“หมดเรื่อง” พอเห็นทุกอย่างกลับมาดี อาเธอร์ก็หมดห่วง เริ่มปรับโหมดเป็นรุ่นพี่เฮดว้ากสุดโหด “ใครรู้ตัวว่าอยู่ปีหนึ่งไปรวมตัวกันที่สนามตอนนี้เลย”
“แต่มันร้อนนะพี่เธอร์ ย้ายไปหอประชุมไม่ได้เหรอ?” ปลาทูโอดครวญ มือที่ปิดหูตกใจเสียงตะคอกเมื่อครู่ดึงเอากระจกจากมืออคิณมายัดใส่กระเป๋าตัวเอง
“พี่สวมบทแล้ว อย่างอแง” กระซิบบอกเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่นี้ ก่อนจะเดินนำไปก่อน
เหมือนถูกขัดใจแต่สุดท้ายปลาทูก็คว้าแขนของยิ้มเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ด้วยกัน ไม่ได้สนใจคนที่เธอพึ่งจะเขียนหน้าไป ขณะที่อคิณก็ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเดินตามไปรวมกับเพื่อนตัวเองบ้าง
“จากเมื่อวานที่พวกพี่ให้คำใบ้กับพวกน้อง ๆ เพื่อตามหาพี่รหัส มีใครหาเจอหรือยัง?” เสียงตะเบ็งของอาเธอร์ ทำให้รุ่นน้องต่างมองหน้ากัน บ้างก็เดินไปเดินมา กระซิบกระซาบถามกันปากต่อปากว่าใครได้ใครเป็นพี่รหัสจนฟังกันไม่ได้ศัพท์ รองประธานสายนิ่งจัดจึงสั่งเสียงเข้ม
“ยืนเข้าแถวให้เรียบร้อย!”
กึก!
เหมือนมีพลังงานทำลายล้างสถิต ทุกคนเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยกระซิบ ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มยืนต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบ แต่มันจะดีกว่านี้ หากคนที่อยู่หางแถวได้ร่มเงาของต้นไม้คอยช่วยบังแดดบ้าง
“นั่งลง ไม่งั้นคนข้างหลังจะมองไม่เห็น”
“ปลาทู รู้ยังว่าได้ใครเป็นพี่รหัส?” ยิ้มกระซิบถาม เห็นคนอื่นนั่งลงกับพื้นก็นั่งตาม
คนถูกถามไม่ตอบแต่ไหวไหล่ให้แทน และเพราะอยู่ช่วงปลาย ๆ แถวทำให้ไม่ได้ร่มเงาของต้นไม้ คนที่พึ่งไหวไหล่จึงมีท่าทีกระอักกระอ่วน หันไปถามคนที่นั่งท้าแดดเหมือนกันข้าง ๆ
“ไม่ร้อนเหรอ?”
“ร้อนสิ โคตรร้อนเลยด้วย” คนตอบเป็นผู้ชายที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ดวงตาคู่น้อยก้มดูป้ายชื่อที่ห้อยคอถึงรู้ว่าชื่อ โบนัส “จำฉันไม่ได้เหรอ? คาบแรกเธอยังมาขอลอกคำตอบฉันอยู่เลย”
“จิ จิ จิ” ได้ฟังก็นึกออกแต่เพราะประโยคของเขาทำคนรอบข้างหันมามองด้วยสายตาซ่อนเร้น จึงจิปากรัว ๆ “เขาเรียกว่าขอดูเป็นแนวทาง รู้จักปะ ขอดูเป็นแนวทางน่ะ”
เธอไม่ได้ลอกสักหน่อย ถึงคำตอบที่ส่งไปจะดูเหมือนกันก็เถอะแต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้ลอก เขาพูดแบบนี้คนอื่นจะมองเธอยังไงก่อน
ท่าทีและคำพูดที่ดูไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปแต่เหมือนกับเด็กแสบซน ทำให้เขานึกขัน หัวใจคันยุบยิบ ยิ้มที่นั่งอยู่ด้านหน้าของปลาทูจึงหันมาอย่างสนใจ
“ปลาทูโอเคนะ?”
“ร้อนงะ” ปลาทูบ่นพร้อมหายใจแรง เริ่มนั่งไม่ติดดิ้นยุกยิกไม่หยุด ส่วนหนึ่งก็เพราะเวลาเหงื่อออกมาก ๆ เธอจะเกิดอาการคันตามเนื้อตามตัว บางครั้งหากมีเหงื่อท่วมตัวก็เกิดตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นร่วมด้วย
มันคืออาการของคนที่แพ้เหงื่อ เพราะงี้เวลาอยู่บ้านเธอจึงชอบเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้ตลอด
“แลกที่กันไหม? หน้าเธอดูไม่ดีเลย” โบนัสเสนอ เมื่อเห็นท่าทีที่ผิดปกติของปลาทู บวกกับใบหน้าเล็กเริ่มขึ้นสีแดงชัดเจนราวกับพึ่งปัดบรัชออนสีเข้มมา หากแลกที่กัน เขาตัวสูงกว่าจะได้บังแดดให้เธอได้
ในขณะเดียวกันคนที่มองอยู่นานจากด้านหน้าก็เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็ก เอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“คุยไรกัน?” แม้ใบหน้าจะมีรอยขีดเขียนให้ดูตลก แต่พอเขาทำหน้าโหดมันแทบมองไม่เห็นถึงความขบขัน
“พี่อคิณแกพี่อคิณ” เสียงสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดเบา ๆ แต่ก็พอได้ยินอยู่ดี
“แกก็กรี๊ดไม่ดูเวลา เห็นหน้าพี่เขาไหม ติดคำว่างอนตัวเป้งขนาดนั้น น่าจะกำลังง้อแฟน”
งะ ง้อแฟน?
ปลาทูรีบหันขวับไปมองหน้าคนพูดเพราะเธอเป็นคนเขียนคำนั้นด้วยตัวเธอเอง แต่ใครบอกว่าเขาง้อแฟนกัน หยุมหัวกันมาตั้งแต่จำความได้ แค่คำว่าพี่น้องยังดูจะห่างไกล นี่แฟนเลยเหรอ...
แฟนบ้าแฟนบออะไร?
เจ้ากรรมนายเวรน่าจะเหมาะสุด!
“โอเคหรือเปล่า?” น้ำเสียงเรียบนิ่งที่อยู่ใกล้หูจากคนที่ย่อตัวลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ทำให้เธอต้องหันไปหา ซึ่งอคิณก็ยืดตัวบังแดดให้
“ร้อนงะ ย้ายที่ได้ปะ?” คนบูดบึ้งหายใจเสียงดังอีกครั้ง พลางยกมือขึ้นเกาลำคอตัวเอง แต่ก็ถูกมือหยาบจับเอาไว้พร้อมเอาพัดลมเล็กที่ถือติดมือมาเปิดจ่อให้
“ดีขึ้นหรือเปล่า?” ในใจก็อยากจะพาน้องไปนั่งในที่ร่ม แต่หากเขาทำแบบนั้นคงได้ถูกมองว่าลำเอียง ยิ่งตำแหน่งรองประธานมันค้ำคอเขาอยู่ด้วย
“อืม แต่จะดีกว่านี้ถ้าได้แอร์สักตัว” แม้พัดลมที่เป่ามาจะบรรเทาได้บ้างแต่มันก็ไม่ถึงใจ มือบางจึงสะบัดคอเสื้อให้ลมเข้าไปด้านในโดยไม่รู้ว่าการกระทำนี้ทำให้คนที่ถือพัดลมลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
กลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัวที่ออกมาจากกายสาว เจือกับกลิ่นเหงื่อจาง ๆ เตะเข้ากับจมูกโด่งอย่างจัง ดวงตาคมกริบอดไม่ได้ที่จะหลุบมองผิวขาวผ่องที่โผล่พ้นยามน้องสะบัดคอเสื้อ ทำเอาลมหายใจพี่ติดขัด
รู้ว่าตัวน้องหอมจนอยากจะซุกจมูกใส่มากแค่ไหนก็วันนี้
“แฟนกันเหรอ?”
“นั้นดิ เมื่อวานฉันก็เห็นว่าพวกเขา...”
“พี่น้อง” ทนเสียงซุบซิบไม่ไหว คนตัวเล็กจึงหันไปบอกเสียงดังฟังชัด “ไม่ใช่แฟน จบนะ”
ประโยคนั้นทำคนที่กำลังหลงเคลิ้มได้สติ ดึงมือของคนที่จับคอเสื้อตัวเองออกแล้วยัดพัดลมใส่มือน้อยแทน ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทว่าก็ไม่ไปไหน ยังคงยืนบังแดดให้ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สาว ๆ ที่พอได้รู้คำตอบก็มีรอยยิ้มผุดบนใบหน้า เริ่มมองหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นมิตรมากขึ้น หวังอยากจะเคลมพี่ชายเธอ
“โทษทีนะ พวกฉันไม่รู้”
“ใช่ ๆ”
“ขอโทษนะ”
“หน้าฉันอยู่นี้เนอะ” ปลาทูชี้ที่หน้าตัวเองขณะมองหน้าพวกเธออย่างฉุนเฉียว ปากบอกขอโทษแต่ตานี่มองเลยขึ้นไปหาคนบนหัวนู้น อะไรก่อน?
โบนัสเองก็อมยิ้มกริ่ม ในตอนแรกก็คิดว่าจะถอย หากคนตัวเล็กข้าง ๆ มีเจ้าของแล้ว แต่พอรู้แบบนี้ใจที่ห่อเหี่ยวก็กลับมาขึ้นฟู เปิดกระเป๋าเอาสมุดมาพัดให้อีกแรง ปลาทูจึงหันไปฉีกยิ้มขอบคุณ ทว่า...
“ไม่ต้อง!” อคิณขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน เอื้อมมือไปดึงสมุดของโบนัสมาพัดให้คนตัวเล็กแทน ในใจเกิดขุ่นมัวประหลาด แต่อีกฝ่ายกลับคิดแค่ว่าพี่ชายหวงน้องสาว
อาเธอร์ มาวินและการินที่มองดูจากหน้าแถวใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ รู้ดีว่ามันไม่ใช่ มองจากดาวอังคารยังสัมผัสได้ถึงอาการนี้...
...อาการคนหึง
“รู้ไหมว่าพวกพ่อ ๆ กับแม่ ๆ เป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วยทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อจนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริง ๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวลใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริง ๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี” เป็นต้องซู้ดปากแรง ๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียวเด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใด ๆ ผงกหัวขึ้นลง แรก ๆ ก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุ้นจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อกโกแลตชิปกับชาเขียวที่กินเท่าไรก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร่าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไว ๆ คับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบา ๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่ะ!
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ ๆ คนอื่นรับออร์เดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่น ๆ ขอให้ได้ชื่นใจ สักวินาทีเดีนวก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ”ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มันเวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไวเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาว ๆ เดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอม
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือเผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่ายโมง ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน้ตบุ๊กไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา“หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปรงแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค้ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลา
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ”“ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?”“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน“ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเปี่ยม
1เดือนต่อมา@ บนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นานอคิณก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้าง ๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ”“คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ แล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้หัวใจได้ชุ่มฉ่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะด้วยแอร์ โฮสเตสสาวสวยที่มาเสริฟ Welcome Drink“ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบาง ๆ แล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายตาให้บ่อย ๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเด