“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่”
มิรันตีเอ่ยทันทีหลังหลุดพ้นจากรถของพีรพลที่ทำให้เธอเหงื่อตกนั่งแทบไม่ติด กระทั่งนิติพลช่วยยกกระเป๋าเข้ามาให้เธอในห้องที่พี่ชายอีกฝ่ายเปิดให้และบอกว่าต้องรีบไปที่ร้าน แต่ทำอาหารกลางวันไว้ให้ทั้งสองคนแล้ว
“ไม่เอาน่า เราไม่มีทางเลือกมาก รันอยู่คนเดียวไม่ได้ แล้วก็ต้องอยู่กับคนที่ไว้ใจได้ด้วย”
นิติพลเดินมาจับไหล่สองข้างของเธอพูดอย่างจริงจัง
“ถามจริง มีปัญหาอะไรกับพี่พีกันแน่ รันเลี่ยงพี่พีตลอด เราสังเกตได้ แต่คิดว่าในเมื่อรันไม่สบายใจเราก็ตามใจ ถามพี่พีก่อนจะพารันมาเขาก็บอกว่าไม่มีปัญหา”
ริมฝีปากอิ่มเม้มพลางเมินหน้าไปทางอื่น แหงล่ะ เพราะคนที่มีปัญหาคือเธอ คนที่ขายหน้าคือเธอ พีรพลเข้าใจว่าเธอเป็นนางวันทองสองใจไปแล้วและเธอพูดความจริงออกไปไม่ได้ ตราบใดที่นิติพลยังไม่กล้าพูดเรื่องส่วนตัวของเขากับครอบครัว
“แต่ก็คงไม่ได้ยินดีต้อบรับฉันนักหรอก”
“ทำไมคิดแบบนั้น”
คราวนี้อีกฝ่ายจ้องเธออย่างสังเกตกว่าเดิม ก่อนจะดันให้ไปนั่งลงปลายเตียง แล้วกอดอกมองอย่างประเมิน
“หรือว่า...อยากได้ยินพี่พีบอกว่ายินดีรับรันมาอยู่ด้วย?”
รู้สึกราวถูกคำถามแทงใจ มิรันตีกะพริบตาและส่ายหน้าปฏิเสธ
“ฉันแค่หมายถึง...พี่พีคงไม่ค่อยชอบใจเท่าไร ที่อยู่ๆ คนอื่นก็มาอาศัยอยู่ด้วย เขาอุตส่าห์แยกตัวมาอยู่คนเดียวถึงที่นี่”
ท้ายประโยคเธอพูดเสียงเบาอย่างเกรงใจเพื่อน
“นั่นมันเรื่องภายในครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวกับรันสักหน่อย”
นิติพลถอนหายใจหากก็ไม่ได้ขุ่นเคืองกับเรื่องที่เธอพูด
“เราไม่ใช่ตำรวจ ไม่ได้มีเซฟเฮ้าส์ แล้วเราก็มีพี่ชายที่ไว้ใจมากที่สุดอยู่ที่นี่ รันเองก็เชื่อใจพี่พีเหมือนเราใช่ไหมล่ะ”
เธอไม่ปฏิเสธในเรื่องนั้น
“รันอยากหนีจากชีวิตเดิมของตัวเอง อยากอยู่ในที่ที่ไม่มีใครสนใจ แล้วก็อยากเลิกทำงานนั้น อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยู่ที่นี่ไปก่อนนั่นแหละดีที่สุดแล้ว อยู่ให้ไกลจากพวกโรคจิตนั่น”
หญิงสาวห่อไหล่ทั้งยังหน้าซีดเผือดทันที และอีกฝ่ายก็ดูออกว่าทำให้เธอกลัวจึงนั่งลงเคียงข้างแล้วโอบไหล่ปลอบใจ
“ในเมื่อรันบอกว่าไม่อยากกลับไปที่บ้าน ไม่อยากให้ใครอื่นรู้จักครอบครัวตัวเอง กลัวว่าแม่กับน้องจะพลอยเกิดปัญหาไปด้วย เราก็ต้องหาคนที่เชื่อใจได้ว่าจะไม่มองรันด้วยสายตาหื่นกระหาย ไม่เหมือนพวกโรคจิตที่ตามจนถึงคอนโด แล้วก็ไม่จ้องตะครุบรันแบบไอ้พวกสารเลวนั่น”
ยิ่งพูดนิติพลก็ยิ่งเสียงเข้มขึ้น ขณะมิรันตีหลับตาลงพยายามลบภาพตัวเองถูกมอมยาและรุมทึ้งลูบไล้เนื้อตัวโดยผู้ชายถึงสามคน หญิงสาวขนลุกซู่จนต้องกอดตัวเองแล้วก็น้ำตาไหลพราก ชายหนุ่มจึงกอดเธอกดศีรษะให้ซุกกับอกของเขา
“รันไม่เป็นไร รันปลอดภัย ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว”
เธอพยักหน้าแต่ก็ยังสะอื้นฮัก
“เราขอโทษที่พูดถึงมันขึ้นมา เราจะไม่พูดอีกแล้ว”
มิรันตีพยายามสงบจิตใจที่หวาดกลัวของตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอกลัวจนไม่กล้าออกไปไหนหรือแม้แต่ทำงาน แถมยังนอนหลับไม่ลงจนในที่สุดนิติพลซึ่งเป็นคนเดียวที่เธอยอมพบพาเธอไปอยู่ด้วย หลังจากมาเยี่ยมทุกเย็นสามวันผ่านไปแล้วสภาพของเธอย่ำแย่ลง
สองอาทิตย์ผ่านไปชายหนุ่มก็เริ่มจับเข่าคุยกับเธออย่างจริงจังว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไป เพราะมิรันตีไม่ยอมรับงานแม้แต่รีวิวสินค้า แม้จะเป็นงานที่ติดต่อสำหรับเดือนหรือสองเดือนข้างหน้าก็ตาม
‘ไปอยู่ที่อื่นสักพัก ที่ที่สงบๆ อยู่กับธรรมชาติ รันน่าจะสบายใจขึ้น แล้วจะเอาไง หรืออยากทำอะไรค่อยว่ากันอีกที’
นิติพลออกความเห็นแล้วก็พาเธอขึ้นเครื่องมาที่นี่ในวันต่อมา
หญิงสาวเป็นนางแบบแนวเซ็กซี่ ในตอนแรกนั้นไม่ได้ตั้งใจทำจริงจัง ทว่าเพิ่งจบระหว่างกำลังหางาน เพื่อนรุ่นพี่ของนิติพลที่บังเอิญได้เจอกันเสนองานถ่ายแบบนิตยสารแนวเซ็กซี่มาให้ หลังจากปรึกษานิติพลและดูขอบเขตกับสไตล์งานแล้วไม่หวือหวาเกินไปเธอจึงลองดูโดยมีนิติพลคอยรับส่ง แม้จะเข้าไปอยู่ตอนที่ถ่ายด้วยไม่ได้หากเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอไปตามลำพัง แล้วมิรันตีก็ได้รับความสนใจมากจากผลงานชิ้นนั้น เธอมีคนติดตามทางโซเชียลมากขึ้นผิดหูผิดตา ทั้งที่ตั้งใจถ่ายเพียงครั้งเดียว ทว่าก็ต้องช่วยมารดาหาเงินก้อนใหญ่จ่ายค่าเทอมปีแรกเข้ามหาวิทยาลัยของน้องสาว รวมทั้งเพื่อนรุ่นพี่ก็ติดต่อมาบ่อยครั้งแม้จะบอกปัดไป มิรันตีจึงยอมรับงาน นั่นยิ่งทำให้หลายที่ติดต่อเธอมา
“บ้านพี่พีออกจะน่าอยู่ รันก็เห็นแล้ว อีกอย่างร้านพี่พีก็อยู่ในไร่ชาชื่อดังของจังหวัด สวยมากเลย เราเคยไปหาที่นั่นครั้งนึง เอาไว้ไปเที่ยวพรุ่งนี้กัน รับรองรันต้องชอบแน่”
“ไหนบอกว่าไม่ได้ลางานไง”
“บินกลับเช้าวันจันทร์ก็ได้ ขอลาสักครึ่งวันเช้า”
“แล้วพี่พี...”
