“เป็นยังไงบ้างล่ะ เดินเที่ยวในไร่ ถ่ายรูปมาบ้างหรือยัง”
พีรพลถามทั่วๆ ไป แต่มิรันตีเงียบนิติพลจึงตอบเสียงเบา
“เดินดูแล้วล่ะครับ แต่รันไม่อยากถ่าย”
“ถ้าอย่างนั้นก็จิบกาแฟเย็นๆ นั่งดูธรรมชาติให้สบายใจก็แล้วกัน”
เหมือนน้ำเสียงพีรพลจะนุ่มทุ้มขึ้น เธอจึงเหลือบขึ้นมองแต่เขาตบไหล่น้องชายแล้วผละไปน่าจะไม่ได้พูดกับเธอ
“ว่าแต่ ไม่อยากถ่ายรูปเลยจริงเหรอ ไม่ต้องอัปก็ได้นี่”
มิรันตีส่ายหน้า เธอกวาดมองด้านนอกที่เป็นไร่ชาเรียงแถวสวยงาม ผู้คนกำลังถ่ายรูปเดินดูเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงมีคนกำลังเก็บชาแล้วรู้สึกสมองผ่อนคลาย
“แค่มองก็รู้สึกสดชื่นแล้วล่ะ”
“แล้วจะไม่ปิดช่องกับแอคเคาต์ใช่ไหม”
“อืม เปิดไว้งั้นแหละ อย่างน้อยก็ยังทำเงินได้เรื่อยๆ”
“ก็จริง”
“ถึงไม่คิดจะทำแล้ว แต่ก็ยังต้องเลี้ยงแม่เลี้ยงน้องนี่นา”
นิติพลยิ้มอย่างอ่อนใจ
“น้องรันเริ่มทำงานแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้คงพอช่วยจ่ายค่าบ้านที่รันซื้อให้ได้อยู่บ้างนะ”
มิรันตีพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง เธอซื้อบ้านให้แม่กับน้องก่อนจึงใช้เวลาเก็บเงินดาวน์คอนโดอีกพักหนึ่ง มาตอนนี้ต้องผ่อนทั้งบ้านและคอนโด ยังดีที่น้องสาวเรียนจบและได้งานทำแล้ว แม้จะเป็นข้าราชการแต่ก็พอช่วยลดภาระลงได้เล็กน้อย ที่สำคัญมารดาของเธอภูมิใจมาก ผิดกับเธอที่แม่เห็นว่าทำงานไม่เป็นหลักแหล่งและไม่ชอบใจที่รู้ว่าเธอรับถ่ายงานเซ็กซี่ ท่านอยากให้หางานที่มั่นคงทำแม้จะเห็นว่าเธอหาเงินให้ท่านกับน้องได้ค่อนข้างมากก็ตาม
จากที่ห่างเหินกันนับแต่เธอย้ายมาอยู่หอใกล้มหาวิทยาลัย ยิ่งทำให้มิรันตีคุยกับมารดาน้อยลง เพราะมักถูกบ่นประชดประชันงานของเธอว่าขายเนื้อหนังมังสาในทุกครั้งที่ไปเยี่ยมบ้าน และเธอก็ไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านแบบครอบครัวอีกเลย
ความจริงหญิงสาวไม่ได้ถ่ายแบบบ่อยนักหลังจากนั้น นับว่าปีละครั้งสองครั้งก็ว่าได้ ทว่ายุคนี้ผู้คนให้ความสนใจทางโซเชียลค่อนข้างเยอะ เธอเปิดช่องเป็นของตัวเองคนที่ติดตามทางโซเชียลอื่นๆ ก็มาตามต่อ รวมถึงโซเชียลที่ทำเงินได้ในแบบอื่นๆ ด้วย แม้จะถ่ายชีวิตประจำวันของตัวเอง ออกกำลัง เต้นน่ารักๆ ไปเที่ยวบ้าง กับรีวิวสินค้าเกี่ยวกับความงาม คนก็ชื่นชอบและสนใจ กลายเป็นไม่จำเป็นต้องทำงานก็มีเงินเข้าเยอะสามารถส่งให้แม่กับน้องสาวได้
มิรันตีรู้ว่ารูปร่างตัวเองดึงดูดความสนใจผู้ชาย แต่การทำงานของเธอมีขอบเขต ไม่เน้นโป๊ ทว่าการมีหน้าอกอวบใหญ่หน่อยใส่อะไรก็ดึงสายตาให้มองได้อยู่ดี ในตอนอายุน้อยเธออายจนต้องเดินห่อไหล่เสมอเพราะถูกมองจนเป็นปมด้อยในใจ แม้แฟนที่ติดตามหลายคนจะพยายามเชียร์ให้ทำแบบไพรเวตที่ถอดโชว์เล็กๆ น้อยๆ แล้วพวกเขาก็พร้อมจ่ายให้ แต่มิรันตีบอกไปว่าไม่สะดวกทั้งยังไม่คิดที่จะทำ
กระนั้นเธอก็มีคนแอบตามจนรู้ว่าพักอยู่ที่ไหน ชั้นอะไร น่ากลัวถึงขนาดมาเช่าห้องชั้นเดียวกันกับเธอและฉุดเธอเข้าห้องตัวเอง ยังดีที่มีคนมาเห็นพอดีเธอจึงรอดมาได้ มิรันตีเก็บเงินตั้งใจจะซื้อคอนโดอยู่แล้วจึงตัดสินใจย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ทันทีด้วยความกลัว ซึ่งนิติพลช่วยหาคอนโดใกล้กับเขาให้
ทว่าที่ทำให้เธอต้องหนีในครั้งนี้คือกลุ่มเพื่อนของนางแบบชวนไปงานเลี้ยงวันเกิด มิรันตีไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเธอไปงานปาร์ตี้ของคนรู้จักอย่างอัธยาศัยดี ทว่ากลับมีพวกคิดไม่ดีมอมยาเพื่อรุมโทรมเธอ หนึ่งในนั้นเป็นแฟนของนางแบบเพื่อนเธอ อีกฝ่ายตามหาแฟนตัวเองจนมาเจอเธอเข้าแล้วตามคนอื่นมาช่วย คนกลุ่มนั้นจึงหนีกระจัดกระจายและเพื่อนเธอก็ทะเลาะจนเลิกกับแฟน รวมทั้งรู้สึกผิดกับเธอมาก
มิรันตีอยากหลบหนีจากทุกอย่าง รวมทั้งชีวิตในแบบเดิมของตัวเอง ไม่อยากอยู่ในสายตาจับจ้องอย่างน่ากลัวของใครอีก เธออยากเปลี่ยนตัวเอง อยากมีชีวิตใหม่
“ถ้าได้อยู่ในที่อากาศดีๆ แบบนี้ตลอดไปก็คงดี”
มิรันตีจิบกาแฟสลับกับกินเค้กชาเขียวขณะสายตายังทอดมองด้านนอกที่เต็มไปด้วยสีเขียวทั้งไร่ชาและภูเขาสุดลูกหูลูกตา
“งั้นก็อยู่ที่นี่ไปเลยสิ”
“ฉันไม่มีปัญญาซื้อบ้านเพิ่มอีกแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะทำงานอะไรด้วย”
เธอตอบอีกฝ่ายราวกับเปรยไม่ใช่น้อยเนื้อต่ำใจ และยังมองไร่ชาอย่างสบายใจ อยากให้เวลากับตัวเองสักพัก
“ก็อยู่กับพี่พี...”
คนที่กำลังอารมณ์ดีหันกลับมามองคนพูดอย่างดุๆ อีกครั้ง ทว่านิติพลกลับยังยิ้มระรื่น ทั้งยังพยักพเยิดไปยังกระจกใกล้ประตูทางเข้าที่มีป้ายขนาดเอสี่ติดอยู่ ป้ายนั้นเธอเห็นแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าประตูมา
‘รับสมัครพนักงาน’
“แล้วก็ทำงานที่นี่”
แน่นอนว่ามิรันตีคิดตามเพราะน่าสนใจไม่น้อย เธอเองก็เคยสนใจร้านกาแฟ คิดไว้อยู่ว่าจบเรื่องบ้านกับคอนโดแล้วจะศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในเมื่อสิ่งที่เธอทำอยู่เป็นงานที่วูบวาบไม่ยั่งยืนเช่นที่มารดาบ่น และเธอไม่ได้คิดจะไปต่อไกลกว่านี้ ไม่นานคนติดตามที่หวังในสิ่งที่มากกว่าเหมือนพวกที่คิดไม่ดีกับเธอก็จะค่อยๆ หายไป
“ไม่ใช่ว่าอยากอยู่ก็อยู่ได้ อยากทำก็ทำได้เสียหน่อย พี่พี...”
