“แกไม่กังวลแต่ฉันกังวล!”
เสียงทุ้มกังวานดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องเปิดออกชายสูงอายุคุ้นตาเดินหน้าถมึงทึงเข้ามา
“คุณพ่อ”
“คุณลุง”
ทั้งคู่ต่างครางชื่อของวินไทยออกมาพร้อมกันด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าความลับที่อยากปิดไว้จะมาแตกเอาเพราะปากของตัวเอง
“เรื่องของแกกับหนูคนนี้มันยังไงกัน มันเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เมื่อไร”
วายุยืนนิ่งไม่ไหวติงและไม่มีคำตอบให้คนเป็นพ่อเลยแม้แต่นิดเดียวส่วนเหมือนฝันเธออยากจะร้องไห้ออกมาเสียเดี๋ยวนั้นเมื่อผู้รู้ความลับนี้ดันเป็นคุณลุงวินไทยไปได้
“คุณพ่อมาโรงพยาบาลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยทว่ามันก็ไม่เป็นผล
“แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว”
วายุเหลือบมองหน้าเหมือนฝันแล้วหันกลับมาบอกพ่อว่าค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน แต่วินไทยไม่ยอมเพราะเห็นว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับคนสองคนแล้วตนเองจะไปฟังความแค่กับลูกชายฝ่ายเดียวได้อย่างไร
“ถ้าในเมื่อเรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องของผมกับเหมือนฝันก็ปล่อยให้เราสองคนจัดการปัญหาแค่สองคนเถอะครับ” เสียงขรึมเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจเล็กน้อย
“จัดการด้วยการเสนอเงินให้นะเหรอ”
“มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอครับ เราสองคนแค่พลาดมีอะไรกันเพราะความเมาก็เท่านั้น”
ถอยหลังพิงกำแพงแล้วล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง
“แต่หนูเหมือนฝันเขาเป็นลูกมีพ่อมีแม่แกไปย่ำยีเขาแบบนั้นแล้วพูดออกมาได้ว่าเสนอเงินให้แล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ” ใบหน้าเหี่ยวย่นเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ
“แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“แกต้องรับผิดชอบหนูเหมือนฝัน”
“รับผิดชอบ? อย่าบอกว่าพ่อจะให้ผมแต่งงานกับยัยนี่นะ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงไม่ต่างกันกับเหมือนฝันดีดตัวจากหมอนพิงทันทีเมื่อได้ยิน
“ใช่ แกต้องแต่งงานกับเหมือนฝัน”
“ไม่มีทางยังไงผมก็ไม่แต่ง เพราะผมไม่ได้รักเธอ”
เป็นประโยคเน้นย้ำแสบทรวงไปถึงเนื้อในดีเหลือเกิน เธอได้แต่มองสลับไปสลับมาระหว่างสองพ่อลูกเพื่อหาช่องไฟในการเอ่ยพูดแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยินวินไทยพูดขึ้นมา
“เพราะผู้หญิงที่แกรักดันแต่งงานมีสามีไปแล้วนะเหรอ”
“คุณพ่อได้ยินเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ”
“ฉันได้ยินทั้งหมดตั้งแต่แรก และเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมแกต้องแต่งงานมีครอบครัวซะ” เขายื่นคำขาดให้กับลูกชายอีกครั้ง
“ผมรักคนมีเจ้าของก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปแย่งเขามานี่ครับ” เขาส่ายหน้ารัวแล้วหาข้ออ้างมาหักล้าง
“แกแน่ใจได้ยังไง ฉันไม่อยากฟังความคิดเห็นของแกเพราะถึงยังไงคนที่เสียหายก็เป็นหนูเหมือนฝัน”
“คุณพ่อ!”
วายุเรียกพ่อเสียงดังอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้วินไทยเลิกล้มความตั้งใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว
อันที่จริงเขาถูกอกถูกใจหนูเหมือนฝันตั้งแต่เจอกันครั้งแล้วล่ะ ประทับใจในความใส่ใจคนอื่นของเธอและวันนั้นเขาก็จับอากัปกิริยาของพี่สาวเธอออกเมื่อได้ยินว่าลูกชายเขาเป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่
“คุณลุงกับคุณลมใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่าค่ะ”
“ไม่ได้หรอกหนูฝันเรื่องนี้ลุงคงใจเย็นไม่ได้”
“หนูไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบค่ะ เรื่องนั้นเราทั้งคู่เองก็ผิดไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจอีกอย่างเขาก็ไม่ได้หักหาญน้ำใจหนูด้วยซ้ำ”
“แต่ลุงถือว่าไม่เป็นการให้เกียรติฝ่ายครอบครัวหนูฝันนะ มีอย่างที่ไหนเอาเงินมาฟาดหัวผู้หญิง หากเป็นผู้หญิงให้บริการลุงจะไม่เถียงเลย
สักคำ”
“แต่ว่า...”
“อย่ามีแต่เลยนะหนูฝัน เรื่องสู่ขอลุงจะไปคุยกับทางครอบครัวหนูเอง” วินไทยยังยืนยันคำเดิม
“เธอบอกแล้วว่าไม่ต้องการความรับผิดชอบคุณพ่อยังจะยัดเยียดให้เราสองคนแต่งงานกันอยู่อีกเหรอครับ”
“แกหยุดพูดสักทีได้ไหม ควรยืนอยู่เฉย ๆ แล้วสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเอง”
ยิ่งพูดทั้งคู่ยิ่งขึ้นเสียงใส่กันไปมาจนไม่เว้นช่องไฟให้เหมือนฝันคัดค้านเลยสักนิด
ชายหนุ่มได้แต่ฮึดฮัดเหมือนเด็กน้อยโดดขัดใจแล้วเลือกใช้สายตาข่มขู่ไปยังเหมือนฝันว่าให้เธอปฏิเสธเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
“เอาอย่างนี้ได้ไหมคะ รอให้ฝันออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วจะไปพบคุณลุงที่บ้านเพื่อตัดสินใจเรื่องนี้อีกที ขอแค่คุณท่านอย่าเพิ่งไปพบแม่หนูก่อนก็พอ”
วินไทยช่างใจครู่หนึ่งแล้วหันไปมองหน้าลูกชายตัวเองก่อนจะหันกลับมาให้คำตอบ
“งั้นเอาอย่างนั้นก็ได้ ลุงจะรอแล้วกัน”พูดจบชายสูงวัยก็ขอตัวกลับเพราะให้ลูกสาวคนเล็กรอรับยารออยู่ด้านล่าง
เมื่อคล้อยหลังคนเป็นพ่อเดินออกจากห้องไปวายุรีบเดินกลับมานั่งเก้าอี้ข้างเตียงตัวเดิมอีกครั้งด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับและรู้สึกไม่พอใจที่เธอไม่ยอมปฏิเสธเรื่องแต่งงานกับพ่อเขาไป
“ทำไมเธอไม่บอกพ่อไปล่ะว่าไม่อยากแต่งงานกับฉัน”
“จะให้ฉันรีบบอกตอนนี้นะเหรอ คุณเป็นลูกชายท่านจริงหรือเปล่าถึงไม่รู้ว่าท่านเป็นคนดื้อหัวชนฝ่า ยิ่งตอนนี้ท่านเพิ่งรู้เรื่องเราและยังหนักแน่นกับความคิดตัวเองต่อให้คุณชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดยังไงท่านก็ไม่ฟังหรอก สู้รอให้ใจเย็นก่อนค่อยพูดใหม่ดีกว่า”
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงบอกกับพ่อฉันว่าจะเข้าไปพบ” หญิงสาวพยักหน้าให้แทนคำตอบ
ในเมื่อผู้ชายปฏิเสธเสียงแข็งไม่อยากแต่งงานด้วยมีหรือเธอจะฝืนใจ ต่อให้เธอจะรักเขามากมายแค่ไหนก็ไม่อาจบังคับจิตใจให้เขาหันมามองตนเองได้...
