ภายใต้ท่าทีสุขุมนุ่มลึกของเขา กลับซ่อนเสน่หาเร่าร้อนอันน่าหลงใหล ราวเชิญชวนให้เธอกระโจนเข้าหาอยู่ตลอดเวลา “พี่ไม่ได้คิดอะไร ทำไมต้องหวั่นไหว” “ไม่หวั่นไหวจริงเหรอคะ” เธอจงใจขยับเข้าไปเบียดเขาอีกหน่อยทั้งตัว ขณะหัวใจเต้นระรัวขึ้นกับความใจกล้าของตัวเอง “งั้นจูบรันได้ไหมคะ”
Lihat lebih banyak“น็อต นั่นพี่ชายนายนี่”
“งั้นสิ”
คนใส่แว่นกันแดดยืนล้วงกระเป๋าพยักหน้าทื่อๆ แล้วรีบหันไปยกกระเป๋าสองใบใหญ่ไปหาผู้ชายร่างสูงโปร่งทว่าดูกำยำที่ลงจากรถแล้วก้าวตรงมาหาพวกเธอ
หญิงสาวที่กำลังอึ้งกลืนน้ำลาย รู้สึกเหงื่อซึมและก้าวขาไม่ออกขึ้นมา เธอคว้าแขนเพื่อนมาถามต่อไม่ได้ ไม่อยากทำตัวให้ดูผิดปกติ จำต้องเดินตามอีกฝ่ายไปยกมือไหว้พี่ชายของเขา หลังจากสองหนุ่มกอดทักทายตามประสาพี่น้องแล้ว
“สวัสดีค่ะพี่พี”
“ครับ สวัสดีครับรัน”
ในแวบแรกที่สบตามิรันตีก็ใจเต้นรัวก่อนจะหลบสายตาคู่คมเข้ม ยังจดจำได้ถึงดวงตาแข็งกร้าวกับน้ำเสียงเข้มที่ดุกว่านี้ และก็ทำให้เธออายอย่างที่สุดในชีวิต
สามปีที่แล้วงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ ของนิติพลที่ปิดร้านอาหารแห่งหนึ่งเลี้ยง มิรันตีเมามาก เธอไม่ได้ตั้งใจดื่มแต่เพื่อนของชายหนุ่มที่สนใจเธอต่างก็เข้ามาชวนดื่ม เพราะไม่อยากให้งานกร่อยและนิติพลอาจผิดใจกับเพื่อนบางคนที่คิดว่าเธอหยิ่ง หญิงสาวจึงไม่ปฏิเสธ ที่สำคัญเจ้าของวันเกิดก็แทบเดินไม่เป็นเช่นกัน พีรพลพี่ชายของเขาจึงเป็นคนพาชายหนุ่มกับเธอไปส่งที่คอนโดของนิติพล
และมิรันตีก็ทำในสิ่งที่เวลาปกติตนคงไม่กล้าทำ นั่นก็คือกอดคอดึงพีรพลซึ่งอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องน้องชายเข้ามาจูบ ไม่ใช่จูบที่ดีหรือน่าจดจำเพราะเธอจูบไม่เป็น แต่ที่แย่กว่าคือสิ่งที่เธอสารภาพออกไปหลังจากชายหนุ่มจับไหล่เธอดันออก
‘รันรักพี่พีค่ะ’
‘รันเมา พี่เข้าใจ’
เขากดเธอให้นอนลงแล้วจะผละไปแต่หญิงสาวดึงแขนรั้งไว้ไม่ยอมปล่อย
‘เพราะเมา...รันถึงกล้าสารภาพว่ารักพี่พี...’