“เราไปเที่ยวของเรา พี่พีไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า”
อีกฝ่ายบอกพลางยักไหล่
“เลิกกลัวพี่พีได้แล้ว”
มิรันตีได้แต่ยิ้มเจื่อน เธอไม่ได้กลัวพีรพล แต่เกรงจะทำให้เขาเกลียดขี้หน้าตัวเองไปมากกว่านี้ต่างหาก
เจ้าของร่างสูงโปร่งหากดูกำยำที่ใส่ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้ม ปักชื่อร้านกาแฟตรงหน้าอก และยืนชงกาแฟด้านหลังเคาน์เตอร์ด้วยท่าทางคล่องแคล่วทำให้มิรันตีอยากมองเช่นนี้ไปนานๆ การนั่งอยู่ค่อนข้างไกลทำให้เธอกล้าที่จะมองพีรพลโดยไม่ละสายตา
“ตาเชื่อมเชียวนะ”
มิรันตีสะดุ้งเฮือก ไม่ทันมองว่านิติพลที่ไปเข้าห้องน้ำกลับมาแล้ว อีกฝ่ายไปสั่งเครื่องดื่มแล้วเลยไปเข้าห้องน้ำ เธอจึงจ้องพี่ชายของเขาได้เต็มตาทว่าก็ลืมระวังตัว
“เปล่าสักหน่อย”
ร่างสูงโปร่งใกล้เคียงพี่ชายหากกำยำน้อยกว่านั่งลงตรงข้ามเธอพลางยื่นหน้าข้ามโต๊ะมาจนใกล้แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มิรันตีรู้สึกไม่ชอบใจนักจึงยกมือขึ้นแกล้งจะใช้สองนิ้วจิ้มตาอีกฝ่าย แต่ก็ต้องชะงักเพราะเหลือบไปเห็นว่าพีรพลกำลังยกเครื่องดื่มกับเค้กตรงมาหา หญิงสาวกลับไปนั่งหลังตรง ทว่าเพื่อนสนิทที่ไม่เห็นพี่ชายกลับโน้มมาใกล้มากขึ้น
“ไง ไม่แน่จริงนี่นา”
“อะแฮ่ม”
เสียงกระแอมของพี่ชายทำให้นิติพลยืนขึ้นหันไปช่วยรับของที่อีกฝ่ายถือมา
“ต้องไปเอาเองไม่ใช่เหรอพี่”
“ก็นายไม่ได้ถือเครื่องไปด้วย ทำเสร็จแล้วจะรู้ได้ไง”
พีรพลบอกเสียงเรียบ ขณะที่คนโดนบ่นหน้าเจื่อนเพราะตนรีบไปห้องน้ำจนลืมจริงๆ
“จะหวานกันก็ดูหน่อย นี่มันที่สาธารณะ นายไม่ได้อยู่ที่บ้าน”
มิรันตีกัดริมฝีปากด้านในทว่าไม่ได้มองคนพูด เพียงแค่จ้อง นิติพลด้วยแววตาขุ่นเมื่ออีกฝ่ายรับคำหน้าทะเล้น
“ครับพี่”
=====
รันแอบชอบพี่พี แต่น็อตทำให้เข้าใจผิดแบบนี้รันก็หมดสิทธิ์สิ เฮ้อ… ^^"
“ต่อจากเมื่อวานกันนะครับ”เอ่ยจบชายหนุ่มก็จูบซับกลีบปากอิ่ม เม้มแรงทั้งบนล่าง ปลายลิ้นอุ่นซอกแซกไล้ไปมาจนสามารถเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเธออย่างเร่าร้อนมือหนาบีบเคล้นทรวงอวบที่ยังมีผ้าลูกไม้เกาะครึ่งเต้าทรวงก่อนปลายนิ้วแกร่งจะไล้ผ่านเนินขาวขึ้นไปเกี่ยวสายเส้นเล็กลงจากไหล่บางปล่อยสองทรวงอวบใหญ่ให้เผยต่อตา ใบหน้าคมคายซุกไซ้สูดกลิ่นกายสาวปะปนสบู่เหลวหอมสดชื่น เม้มผิวอ่อนบางตรงซอกคอแล้วไซ้ลงมาหายอดอกสีหวาน เบียดแก้มสากเสียดสีกระตุ้นเร้ากายสาว