LOGINมาคิน หรือ คิน นักร้องหนุ่มสุดฮอตที่กำลังมาแรง ที่ต้องมาพบเจอกับ ร้อยดาว เด็กสาวช่างฝัน ที่อยากจะเป็นนักเขียนเพลง เป็นผู้กำกับเอ็มวี ทำงานที่เกี่ยวกับเพลง เธอเองมักเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ลงในไดอารี่เล่มเล็ก ๆ แต่เธอที่ดันลืมวางทิ้งเอาไว้ จนมาคินเข้ามาเห็นไดอารี่เล่มนั้น และถือโอกาสเปิดอ่านและนำเพลงที่เธอเขียนไปร้องโดยไม่ขออนุญาต ทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าเขาขึ้นมาในทันที แต่ความรักของพวกเขาก็ต้องถูกเก็บซ่อนและรู้กันแค่ไม่กี่คนที่ไว้ใจ จนวันหนึ่ง นักข่าวที่ล้วงลึกจนทำให้ร้อยดาวเสียหายและคนอื่นมองเข้าใจเธอผิด สาเหตุมาจากเขาเองที่พาเธอมาพัวพันจนเธอเกือบถูกพักงาน มาคินที่พยายามช่วยเหลือร้อยดาวมาโดยตลอดด้วยความรักที่มี เขายอมแลกชื่อเสียงกับคนที่เขารัก
View Moreในงานประกาศรางวัล Sing Contest Awards เวทีค้นหานักร้อง นักเต้น นักแสดง ที่เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยมีผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ามาถึงห้าคนด้วยกัน และหนึ่งในนั้น คือ มาคิน เด็กนักศึกษาปี 4 ที่ดรอปเรียนมาสักพัก เพราะปัญหาทางบ้าน ตัวเองต้องดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวและอาชีพที่จะทำให้ตนเอง มีงานทำ และมีเงินใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ได้นั้น คือการเป็นนักร้อง เขาเองเป็นนักร้องของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องปิดบังไม่ให้พ่อแม่รู้ว่าตนเองอยากเป็นศิลปินการมาครั้งนี้ นอกจากจะได้เงินรางวัลแล้ว ยังจะได้เป็นนักร้องในสังกัดด้วย เพราะที่บ้านของคิน อยากให้ลูกชายเดินตามรอยของพ่อ เป็นข้าราชการ อาชีพครู แต่เขาเองที่ไม่ชอบทางด้านนี้ การมาแข่งขันครั้งนี้ จึงจะมีแค่กลุ่มเพื่อน ๆ ที่มาเชียร์ตนเอง และก็ต้องปิดบังครอบครัว
"คิน คิน พร้อมไหมถึงตามึงขึ้นไปร้องเพลงแล้ว" เจเจ เดินมาตามเพื่อนหลังเวที
"ไหน ๆ มาให้เจ๊ดูสิชุดของแก เรียบร้อยไหม" เอินนี่ ที่มาจากชื่อเต็มขุนอินทร์ เพื่อนชายแต่ใจสาวที่คอยดูแลเรื่องใบหน้าชุดในวันนี้ของเพื่อน เอินนี่ที่หันตัวกลับมา คินเองที่แขนขาสั่นท่าทางอาการตื่นเต้นดีใจ ฝ่ามือที่เปียกชื้น เหงื่อท่วมหน้า
"ว้ายยย ทำไมหน้าเครื่องสำอางลอกออกหมดแล้ว หมดกัน พัง พัง " เอินนี่กรีดเสียงแหลมจนคินกับเจเจต้องเอามือมาอุดหู
"ไปเอากระดาษซับมามาเจเจ ไวไวเดี๋ยวไม่ทัน" เจเจที่โดนเสียงแหลมของยัยเอินนี่ จนทนไม่ไหว
"มึงลดเสียงแหลมสิบแปดหลอดของแกหน่อย เสียงดนตรีหน้าเวทีดังแล้ว มาเจอเสียงควายออกลูกของมึงอีกกูจะประสาท นี่ถ้าไม่ใช่งานมึงนะ กูไม่มานอนอยู่บ้านดีกว่า" เจเจว่าประชดเพื่อนสาวร่างกำยำ
"ขอโทษทีพวกมึง กูตื่นเต้นไปหน่อย ทุกทีร้องประกวดงานวัด งานมหาลัย นี่งานใหญ่งานแรกของกูเลย" คินเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกที่มีกลัวไปหมดทุกอย่าง