‘เพราะเมา ก็เลยกล้าหักหลังน็อตด้วยใช่ไหม’
พีรพลถามขณะมือหนาจับข้อมือเธอบีบแล้วดึงให้ปล่อยแขนเขาจนเธอเจ็บร้าว
‘แต่ขอโทษที พี่ไม่คิดหักหลังน้องชายตัวเอง’
ชายหนุ่มพูดเสียงดุเข้ม เวลานั้นมิรันตีมึนมากเพราะความเมาพยายามจะขยับตัวตามอีกฝ่ายก็ไม่ไหว ต้องทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับความไม่เข้าใจในสิ่งที่พีรพลพูดแต่ไม่นานก็หลับไป
ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพีรพลยังทำอาหารเช้าให้นิติพลกับเธอที่ตื่นสายมากเพราะเมาทั้งคู่ คอนโดมีสองห้องเพราะพีรพลเคยอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งสองหนุ่มนอนที่ห้องเก่าของพีรพล และแม้จะปวดหัวมากมิรันตีกลับจำสิ่งที่ตัวเองทำได้ทันทีที่เห็นหน้าชายหนุ่ม ทำเอาแทบไม่กล้ามองเขาอีกเลย กระทั่งช่วงสายพีรพลที่มาเยี่ยมครอบครัวและร่วมงานวันเกิดน้องชายก็กลับต่างจังหวัด
‘ยังปวดหัวอยู่เหรอ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้แน่ะ’
นิติพลถามขึ้น อีกฝ่ายของีบต่อจนบ่ายแก่แล้วจึงขับรถมาส่งเธอ ขณะที่มิรันตีนั่งครุ่นคิดเคร่งเครียดตลอดวัน ทั้งปวดหัวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ทำพิษพร้อมทั้งเสียใจและอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘นายเคยพูดอะไรแปลกๆ เรื่องของเรากับพี่พีหรือเปล่า’
‘ทำไมเหรอ’
‘ฉันเมามาก แต่ก็คงพอบอกทางไปอพาร์ตเมนต์ฉันได้ แต่พี่พีพาฉันมานอนห้องนายโดยไม่ถามสักคำ’
เธอคิดมาทั้งวันแล้วว่าจุดนี้ก็น่าแปลก และท่าทางของนิติพลก็ดูอึกอักในทันทีก่อนหันมายิ้มเจื่อนให้หลังหยุดรถที่ติดไฟแดง
‘เอ่อ พี่พีเข้าใจว่ารันคบกันเราน่ะ’
‘อะไรนะ!’
มิรันตีอุทานลั่นรถอย่างไม่อยากเชื่อ
‘แต่นาย...’
‘ใช่...เพราะงั้นแหละ เราก็เลยใช้รันเป็นข้ออ้างตอนที่พี่พีโทรมากะทันหันบอกว่าจะมาพักที่คอนโด แต่ตอนนั้นเราอยู่กับแฟนพอดี พี่พีก็เลยเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆ แทน’
เธอเงียบไปด้วยความอึ้ง ขณะที่อีกฝ่ายจับมือเธออย่างออดอ้อน
‘เราขอโทษ’
‘ให้ตายสิ ไอ้บ้าน็อต’
มิรันตีสะบัดมือสะบัดหน้าหนีน้ำตาไหลอย่างโมโหแต่ก็รีบปัดทิ้ง ไม่พูดไม่อธิบายอะไรแม้ว่านิติพลจะพยายามถาม ง้อและเอาอกเอาใจอย่างไร
นับแต่นั้นมาเธอก็เลี่ยงที่จะพบหน้าพีรพลหากรู้ว่าเขาลงมากรุงเทพฯ วันเกิดนิติพลก็อ้างว่าไม่ว่างเสมอ มิรันตีคิดเข้าข้างตัวเองว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็อยู่ไกล ไม่มีโอกาสได้เจอกันง่ายๆ ให้เธอต้องอายมองหน้าเขาไม่ติด
ครั้งนี้เธอไม่ทันคิดว่านิติพลจะนัดพี่ชายเอาไว้ กระทั่งลงเครื่องมาจึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าจังหวัดที่พีรพลมาอยู่นั้นคือเชียงราย แอบหวั่นในใจจนเมื่อเห็นร่างสูงกำยำลงจากรถยืนยันความวิตกก็ครอบงำจิตใจทันใด
