“แต่พี่คิณก็หล่ออยู่ดีนะ” เด็กน้อยว่า ถึงจะอมยิ้มกริ่ม แต่น้ำเสียงไม่มีความติดเล่น “ตั้งแต่โตมา ปลาทูวาดหน้าพี่คิณบ่อยมากแต่ไม่มีครั้งไหนที่ความหล่อของพี่คิณจะลดลงสักครั้งเลยค่ะ”
อันนี้เธอพูดจริง ทุกครั้งที่แกล้งเขียนหน้าพี่ หวังอยากให้ดูตลกในสายตาคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ สาวๆยังหันมาส่งยิ้มให้เขาไม่แผ่ว
...เขาเป็นพี่ชายที่หล่อที่สุดของเธอ
พอได้ยินน้องชมว่าหล่อ ความโกรธก็ดูจะลดลงง่ายๆ สีหน้าเคร่งขรึมกลายเป็นนิ่งเรียบตามสไตล์ตัวเอง พร้อมมุมปากกระตุกบางๆ
เด็กน้อยช่างพูด
“หมดเรื่อง” พอเห็นทุกอย่างกลับมาดีอาเธอร์ก็หมดห่วง จึงเริ่มปรับโหมดเป็นรุ่นพี่เฮดว้ากสุดโหด “ใครรู้ตัวว่าอยู่ปีหนึ่งไปรวมตัวกันที่สนามตอนนี้เลย”
“แต่มันร้อนนะพี่เธอร์ ย้ายไปหอประชุมไม่ได้เหรอ?” ปลาทูโอดครวญ มือที่ปิดหูตกใจเสียงตะคอกเมื่อครู่ ดึงเอากระจกจากมืออคิณมายัดใส่กระเป๋าตัวเอง
“พี่สวมบทแล้ว อย่างอแง” กระซิบบอกเบาๆให้ได้ยินกันแค่นี้ ก่อนจะเดินนำไปก่อน
เหมือนถูกขัดใจแต่สุดท้ายปลาทูก็คว้าแขนของยิ้มเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆด้วยกัน ไม่ได้สนใจคนที่เธอพึ่งจะเขียนหน้าไป ขณะที่อคิณก็ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินตามไปรวมกับเพื่อนตัวเองบ้าง
“จากเมื่อวานที่พวกพี่ให้คำใบ้กับพวกน้องๆเพื่อตามหาพี่รหัส มีใครหาเจอหรือยัง?” เสียงตะเบงของอาเธอร์ ทำให้รุ่นน้องต่างมองหน้ากัน บ้างก็เดินไปเดินมา กระซิบกระซาบถามกันปากต่อปากว่าใครได้ใครเป็นพี่รหัส จนฟังกันไม่ได้ศัพท์ รองประธานสายนิ่งจัดจึงสั่งเสียงเข้ม
“ยืนเข้าแถวให้เรียบร้อย!”
กึก!
เหมือนมีพลังทำลายล้างสถิต ทุกคนเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยกระซิบ ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มยืนต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบ แต่มันจะดีกว่านี้ หากคนที่อยู่หางแถวได้ร่มเงาของต้นไม้คอยช่วยบังแดดบ้าง
“นั่งลง ไม่งั้นคนข้างหลังจะมองไม่เห็น”
“ปลาทู รู้ยังว่าได้ใครเป็นพี่รหัส?” ยิ้มกระซิบถาม เห็นคนอื่นนั่งลงกับพื้นก็นั่งตาม
“...” คนถูกถามไม่ตอบแต่ไหวไหล่ให้แทน และเพราะอยู่ช่วงปลายๆแถวทำให้ไม่ได้ร่มเงาของต้นไม้ คนที่พึ่งไหวไหล่ตอบจึงมีท่าทีกระอักกระอวน พลางหันไปถามคนที่นั่งท้าแดดเหมือนกันข้างๆ
“ไม่ร้อนเหรอ?”