ร้อยดาวเด็กสาวจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับมาคินแต่เธอที่เป็นรุ่นน้องเขาหนึ่งปี เธอเองก็มาร่วมในงานนี้ เธอเองก็มีความฝันของตัวเอง เธออยากเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอเองที่เข้ามาเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ค่ายเพลงในเครือของ G.Media เธอเคยส่งไกด์เพลงเข้ามาให้โปรดิวเซอร์ของที่ G.Media และเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังไม่มีคนนำไปร้องเลยสักคน ครั้งนั้นเธอได้ค่างานเพลงครั้งแรกสองพันบาท สำหรับงานเพลงของนักแต่งโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก วันนี้เธอก็เอางานมาเสนอโปรดิวเซอร์คนเดิม ที่เขามาเป็นกรรมการตัดสินในงานนี้ เธอเองมองหาเขาแต่เธอไม่กล้าเข้าไป เธอเลยโทรหาพี่โปเต้ทันที
"พี่โปเต้ อยู่ตรงไหนค่ะ หนูมาถึงหน้างานประกวดแล้วค่ะ" ร้อยดาวที่ต่อสายโทรหาโปรดิวเซอร์คิวทอง
"เดี๋ยวเธอรีบไปไหนไหม พี่เป็นกรรมการอยู่ ตอนนี้เสียงดังมากพี่ไม่ค่อยได้ยิน" โปเต้ตอบกลับเสียงดังมาก ๆ เพราะเสียงเครื่องดนตรีตรงด้านหน้าเวทีดังมาก
"ไม่ค่ะ รอพี่โปเต้ในงานก็ได้ค่ะ "
"งั้นเดี่ยวจบงานพี่โทรหา หรือไม่เช้าเราว่างก็เข้าไปหาพี่ที่ค่าย" โปเต้บอกร้อยดาว
ร้อยดาวเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างตรงที่เขาจัดงาน เธอนั่งลงมองไปยังเวทีที่ยังมีผู้เข้าประกวดทำการแสดงจบลงไปแล้ว เสียงพิธีกรที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
"เอาละครับ จบลงไปอีกหนึ่งผู้เข้าประกวด มาถึงหนุ่มคนสุดท้าย เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เดินสายร้องเพลงมาเยอะมาก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเวทีที่เขาจะได้แสดงความสามารถให้ทุกคนได้ชมกัน" พิธีกรประกาศประวัติคร่าว ๆ ชองเขา
"นายมาคิน เป็นเลิศ หรือ น้องคิน ครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกคิน ซึ่งเขาเองรออยู่ข้างหลังม่าน มาคินที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเอง เขาหันไปมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จนยืนเต้นไปเต้นมา ไม่อยู่นิ่ง ๆ จนเอินนี่ต้องตบหัวคินไปหนึ่งป๊าบ
"มึงไปตบหัวมันทำไม" เจเจ เข้ามาดึงเพื่อนออกจากมือที่กรีดกรายแต่หนา โดนไปอีกที มีหวังไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลงแน่นอน
"ไป ๆ อย่ามาเต้นตรงนี้ พิธีกรเรียกตั้งนานแล้ว" เอินนี่บอกเพื่อน และผลักมาคินออกไปยังหน้าเวที ก้าวแรกที่ขึ้นเวทีก็เซถลาไปแล้ว
"ไม่ต้องรีบครับน้อง มาแนะนำตัวกันก่อนครับน้องมาคิน" พิธีกรเรียกอคินมาพูดคุยกันก่อนที่กลางเวที พิธีกรมองออกว่าน้องกำลังตื่เวที เพื่อนทั้งสองคนที่ดันเพื่อนออกมายืนขำ และรีบลงไปดูเพื่อนที่ด้านหน้าเวที เพราะคนเริ่มเยอะทำให้ต้องมายืนข้าง ๆ เวทีแทน
มาคินยกมือไหว้พิธีกร และไหว้คณะกรรมการรวมถึงทุกคนในงานด้วย เขาถือไมค์ขึ้นมาระหว่างอก ดูเก้ ๆ กัง ๆ
" สวัสดีครับ ผมชื่อ มาคินครับ เรียกสั้น ๆ ว่า คิน ครับ "
" น้องคิน ประกวดเวทีแรกหรือเปล่าครับ ดูตื่นเต้น " พิธีกรพูดชวนคุยเพื่อคลายความตื่นเต้นของน้อง ให้ดีขึ้นบ้าง กรรมการที่นั่งข้าง ๆ
โปเต้ที่นั่งมองจากด้านล่าง เขาคิดว่าเด็กคนนี้ดูธรรมดา ไม่น่าจะมีอะไรโดดเด่น
"ใช่ครับพี่ ผมตื่นเต้นมาก ๆ ครับ แต่ผมจะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดครับ " มาคินหยิบไมค์ขึ้นมาตอบกลับไป
"มาประกวดก็เสียเวลาเปล่า ๆ " เสียงของกรรมการที่ร่วมโต๊ะโปเต้ ที่ดูไม่ค่อยชอบมาคินเลย
"ยังไม่ทันเห็นผลงานของเด็กเลย ก็ตัดสินกันแล้วหรอ คุณอู๋" โปเต้ที่มองเด็กหนุ่มบนเวทีอีกครั้ง เขาเองรู้สึกถูกชะตา
"มองแค่นี้ก็รู้เรื่องแล้วครับ คุณโปเต้" อู๋ที่นั่งไขว่ห้างควงปากกาไปมา
เสียงพิธีกรดังขึ้นมาอีกครั้ง โปรดิวเซอร์มือทองทั้งสองคน ก็หยุดโต้แย้งกันแล้วหันไปทางเวที คุณอู๋เองที่ไม่ได้สนใจเด็กคนนี้เลย แตกต่างกับพี่โปเต้ ที่อ่านประวัติที่ส่งมาของมาคินตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย เด็กคนนี้สู้ชีวิตดี ร้องเพลงเพื่อหาเงินปลดหนี้ให้พ่อกับแม่ และอยากส่งน้องเรียนสูง ๆ โปเต้เองเห็นถึงความตั้งใจ แต่ต้องรอลุ้นว่าน้องจะทำผลงานออกมาดีไหม
เสียงดนตรีที่ดังขึ้นมา เป็นดนตรีทำนองเพลงช้า พร้อมเสียงร้องเพลงของมาคิน ที่เปล่งเสียงร้องออกมานุ่มนวล เสียงแหบเล็ก ๆ ฟังมีเสน่ห์ ทำให้ทุกคนหน้าเวทีที่กำลังสนใจจากสิ่งอื่น ๆ ต่างพากันหันไปทางเวที ที่มาคินยืนร้องเพลง ดูแตกต่างจากตอนที่ขึ้นมาตอนแรก
" ที่หนึ่งไม่ไหวฉันเต็มใจขอเป็นแค่ที่สอง ยอมเป็นคนสำรองตลอดไป ที่หนึ่งให้เขาขอที่สองให้ฉันจะได้ไหม รบกวนเธอเกินไปรึเปล่า ขอแค่มีเธอ ให้ฉันไว้เพ้อและแอบซึ้ง ไม่ต้องที่หนึ่ง แค่ขอรักเธอในแบบเขาเก็บไว้ในใจ เผื่อว่าเวลาเหงา ฉันขอมีเธอไว้คิดถึงก็พอ"
เสียงของมาคินดังสะดุดหู จนมาคินร้องจนจบเพลง เสียงปรบมือ เสียงกรี๊ดดังลั่นฮอลล์ เพื่อนสองคนของเขาต่างพากันกระโดดโลดเต้นกอดคอกันดีใจ
ร้อยดาวเองที่นั่งเขียนเพลงใหม่ลงในไดอารี่ยังต้องหยุดเขียน หันไปมองบนเวที ซึ่งก็ไกลมาก เห็นมาคินไม่ค่อยชัด แต่เธอกลับดันหลงเสียงร้องของเขา และคิดว่าเพลงของตนเองน่าจะมีสักเพลงที่เหมาะกับนายคนนั้น อยากให้เขาถ่ายทอดบทเพลงของเธอเช่นกัน
ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ
ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร
AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื
เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ


![friend zone รักร้ายนายเพื่อนสนิท [ 3P ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



Comments