ในวันเรียนจบรัศมี มายา พลาดท่าเสียตัวให้คนรักของเพื่อน นั่นเป็นตราบาป เธอรู้สึกผิดมาตลอด เธอลักลอบมีสัมพันธ์กับคนรักของเพื่อน เธอกลายเป็นคนชั่ว เป็นผู้หญิงทุเรศ ใครบ้างจะเห็นใจ ไม่หรอก ไม่มีใครเห็นใจเห็นค่าคนที่แย่งของคนอื่น แม้จะบอกว่าถูกเขาข่มขู่มันก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ เขาคนนั้นเล่นกับเธอจนเบื่อหน่ายแล้วก็เขี่ยเธอทิ้งเมื่อเจอคนใหม่ที่ถูกใจกว่า เขาโยนเงินมาหนึ่งก้อนพร้อมกับคำพูดว่า 'ไปเอามารหัวขนนี่ออกซะ พี่ไม่ต้องการและพี่คิดว่าเบลล์ก็คงไม่ต้องการ' . . ไลน์ ไลน์! แจ้งเตือนดังขณะที่ฉันกำลังเก็บของล้าง มิ้มที่ส่งวีดีโอ พี่กองทัพยิ้มและสวมกอดมิ้มด้วยความดีใจหลังจากที่เขารู้ว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน แตกต่างกับวันนั้นที่เขารู้ว่าฉันท้อง ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้ม ซ้ำยังยื่นเช็คให้บอกว่าเอาไปจัดการกับเด็กในท้อง
View More“แม่เบลล์ขา” เสียงเด็กน้อยเอ่ยเรียกชื่อฉัน เด็กตัวอ้วนกลมคนนี้เป็นลูกสาวที่น่ารักของฉัน
“ว่าไงคะหมูน้อย หิวแล้วเหรอคะ กินข้าวต้มกุ้งของโปรดหนูไหมคะ แม่ทำให้” ฉันย่อตัวลงอุ้มลูกสาวที่แสนน่ารัก
“วันอาทิตย์นี้แม่เบลล์ว่างไหมคะ”
“แม่ต้องดูก่อนนะคะว่ามีโอทีไหม”
“หนูอยากอยู่กับแม่เบลล์บ้างค่ะ แม่ไม่ค่อยว่างมาหาหนูเลย” เธอซบที่หน้าอก แขนป้อม ๆ พยายามโอบกอดพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าแสนเศร้า สะเทือนใจผู้เป็นแม่เช่นฉันเพราะว่าฉันไม่มีเวลาให้ลูกจริง ๆ
“ที่ทำงานของแม่กำลังจะมีหัวหน้ามาใหม่ค่ะ งานเลยยุ่ง ๆ เพราะต้องจัดระเบียบใหม่ หมูน้อยไม่โกรธแม่ใช่ไหมคะ”
“ไม่โกรธค่ะ หมูน้อยแค่คิดถึง อยากนอนกอด อยากอยู่กับแม่” ดวงตาใสแป๋วสั่นระริกน้ำนัยน์ตากำลังจะไหลออกมา แต่ก็ยังพยายามกลั้นไว้เพราะไม่อยากอ่อนแอให้ฉันเห็น
“แม่ขอโทษนะคะที่ไม่ได้อยู่กับหนู แต่ที่แม่ทำเพราะไม่อยากให้หนูลำบากไงคะ เข้าใจแม่ใช่ไหม” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด ทำให้เขาเกิดมาแล้วไม่มีเวลาเลี้ยงดู แต่ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำนะ ฉันอยากทำมากทว่าก็ต้องหาเงินด้วยไง ไม่อย่างนั้นจะเอาที่ไหนใช้จ่าย
“หนูเข้าใจค่ะ หนูรักแม่นะคะ แม่เบลล์คนเก่งของหนู” เธอฉีกยิ้มน่ารัก มือป้อม ๆ ของลูกยกขึ้นมาลูบที่แก้ม ถึงแม้แววตาของเธอจะเศร้าไปบ้าง แต่ลูกสาวของฉันก็พยายามเข้มแข็ง
“ฝากลูกสาวของหนูด้วยนะคะน้าวัน” ฉันฝากฝังลูกสาวเมื่อถึงเวลาที่จะต้องกลับไปพักเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เริ่มงาน
“ไม่ต้องห่วง น้าจะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่น้าจะทำได้ เบลล์ก็ดูแลตัวเองนะลูก พักผ่อนเยอะ ๆ ” น้าวันญาติคนเดียวที่ฉันรู้จักมาตั้งแต่เด็กตกปากรับคำเหมือนทุกครั้งทุกคราว
รัศมี มายา หรือ เบลล์ คือชื่อของฉัน ฉันทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ การงานค่อนข้างลำบากสักนิด เพื่อนร่วมงานเป็นกันเองในบางกลุ่ม แต่ฉันไม่ได้โฟกัสจุดนั้นอยู่แล้ว เพราะฉันไปทำงาน ไม่ได้ไปตามหาเพื่อนร่วมงาน หน้าที่ของฉันคือทำงานออกมาให้ดีที่สุด
ฉันอายุ 28 ปี เกิดมาพอจำความได้ก็รู้ว่าญาติเพียงคนเดียวของฉันคือน้าวัน รับรู้เพียงว่าฉันกำพร้าไม่มีพ่อแม่ ฐานะที่บ้านยากจนพอสมควร ต้องช่วยกันทำมาหากินปากกัดตีนถีบ น้าวันไม่มีสามี น้าทำงานทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้ฉันได้เรียนสูง ๆ ฉันไม่เคยมีแฟน และไม่คิดจะมี
แต่ฉันมีลูกสาวตัวน้อยที่น่ารัก
ลูกสาวที่ฉันพูดได้เต็มปากว่า ‘พลาด’ เป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิต แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้ฉันมีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ เพราะฉันกลายเป็นผู้หญิงสารเลว มันคือตราบาปที่ติดค้างใจของฉันมานานและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
ชีวิตในอดีตที่แสนโหดร้ายสอนให้จิตใจและร่างกายของฉันแข็งแกร่ง ฉันทุ่มเททำงานเพื่อซื้อบ้านแถวชานเมืองให้น้าวันและหมูน้อยลูกสาวของฉันอาศัยอยู่ ส่วนตัวของฉันนั้นบอสใหญ่ท่านใจดียกคอนโดให้ฉันอาศัยหลับนอนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล และร่นระยะเวลาในการเดินทางไปทำงานให้เร็วขึ้น จึงไม่แปลกที่พนักงานในบริษัทจะเล่าลือกันไปต่าง ๆ นานา
หาว่าฉันเป็นเด็กท่านประธาน ยอมนอนกับท่านเพื่อตำแหน่งเลขาบ้างล่ะ บ้างก็ว่าที่ได้งานนี้เพราะใช้ร่างกาย ทั้งที่ความจริงแล้วฉันใช้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาทั้งนั้น ยังดีที่ภรรยาของท่านประธานรู้ทุกความเคลื่อนไหวจากการรายงานของฉัน และฉันชี้แจงต่อท่านแล้วว่าไม่ได้เป็นอย่างข่าวลือ ซึ่งท่านรับฟังและบอกว่ารู้เพราะท่านสังเกตทุกอย่าง ซ้ำยังบอกฉันอีกว่าอย่าได้ใส่ใจเสียงนกเสียงกา เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็เพียงพอ
กว่าฉันจะก้าวเข้ามาอยู่ในจุดที่มั่นคงนี้ได้ ฉันเคยย่ำแย่ที่สุด เคยเจอสิ่งที่เลวร้ายต่อใจมามาก ปัจจุบันฉันไม่กล้าคบใครเป็นเพื่อนสนิทและฉันไม่กล้าเชื่อใจใครต่อใคร อาจจะเป็นเพราะความเลวร้ายเมื่อหกปีก่อนที่มันคือตราบาปทำให้ฉันไม่กล้าคบเพื่อนหรือเเฟนเพราะกลัวเวรกรรมที่สมัยนี้มันติดจรวด กลัวการไว้ใจ
สองเดือนต่อมา...บ้านชานเมือง“แม่เบลล์คะหนูมีเรื่องจะบอกค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่ใบหู ความจริงไม่ต้องกระซิบก็ได้เพราะตอนนี้เราอยู่กันสองคน น้าวันไปซื้อของกับเพื่อนข้างบ้าน“อะไรคะ” ฉันฉีกยิ้มสดใสอีกทั้งทำหน้าอยากรู้อยากเห็นให้สมกับที่ลูกสาวกำลังเล่นใหญ่ ก็หมูน้อยทำหน้าทำตาเหมือนมันเป็นความลับสุดยอด“ตาหนุ่มข้างบ้านเป็นแฟนยายวันของหนูค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่หูอีกรอบ“ฮะ หนูรู้ได้ไงคะ” น้าวันเนี่ยนะมีแฟน อันนี้ฉันตกใจจริง“ก็ตาหนุ่มกับยายวันชอบยิ้มให้กัน แล้วตาหนุ่มก็บอกให้หนูเรียกว่าคุณตาเหมือนที่เรียกยายวัน ตาหนุ่มยังบอกอีกนะคะว่าให้หนูช่วยบอกยายวันให้รับรักตาหนุ่มที” หมูน้อยเล่าเป็นฉากเป็นตอนด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังมากตาหนุ่มคงเป็นคนที่น้าวันพูดถึงบ่อย ๆ ได้ยินว่าเมียแกตายไปปีกว่าแกเสียใจมาก น้าวันเลยเข้าไปชวนคุยไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะกลัวแกเหงา กลัวจะตรอมใจจะว่าไปเวลาน้าวันเล่าถึงตาหนุ่มน้ำเสียงน้าก็ดูมีความสุข น้าวันของฉันมีความรักใช่ไหมเนี่ย“แล้วหนูทำไมบอกว่าตาหนุ่มกับยายวันเป็นแฟนกันคะ เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้”“ก็อาทิตย์ก่อนที่แม่เบลล์ไม่มา ตาหนุ่มถือดอกไม้ช่อเบอเริ่มมาขอยายวันเป
หลายวันต่อมาเวลา 22:45 น.คอนโด“ค้างด้วยกันสิ” เสียงของสามีเพื่อนที่ข่มขู่จนได้ฉันมาเป็นเมียอีกรอบ วนกลับเข้ามาในลูปเดิม เกิดความผิดพลาดอีกครั้ง เรียกว่าซ้ำซากง่ายกว่า ไม่สมควรได้รับการอภัยโทษ“ไม่ค่ะ แค่นี้ก็ละอายใจมากแล้ว” ฉันปฏิเสธพร้อมทั้งลุกจากเตียง อยากจะหายไปจากคนตรงหน้าเต็มกลืน“อย่าพูดแบบนี้สิครับที่รัก เมื่อกี้เรายังมีความสุขกันอยู่เลย เย็นชาจัง” พี่กองทัพลุกขึ้นมากอดและจูบที่ต้นคอใช่ค่ะ สุดท้ายฉันก็กลัวมิ้มจะเห็นคลิปนั้น ฉันยอมกลับมาเป็นของเล่นของสามีเพื่อน ยอมให้เขาย่ำยี ดีกว่าให้เพื่อนที่แสนดีเสียใจ ฉันยังคงเป็นคนโง่มันคือความบังเอิญหรือพี่กองทัพตั้งใจไว้อยู่แล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อเพื่อนที่แสนดีของฉันโทรมาบอกเล่าให้ฟังว่าเธอต้องไปต่างประเทศด่วนและอาจจะไปอยู่ที่นู่นสองถึงสามเดือน เธอบอกว่ากลับมามีเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังและยังย้ำว่าฝากดูแลท่านประธานด้วยมันเลยเหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว!แมวขี้ขโมย แอบเอากันตอนเมียเขาไม่อยู่ความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน จากนั้นหลังเลิกงานฉันต้องมาบำเรอกามอารมณ์ให้สามีของเพื่อนทุกวัน จนฉันรังเกียจตัวเ
เวลา 17:54 น.“บอสจะให้ดิฉันไปส่งที่ไหนคะ” ฉันเอ่ยถามสามีของเพื่อน ก็ตอนนี้เขานั่งอยู่ในรถของฉัน สาเหตุมาจากข้ออ้างที่ว่ามิ้มเอารถกลับไปและเขาไม่มีรถกลับบ้าน เขาจึงอาศัยรถฉันเพื่อมาพบคุณดนัย หลังจากเจรจาธุรกิจเรียบร้อยเราทั้งคู่นั่งอยู่ในรถโดยที่ฉันนั่งประจำที่คนขับ“คอนโดเดิม จำได้ไหม” เขาว่ามาแบบนี้ แล้วฉันจะตอบว่าอะไรดีล่ะ เปิดประเด็นมาแบบนี้เลยเหรอ จำได้ ก็จะหาว่าฉันใส่ใจ จำไม่ได้ ก็จะว่าเสแสร้งใช่ไหมสุดท้ายฉันเลือกที่จะไม่ตอบ ขับรถไปตามเส้นทางของคอนโดหรูที่ฉันไม่เคยลืม เพราะฝังใจ การเงียบ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับบางเรื่อง แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่อง“ขอโทษนะ” แล้วจู่ ๆ สามีของเพื่อนที่เป็นบอสของฉันก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา“ขอโทษอะไรคะบอส” ฉันหันหน้ามองเขาเพียงนิดและกลับมาโฟกัสเส้นทาง“ห่างเหินเกินไปนะเบลล์”“รัศมีค่ะ สำหรับบอสควรเรียกฉันแบบนั้น”“หึ” เขาแค่นเสียงในลำคอจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง เราทั้งสองต่างคนต่างเงียบ จนกระทั่งรถจอดที่หน้าคอนโดหรู“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง แต่วานคุณรัศมีถือของขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ผมด้วยนะครับ” พี่กองทัพยกยิ้มมุมปาก“คือ...” ฉันอึกอักอึดอัดไปหมด ในหัวเริ่มสับ
ออกจากคอนโดมาแล้วฉันเดินตามทางถนน เดินร้องไห้ไม่สนใจว่าใครจะมอง ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ทั้งที่ใจหนึ่งก็เตรียมไว้แล้วว่าสักวันพี่กองทัพคงเบื่อแต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ กลับรับไม่ได้ ไหนจะเสียใจกับเรื่องที่เขาให้ไปเอาเด็กออก เสียใจที่รักคนผิด เสียใจที่เกิดมาโง่ มันรู้สึกจุกแน่นอกไปหมด ไม่เข้าใจหัวใจผู้ชายคนนี้ทำด้วยอะไรถึงคิดฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขได้ลง ทำไมตัดสินใจได้เร็วขนาดนั้น หรือว่าเขาไม่มีหัวใจชีวิตของฉันในตอนนี้มีเพียงเช็คเงินสดห้าแสนบาทเท่านั้นที่ติดตัวมา เหลือญาติคนเดียวที่มีมาตั้งแต่เด็กและลูกในท้องที่กำลังจะเกิด ฉันคงต้องเอาเช็คไปขึ้นเงินแม้จะไม่อยากใช้แต่ก็ต้องใช้เพราะไม่มีทางเลือก จากนั้นก็ซมซานกลับไปหาน้าวันที่พึ่งทางใจสุดท้ายของฉันมารหัวขนที่เขาเรียกเป็นเด็กเกิดจากความผิดพลาดก็จริง แต่ฉันไม่คิดจะฆ่าเด็กในท้องอย่างที่เขาบอกไว้ ฉันจะเก็บลูกไว้ ใจฉันไม่ดำขนาดฆ่าลูกในไส้ตัวเองได้ลงคอ ฉันทำไม่ได้ ยังไงก็ทำไม่ได้ เด็กไม่รู้เรื่อง เมื่อเขามาเกิดเขาควรได้เกิด ฉันจะดูแลเองและพี่กองทัพกับฉันไม่มีวันเจอกันอีกหลังจากที่จัดการเรื่องเช็คเรียบร้อย ฉันกลับมายืนที่ห้องเช่าเก่า ๆ ยืนทำใจก่อนจะเข้า
สองเดือนต่อมา...ฉันยังคงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของพี่กองทัพ อยู่แค่ที่นี่จริง ๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นที่พี่กองทัพบอกจะพาไปร้านสักก็ไม่ได้ไป เพราะจู่ ๆ พี่กองทัพเขาก็เปลี่ยนใจออกไปคนเดียวซะงั้นและเขายังสั่งห้ามฉันไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด ฉันก็เชื่อฟังพี่กองทัพกลับมานอนที่นี่ทุกคืน เขาทำให้ฉันเผลอใจรักจนได้ รักทั้งที่ไม่ควรจะรัก ทว่าพักหลังเขาดูแปลกไป เขาไม่เรียกร้องเรื่องบนเตียงกลับมาถึงเข้าห้องนอนกอดฉัน เช้าตื่นมาเขาก็ไป ทุกวันนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่มีสิทธิ์ถามและต้องบอกก่อนว่าแม้ฉันกับมิ้มจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของมิ้มสักนิดเพราะฉันคิดอยู่เสมอว่าฉันต่ำต้อยกว่ามิ้มจึงไม่อยากถาม ถ้าเรื่องไหนมิ้มอยากเล่ามิ้มก็จะเล่าให้ฟังเอง ฉันจึงไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของพี่กองทัพมิ้มยังคงทักไลน์มาหาอยู่บ่อย ๆ ฉันก็ยังคุยกับเธอปกติแม้จะนอนกกผัวเธออยู่ก็ตาม โคตรจะหน้าด้านไร้ยางอาย รู้สึกผิด รู้ว่าบาปแต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้มิ้มรู้เรื่อง กลัวเธอเสียใจที่โดนคนรักและเพื่อนเลว ๆ อย่างฉันหักหลังและตอนนี้มันเลวร้ายมาก เพราะฉันมันไม่สำนึก ไม่รู้จัก
ช่วงเย็นฉันออกไปเก็บเสื้อผ้าบางส่วนและบอกน้าวันว่ามีคนจ้างทำงานเป็นงานพิเศษ มีที่พักให้ น้าวันไม่เอะใจอะไรสักนิดเพราะว่าฉันรับจ้างทำงานหลายอย่างมาตลอด น้าวันก็เลยไว้ใจเวลาสามทุ่มพี่กองทัพเดินเข้ามาในห้องของคอนโดหรู ที่ฉันรู้ว่ามันหรูเพราะฉันเห็นแล้วไงมันหรูมาก ๆ สูงหกสิบชั้นได้มั้ง ย่านคนมีเงินอยู่กันทั้งนั้น คนจนอย่างฉันไม่มีทางได้เฉียดเข้ามาเหยียบหรอก “พี่กินข้าวมาหรือยังคะ”“ทำไมอะ เบลล์อยากไปกินข้างนอกเหรอ” พี่กองทัพถอดเสื้อหนังออก เดินไปแขวนไว้ตรงที่แขวนใกล้ ๆ ตู้เสื้อผ้า“เปล่าค่ะ เบลล์จะบอกว่าเบลล์ทำเผื่อพี่ไว้อยู่ในครัวค่ะ อาหารบ้าน ๆ ไม่รู้พี่จะกินได้ไหม” ฉันก็แค่ทำเผื่อแผ่มนุษย์ร่วมห้องก็แค่นั้น เป็นความเคยชินที่ชอบทำกับข้าวเผื่อใครสักคนเพื่อเตือนตัวเองว่าฉันไม่ได้ตัวคนเดียวพี่กองทัพมายืนด้านหลังโซฟาแล้วโน้มตัวมาหอมแก้มฉัน กลิ่นน้ำหอมอบอวลใกล้ ๆ ตัวฉัน ตึก ตึก ตึก ใจมันเต้นแรง สั่นไหวแปลก ๆ นี่ฉันกำลังคิดไม่ซื่อกับคนรักของเพื่อนงั้นเหรอ ไม่ดิ ไม่ได้ มันผิด ฉันต้องห้ามรู้สึก “ขอบใจนะ กินข้าวกันปะ”“เบลล์กินแล้วค่ะ” ฉันต้องนิ่ง ต้องนิ่งให้มากกว่านี้ อย่าใจสั่นเพียงเพราะเขาหล
Comments