ อีกอย่างพอได้เห็นใบหน้าเด็กน้อยเป็นประกาย เขาก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“ได้” ปลาทูฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่ปิดบัง อะไรจะดีไปกว่าการได้เอาคืนพี่อคิณคนนิสัยไม่ดี แต่ข้อเสนอที่เขาให้มาข้างต้นก็น่าสนใจ “แล้ว...ถ้าเขียนหน้าพี่คิณ ปลาทูยังจะได้กินไอติม ชานมทุกเดือน แล้วก็ชาบูอยู่หรือเปล่า”
“นี่ฉันยอมเธอมากขนาดนี้แล้ว ยังจะโลภเอาทุกอย่างเลยหรือไงวะ”
“แต่น้องงอนอยู่นะ” ทำเสียงหงอย สีหน้าหมองลง
อคิณพ่นลมหายใจออกมาเสียงดังพรืดให้กับความได้คืบจะเอาศอกของคนตรงหน้า แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไงเขาก็เลือกอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ “เออ! อยากกินไร กินมันให้หมด ขี้ข้าเธอคนนี้จะเลี้ยงเธอเอง” น้ำเสียงประชดประชัน แต่คนถูกใจระบายยิ้มร่า
“ขอบคุณนะคะพี่อคิณสุดหล่อของน้องปลาทู” น้ำเสียงออดอ้อนอย่างเดียวไม่พอ ต้องพนมมือไหว้ลงไปกราบแนบอกอย่างที่ชอบทำเวลาชายหนุ่มตามใจ
คนเป็นพี่มีหรือจะใจแข็ง เผลอไผลยกมือขึ้นลูบหัวทุย ใบหน้าบึ้งตึงผุดรอยยิ้มบางๆ ทำสาวๆใจบางพลอยยิ้มตาม
ทว่ากลับมีบางส่วนที่เริ่มจะไม่พอใจในตัวของเด็กสาว เนื่องด้วยอคิณมีใบหน้าราวกับพระเจ้าประทาน เปรียบเสมือนเป็นสมบัติอีกหนึ่งอย่างของมหาลัย พูดอีกแบบก็คือหมั่นไส้ เขาไม่เคยทำทีอ่อนโยนแบบนี้กับใครมาก่อนมันยิ่งส่งผลให้หูตาร้อนไปตามๆกัน
“ได้ทุกอย่างแบบนี้ก็เก็บปากกาได้แล้วมั่ง”
“ได้ที่ไหนล่ะคะ” ปลาทูผละออก ก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับคนพี่ พร้อมออกคำสั่ง “พี่คิณหลับตา”
มาถึงตอนนี้อคิณอยากจะตบปากตัวเองเป็นรอยรอบที่พูดไวกว่าสมอง ก่อนจะถอดหายใจเสียงดังอีกครั้งแล้วหลับตาลง มือเล็กจึงเริ่มลงปลายปากกาวนๆกับปลายจมูกโด่งเป็นอย่างแรก
อาเธอร์ มาวิน การิน ที่ยังยืนอยู่ก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ ดูว่าปลาทูจะสร้างศิลปะอะไรบนหน้าเพื่อน ขณะที่สาวน้อยขี้อายอย่างยิ้มก็นั่งมองเงียบๆด้วยความตื่นเต้น
ใบหน้าที่อยู่ห่างกันในระยะไม่ถึงคืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำให้อคิณไม่สามารถฝืนหลับตาได้อีกต่อไป อยู่ๆก็รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ มือที่วางกับโต๊ะเผลอสัมผัสผ่านๆกับเอวบางผ่านชุดนักศึกษา
ดวงตาคมกริบไล่มองสำรวจใบหน้าขาวเนียนละเอียดที่แม้แต่รูขุมขนยังไม่มีให้เห็น แก้มสีอ่อนที่ดูแล้วรู้สึกอยากจะฟัดแรงๆสักรอบสองรอบ จมูกนิดรับกับกลีบปากบางอมชมพูที่ชอบเอาแต่พูดจาก่อกวน เม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
งงใจ ทั้งที่ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทำไมวันนี้เขาพึ่งจะรู้สึกว่าดวงหน้าของเด็กปลาทู สวยหวานสะกดตากว่าทุกครั้งที่ได้มอง
อึก!
ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ทำให้คนที่กำลังตั้งใจลากปากกามาจนถึงปลางคางหลุบมอง “หิวน้ำเหรอพี่คิณ?”
“อึม” ตอบกลับผ่านลำคอ ขณะเม้มปากเข้าหากันแน่น พยายามควบคุมไม่ให้ใจมันสั่นจนส่งเสียงให้น้องได้ยิน
“แปบ...นะ” ปลาทูเอ่ยอย่างใจเย็นเพราะวาดใกล้เสร็จแล้ว โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเอาแต่จับจ้องกับริมฝีปากของเธอตลอดเวลา
“มากไปแล้วเพื่อน” การินถึงกับต้องสะกิดไหล่เป็นการปลุกสติเพื่อนให้รู้ตัว อคิณที่รู้สึกตัวจึงกระพริบตารัวๆ
“เสร็จละ” ปลาทูกลับมายืนเต็มความสูง กอดอกเอนตัวไปด้านหลังเพื่อมองภาพรวมของผลงานที่เธอพึ่งวาดเสร็จด้วยความภูมิใจ ก่อนจะล้วงกระเป๋าสะพาย หยิบเอากระจกขนาดเท่าฝ่ามือแล้วส่งให้คนพี่ ขณะที่คนอื่นๆต่างกลั้นขำแทบไม่อยู่
“เหี้ยไรวะเนี่ย!” คนที่พึ่งเห็นสภาพใบหน้าตัวเองถึงกับดีดตัวลุกพรวด หันไปมองคนยิ้มแป้นตาขว้าง “ปลาทู!”
“หล่อใช่ไหมล่ะ พ่อหมาพันธุ์ดุ” ไม่ว่าเปล่า ยังยกมือขึ้นไปลูบหัวพี่เหมือนลูบหัวน้องหมา อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำและมีแค่เธอเท่านั้นที่ทำได้
“กวนตีนใช่ปะ” ขึงตาใส่ ก่อนจะเอากระจกขึ้นมาส่องอีกรอบ ทั้งจมูกดำและเส้นที่วาดยาวจากจุดดำตรงจมูกลงมาที่คางทั้งสองข้าง ไม่พอยังจะมีวงกลมรอบดวงตาอีกหนึ่งข้าง
ให้ตาย! ไม่น่าปากสว่างให้ยัยเด็กนี่วาดเลยจริงๆ
“แต่กูว่ามึงดูดีอยู่นะ” มาวินตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ พยายามกลั้นขำสุดชีวิต
“จริง ดีกว่าอีผีนั้นเยอะ” อาเธอร์ปลอบพร้อมส่งสายตาให้เพื่อนดูหน้าจอโทรศัพท์ของเด็กสาวที่เปิดค้างไว้อยู่ มันคือเรฟเฟอเรนซ์ของผีตาโบ๋ อคิณถึงกับเข่าอ่อน พูดไม่ออก
นี่ถ้ายัยตัวแสบวาดให้เขาเป็นแบบนี้คงได้วางมวยกันแน่
“เอาน่ามึง ถือว่าให้น้องมันวันนึง” การินก็ช่วยพูด ทว่าก็อดขำไม่ได้อยู่ดี ถือว่าปลาทูแสบเอาเรื่องที่ทำให้คนนิ่งโหดแบบไอ้อคิณยอมได้ขนาดนี้
“แต่พี่คิณก็หล่ออยู่ดีนะ” เด็กน้อยว่า ถึงจะอมยิ้มกริ่ม แต่น้ำเสียงไม่มีความติดเล่น “ตั้งแต่โตมา ปลาทูวาดหน้าพี่คิณบ่อยมากแต่ไม่มีครั้งไหนที่ความหล่อของพี่คิณจะลดลงสักครั้งเลยค่ะ”
อันนี้เธอพูดจริง ทุกครั้งที่แกล้งเขียนหน้าพี่ หวังอยากให้ดูตลกในสายตาคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ สาวๆยังหันมาส่งยิ้มให้เขาไม่แผ่ว
...เขาเป็นพี่ชายที่หล่อที่สุดของเธอ
พอได้ยินน้องชมว่าหล่อ ความโกรธก็ดูจะลดลงง่ายๆ สีหน้าเคร่งขรึมกลายเป็นนิ่งเรียบตามสไตล์ตัวเอง พร้อมมุมปากกระตุกบางๆ
เด็กน้อยช่างพูด