ตั้งแต่เจอกับแมวสามสีหน้าดุในคืนพระจันทร์เต็มดวง เจ้าขาก็ฝันหวานและตื่นขึ้นมากับร่างกายที่เปลือยเปล่าแทบทุกเช้า...
View Moreเสียงสะอื้นแผ่วเบาในยามดึกดังคลอกับเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดให้ไหวเอนจนฟังดูน่าเศร้ากว่าเดิม แต่กลับไม่ได้ดังมากพอให้ใครๆที่ต่างหลับใหลยามนี้ตื่นขึ้นมารับรู้ได้ มีเพียงเจ้าของเสียงเท่านั้นที่ยังคงนั่งกอดเข่าและปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย
ท้องฟ้าที่มืดมิดกลับส่งให้แสงจากดวงจันทร์ดวงเดียวส่องสว่างยิ่งกว่าตอนที่มีดาวเป็นไหนๆ แต่เวลานี้เจ้าขาไม่ได้มีอารมณ์มาชื่นชมความสวยงามจากอะไรทั้งนั้น เพราะน้ำตาเม็ดโตที่ไหลลงอาบแก้มเนียนกำลังบ่งบอกว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ที่หม่นหมองมากขนาดไหน
ความเดียวดายที่ต้องต่อสู้กับทุกอย่างตามลำพัง ความสำเร็จที่ไขว่คว้ามาได้แต่กลับไม่มีใครร่วมยินดีสักครั้ง ความพยายามที่เจ้าขาใช้ในการทำทุกอย่างตามที่ตั้งเป้าหมาย กลับได้แค่คำว่าให้พยายามขึ้นอีกจากคนในครอบครัวที่แสนเพอร์เฟคของเธอ
ครอบครัวที่เก่งรอบด้านทั้งพ่อแม่ และพี่สาวพี่ชายที่ต่างประสบความสำเร็จในชีวิตจนไม่มีเวลามาชื่นชมความสำเร็จของเจ้าขาสักครั้ง เจ้าขาทำได้ดีนั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าเจ้าขาทำพลาดนั่นคือสิ่งที่ครอบครัวยอมรับไม่ได้
สุดท้ายเจ้าขาเลยไม่รู้ว่าตัวเองต้องเก่งแค่ไหน ต้องพยายามอีกเท่าไหร่ถึงจะพอ ความสำเร็จที่คนอื่นๆกลับพากันชื่นชมกลับเป็นแค่เรื่องธรรมดาสำหรับครอบครัวของเธอ ความภูมิใจหดหายไปเรื่อยๆทั้งที่ทำได้ดีทุกๆอย่าง
และทุกๆครั้งที่เจอปัญหาก็ต้องมานั่งร้องไห้กอดตัวเองแบบนี้ เจ้าขาไม่กล้าเอาปัญหาน้อยนิดไปปรึกษากับครอบครัวที่ยุ่งตลอดเวลาขนาดนั้น เพราะสุดท้าย คนที่รู้ว่าเจ้าขาเหนื่อยแค่ไหน ก็มีแค่ตัวเธอเอง ต่อสู้กับความคิดด้านลบที่บั่นทอนพลังใจด้วยตัวเอง พยายามชมตัวเองทุกวันว่าเก่งแค่ไหน รักตัวเองให้มากพอที่จะมีเหตุผลในการใช้ชีวิตต่อไป
แต่กลับปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าที่จริงแล้ว เจ้าขาก็แค่อยากได้ความรัก อยากเป็นที่รักของใครสักคนโดยไม่ต้องมีเงื่อนไข ไม่ต้องพยายามเพื่อจะได้เพียงความว่างเปล่ากลับมา
มือขาวยกขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้งเมื่อยังห้ามให้มันหยุดไหลไม่ได้ เจ้าขาก็อดทนเก่งมาตลอด แต่แค่วันนี้มันหนัก หนักเกินกว่าจะทนหลับตาลงได้ เจ้าขาเป็นแค่เด็กฝึกงานไม่ใช่พนักงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูง
การถูกต่อว่าเมื่อทำผิดย่อมเข้าใจได้ แต่การถูกต่อว่าทั้งที่ยังไม่สอนงานเจ้าขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าแค่ไม่รู้เธอจะกลายเป็นคนโง่ให้รุ่นพี่ในแผนกแดกดันราวทำผิดใหญ่หลวงได้
“ที่นี่เป็นการทำงานจริง ไม่ใช่มหาลัยที่เธอจะผิดแล้วกลับไปแก้ได้ ถ้าไม่พร้อมก็กลับไปเรียนให้รู้จริงๆค่อยมาฝึกงาน อย่าเอาตัวเองมาเป็นภาระให้คนอื่นที่เค้าไม่ได้มีเวลานั่งยิ้มเหมือนเธอ”
คำพูดกับสายตาดูแคลนจากหัวหน้าแผนกอย่างพี่ปัน หรือ ปัณณดา มันวนเวียนอยู่ในหัวจนตอนนี้เจ้าขายังสลัดมันทิ้งไปไม่ได้เลย เจ้าขาคงไม่ใส่ใจถ้านี่เป็นครั้งแรกแล้วเจ้าขาทำพลาดจริง แต่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้นับตั้งแต่เข้ามาฝึกงานได้หนึ่งเดือนแล้ว
เจ้าขาอดทนกับความไม่เป็นมิตรจากทั้งหัวหน้าและรุ่นพี่ร่วมแผนกหลายๆคนที่เจ้าขาก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ไม่ชอบ เจ้าขายิ้มและคุยกับทุกคนแต่กลับโดนแซะว่าไม่ตั้งใจทำงานตลอดเวลา พออยากรู้อะไรแล้วไปถามก็จะโดนดุใส่ว่ารบกวนไม่ว่างสอน สุดท้ายพอต้องทำอะไรเองแล้วไม่ถูกแม้เรื่องเล็กน้อยก็ถูกต่อว่าใหญ่โตราวเรื่องคอขาดบาดตาย
เจ้าขาไม่รู้ว่าต้องใช้ความอดทนเท่าไหนถึงจะพอ เจ้าขาทนทุกอย่างตลอดเวลาจนเหนื่อยสะสม แล้ววันนี้มันก็ระเบิดเป็นน้ำตาออกมาแบบนี้ ไม่ได้จะยอมแพ้แล้วหายไป แต่เจ้าขาก็อยากพักอยากมีพื้นที่ให้สบายใจบ้างก็แค่นั้น เพียงแค่ตอนนี้ ไม่ว่าพื้นที่ไหนก็ไม่มีไว้เพื่อเจ้าขาเลย
“เมี๊ยว…”
เสียงที่แว่วมากับลมเพียงเบาๆเรียกสายตาให้เจ้าขาที่กอดเข่าซบหน้าเงยขึ้นมาแล้วหันมองรอบๆตัวอย่างแปลกใจ ก่อนจะหันไปเจอกับแมวที่นั่งอยู่บนระเบียงห้องอีกฝั่งที่กำลังมองมาที่เจ้าขาและส่งเสียงออกมาอีกครั้งเมื่อเจ้าขาสบตากับมัน
“เมี๊ยว…”
หลังจากนั้นตีรณาก็ยังคงฝันแบบเดิมจนแทบไม่เป็นอันนอนต้องให้คนคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลาเพราะกลัวว่าจะเครียดจนไม่สบาย ทุกอย่างดูคล้ายจะปกติจนกระทั่งผ่านไปเป็นเดือนๆและถึงกำหนดคลอดลูกเตมินทร์ถือกำเหนิดมาด้วยความสมบูรณ์ทุกอย่างไม่มีอะไรน่ากังวลอย่างที่ตีรณากลัวสักนิด จากทารกน้อยก็เติบโตขึ้นมาจนได้สามเดือน และในคืนนั้นที่พระจันทร์เต็มดวงตีรณาถึงได้อุ้มลูกไปยืนชมแสงนวลตาด้วยกันอย่างสบายใจ เตชินทร์ที่เห็นว่าภรรยาลืมเรื่องร้ายๆได้แล้วก็สบายใจขึ้นมาก่อนจะยืนมองทั้งสองคนที่รักอย่างสุขใจ“เมี๊ยว…”เสียงร้องที่ทำเอาตีรณาสะดุ้งดังใกล้จนเธอตัวสั่นหวาดระแวง