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณภูริจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังแล้วก็ทุจริตบริษัทเราไปมากมายขนาดนั้น”พี่นิดารำพึงออกมา แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดแต่ก็คิดเหมือนกันเพราะภาพลักษณ์เวลาภูริอยู่ในบริษัทคือผู้ชายอบอุ่นใจดี เข้าใจหัวอกพนักงานแต่เบื้องหลังก็คือคนร้ายนี่เอง“แล้วนี่น้องฝันจะกลับมาทำงานวันไหนอ่า คิดถึงเสียงหัวเราะลั่นห้องจะแย่” พี่สมรทำหน้าเหงาหง่อย“ไม่รู้สิ ก็คุณวายุถูกยิงขนาดนั้นก็คงนานอยู่หรอก” พี่กุ๊กพูดเสริมแล้วทุกคนในแผนกก็ต่างต้องหันไปทางประตูเหมือนว่ามีใครอีกคนกำลังเปิดประตูเข้ามา“มีใครบ่นคิดถึงเหรอคะ”“น้องฝัน!” ทุกคนกรูกันเข้าไปหาแล้วจับหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจว่าน้องเล็กของทีมได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า“ฝันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงวันนี้เลยแวะมาทำงานช่วงเช้าแล้วก็ช่วงบ่ายจะไปโรงพยาบาลต่อคุณหมดนัดตรวจเจ้าตัวเล็กค่ะ”พูดพร้อมกับลูบหน้าท้องน้อยทุกคนต่างหันมองหน้ากันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อได้แต่ยกมือเร้า ๆสะกิดกัน ก่อนพี่กุ๊กจะพูดขึ้นเสียงดัง“ฉันกำลังจะได้เป็นป้าของลูกท่านประธานแล้ว” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีเหตุการณ์วันนั้นสร้างความอยากรู้ให้กับเพื่อนร่วมงานเหมือนฝันจึ
“กี่เดือนแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นถาม“สองเดือนค่ะ”“รู้ตอนไหนว่าท้องทำไมไม่บอกพี่เลย” น้ำเสียงนั้นมีความน้อยใจแฝงอยู่“รู้ตอนวันเกิดคุณลุงค่ะ”“ตอนที่ฝันบอกพี่ว่าไปหาหมอนะเหรอ” เหมือนฝันพยักหน้ารับงึก ๆ ทว่าคนฟังกลับมองด้วยสายตาตัดพ้อเขาไม่ได้อยู่ในวันที่รับรู้ข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเราแถมยังปล่อยให้ไปหาหมอเพียงลำพังอีกต่างหาก“อย่าทำสีหน้าอย่างนั้นสิคะ”“ถ้าไม่ให้ทำสีหน้าแบบนี้จะให้ทำสีหน้าแบบไหนล่ะครับ เมียไปหาหมอคนเดียวและรู้ว่าท้องก็ยังไม่บอกอีก”น้ำเสียงเริ่มขึ้นจมูกพลันน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาง่ายๆ ยิ่งเธอปลอบเท่าไรเขาก็ร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากอยู่ดูแลคนถูกยิงจนหายดีแล้วเพราะแผลไม่ได้ถูกจุดสำคัญหมอก็ให้วายุกลับไปพักฟื้นที่บ้านและแน่นอนว่าเจ้าตัวก็คอยออดอ้อนคนเป็นเมียอยู่ร่ำไปหากใครมาเห็นคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคุณวายุ“ป้ามาลีทำอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย ทำไมเหม็นแบบนี้” มือหนาเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกแล้วยกมือขึ้นอังจมูก“ก็ข้าวต้มของโปรดคุณลมยังไงคะ ป้าเพิ่งยกลงจากเตาเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆเลย” แม่บ้านประจำตระกูลหน้าตื่นวินไทยกับวารินทร์ก้ม
ไม่รู้ว่าสายอะไรต่อสายอะไรห้อยระโยระยางเต็มไปหมด คนถูกยิงได้แต่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ต่อให้เหมือนฝันอยากเข้าไปหาแค่ไหนก็ทำได้แค่มองผ่านกระจกใสอันเล็กของประตูกั้นก็เท่านั้นวายุปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิดจึงยังต้องงดเยี่ยมไปก่อนจนกว่าจะฟื้นขึ้นมาบางคนทยอยกลับกันไปบ้างแล้วเหลือเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมเพราะกลัวว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น“พี่ว่าแกกลับบ้านไปพักก่อนไหม ถ้าไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกในท้องหน่อยก็ดีนะ”เหมือนฟ้าเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวแล้วทรุดตัวนั่งลงด้านข้าง“ฝันอยากอยู่ดูว่าเขาฟื้นแล้ว”“พี่รู้ว่าแกเป็นห่วงลม แต่แกก็ต้องห่วงตัวเองกับลูกด้วย”หญิงสาวช่างใจอยู่ครู่หนึ่งแววความกังวลผุดขึ้นในดวงตา ส่วนอีกมือก็ลูบหน้าท้องน้อยต้องเรียกว่าความโชคดีหรือเปล่านะที่เธอแทบจะไม่มีอาการแพ้ท้องเหมือนคนอื่นเลยแถมยังผ่านเรื่องเครียดมาตั้งมากมายเจ้าก้อนในท้องกลับไม่ทำให้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอฝันอยู่ดูพี่ลมอีกสักนิดก่อนได้ไหมคะ”“ตามใจ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไปส่งแกด้วย แล้ววันนี้กลับไปนอนบ้านค
เหมือนฝันกุมหน้าตัวเองแน่นขึ้นพร้อมกับคิดหาทางออกแต่คิดอย่างไรก็ไม่เป็นผลในเมื่อปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ขมับด้านซ้าย หากเธอตุกติกแม้แต่นิดเดียวมีหวังลูกตะกั่วได้วิ่งเข้าไปทักทายมันสมองเธอแน่นอนวายุรู้สึกหวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดขณะที่หัวใจเต้นรัว ดวงตาที่สบกับเหมือนฝันนั้นมันมีอะไรบางอย่างบอกเอาไว้และเขาอ่านมันออกหญิงสาวพยักหน้าให้กับเขาเพื่อเตรียมตัวทำอะไรบางอย่างแต่เขากลับส่ายหัวให้เธออยู่เฉยๆ อย่าทำอะไรทว่ามันกลับไม่ทันเสียแล้วเหมือนฝันใช้วิชาเอาตัวรอดจากการถูกจับเป็นตัวประกันที่ได้เรียนมาเมื่อตอนเข้าชมรมสมัยมหาวิทยาลัยแล้วกระทุ้งหน้าท้องคนร้ายก่อนจะบิดแขนข้างที่มีปืนให้ยกขึ้นฟ้าความชุลมุนเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนฝันรีบวิ่งไปหาวายุ ภูริโกรธขึ้นขีดสุดเลยเล็งปืนไปยังเหมือนฝันแล้วเหนียวไกยิงทว่าคนที่รับกระสุนแทนกลับเป็นวายุ เขาใช้ตัวเองบังร่างอวบนั้นไว้แล้วทรุดตัวล้มลง“พี่ลม”หญิงสาวกรี๊ดออกมาสุดเสียงแล้วประคองร่างเลือดท่วมนั้นเอาไว้ จากนั้นเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดจากการวิสามัญคนร้าย“พี่ลม ไม่นะ อย่าเป็นอะไรนะ ฟื้นสิ” เธอพยายามตบหน้าเขาเบา
“เฮ้ย! พวกนั้นหายไปไหน” ชายใบหน้าดุดันมีรอยบากระหว่างหัวคิ้วร้องตะโกนขึ้นสุดเสียงชายที่เหลือวิ่งหน้าตั้งเข้ามาแล้วกวาดตามองรอบบริเวณไม่เห็นแม่แต่เงาของพวกผู้หญิงที่พวกเขาจับมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ ทิ้งไว้เพียงหนวดกุ้งรัดแขนเอาไว้ให้ดูต่างหน้าก็เท่านั้น“ไปตามหาตัวพวกมันสิวะ แล้วเอาตัวกลับมาให้ได้ยืนเซ่ออยู่ทำไม”ภูริตวาดลูกน้องลั่นแล้วไล่ด้วยความเดือดดาลก่อนจะวิ่งไปอีกทางเพื่อตามหาเพราะเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็ได้เวลานัดกับวายุแล้วบริเวณริมป่าละเมาะเหมือนฝันกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำหน้าเพื่อมองหาลู่ทางและเข้าใกล้เขตหมู่บ้านคนเพื่อขอความช่วยเหลือทว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดมิดเสียงวิ่งจากเบื้องหลังด้วยความเร็วพร้อมกับแสงไฟฉายสาดส่องไปมาทำให้รู้ว่าพวกมันใกล้เข้ามาถึงเต็มทีแล้ว“คุณณิ คุณน้ำ เร็วกว่านี้หน่อยค่ะ พวกมันตามมาแล้ว”เหมือนฝันเร่งสองสาวที่เดินรั้งท้ายส่วนตัวเองนั้นก็เริ่มเหนื่อยหอบเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง“เฮ้ย พวกมันอยู่นั้น หยุดนะเว้ย”ความกลัวทำให้วารินทร์สั่นไปทั้งตัววิ่งมองหลังจนไม่ทันระวังสะดุดหินล้มลงบนทางลูกรังจนข้อเท้าพลิกทำให้ลุกขึ้นเดินต่อไม่ได้ พอมอ
ทุกคนมานั่งประจำที่ตัวเองกันหมดแล้วยกเว้นเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังไม่กลับมา“ยัยฝันไปไหน ตั้งแต่แม่ยกถาดอาหารออกมายังไม่เห็นเลย”“น่าจะเอาเสื้อไปเก็บมั่งครับ แต่ก็ไปนานแล้วนะครับ” ตรีวิทย์บอกแล้วยืดคอขึ้นมองไปยังโรงจอดรถ“ถ้างั้นเดี๋ยวป้าไปตามให้นะคะ” ป้ามาลีอาสแล้วก็เดินออกไปไม่นานก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาด้วยสีหน้าตื่นในมือมีรองเท้าอยู่ข้างหนึ่งซึ่งวายุจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นของเหมือนฝัน หัวใจเขากระตุกวูบขึ้นมาแล้วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องวงจรปิดดูทันทีเขาขบกรามแน่นเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่สองคนกำลังหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปจากบ้านอย่างเงียบ ๆ โดยหลบเลี่ยงสายตาจากคนทั้งบ้านโดยไม่มีใครสังเกตเห็น“ต้องเป็นฝีมือไอ้ภูริแน่นอน” วายุสบถออกมา“คนเดียวกันกับที่เคยจับฟ้าไปน่ะเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอนุชได้ยินแบบนั้นก็เข่าอ่อนทำท่าจะเป็นลมจนเหมือนฟ้าต้องรีบพยุงและพาไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ป้ามาลีรีบไปหายาดมมาให้ทันที“ผมพลาดเองที่ละหลวมความปลอดภัยเพราะคิดว่าคนอยู่เยอะกันขณะนี้มันคงไม่กล้าลงมือ”สองมือกำแน่นเข้าหากันเพราะรู้สึกเป็นห่วงเหมือนฝันจับใจ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตอนแรก