"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก"
"ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดือนหน้าครับ ผมจะพยายามขอแม่กับพ่อมาช่วยพี่จ่ายนะ” “ หึ! พีก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่ได้หรอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่หาค่าเทอมไว้ให้เราเอง รีบกินเถอะพี่อยากกลับไปพักแล้ว” “ผมอยากลองขอดูก่อน ถ้าได้เงินมาอย่างน้อย ๆ พี่ก็จะได้ไม่ต้องทำงานหนักเอาไว้ผมเรียนจบผมจะรีบหาเงินมาเลี้ยงพี่คืนนะครับ” “ได้สิ พูดไม่หยุดแบบนี้พี่ขโมยลูกชิ้นแล้วนะ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ติ้ง! ติ้ง! แชทมาร์ค: ถึงห้องยัง? แชทมาร์ค: กินข้าวเที่ยงยัง? แชทมาร์ค: น้องมึงมาถึงยัง? แชทมาร์ค: ให้กูไปส่งไหม แชทมาร์ค: เงียบ.. แชทมาร์ค: มึงอย่าบอกนะว่ามึงแอบไปรับงาน แชทมาร์ค: กูให้เวลาอีก1 นาที ถ้าไม่ตอบกูจะบุกไปหามึงเดี๋ยวนี้เลย แพงเธอมองข้อความแชทไลน์ที่เขาส่งมารัว ๆ โดยไม่ได้กดเข้าไปอ่าน เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขกับน้องชายของเธออยู่ ไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเขา “ผมว่าเรารีบกลับห้องดีกว่าเหมือนว่าฝนกำลังมายังไงไม่รู้” “ไปสิ” “พีพี่ว่าเราจอดหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ก่อนดีกว่านะ ฝนตกแรงมากเลย เดี๋ยวอันตราย” “ครับ” ยังไม่ถึงห้องใครจะคิดว่าฝนจะมาดักทางกลับบ้านเธอก่อนจะถึงคอนโด ทั้งฝนทั้งลมแรงอีก เธอกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางจึงให้น้องเข็นรถขึ้นฟุตบาทและหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ มีคนยืนหลบฝนด้วยอีกสองสามคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า “เกือบจะถึงแล้ว สรุปเราก็เปียกเป็นลูกหมาอยู่ดี” “เอามือถือกับกระเป๋าตังใส่ถุงพลาสติกก่อนเร็วครับ ยังจะขำอีก” “พี่แพงได้กลิ่นดินไหม ผมชอบนะฝนที่ตกกระทบพื้นดินแล้วกลิ่นมันลอยมา” “อีกหน่อยมันจะไม่ใช่แค่กลิ่นดินแล้วจ้ะ มันจะเป็นกลิ่นท่อน้ำขยะลอยมาฉะนั้นพี่ไม่ชอบ” “พี่แพง! ระวัง” ฟุ๊บ ยังไม่ทันที่เธอได้หลบน้ำจากข้างถนนที่โดนรถวิ่งบนท้องถนนด้วยความเร็วบวกกับปริมาณน้ำฝนที่เริ่มมีน้ำขังก็กระเซ็นมาฝั่งพวกเธอ น้องชายเธอที่เห็นก็รีบเอาตัวมารับแทนเธอ กลายเป็นว่าตอนนี้เสื้อผ้าเลอะไปด้วยน้ำสกปรกเต็มแผ่นหลังของเขา ซึ่งน้องชายเธอยังยิ้มหน้าบานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องชายเธอเป็นคนที่จิตใจดี ไม่เคยโกรธเกลียดใคร มองโลกในแง่ดีเกินไปจนเธอไม่มั่นใจว่าเขาจะมาสามารถอยู่ในสังคมที่โหดร้ายแบบนี้ได้ไหม “ขับรถไม่เกรงใจคนข้างถนนเลยหรือไง บ้าจริง” “เปียกเต็ม ๆ แฮร่ ๆ ” “ยังจะมาอารมณ์ดีอีก ขอบคุณนะพี” “ขอบคงขอบคุณอะไร ถ้าผมไม่ปกป้องพี่สาวผมจะปกป้องใครได้อีกหนาวไหมครับ” “นิดหน่อยทนได้” มาร์ค “มึงเป็นไรมาร์ค ดูร้อนร้นจัง” “กูกลับก่อนนะแม็ก พอดีมีนัด” “วินยังมาไม่ถึงเลย มาร์คจะรีบไปไหน” “ไว้รอบหน้านะเค้กเราขอตัวก่อน” ขณะที่เขากำลังออกจากร้านอาหารวินก็เดินมาที่ร้านพอดี เขามองหน้าของมาร์คด้วยความงงงวยว่าเขาจะไปไหน แถมยังมีท่าทีที่เร่งรีบอีก “ไปไหนกูเพิ่งถึงเองนะ” “มีธุระต้องไปจัดการ กูขอตัวนะ” เขาไม่รอคำตอบของเพื่อน เขาก็เดินจ้ำอ้าวไปที่รถของตัวเองทันที เขาส่งข้อความทางไลน์ไปหาเธอหลายข้อความปรากฏว่าเธอไม่ยอมอ่านข้อความใด ๆ ของเขาเลย เขายิ่งหัวร้อนกว่าเดิม เขายอมรับว่าเขาติดเธอเอามาก ๆ แทบจะอยากสิงร่างเธอ 24 ชั่วโมง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกพวกนี้มันก่อตัวไปตั้งแต่เมื่อไร ถึงเธอจะเย็นชากับเขาแต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยากอยู่กับเธอ ช่วงพักหลังมานี้เขาเองก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมรับงานแค่กับเขาคนเดียว เพื่อที่เขาจะได้เลี้ยงและมีอะไรกับเธอแค่คนเดียว ใครจะคิดว่าขนาดเขาจองและเลือกเธอแค่คนเดียวตลอดขนาดนี้ เธอยังแอบไปรับงานลับหลังเขาอยู่บ้าง บางครั้งเขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกับเธอ แต่พักหลังมานี้เขากำลังคิดอยู่ว่าจะพยายามให้เธอรับงานแค่เขาคนเดียวได้ยังไง เธอจะได้ไม่ต้องไม่ยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีก เขาขับรถจากห้างมุ่งหน้าไปที่คอนโดเธอ แต่ระหว่างทางฝนก็ตกหนักทำให้รถติด เขาบังเอิญมองไปที่ริมถนน เห็นเธอกับผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นน้องชายของเธอที่จอดรถริมทางหลบฝนอยู่ พวกเขาดูอารมณ์ดี หัวเราะต่อกระซิกแม้จะเปียกกันทั้งคู่ก็ตาม เขาตั้งใจจะลงรถไปรับเธอขึ้นมาบนรถ แต่ท้องถนนประเทศไทยฝนตกทีไรรถติดชิบหายทุกที พอฝนซาลงพวกเขาก็ขับรถออกไปทันที เขาคิดว่าพวกเธอน่าจะขับรถกลับคอนโด จากที่เขาหงุดหงิดเธอกลายเป็นว่าเขาเริ่มจะหงุดหงิดรถติดแทน เกือบจะสี่ชั่วโมงที่เขาติดอยู่บนท้องถนน เขามาจอดรถใต้คอนโดของเธอและรีบกดโทรไปหาเธออีกครั้งทันที ตู๊ดดด ตู๊ดดดด “มึงซื้อมาประดับบารมีหรือไงวะ มือถือนะเว้ยไม่ใช่เครื่องราง รับสักทีสิวะ” เขาโทรหาเธออยู่นานน่าจะสิบสายได้เธอก็ยังไม่รับสายเขาสักที แต่มีเหรอที่เขาจะยอมแพ้ ติ๊ด “ทำไมพี่ต้องโทรมาหาแพงขนาดนี้ด้วยคะ” “แล้วทำไมมึงไม่รับสายกูสักที” “แพงอาบน้ำอยู่ค่ะ” “มึงเห็นข้อความกูมึงก็ไม่อ่าน มึงตั้งใจหลบหน้ากูใช่ไหมแพง” “พี่มาร์ค! เข้าใจคำว่าเวลาส่วนตัวไหมคะ” “ไม่รู้เว้ย ตอนนี้กูอยู่ข้างล่างคอนโดมึง มึงมารับกูขึ้นไปหน่อย” “พี่จะบ้าหรอคะ แพงอยู่กับน้องแพง” “กูไม่เอามึงต่อหน้าน้องมึงหรอกแพงเร็ว ๆ กูเงียน” “ไม่ได้ค่ะ แพงไม่อนุญาต” “งั้นมึงก็ลงมาหากูตอนนี้” “ทำไมแพงต้องเชื่อพี่” “ได้! 15,000 จบไหม” “.. ” “ลงมาแพง! อย่าให้กูหาวิธีขึ้นไปที่ห้องมึงได้ ถ้ามึงไม่อยากเดือดร้อน” “เฮ้ออ..1 ชั่วโมงนะคะ” “รีบลงมาก่อน” “ค่ะ”3 ปีต่อมา “สวัสดีครับคุณทนายสุดหล่อ วันนี้มาฟังคำพิพากษาใช่ไหมครับ” “ สวัสดีครับ ใช่ครับผม พี่ครับพอดีว่ารบกวนพี่หน้าบัลลังช่วยเช็คให้หน่อยได้ไหมครับว่าท่านผู้พิพากษาจะลงบัลลังกี่โมง พอดีว่าผมจะขอแวะไปส่งเอกสารอีกคดีที่บัลลังก์ 7 ครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคดีผมที่บัลลังก์ 5 ท่านจะเริ่มกี่โมง” “จะไปนานเหรอครับคุณทนาย ได้ครับ ๆ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาคดีของคุณทนายไว้เป็นคดีสุดท้ายช่วงเช้าเลยนะครับ แต่มันจะมีคดีที่สืบพยานกันอยู่อีกหนึ่งคดี ยังไงผมจะแจ้งผู้พิพากษาเจ้าของคดีให้ทราบนะครับ” “ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะรีบกลับมานะครับ” “ได้ครับ” ไมค์ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนที่จะเดินไปอีกห้องเพราะตอนนี้เขากลายเป็นทนายหนุ่มไฟแรงสุดฮอตที่กำลังเร่งทำงานอย่างตั้งใจ เขาพยายามค้นหาตัวเองและก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตให้ผ่านไป ขณะที่เขาจบคดีที่บัลลังก์ 7 ก็รีบเดินกลับมาที่บัลลังก์ 5 ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้า คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ กำลังนั่งอยู่คอกพยาน “พยานกำลังจะอ้างว่าภาพถ่ายที่พยานโอบกอดสามีของโจทก์อยู่นั้นไม่ใช่พยานอย่างนั้นเหรอครับ” “ค่ะ” “งั้นผมขอถามว่าพยานกั
บนโต๊ะอาหารตอนนี้ต่างก็ดูวุ่นวายเพราะไมค์ที่เริ่มได้ที่ก็พูดไม่หยุดเดินไปชวนคนนั้นคนนี้มาชนแก้วกับเขา ทุกคนที่จากตอนแรกจะทานข้าวกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างก็ดื่มเป็นเพื่อนไมค์กันแต่เช้า หากมีเพียงแมธที่นั่งทานข้าวเสร็จก็กลับไปนั่งทำงานมองดูสถานการณ์ห่าง ๆ กับภาพครอบครัวที่ต้องบอกว่าหาดูได้ยากที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและเมากันได้ที่ขนาดนี้ 3 ปีต่อมา “มาร์คยังไม่มารับแพงอีกเหรอ” “ยังค่ะพี่แมธ พอดีเท้าแพงบวมมาก แพงเลยให้พี่มาร์คไปเอารองเท้าคู่ใหม่มาให้แพงค่ะ” “ท้องดูโตขึ้นเยอะแล้วนะ” “ค่ะ ไปนั่งที่ห้องพี่ก่อนไหม จะได้นั่งโซฟ่าสบายขึ้น” “ไม่เป็นไรค่ะ แพงนั่งทำงานที่นี้ทั้งวันอยู่แล้วเดี๋ยวพี่มาร์คก็มาค่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปดูเอกสารให้พี่หน่อยแล้วกันนะ” “ก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของแมธคืออยากให้เธอไปได้พักมากกว่าที่จะอยู่ห้องทำงานในแผนกนิติกรของบริษัท พอย้อนอดีตตอนที่เธอเข้ามาฝึกงานอยู่ที่นี้จนครบกำหนดและหลังเรียนจบที่มหาลัยเธอก็เปลี่ยนเป้าหมายเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานที่นี้อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเธอก็ตั้งท้องลูกของมาร์คได้ 4 เดือนพอพวกเขารู้ว่าเธอท้องทุกคนในครอ
เธอได้แต่ยิ้มและรู้สึกได้ถึงไออุ่นของครอบครัวเขา ที่มันอาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ปรารถนาครอบครัวแบบนี้ หากแต่ชีวิตของเธอและใครหลายคนที่เลือกเกิดไม่ได้คงไม่ได้โชคดีแบบนี้สักเท่าไร หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งรอเขาที่เตียงนอนไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงมีคนเปิดประตู แกร๊ก “ยังไม่นอนเหรอคะ” “แพงกำลังรอพี่อยู่ค่ะ เป็นไงบ้างคะเรียบร้อยดีไหม” “ครับ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” “ค่ะ” ขณะที่เธอยังไถมือถือเล่นระหว่างรอเขา พอเขาอาบน้ำเสร็จเขาก็รีบกระโดดขึ้นเตียงมานอนหนุนตักเธอ พร้อมกับเอาหน้าซุกพุ่งน้อย ๆ ของเธอทั้งยังทำหน้าอ้อน ๆ ให้เธออีก “พี่มาร์คง่วงนอนหรือยังคะ เรานอนกันเลยไหมคะ” “เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ” “ หื้อ แพงว่า..อย่าเลยดีกว่าค่ะ แพงอายคนอื่นเขาผู้ใหญ่ก็อยู่ในบ้านด้วย แพงไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดีเลยค่ะ รอบก่อนก็อายพี่แมธจะตายอยู่แล้ว” “หื้อ..อายทำไมเรื่องธรรมชาติไหมคะ” “ไม่ต้องเลยค่ะเรานอนกันได้แล้ว” “ขอนอนหนุนตักนุ่ม ๆ นี้ก่อนได้ไหมครับ” “เอ้..มาลูบท้องแพงแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” “พี่แค่คิดว่าถ้าเรามีลูกด้วยกันเขาจะหน้าตาหล่อสวยเหมือนพี่ไหมนะ”
“พวกเราทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่แมธและมาร์คเองก็เล่าเรื่องของหนูมาให้น้าฟังเยอะพอสมควร ถ้าหนูยังไม่พร้อมหรือขาดเหลืออะไรก็บอกน้าได้เลยนะลูก ให้น้าไปขอกับพ่อกับแม่เราเถอะนะทุกอย่างจะถูกต้อง” “อันที่จริง ครอบครัวของแพงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่นเท่าไร ถ้าคุณน้าทั้งสองจะคุยกับครอบครัวแพง แพงก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แพงอยากจะบอกคือแพงไม่ได้ต้องการให้ครอบครัวแพงได้เงินจากครอบครัวของคุณน้าแม้แต่บาดเดียว เงินที่จะสร้างครอบครัวแพงขอให้มาจากพี่มาร์คและแพงเท่านั้นนะคะ” “แพง..เอาจริงดิ ตอนนี้เงินติดบัญชีพี่มันแทบไม่เหลือแล้วนะ แถมโดนเจ้าไมค์ปล้นไปอีก” “ค่ะพี่มาร์ค คุณน้าทั้งสองอาจจะมองว่าแพงอวดดี แต่แพงไม่ได้มีเจตนานะคะ มันคือความตั้งใจของแพงว่าถ้าแพงจะสร้างครอบครัวจริง ๆ แพงก็อยากจะสร้างความทรงจำและสร้างอนาคตกับคนที่แพงรักด้วยตัวของพวกเราเองค่ะ” “เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ เงินพ่อกับแม่ก็มีจะเสียเวลาทำไมคะ” เขาพยายามจะต่อรองกับเธอเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้เธอก็ต้องการจะสารภาพความในใจให้หมดเลย “เอาสิลูก น้องแพงมาใก
“เปล่า.. ” “ตาแดงขนาดนั้นยังจะโกหกอีกนะคะ” หมับ เขากอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่เธอหันมาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาตัวเอง “แพงอย่าพูดแบบนี้กับพี่ได้ไหม พี่ไม่ชอบเลย” “แพงพูดแบบไหนคะ” “ก็ที่บอกว่าจะไม่อยู่กับพี่แล้วไง พี่ขอโทษ ขอโทษกับทุก ๆ การกระทำของตัวเองเลย แพงอย่าโกรธพี่เลยนะ” “ก็ได้ค่ะ ไหนหันหน้ามาให้แพงดูหน่อย โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะครั้งนี้แพงจะไม่โกรธพี่ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คก็ปล่อยแพงได้แล้วแพงอายคนอื่นเขา อีกอย่างคนที่พี่ควรจะขอโทษก็คือน้องไมค์ พี่พูดแบบนั้นออกมาได้ไงคะ น้องเขารักพี่ขนาดไหนพี่รู้ไหม พี่มาร์คไม่คิดว่าไมค์จะเสียใจบ้างเหรอคะอย่าลืมไปขอโทษน้องนะคะ” “ครับ” “อีกเรื่องนะคะ แพงเองก็ไม่ได้ชอบเพลงขวัญแต่ที่พี่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงมันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวพี่ไป คนที่โดนพี่ทำร้ายร่างกายสักวันมันอาจจะเป็นแพงก็ได้ฉะนั้นช่วยเลิกใจร้อนมือเร็วแบบนั้นด้วยนะคะ” “ครับ ปกติพี่ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่เด็กนั้นมันน่าโดนนิ แม่พี่เดินมาแล้วเราหายงอนกันได้แล้วใช่ไหม” โอ้ยยย.. “มี้ครับผมเจ็บ ปล่อยมือก่อนครับ หูผมจะหลุดแล้วเนี้ย” “ยังจะกล้าบอกว่าเจ็บอีกเหร
คำพูดที่แสนจะธรรมดาของแม่มาร์คมันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเธอจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาและชาไปทั้งใจ เธอเองก็ไม่เคยนึกถึงอนาคตตัวเองเลยด้วยซ้ำตั้งแต่สูญเสียน้องชายเธอไป เป้าหมายในชีวิตที่เคยคิดไว้มันพังทลายไปแล้วจริง ๆ เธอจึงไม่มาสามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย เขาหันหน้าไปมองเธอก็เห็นถึงแววตาที่ไร้จุดหมายและปนเศร้าอยู่หน่อย ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอเพื่อให้กำลังใจ “ถ้าแพงยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต พี่จะสร้างเป้าหมายในชีวิตให้แพงเอง แพงอย่าเศร้าไปเลยนะ” พรวด! แค่ก แค่ก “เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมมาร์ค นายเองก็ยังไร้จุดหมายในชีวิตเหมือนกันเท่าที่ฉันเห็นแกหนักกว่าน้องแพงเยอะเลยนะ” “ผมก็ช่วยงานพี่อยู่นี้ไง” “มองดูก็รู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยทำเพราะไม่มีอะไรทำ หึ!” “พ่อว่าหนูแพงไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศสไหมหรือเยอรมันก็ดีนะ เผื่อเจ้าไมค์จะไปเรียนต่อน้องจะได้มีเพื่อนด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมพ่อดูแลเอง” “ผมไม่อนุญาตครับ” “ถามน้องแพงยัง แม่ว่าน้องอาจจะอยากไปเรียนต่อก็ได้” “งืออ” “แพงขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมาก ๆ นะคะที่เอ็นดูแพงแต่เรื่องนี้แพงขอยังไม่รับน้ำใจนะคะ แพงอยากลองพึ่งพาตัวเองก่