และเขาก็อยากสัมผัสอกอวบคู่งามที่สุดสำหรับตนให้เนิ่นนานปากอุ่นจัดขยับเม้มยอดทรวงราวหยอกเย้าจนชูช่อโดดเด่นทั้งสองข้าง ก่อนรวบก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นเข้าอุ้งปากตน ดูดดื่มเบาแล้วเพิ่มแรงขึ้นจนหญิงสาวครวญคราง มือบางขยุ้มผมเขาหากพีรพลไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดชายหนุ่มไม่ได้ปลุกเร้าเพียงอกสาว เขาส่งมืออีกข้างสอดผ่านกางเกงขายาวเนื้อหนาของมิรันตีเข้าไปลูบโลมความสาวบอบบาง แล้วยังเคลื่อนเข้าไปแตะต้องจนถึงเนื้อใน ปลายนิ้วลากไล้ก่อนจะรุกรานอย่างย่ามใจเพราะขาเรียวสองข้างขยับกว้างเปิดทางอย่างไม่ต้องบังคับหรือบอกกล่าวมิรันตีครางเสียงเครือรับการปรนเปรอจากนิ้วแกร่ง แล
ประตูห้องเปิดผลัวะออกอย่างแรงพร้อมกับหมอนกระแทกเข้าใส่หน้าเขาเต็มๆ ทำเอานิติพลหน้าหงาย แต่ก็รับหมอนไว้ได้ก่อนหล่นลงพื้นพร้อมกับมองหน้าพี่ชายด้วยความงุนงง ทว่าพอเหลือบไปด้านหลังแล้วเห็นเจ้าของร่างอรชรรีบเดินตามมาใกล้พี่ชายที่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ก็เข้าใจได้ทันที“เอ่อ ผมไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้”เขาบอกพร้อมสีหน้ารู้สึกผิดมิรันตีรีบแทรกมายืนด้านหน้าพีรพลพลางยิ้มเจื่อนส่งสายตาขอโทษเพื่อนแล้วบอกสิ่งที่ตนตั้งใจในตอนแรก“ฉันแค่มาเช็กว่าพี่พียังมีไข้หรือเปล่าน่ะ แล้วก็จะกลับแล้ว”“เหรอ เช็กจนผมยุ่งไปหมดเลยเนอะ โอ๊ะ...”ร่างโปร่งของนิติพลผงะเซไปด้านหลังก้าวหนึ่งเพราะพี่ชายแอบยกเท้ามายันขา แล้วก็เป็นจังหวะให้มิรันตีรีบแทรกออกไปเมื่อมีพื้นที่ หญิงสาวก้มหน้างุดไม่มองใครอีก คนเป็นเพื่อนมองตามแล้วก็ถอนหายใจหันกลับมาก็เจอเข้ากับสายตาดุเข้มของพี่ชาย“นอนข้างนอกไปเลย”“โธ่พี่ ล้อเล่นนิดเดียว ไม่คิดว่ารันจะอายขนาดนี้”“น้องเวร เป็นเพื่อนยังไงวะ”“ขอโทษครับพี่”“ไปขอโทษรันโน่น”นิติพลหน้าซีด พลางส่ายหน้า“ตอนนี้รันงอนอยู่ เอาไว้พรุ่งนี้ใจเย็นก่อนดีกว่า”เขารู้ว่าควรง้อเจ้าตัวและเอาอกเอาใจเมื่อไร มิรันตีไ
เพราะเจ็บไม่น้อยวัชพลจึงให้พีรพลไปหาหมอที่อนามัยใกล้ๆ และกลับบ้าน แล้วให้กัญญาเฝ้าร้านกับเดือน เนื่องจากรู้ว่ามิรันตีก็ต้องตามไปดูแลเขากลับมาถึงบ้านหลังจากทำแผลที่สถานีอนามัยมิรันตีก็ประคองชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาแล้วไปเอาน้ำมาให้เขา เธอพยายามเก็บอาการน้ำตาซึมกับสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของตัวเองเอาไว้อย่างที่สุด แต่เมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำแทบไม่ได้ แม้แต่จับแก้วยังลำบากเธอก็น้ำตาไหลจนได้“โธ่ พี่พี”ปลายนิ้วเรียวแตะโหนกแก้มช้ำกับมุมปากที่แตกของชายหนุ่มแล้วเลื่อนมือลงมาจับมือหนาที่แตกทั้งสองข้างขึ้นดู“เจ็บมากสินะคะ”พีรพลหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยิ้มอ่อนเธอจึงหน้างอ“ยังจะหัวเราะอีก รันตกใจแค่ไหนรู้ไหมคะ ที่เห็นคุณแก้มพยุงพี่พีเข้ามาร้านในสภาพนั้น”หญิงสาวเสียงเครือแล้วก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาหยดลงบนมือหนาถูกแผลทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆ เพราะแสบแต่ก็ทนได้ ทว่าเขาไม่อยากให้เธอร้องไห้ พีรพลจึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้“ทำเพื่อรัน เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ พี่ทนได้”“นิดหน่อยที่ไหนกันคะ”“เอาน่า อย่างน้อยพวกนั้นก็จะไม่มาเหยียบที่ไร่ดิฐวัฒน์อีก”มิรันตีม
“มึงคิดว่ามึงแน่เหรอ ฮะ!”หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น“มึงกล้ามีเรื่องกับลูกค้าอย่างพวกกูเหรอ”อีกคนพูดเสียงดังตรงจุดนี้เป็นส่วนที่คนเข้ามาถึงน้อยเพราะจัดเอาไว้อย่างเฉพาะ ซึ่งไม่ไกลจากที่จอดรถของพีรพลนัก และเวลานี้ก็ไม่มีคนอื่นมาสูบบุหรี่“เออ กูจะเอาให้พวกมึงไม่กล้าเห่าหอนถึงผู้หญิงเสียๆ หายๆ ได้อีก”พีรพลสวนกลับอย่างไม่กลัว“มึงมาเสือกอะไรวะ หรือว่า...”คนพูดกระตุกยิ้มมุมปาก“นั่นเมียมึง”ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงใคร พีรพลกระโดดยกขาเข้าไปหาในทันใดและมันก็กระโดดหลบ ขณะที่เพื่อนทั้งสองคนที่เหลือรีบเข้ามารุมจับเขา ชายหนุ่มสลัดออกก่อนหันไปต่อยอีกคน แต่ก็ถูกถีบสีข้างจนเกือบล้ม แล้วก็มีคนตามมากระชากไหล่ไปต่อยการเตะต่อยสามรุมหนึ่งเป็นไปอย่างชุลมุน พีรพลโดนทั้งถีบทั้งต่อยไปหลายครั้ง หากเขาก็เหวี่ยงหมัดเอาคืนทั้งสามไปอย่างไม่หยุดหย่อนราวเรี่ยวแรงไม่หดหาย ครู่หนึ่งจึงมีคนเข้ามาห้ามซึ่งเป็นวัชพลกับคนงานในไร่อีกสองคน“หยุดได้แล้ว”วัชพลเสียงเข้ม เข้าไปกระชากหนึ่งในลูกค้าล็อกแขนไว้ คนงานอีกสองคนก็จับสองคนที่เหลือ“ปล่อยสิวะ”แม้จะไม่มีใครยอมแต่เพราะทั้งเจ็บตัวทั้งอ่อนล้าทำให้สลัดวัชพลกับคน
‘แกคิดว่าแม่เห็นแกเป็นเครื่องผลิตเงินหรือไง’เมื่อไปรับมารดาที่บ้าน มิรันตีก็ขอโทษและท่านก็เอ่ยมาราวประชด แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองเธอ ทั้งยังพูดกับพีรพลด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น ไม่ได้ซักหรือถามไถ่เรื่องงานอีก ทว่าหลังจากมาติกาออกจากโรงพยาบาลในวันถัดมา ก่อนจะลากลับมารดากลับพูดในสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาซึม‘ฝากรันด้วยนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำเป็นเก่ง แต่ยังไงก็ต้องมีคนดูแล’หลายเดือนผ่านไป มิรันตีได้ฝึกชงกาแฟกับชาและเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มอีกหลายเมนูจนคล่องแคล่ว แต่บาริสต้าหลักยังเป็นพีรพลและเดือนเป็นผู้ช่วย ส่วนเธอนั้นทำเมนูที่ไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอน อีกอย่างที่นี่ก็มีเค้กที่ทำเองด้วย ซึ่งอุปกรณ์ครบพร้อมอยู่ด้านใน ส่วนนี้เดือนจะเป็นผู้ทำโดยมีเธอช่วย และเดือนก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพีรพลดี‘ก็พอจะมองออกน่ะนะ’อีกฝ่ายยักไหล่พร้อมบอกอย่างไม่แปลกใจเมื่อเธอสารภาพกับเจ้าตัวหลังกลับจากกรุงเทพฯ ในเมื่อที่บ้านเธอเกิดเรื่องแต่ชายหนุ่มกลับตามไปด้วยอย่างไรก็ดูน่าแปลกวันนี้เป็นวันหยุดยาวนักขัตฤกษ์ในไร่จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างคึกคัก และนิติพลก็บอกว่าจะมาเยี่ยม แต่เขาจะมาวันพรุ่งนี้เพราะใช้เวลากับคน
ร่างอรชรถูกปล่อยลงใกล้เตียงนอนและชายหนุ่มก็กอดจูบลูบไล้เรือนกายนุ่มละมุน พร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอไปด้วย มิรันตีเองก็ดึงชายเสื้อชายหนุ่มจากเอวกางเกง ร่างสูงโปร่งถอยห่างเล็กน้อยจัดการกับชุดของเธอจนเหลือเพียงซับในสองชิ้นเขาก็ถอดเสื้อตนออกอย่างรวดเร็ว แล้วโอบพาเธอลงไปนอนบนเตียงมือหนาลูบแก้ม ไล้ปลายนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะลากมือระเรื่อยผ่านลำคอบางมาถึงเนินอวบขาว ปัดป่ายเย้ายวนใจพร้อมริมฝีปากได้รูปประกบกับกลีบปากอิ่มที่เห่อแดงด้วยฤทธิ์จูบก่อนหน้านี้มิรันตีเปิดรับเมื่ออีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวรัดพัวพัน รับรู้ได้ถึงมือหนาเกาะกุมอกอวบเคล้นคลึง ขณะเดียวกันต้นขาแกร่งก็แทรกกลางร่างเสียดสีเร้าอารมณ์อย่างเร้าใจทำเอาเธอเกร็งไปทั้งตัวดื่มด่ำกับจูบหวานลึกซึ้งแล้วปากอุ่นก็ค่อยเคลื่อนแตะแผ่วพรมทั่วลำคอขาว ซุกซบดอมดม เม้มผิวอ่อนจนแดงเรื่อแล้วจึงไต่ลงต่ำจูบซับเนินอกสองข้าง และเริ่มปลดตะขอเปิดปลือยเต้าทรวง ความกลมกลึงอวบใหญ่กับยอดอกสีหวานชวนลิ้มลองปรากฏต่อหน้า ใบหน้าคมคายก็ถูไถจนได้ยินเสียงหวานครางผะแผ่ว“รันสวยที่สุด”ชายหนุ่มพึมพำแล้วไล้ลิ้นระรัวเหนือยอดอกสีหวานที่ชูชันตื่นตัวเต็มที่และย้ายไ