“ร้อนสิ โคตรร้อนเลยด้วย” คนตอบเป็นผู้ชายที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ก้มดูป้ายชื่อที่ห้อยคอถึงรู้ว่าชื่อ โบนัส“จำฉันไม่ได้เหรอ?” เห็นว่าใบหน้าหวานมองดูชื่อตัวเองก็แปลกใจ “คาบแรกเธอยังมาขอลอกคำตอบฉันอยู่เลย”
“จิๆๆ” ได้ฟังก็นึกออกแต่เพราะประโยคของเขาทำคนรอบข้างหันมามองด้วยสายตาซ้อนเร้น จึงจิปากรัวๆ “เขาเรียกว่าขอดูเป็นแนวทาง รู้จักป่ะ ขอดูเป็นแนวทางน่ะ”
เธอไม่ได้ลอกสักหน่อย ถึงคำตอบที่ส่งไปจะดูเหมือนกันก็เถอะแต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้ลอก เขาพูดแบบนี้คนอื่นจะมองเธอยังไงก่อน
ท่าทีและคำพูดที่ดูไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปแต่เหมือนกับเด็กแสบซน ทำให้เขานึกขัน หัวใจคันยุบยิบ
ยิ้มที่นั่งอยู่ด้านหน้าของปลาทูจึงหันมาอย่างสนใจ “ปลาทูโอเคนะ?”
“ร้อนงะ” ปลาทูบ่นพร้อมหายใจแรง เริ่มนั่งไม่ติดดิ้นยุกยิกไม่หยุด ส่วนหนึ่งก็เพราะเวลาเหงื่อออกมากๆเธอจะเกิดอาการคันตามเนื้อตามตัว บางครั้งหากมีเหงื่อท้วมตัวก็เกิดตุ่มเม็ดเล็กๆขึ้นตามตัว มันคืออาการของคนที่แพ้เหงื่อ เพราะงี้เวลาอยู่บ้านเธอจึงชอบเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้ตลอด
“แลกที่กันไหม? หน้าเธอดูไม่ดีเลย” โบนัสเสนอ เมื่อเห็นท่าทีที่ผิดปกติของปลาทู บวกกับใบหน้าเล็กเริ่มขึ้นสีแดงชัดเจนราวกับพึ่งปัดบรัชออนสีเข้มมา หากแลกที่กัน เขาตัวสูงกว่าจะได้บังแดดให้เธอได้
ในขณะเดียวกันคนที่มองอยู่นานจากด้านหน้าก็เดินเข้ามา หยุดอยู่ข้างๆคนตัวเล็ก เอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึม “คุยไรกัน?” แม้ใบหน้าจะมีรอยขีดเขียนให้ดูตลกแต่พอเขาทำหน้าโหด มันแทบมองไม่เห็นถึงความขบขัน
“พี่คิณแกพี่คิณ” เสียงสาวๆกรี๊ดกราดเบาๆแต่ก็พอได้ยินอยู่ดี
“แกก็กรี๊ดไม่ดูเวลา เห็นหน้าพี่เขาไหม ติดคำว่างอนตัวเป้งขนาดนั้น น่าจะกำลังง้อแฟน”
งะ ง้อแฟน?
ปลาทูรีบหันขวับไปมองหน้าคนพูดเพราะเธอเป็นคนเขียนคำนั้นด้วยตัวเธอเอง แต่ใครบอกว่าเขาง้อแฟนกัน หยุมหัวกันมาตั้งแต่จำความได้ แค่คำว่าพี่น้องยังดูจะห่างไกล นี้แฟนเลยเหรอ...
แฟนบ้าแฟนบออะไร?
เจ้ากรรมนายเวรน่าจะเหมาะสุด!