เตชินทร์รีบเข้ามากอดภรรยาเอาไว้ไม่ให้อีกคนตื่นกลัวเกินไปนัก ก่อนจะพากันหันมองต้นเสียงว่ามาจากไหน“เมี๊ยว”เสียงที่ดังใกล้จนเหมือนอยู่ตรงหน้าทำเอาตีรณาต้องก้มลงดูลูกชายที่อุ้มอยู่ ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเธอช็อคจนแทบโยนลูกทิ้ง ดีที่เตชินทร์ไวกว่ารีบคว้าเอาทารกในห่อผ้ามาอุ้มไว้เองแล้วก็ต้องตกใจตามเมื่อลูกที่ควรจะอยู่ในห่อผ้า กลับกลายเป็นแมวสามสีตัวเล็กจ้อยแทน“กรี๊ด คุณคะนั่นมันอะไร”“เฮ้ย! ลูกหายไปไหน คุณๆใจเย็นๆก่อนครับ”เตชินทร์ทั้งตกใจเรื่องลูกทั้
หากจะนับว่าเตมินทร์ต้องเผชิญกับเรื่องราวแสนประหลาดและน่าเหลือเชื่อมานานแค่ไหน ก็คงต้องย้อนไปตั้งแต่เตมินทร์ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ มันเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงสวยงามและตีรณาก็ชอบนั่งมองมันทุกครั้ง เพราะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเธอจึงต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้ผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ “เมี๊ยว…”เสียงร้องของสิ่งมีชีวิตที่ตีรณาไม่ชอบมากที่สุดดังขึ้นมาจนต้องหันซ้ายขวามองอย่างหวาดระแวงทันที เพราะตอนเด็กเธอถูกแมวกัดจนเป็นแผลและจำฝังใจมาจนโต แมวจึงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเธอทุกคนรู้ดี ตีรณายังไม่ทันได้ลุกเข้าบ้านก็เหลือบไปเห็นแมวสามสีตัวใหญ่ที่ขอบระเบียง มันกำลังร้องและจ้องเธออย่างน่าสงสาร ตามตัวมีร่องรอยบาดแผลจนเลือดไหลหยดลงบนพื้นไม่หยุด สร้างความหวาดกลัวให้ตีรณายิ่งกว่าเดิมจนต้องหวีดร้องออกมาเสียงดัง“กรี๊ด ออกไปนะไอ้แมวบ้า!”“เมี๊ยว!”“ออกไปนะ!”“เมี๊ยว!”ตุบ!“คุณ เป็นอะไรครับ ร้องทำไม”เตชินทร์ที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งออกมาดูภรรยาทันทีด้วยความเป็นห่วง พบว่าตีรณากำลังยืนร้องไห้จนตัวสั่นก็รีบเข้าไปกอดปลอบใจ ตีรณาซุกเข้าหาอกสามีด้วยความหวาดกลัว ภาพแมวที่เธอผลักจนร่วงลงไปจากระเบียงจนนอนแน่นิ่งทำเอาขาสั่นจ
“พี่เต เจ้าขาเหนื่อยแล้วนะคะ”เจ้าขาโอดครวญเมื่อถูกเตมินทร์เคี่ยวกรำมานานจนแทบไม่มีแรงยืน งานแต่งแสนหวานชื่นผ่านพ้นท่ามกลางความยินดีจากคนที่รักของทั้งสองฝ่าย แม้ครอบครัวจะไม่ได้สนใจชีวิตเจ้าขาหรือแม้แต่แม่ของเตมินทร์ที่วางท่ามากไปหน่อย แต่จากท่าทางวันนี้ใครมองดูก็รู้ว่าทั้งสองครอบครัวก็มีความสุขถึงจะไม่มากเท่าบ่าวสาวก็ตามแต่เจ้าขาก็ไม่คิดว่าเตมินทร์ที่เหนื่อยมาทั้งวันยิ่งกว่าเจ้าขาจะยังเหลือแรงมารังแกเจ้าขาได้มากขนาดนี้ แถมยังดูท่าว่าจะยาวนานจนเจ้าขาชักหวั่นใจแล้วจริงๆ“แต่พี่ไม่เหนื่อย เจ้าขาหอมมากพี่ทนไม่ไหวแล้ว”“อ้ะ แต่พี่เตพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะคะ เจ้าขาจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย”เจ้าขาขู่ออกมาทันทีเมื่อเตมินทร์เข้ามากอดรัดร่างกายจนส่วนแข็งขืนทิ่มแทงเธอจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ไม่บอกก็รู้ว่าเตมินทร์ต้องการมากขนาดไหน“ไม่เอาครับ”“งั้นก็พอสิคะ เจ้าขาง่วง”“โอเคครับ พี่ขอจูบก็ได้ แค่จูบ”เตมินทร์อ้อนวอนพลิกร่างบางหันกลับมารับจูบที่ร้อนแรงจนเจ้าขาแทบทรุด จมูกสวยได้กลิ่นที่เตมินทร์ชอบปล่อยออกมามอมเมากันทุกครั้งก็รับรู้ได้ว่าคนตัวโตขี้โกงอีกแล้ว เพราะเตมินทร์รู้ว่าเจ้าขาจะแพ้และโอนอ่อน
“สะ ใส่เข้ามา นะคะ อื้อ”“ขอร้องสิครับ”ต่อให้อยากกระแทกแค่ไหนแต่เตมินทร์ก็สนุกที่ได้แกล้งให้เด็กดีกลายเป็นเด็กใจแตกเมื่ออยู่บนเตียง เวลาเจ้าขาต้องการมากๆมันทำให้เจ้าขายั่วยวนโดยไม่รู้ตัวและเตมินทร์ก็ชอบแบบนี้เหลือเกิน“อยาก เจ้าขาอยากได้ของพี่เต ใส่เข้ามานะคะ”“ใส่ให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะคนดี”สวบ!!“อ๊าาา”“ซี้ดด อ่าส์”สองเสียงครางประสานด้วยความเสียดเสียวที่ตีตื้นทันทีเมื่อแท่งร้อนกดเข้าไปจนมิดด้าม ก่อนจะดังขึ้นต่อเนื่องผสมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อเอวสอบสวนกระแทกเข้าออกอย่างเร่าร้อนรุนแรงราวคนอดอยาก เตียงกว้างไหวโยกกระทบผนังจนดังแบบที่ใครผ่านมาก็รู้ได้ไม่ยากว่าคนในห้องกำลังร่วมรักกัน แต่เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ตามลำพังเลยไม่ต้องสนว่าใครจะมาได้ยิน อยากทำรุนแรงแค่ไหนหรืออยากไปทำตรงไหนในบ้านก็ทำได้ตามใจและเพราะแบบนั้นเตมินทร์เลยจัดหนักทุกครั้งที่เป็นวันหยุด ทุกที่ในบ้านถูกใช้เพื่อสนองความใคร่จนแทบไม่มีที่ไหนไม่ถูกใช้เป็นที่รองรับอารมณ์ของทั้งคู่ เหมือนยามนี้ที่เตมินทร์พาเจ้าขามาตรงระเบียงนอกห้องนอนที่มีแสงจันทร์สาดส่องจนเจ้าขาหน้าแดงตัวแดงด้วยความเขิน เหมือนระลึกถึงวันแรกที่ได้เจอกัน และเ
“พี่เต วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่คะ”เจ้าขาถามขึ้นเมื่อหันไปเห็นพระจันทร์ที่ส่องแสงสว่างนวลตาอยู่บนฟ้า แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าเป็นวันแบบนี้เตมินทร์จะต้องกลายเป็นแมวเหมือนเคย ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทั้งคู่หลงลืมเรื่องนี้ไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่คบกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จนลืมสังเกตว่าวันไหนที่มีพระจันทร์เต็มดวงบ้าง ที่เแน่ๆเตมินทร์ไม่ได้กลายเป็นเจ้ามูนให้เจ้าขาช่วยกลับคืนร่างสักครั้งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา จนวันนี้ที่เจ้าขาเผลอเหม่อมองพระจันทร์ถึงเอะใจขึ้นมาได้“ใช่ครับ”เตมินทร์ที่ปีนขึ้นมาบนเตียงตอบรับด้วยสีหน้าปกติไม่ได้มีท่าทีแปลกใจอะไร เจ้าขามองอย่างงุนงงจนต้องถามออกมาอีกรอบ“แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่เป็นเจ้ามูนล่ะคะ”“อ่า นั่นสิลืมไปเลยนะเนี่ย”เตมินทร์ที่นึกขึ้นได้ก็ชะงักก่อนจะหันมามองเจ้าขาด้วยความแปลกใจไม่แพ้กัน แต่พอนึกถึงเงื่อนไขที่เป็นแบบนี้ได้ก็ยิ้มกริ่ม ในใจฟูฟ่องจนแทบเก็บอาการไม่มิดแต่ก็ยังคงทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วมองเจ้าขาที่ทำหน้าสงสัยด้วยความเอ็นดูต่อไป“ไม่ตกใจเลยเหรอคะ”“แล้วหนูตกใจอะไรครับ อยากให้พี่เป็นแมวเหรอ หืม”เตมินทร์แกล้งถามกลับพลางท
“ช่วยส่งเอกสารการประเมินงานทุกอย่างของเจ้าขามาให้เลขาผมด้วยนะครับ ต่อไปผมจะป็นคนสอนและประเมินงานแฟนผมเอง เจ้าขาจะไม่ได้มาทำที่แผนกนี้แล้ว”เตมินทร์มองท่าทางหวาดกลัวนั่นอย่างพอใจก่อนจะสั่งออกมาด้วยท่าทางที่กดดันเหมือนเดิม ตอนนี้แค่อยากแสดงตัวให้ชัดเจนไปก่อนแต่ถ้ายังมีใครกล้ามาแตะเจ้าขาลับหลังอีกล่ะก็ เตมินทร์ไม่คิดจะเก็บไว้เหมือนกัน“อ้อ ค่ะ ได้ค่ะคุณเตมินทร์ จะรีบจัดการให้เลยค่ะ”ปัณณดาผงกหัวตอบรับด้วยอาการลนลาน แม้จะตกใจที่เตมินทร์ประกาศสถานะกับเจ้าขาออกมาแต่ก็เหมือนยิ่งตอกย้ำว่าตัวเองกำลังจะซวยที่แอบนินทาเจ้าขามานาน ตอนนี้หากเตมินทร์หรือเจ้าขาปล่อยผ่านไม่ว่าอะไรเธอก็ยินดีทำทั้งนั้น เตมินทร์ไม่ได้สนใจท่าทางหวาดกลัวเพราะถือว่านี่คือการเตือนให้รู้แล้วว่าสถานะเจ้าขาคืออะไร หลังจากนี้ก็ถ้ายังกล้าก็คงต้องไปหางานใหม่เอา ร่างสูงจูงมือเจ้าขาที่ตกใจกับการประกาศโต้งๆแบบนั้นของเตมินทร์กลับห้องทำงานทันที ก่อนที่เจ้าขาจะรีบถามออกมาทันทีเมื่อเข้ามาอยู่ในที่ส่วนตัวแล้ว“พี่เต ทำไมไปประกาศแบบนั้นล่ะคะ”“ก็พี่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าขาเป็นแฟนพี่ เป็นของพี่ไงครับ นี่พี่ว่าจะขึ้นป้ายประกาศบนบอร์ดบริษัทด
Comments