“แน่ะ ยอมรับแล้วล่ะสิว่าอยากอยู่ที่นี่กับพี่พี”
“ฉันหมายถึงงาน”
เธอกัดฟันพูดกับอีกฝ่าย ทว่าเจ้าตัวกลับหัวเราะในลำคอเบาๆ
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เราเส้นก๋วยจั๊บ เดี๋ยวฝากให้”
“ย่ะ รู้แล้วว่าบ้านรวย”
มิรันตีทำปากยื่นใส่อีกฝ่าย แต่กลับค่อยๆ หน้านิ่งเมื่อนิติพลพูดต่อ
“พี่พีเหมาะกับรันนะ”
เธอจ้องเขานิ่งกลืนน้ำลายแล้วเลี่ยงมองไปทางอื่น แต่กลับเจอเข้ากับสายตาคมเข้มที่เหลือบมามองพอดี ทำเอาลมหายใจสะดุดและชะงักงันไป ทุกครั้งที่สบตามิรันตีจะรู้สึกว่าภายใต้ท่าทีสุขุมนุ่มลึกของพีรพลซ่อนเสน่หาเร่าร้อนอันน่าหลงใหล ราวเชิญชวนให้เธอกระโจนเข้าหาอยู่ตลอดเวลา ขณะได้ยินเพื่อนสนิทพูดน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“ถ้าเขาเป็นคนใช่แล้วทำไมต้องหลบหน้า ทำไมต้องกลัว”
มิรันตีจำต้องละสายตาจากพีรพลเพราะเขากลับไปทำงานของตนต่อ มาสบตาคู่คมแตกต่างจากพี่ชายของนิติพล ไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะมองออก
“ตกใจที่เรารู้เหรอ ว่ารันคิดยังไงกับพี่พี”
คงเพราะเธออึ้งและแสดงออกทางสีหน้าแววตาชัดเจนให้เขาเดาได้
“เล่นมองไม่ละสายตาอย่างนี้ใครก็มองออก”
นิติพลพูดด้วยท่าทางราวกำลังคุยเรื่องสนุกที่เอามาล้อกันเล่นทำให้เธอนึกฉุนขึ้นมา หากก็พูดเสียงเบาอย่างพยายามข่มอารมณ์ขัดเคืองใจในตัวเพื่อนสนิท
“เพราะนายไม่ใช่หรือไง ฉันเป็นแฟนนายอยู่ไม่ใช่หรือไง”
อีกฝ่ายจ้องเธอชั่วอึดใจ ก่อนสายตาค่อยแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนแล้วยื่นมือมาจับมือเธอพร้อมยิ้มบาง
“ขอบใจรันที่ช่วยเรามาจนถึงตอนนี้ ขอบใจที่อดทนเพื่อเรา ขอบใจจริงๆ”
คิ้วเรียวสวยขมวดที่อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ขอบอกขอบใจราวซาบซึ้งทั้งที่ตัวเองมัดมือชกเธอโดยไม่ปรึกษากันสักคำและไม่สารภาพจนเธอเป็นฝ่ายถามเอง แล้วก็เปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องไร่ชาแทนเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด
=====
น็อตก็ช่วยเชียร์ด้วย รันสู้ๆ ^^
“ต่อจากเมื่อวานกันนะครับ”เอ่ยจบชายหนุ่มก็จูบซับกลีบปากอิ่ม เม้มแรงทั้งบนล่าง ปลายลิ้นอุ่นซอกแซกไล้ไปมาจนสามารถเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเธออย่างเร่าร้อนมือหนาบีบเคล้นทรวงอวบที่ยังมีผ้าลูกไม้เกาะครึ่งเต้าทรวงก่อนปลายนิ้วแกร่งจะไล้ผ่านเนินขาวขึ้นไปเกี่ยวสายเส้นเล็กลงจากไหล่บางปล่อยสองทรวงอวบใหญ่ให้เผยต่อตา ใบหน้าคมคายซุกไซ้สูดกลิ่นกายสาวปะปนสบู่เหลวหอมสดชื่น เม้มผิวอ่อนบางตรงซอกคอแล้วไซ้ลงมาหายอดอกสีหวาน เบียดแก้มสากเสียดสีกระตุ้นเร้ากายสาว และเขาก็อยากสัมผัสอกอวบคู่งามที่สุดสำหรับตนให้เนิ่นนานปากอุ่นจัดขยับเม้มยอดทรวงราวหยอกเย้าจนชูช่อโดดเด่นทั้งสองข้าง ก่อนรวบก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นเข้าอุ้งปากตน ดูดดื่มเบาแล้วเพิ่มแรงขึ้นจนหญิงสาวครวญคราง มือบางขยุ้มผมเขาหากพีรพลไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดชายหนุ่มไม่ได้ปลุกเร้าเพียงอกสาว เขาส่งมืออีกข้างสอดผ่านกางเกงขายาวเนื้อหนาของมิรันตีเข้าไปลูบโลมความสาวบอบบาง แล้วยังเคลื่อนเข้าไปแตะต้องจนถึงเนื้อใน ปลายนิ้วลากไล้ก่อนจะรุกรานอย่างย่ามใจเพราะขาเรียวสองข้างขยับกว้างเปิดทางอย่างไม่ต้องบังคับหรือบอกกล่าวมิรันตีครางเสียงเครือรับการปรนเปรอจากนิ้วแกร่ง แล
ประตูห้องเปิดผลัวะออกอย่างแรงพร้อมกับหมอนกระแทกเข้าใส่หน้าเขาเต็มๆ ทำเอานิติพลหน้าหงาย แต่ก็รับหมอนไว้ได้ก่อนหล่นลงพื้นพร้อมกับมองหน้าพี่ชายด้วยความงุนงง ทว่าพอเหลือบไปด้านหลังแล้วเห็นเจ้าของร่างอรชรรีบเดินตามมาใกล้พี่ชายที่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ก็เข้าใจได้ทันที“เอ่อ ผมไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้”เขาบอกพร้อมสีหน้ารู้สึกผิดมิรันตีรีบแทรกมายืนด้านหน้าพีรพลพลางยิ้มเจื่อนส่งสายตาขอโทษเพื่อนแล้วบอกสิ่งที่ตนตั้งใจในตอนแรก“ฉันแค่มาเช็กว่าพี่พียังมีไข้หรือเปล่าน่ะ แล้วก็จะกลับแล้ว”“เหรอ เช็กจนผมยุ่งไปหมดเลยเนอะ โอ๊ะ...”ร่างโปร่งของนิติพลผงะเซไปด้านหลังก้าวหนึ่งเพราะพี่ชายแอบยกเท้ามายันขา แล้วก็เป็นจังหวะให้มิรันตีรีบแทรกออกไปเมื่อมีพื้นที่ หญิงสาวก้มหน้างุดไม่มองใครอีก คนเป็นเพื่อนมองตามแล้วก็ถอนหายใจหันกลับมาก็เจอเข้ากับสายตาดุเข้มของพี่ชาย“นอนข้างนอกไปเลย”“โธ่พี่ ล้อเล่นนิดเดียว ไม่คิดว่ารันจะอายขนาดนี้”“น้องเวร เป็นเพื่อนยังไงวะ”“ขอโทษครับพี่”“ไปขอโทษรันโน่น”นิติพลหน้าซีด พลางส่ายหน้า“ตอนนี้รันงอนอยู่ เอาไว้พรุ่งนี้ใจเย็นก่อนดีกว่า”เขารู้ว่าควรง้อเจ้าตัวและเอาอกเอาใจเมื่อไร มิรันตีไ
เพราะเจ็บไม่น้อยวัชพลจึงให้พีรพลไปหาหมอที่อนามัยใกล้ๆ และกลับบ้าน แล้วให้กัญญาเฝ้าร้านกับเดือน เนื่องจากรู้ว่ามิรันตีก็ต้องตามไปดูแลเขากลับมาถึงบ้านหลังจากทำแผลที่สถานีอนามัยมิรันตีก็ประคองชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาแล้วไปเอาน้ำมาให้เขา เธอพยายามเก็บอาการน้ำตาซึมกับสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของตัวเองเอาไว้อย่างที่สุด แต่เมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำแทบไม่ได้ แม้แต่จับแก้วยังลำบากเธอก็น้ำตาไหลจนได้“โธ่ พี่พี”ปลายนิ้วเรียวแตะโหนกแก้มช้ำกับมุมปากที่แตกของชายหนุ่มแล้วเลื่อนมือลงมาจับมือหนาที่แตกทั้งสองข้างขึ้นดู“เจ็บมากสินะคะ”พีรพลหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยิ้มอ่อนเธอจึงหน้างอ“ยังจะหัวเราะอีก รันตกใจแค่ไหนรู้ไหมคะ ที่เห็นคุณแก้มพยุงพี่พีเข้ามาร้านในสภาพนั้น”หญิงสาวเสียงเครือแล้วก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาหยดลงบนมือหนาถูกแผลทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆ เพราะแสบแต่ก็ทนได้ ทว่าเขาไม่อยากให้เธอร้องไห้ พีรพลจึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้“ทำเพื่อรัน เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ พี่ทนได้”“นิดหน่อยที่ไหนกันคะ”“เอาน่า อย่างน้อยพวกนั้นก็จะไม่มาเหยียบที่ไร่ดิฐวัฒน์อีก”มิรันตีม
“มึงคิดว่ามึงแน่เหรอ ฮะ!”หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น“มึงกล้ามีเรื่องกับลูกค้าอย่างพวกกูเหรอ”อีกคนพูดเสียงดังตรงจุดนี้เป็นส่วนที่คนเข้ามาถึงน้อยเพราะจัดเอาไว้อย่างเฉพาะ ซึ่งไม่ไกลจากที่จอดรถของพีรพลนัก และเวลานี้ก็ไม่มีคนอื่นมาสูบบุหรี่“เออ กูจะเอาให้พวกมึงไม่กล้าเห่าหอนถึงผู้หญิงเสียๆ หายๆ ได้อีก”พีรพลสวนกลับอย่างไม่กลัว“มึงมาเสือกอะไรวะ หรือว่า...”คนพูดกระตุกยิ้มมุมปาก“นั่นเมียมึง”ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงใคร พีรพลกระโดดยกขาเข้าไปหาในทันใดและมันก็กระโดดหลบ ขณะที่เพื่อนทั้งสองคนที่เหลือรีบเข้ามารุมจับเขา ชายหนุ่มสลัดออกก่อนหันไปต่อยอีกคน แต่ก็ถูกถีบสีข้างจนเกือบล้ม แล้วก็มีคนตามมากระชากไหล่ไปต่อยการเตะต่อยสามรุมหนึ่งเป็นไปอย่างชุลมุน พีรพลโดนทั้งถีบทั้งต่อยไปหลายครั้ง หากเขาก็เหวี่ยงหมัดเอาคืนทั้งสามไปอย่างไม่หยุดหย่อนราวเรี่ยวแรงไม่หดหาย ครู่หนึ่งจึงมีคนเข้ามาห้ามซึ่งเป็นวัชพลกับคนงานในไร่อีกสองคน“หยุดได้แล้ว”วัชพลเสียงเข้ม เข้าไปกระชากหนึ่งในลูกค้าล็อกแขนไว้ คนงานอีกสองคนก็จับสองคนที่เหลือ“ปล่อยสิวะ”แม้จะไม่มีใครยอมแต่เพราะทั้งเจ็บตัวทั้งอ่อนล้าทำให้สลัดวัชพลกับคน
‘แกคิดว่าแม่เห็นแกเป็นเครื่องผลิตเงินหรือไง’เมื่อไปรับมารดาที่บ้าน มิรันตีก็ขอโทษและท่านก็เอ่ยมาราวประชด แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองเธอ ทั้งยังพูดกับพีรพลด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น ไม่ได้ซักหรือถามไถ่เรื่องงานอีก ทว่าหลังจากมาติกาออกจากโรงพยาบาลในวันถัดมา ก่อนจะลากลับมารดากลับพูดในสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาซึม‘ฝากรันด้วยนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำเป็นเก่ง แต่ยังไงก็ต้องมีคนดูแล’หลายเดือนผ่านไป มิรันตีได้ฝึกชงกาแฟกับชาและเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มอีกหลายเมนูจนคล่องแคล่ว แต่บาริสต้าหลักยังเป็นพีรพลและเดือนเป็นผู้ช่วย ส่วนเธอนั้นทำเมนูที่ไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอน อีกอย่างที่นี่ก็มีเค้กที่ทำเองด้วย ซึ่งอุปกรณ์ครบพร้อมอยู่ด้านใน ส่วนนี้เดือนจะเป็นผู้ทำโดยมีเธอช่วย และเดือนก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพีรพลดี‘ก็พอจะมองออกน่ะนะ’อีกฝ่ายยักไหล่พร้อมบอกอย่างไม่แปลกใจเมื่อเธอสารภาพกับเจ้าตัวหลังกลับจากกรุงเทพฯ ในเมื่อที่บ้านเธอเกิดเรื่องแต่ชายหนุ่มกลับตามไปด้วยอย่างไรก็ดูน่าแปลกวันนี้เป็นวันหยุดยาวนักขัตฤกษ์ในไร่จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างคึกคัก และนิติพลก็บอกว่าจะมาเยี่ยม แต่เขาจะมาวันพรุ่งนี้เพราะใช้เวลากับคน
ร่างอรชรถูกปล่อยลงใกล้เตียงนอนและชายหนุ่มก็กอดจูบลูบไล้เรือนกายนุ่มละมุน พร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอไปด้วย มิรันตีเองก็ดึงชายเสื้อชายหนุ่มจากเอวกางเกง ร่างสูงโปร่งถอยห่างเล็กน้อยจัดการกับชุดของเธอจนเหลือเพียงซับในสองชิ้นเขาก็ถอดเสื้อตนออกอย่างรวดเร็ว แล้วโอบพาเธอลงไปนอนบนเตียงมือหนาลูบแก้ม ไล้ปลายนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะลากมือระเรื่อยผ่านลำคอบางมาถึงเนินอวบขาว ปัดป่ายเย้ายวนใจพร้อมริมฝีปากได้รูปประกบกับกลีบปากอิ่มที่เห่อแดงด้วยฤทธิ์จูบก่อนหน้านี้มิรันตีเปิดรับเมื่ออีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวรัดพัวพัน รับรู้ได้ถึงมือหนาเกาะกุมอกอวบเคล้นคลึง ขณะเดียวกันต้นขาแกร่งก็แทรกกลางร่างเสียดสีเร้าอารมณ์อย่างเร้าใจทำเอาเธอเกร็งไปทั้งตัวดื่มด่ำกับจูบหวานลึกซึ้งแล้วปากอุ่นก็ค่อยเคลื่อนแตะแผ่วพรมทั่วลำคอขาว ซุกซบดอมดม เม้มผิวอ่อนจนแดงเรื่อแล้วจึงไต่ลงต่ำจูบซับเนินอกสองข้าง และเริ่มปลดตะขอเปิดปลือยเต้าทรวง ความกลมกลึงอวบใหญ่กับยอดอกสีหวานชวนลิ้มลองปรากฏต่อหน้า ใบหน้าคมคายก็ถูไถจนได้ยินเสียงหวานครางผะแผ่ว“รันสวยที่สุด”ชายหนุ่มพึมพำแล้วไล้ลิ้นระรัวเหนือยอดอกสีหวานที่ชูชันตื่นตัวเต็มที่และย้ายไ