‘ไอ้น็อต ไอ้เพื่อนบ้ามันเล่นฉันอีกแล้ว’
=====
หากติดตาม ‘ดุจกรงเถื่อน’ กับ 'ซ่อน(แอบ)รัก' แล้ว เพื่อนๆ อ่านชื่อพระเอกของเรื่องนี้แล้ว อาจตงิดใจ
ใช่เลยค่ะ เขาคือ ‘พีรพล’ หนุ่มผู้จัดการร้านกาแฟในไร่ชาดิฐวัฒน์นั่นเองค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นค่ะ เน้นฟิน ในเซต 'กรงรัก' ค่า ฝากติดตามด้วยนะคะ^^
“ต่อจากเมื่อวานกันนะครับ”เอ่ยจบชายหนุ่มก็จูบซับกลีบปากอิ่ม เม้มแรงทั้งบนล่าง ปลายลิ้นอุ่นซอกแซกไล้ไปมาจนสามารถเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเธออย่างเร่าร้อนมือหนาบีบเคล้นทรวงอวบที่ยังมีผ้าลูกไม้เกาะครึ่งเต้าทรวงก่อนปลายนิ้วแกร่งจะไล้ผ่านเนินขาวขึ้นไปเกี่ยวสายเส้นเล็กลงจากไหล่บางปล่อยสองทรวงอวบใหญ่ให้เผยต่อตา ใบหน้าคมคายซุกไซ้สูดกลิ่นกายสาวปะปนสบู่เหลวหอมสดชื่น เม้มผิวอ่อนบางตรงซอกคอแล้วไซ้ลงมาหายอดอกสีหวาน เบียดแก้มสากเสียดสีกระตุ้นเร้ากายสาว และเขาก็อยากสัมผัสอกอวบคู่งามที่สุดสำหรับตนให้เนิ่นนานปากอุ่นจัดขยับเม้มยอดทรวงราวหยอกเย้าจนชูช่อโดดเด่นทั้งสองข้าง ก่อนรวบก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นเข้าอุ้งปากตน ดูดดื่มเบาแล้วเพิ่มแรงขึ้นจนหญิงสาวครวญคราง มือบางขยุ้มผมเขาหากพีรพลไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดชายหนุ่มไม่ได้ปลุกเร้าเพียงอกสาว เขาส่งมืออีกข้างสอดผ่านกางเกงขายาวเนื้อหนาของมิรันตีเข้าไปลูบโลมความสาวบอบบาง แล้วยังเคลื่อนเข้าไปแตะต้องจนถึงเนื้อใน ปลายนิ้วลากไล้ก่อนจะรุกรานอย่างย่ามใจเพราะขาเรียวสองข้างขยับกว้างเปิดทางอย่างไม่ต้องบังคับหรือบอกกล่าวมิรันตีครางเสียงเครือรับการปรนเปรอจากนิ้วแกร่ง แล
ประตูห้องเปิดผลัวะออกอย่างแรงพร้อมกับหมอนกระแทกเข้าใส่หน้าเขาเต็มๆ ทำเอานิติพลหน้าหงาย แต่ก็รับหมอนไว้ได้ก่อนหล่นลงพื้นพร้อมกับมองหน้าพี่ชายด้วยความงุนงง ทว่าพอเหลือบไปด้านหลังแล้วเห็นเจ้าของร่างอรชรรีบเดินตามมาใกล้พี่ชายที่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ก็เข้าใจได้ทันที“เอ่อ ผมไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้”เขาบอกพร้อมสีหน้ารู้สึกผิดมิรันตีรีบแทรกมายืนด้านหน้าพีรพลพลางยิ้มเจื่อนส่งสายตาขอโทษเพื่อนแล้วบอกสิ่งที่ตนตั้งใจในตอนแรก“ฉันแค่มาเช็กว่าพี่พียังมีไข้หรือเปล่าน่ะ แล้วก็จะกลับแล้ว”“เหรอ เช็กจนผมยุ่งไปหมดเลยเนอะ โอ๊ะ...”ร่างโปร่งของนิติพลผงะเซไปด้านหลังก้าวหนึ่งเพราะพี่ชายแอบยกเท้ามายันขา แล้วก็เป็นจังหวะให้มิรันตีรีบแทรกออกไปเมื่อมีพื้นที่ หญิงสาวก้มหน้างุดไม่มองใครอีก คนเป็นเพื่อนมองตามแล้วก็ถอนหายใจหันกลับมาก็เจอเข้ากับสายตาดุเข้มของพี่ชาย“นอนข้างนอกไปเลย”“โธ่พี่ ล้อเล่นนิดเดียว ไม่คิดว่ารันจะอายขนาดนี้”“น้องเวร เป็นเพื่อนยังไงวะ”“ขอโทษครับพี่”“ไปขอโทษรันโน่น”นิติพลหน้าซีด พลางส่ายหน้า“ตอนนี้รันงอนอยู่ เอาไว้พรุ่งนี้ใจเย็นก่อนดีกว่า”เขารู้ว่าควรง้อเจ้าตัวและเอาอกเอาใจเมื่อไร มิรันตีไ
เพราะเจ็บไม่น้อยวัชพลจึงให้พีรพลไปหาหมอที่อนามัยใกล้ๆ และกลับบ้าน แล้วให้กัญญาเฝ้าร้านกับเดือน เนื่องจากรู้ว่ามิรันตีก็ต้องตามไปดูแลเขากลับมาถึงบ้านหลังจากทำแผลที่สถานีอนามัยมิรันตีก็ประคองชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาแล้วไปเอาน้ำมาให้เขา เธอพยายามเก็บอาการน้ำตาซึมกับสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของตัวเองเอาไว้อย่างที่สุด แต่เมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำแทบไม่ได้ แม้แต่จับแก้วยังลำบากเธอก็น้ำตาไหลจนได้“โธ่ พี่พี”ปลายนิ้วเรียวแตะโหนกแก้มช้ำกับมุมปากที่แตกของชายหนุ่มแล้วเลื่อนมือลงมาจับมือหนาที่แตกทั้งสองข้างขึ้นดู“เจ็บมากสินะคะ”พีรพลหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยิ้มอ่อนเธอจึงหน้างอ“ยังจะหัวเราะอีก รันตกใจแค่ไหนรู้ไหมคะ ที่เห็นคุณแก้มพยุงพี่พีเข้ามาร้านในสภาพนั้น”หญิงสาวเสียงเครือแล้วก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาหยดลงบนมือหนาถูกแผลทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆ เพราะแสบแต่ก็ทนได้ ทว่าเขาไม่อยากให้เธอร้องไห้ พีรพลจึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้“ทำเพื่อรัน เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ พี่ทนได้”“นิดหน่อยที่ไหนกันคะ”“เอาน่า อย่างน้อยพวกนั้นก็จะไม่มาเหยียบที่ไร่ดิฐวัฒน์อีก”มิรันตีม
“มึงคิดว่ามึงแน่เหรอ ฮะ!”หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น“มึงกล้ามีเรื่องกับลูกค้าอย่างพวกกูเหรอ”อีกคนพูดเสียงดังตรงจุดนี้เป็นส่วนที่คนเข้ามาถึงน้อยเพราะจัดเอาไว้อย่างเฉพาะ ซึ่งไม่ไกลจากที่จอดรถของพีรพลนัก และเวลานี้ก็ไม่มีคนอื่นมาสูบบุหรี่“เออ กูจะเอาให้พวกมึงไม่กล้าเห่าหอนถึงผู้หญิงเสียๆ หายๆ ได้อีก”พีรพลสวนกลับอย่างไม่กลัว“มึงมาเสือกอะไรวะ หรือว่า...”คนพูดกระตุกยิ้มมุมปาก“นั่นเมียมึง”ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงใคร พีรพลกระโดดยกขาเข้าไปหาในทันใดและมันก็กระโดดหลบ ขณะที่เพื่อนทั้งสองคนที่เหลือรีบเข้ามารุมจับเขา ชายหนุ่มสลัดออกก่อนหันไปต่อยอีกคน แต่ก็ถูกถีบสีข้างจนเกือบล้ม แล้วก็มีคนตามมากระชากไหล่ไปต่อยการเตะต่อยสามรุมหนึ่งเป็นไปอย่างชุลมุน พีรพลโดนทั้งถีบทั้งต่อยไปหลายครั้ง หากเขาก็เหวี่ยงหมัดเอาคืนทั้งสามไปอย่างไม่หยุดหย่อนราวเรี่ยวแรงไม่หดหาย ครู่หนึ่งจึงมีคนเข้ามาห้ามซึ่งเป็นวัชพลกับคนงานในไร่อีกสองคน“หยุดได้แล้ว”วัชพลเสียงเข้ม เข้าไปกระชากหนึ่งในลูกค้าล็อกแขนไว้ คนงานอีกสองคนก็จับสองคนที่เหลือ“ปล่อยสิวะ”แม้จะไม่มีใครยอมแต่เพราะทั้งเจ็บตัวทั้งอ่อนล้าทำให้สลัดวัชพลกับคน
‘แกคิดว่าแม่เห็นแกเป็นเครื่องผลิตเงินหรือไง’เมื่อไปรับมารดาที่บ้าน มิรันตีก็ขอโทษและท่านก็เอ่ยมาราวประชด แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองเธอ ทั้งยังพูดกับพีรพลด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น ไม่ได้ซักหรือถามไถ่เรื่องงานอีก ทว่าหลังจากมาติกาออกจากโรงพยาบาลในวันถัดมา ก่อนจะลากลับมารดากลับพูดในสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาซึม‘ฝากรันด้วยนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำเป็นเก่ง แต่ยังไงก็ต้องมีคนดูแล’หลายเดือนผ่านไป มิรันตีได้ฝึกชงกาแฟกับชาและเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มอีกหลายเมนูจนคล่องแคล่ว แต่บาริสต้าหลักยังเป็นพีรพลและเดือนเป็นผู้ช่วย ส่วนเธอนั้นทำเมนูที่ไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอน อีกอย่างที่นี่ก็มีเค้กที่ทำเองด้วย ซึ่งอุปกรณ์ครบพร้อมอยู่ด้านใน ส่วนนี้เดือนจะเป็นผู้ทำโดยมีเธอช่วย และเดือนก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพีรพลดี‘ก็พอจะมองออกน่ะนะ’อีกฝ่ายยักไหล่พร้อมบอกอย่างไม่แปลกใจเมื่อเธอสารภาพกับเจ้าตัวหลังกลับจากกรุงเทพฯ ในเมื่อที่บ้านเธอเกิดเรื่องแต่ชายหนุ่มกลับตามไปด้วยอย่างไรก็ดูน่าแปลกวันนี้เป็นวันหยุดยาวนักขัตฤกษ์ในไร่จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างคึกคัก และนิติพลก็บอกว่าจะมาเยี่ยม แต่เขาจะมาวันพรุ่งนี้เพราะใช้เวลากับคน
ร่างอรชรถูกปล่อยลงใกล้เตียงนอนและชายหนุ่มก็กอดจูบลูบไล้เรือนกายนุ่มละมุน พร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอไปด้วย มิรันตีเองก็ดึงชายเสื้อชายหนุ่มจากเอวกางเกง ร่างสูงโปร่งถอยห่างเล็กน้อยจัดการกับชุดของเธอจนเหลือเพียงซับในสองชิ้นเขาก็ถอดเสื้อตนออกอย่างรวดเร็ว แล้วโอบพาเธอลงไปนอนบนเตียงมือหนาลูบแก้ม ไล้ปลายนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะลากมือระเรื่อยผ่านลำคอบางมาถึงเนินอวบขาว ปัดป่ายเย้ายวนใจพร้อมริมฝีปากได้รูปประกบกับกลีบปากอิ่มที่เห่อแดงด้วยฤทธิ์จูบก่อนหน้านี้มิรันตีเปิดรับเมื่ออีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวรัดพัวพัน รับรู้ได้ถึงมือหนาเกาะกุมอกอวบเคล้นคลึง ขณะเดียวกันต้นขาแกร่งก็แทรกกลางร่างเสียดสีเร้าอารมณ์อย่างเร้าใจทำเอาเธอเกร็งไปทั้งตัวดื่มด่ำกับจูบหวานลึกซึ้งแล้วปากอุ่นก็ค่อยเคลื่อนแตะแผ่วพรมทั่วลำคอขาว ซุกซบดอมดม เม้มผิวอ่อนจนแดงเรื่อแล้วจึงไต่ลงต่ำจูบซับเนินอกสองข้าง และเริ่มปลดตะขอเปิดปลือยเต้าทรวง ความกลมกลึงอวบใหญ่กับยอดอกสีหวานชวนลิ้มลองปรากฏต่อหน้า ใบหน้าคมคายก็ถูไถจนได้ยินเสียงหวานครางผะแผ่ว“รันสวยที่สุด”ชายหนุ่มพึมพำแล้วไล้ลิ้นระรัวเหนือยอดอกสีหวานที่ชูชันตื่นตัวเต็มที่และย้ายไ
Komen