“โอเคหรือเปล่า?” น้ำเสียงเรียบนิ่งที่อยู่ใกล้หูของคนที่ย่อตัวลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ทำให้เธอต้องหันไปหา ซึ่งอคิณก็ยืดตัวบังแดดให้
“ร้อนน่ะ ย้ายที่ได้ป่ะ?” คนบูดบึ้งหายใจเสียงดังอีกครั้ง พลางยกมือขึ้นเกาลำคอตัวเอง แต่ก็ถูกมือหยาบรั้งเอาไว้พร้อมเอาพัดลมเล็กที่ถือติดมือมาเปิดจ่อให้
“ดีขึ้นหรือเปล่า?” ในใจก็อยากจะพาน้องไปนั่งในที่ร่ม แต่หากเขาทำแบบนั้นคงได้ถูกมองว่าลำเอียง ยิ่งตำแหน่งรองประธานมันค้ำคอเขาอยู่ด้วย
“อึม แต่จะดีกว่านี้ถ้าได้แอร์สักตัว” แม้พัดลมที่เป่ามาจะบรรเทาได้บ้างแต่มันก็ไม่ถึงใจ มือบางจึงสะบัดคอเสื้อให้ลมเข้าไปด้านในโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนี้ทำให้คนที่ถือพัดลมลอบกลืนน้ำลายลงคงอึกใหญ่
กลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวที่ออกมาจากกายสาว เจือกับกลิ่นเหงื่อจางๆเตะเข้ากับจมูกโด่งอย่างจัง ดวงตาคมกริบอดไม่ได้ที่จะหลุบมองผิวขาวผ่องที่โผล่พ้นยามน้องสะบัดคอเสื้อ ทำเอาลมหายใจพี่ติดขัด
รู้ว่าตัวน้องหอมจนอยากจะซุกจมูกใส่มากแค่ไหนก็วันนี้
“แฟนกันเหรอ?”
“นั้นดิ เมื่อวานฉันก็เห็นว่าพวกเขา...”
“พี่น้อง” ทนเสียงซุบซิบไม่ไหว คนตัวเล็กจึงหันไปบอกเสียงดังฟังชัด “ไม่ใช่แฟน จบนะ”
ประโยคนั้นทำคนที่กำลังหลงเคลิ้มได้สติ ดึงมือของคนที่จับคอเสื้อตัวเองออกแล้วยัดพัดลมใส่มือแทน ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทว่าก็ไม่ไปไหน ยังคงยืนบังแดดให้ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
จู่ๆก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สาวๆที่พอได้รู้คำตอบก็มีรอยยิ้มผุดบนใบหน้า เริ่มมองหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นมิตรมากขึ้น หวังอยากจะเคลมพี่ชายเธอ
“โทษทีนะ พวกฉันไม่รู้”
“ใช่ๆ”
“ขอโทษนะ”
“หน้าฉันอยู่นี้เนอะ” ปลาทูชี้ที่หน้าตัวเอง ขณะมองหน้าพวกเธออย่างฉุนเฉียว ปากบอกขอโทษแต่ตานี้มองเลยขึ้นไปหาคนบนหัวเธอ อะไรก่อน?
โบนัสเองก็อมยิ้มกริ่ม ในตอนแรกก็คิดว่าจะถอย หากคนตัวเล็กข้างๆมีเจ้าของแล้ว แต่พอรู้แบบนี้ใจที่ห่อเหี่ยวก็กลับมาขึ้นฟู เปิดกระเป๋าเอาสมุดมาพัดให้อีกแรง ปลาทูจึงหันไปฉีกยิ้มขอบคุณ ทว่า...
“ไม่ต้อง!” อคิณขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน เอื้อมมือไปดึงสมุดของโบนัสมาพัดให้คนตัวเล็กแทน ในใจเกิดขุ่นมัวประหลาด แต่อีกฝ่ายกลับคิดแค่ว่าพี่ชายหวงน้องสาว
อาเธอร์ มาวินและการินที่มองดูจากหน้าแถวใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ รู้ดีว่ามันไม่ใช่ มองจากดาวอังคารยังสัมผัสได้ถึงอาการนี้...
...อาการคนหึง
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั