Share

บทที่ 5

Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น
จางหยวนเผยรอยยิ้มออกมา: "พ่อครับ แม่ครับ ผมหายแล้ว ผมจำเรื่องในอดีต ได้ทั้งหมด"

เพล้ง

ชามที่อยู่ในมือของหวังฮุ่ยหล่นลงบนพื้น

เธอร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด: "ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดลูกหยวนก็หายดีแล้ว"

จางต้าซานไม่ได้พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเขากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ จางหยวนก็สะอื้นไห้พร้อมพูดว่า "พ่อครับแม่ครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อกับแม่ลำบากแล้ว"

“ไม่ลำบาก เลี้ยงลูกชายของตนเอง มันจะไปลำบากอะไร!” จางต้าซานเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา

จางหยวนกล่าวต่อว่า: "พ่อครับ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เพียงแต่หายดีเท่านั้น แต่ผมยังได้เรียนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ให้ผมดูอาการพ่อหน่อย บางทีผมอาจจะมีวิธีรักษาขอของพ่อก็ได้"

"ลูกหยวน ไม่ต้องพยายามแล้ว ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่หมอประจำหมู่บ้านก็ยังบอกว่ามันใช้การไม่ได้แล้ว... ลูกหายก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พ่อจะขายที่ดินติดถนนของบ้านเราซะ แล้วหาเมียให้ลูกสักคนหนึ่ง ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข…"จางต้าซานโบกไม่โบกมือ

เมื่อได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำอีกครั้ง

พ่อแม่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี

หลังจากที่รู้เรื่องที่ตนหายดีแล้ว สิ่งแรกที่พ่อนึกถึงคืออนาคตของตนเอง ไม่ใช่เรื่องขาของเขา

จางหยวนกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วยืนกรานว่า “พ่อครับ ให้ผมลองดูหน่อย”

ขณะที่พูด เขาก็เปิดผ้าห่มออก แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองของพ่อขึ้น

ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตั้งแต่เข่าลงมา ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย และยังคงบวมอยู่ตลอดเวลา

จางหยวนตรวจดูสักพักหนึ่ง

“โชคดีที่กระดูกไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่เส้นลมปราณบางส่วนตายก็เท่านั้น”

“ในมรดกวิชาของพี่เทพธิดาตนนั้น มีวิธีซ่อมแซมเส้นลมปราณด้วย”

เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วหันกลับมาถามว่า “แม่ครับ ที่บ้านมีเข็มเงินบ้างไหมครับ?”

"มีมีมี..."

หวังฮุ่ยรีบไปหาทันที

เข็มเงินนี้ เป็นเข็มเงินที่แพทย์แผนจีนที่มารักษาจางต้าซานก่อนหน้านี้ทิ้งเอาไว้

แพทย์แผนจีนคนนั้นว่ากันว่าเป็นแพทย์แผนจีนโบราณที่มีชื่อเสียงในละแวกเหล่านั้น

แม้ว่า จะจ่ายค่ารักษาให้แพทย์แผนจีนชราคนนั้นไปหลายหมื่นบาท แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะรักษาขาทั้งสองข้างของพ่อได้เลย

ไม่นาน แม่ของเขาก็นำเข็มเงินมา

หลังจากที่จางหยวนทำความสะอาด และฆ่าเชื้อแล้ว ก็เตรียมที่จะรักษาโรคให้พ่อของเขา

แม้ว่าจางต้าซานและหวังฮุ่ยจะสงสัยว่าจางหยวนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์หรือไม่

แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่จริงจังของจางหยวน ทั้งสองก็ไม่ได้ห้ามปราม อย่างไรเสียก็เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายแม้ว่าจะหมดหวังแล้วก็ตาม

ทั้งสองไม่รู้ว่า จางหยวนในตอนนี้ รู้มากกว่าศาสตร์ทางการแพทย์

เขาเจาะเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มบนขาของพ่อได้อย่างแม่นยำ

จางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาใช้เข็มเงิน แต่เขากลับรู้สึกช่ำชองเป็นอย่างมาก

เข็มเงินอันเรียวเล็กเล่มนั้น ราวกับว่าเป็นทหารที่เชื่อฟัง หากตนอยากจะเจาะเข็มลงจุดนั้น ก็สามารถเจาะลงไปได้อย่างแม่นยำ

ไม่นาน เข็มเงินหลายเล่มก็เจาะเข้าไปบนหน่องของพ่อ

เข็มเงินเหล่านี้เรียงต่อกัน ราวกับว่าเป็นไส้เดือนหรืองูตัวน้อยที่เลื้อยคดเคี้ยวไปมา

ในขณะนี้ จางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วใช้มือจับปลายเข็มเงิน แล้วค่อย ๆ ขยับมันเบา ๆ

พอโยกเข็มเงินทั้งหมดแล้ว จางหยวนก็ค่อย ๆ ถอนเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในจุดฝังเข็มขึ้นมาหน่อยหนึ่ง จากนั้นมันก็เริ่มโยกจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ราวกับว่าควบคุมเรือใบ

หากคนที่รู้เทคนิคการฝังเข็มของการแพทย์แผนจีนได้เห็นภาพฉากนี้ จะต้องตะโกนว่า: "มังกรฟ้ากระดิกหาง" อย่างแน่นอน

ใช่แล้ว เทคนิคการฝังเข็มที่จางหยวนใช้ ก็คือเทคนิคการฝังเข็มโบราณ “มังกรฟ้ากระดิกหาง” ที่สูญหายไปหลายปีแล้ว

เทคนิคการฝังเข็มชุดนี้ ไม่เพียงแต่สามารถกระตุ้นเส้นลมปราณที่ตายไปของพ่อเขาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถกระตุ้นเส้นประสาทที่ขาของพ่อเขาได้อีกด้วย

หลังจากที่ยุ่งอยู่กับการรักษาสักพักหนึ่ง ศีรษะของจางหยวนก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

การรักษานี้ ไม่เพียงแต่เปลืองพลังทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังเปลืองพลังงานทางร่างกายอีกด้วย

ในเวลานี้ จู่ ๆ จางต้าซานก็ตะโกนขึ้นมา: "เอ๊ะ..."

เสียงร้องของจางต้าซานทำให้หวังฮุ่ยสะดุ้งกลัว

คิดไม่ถึงว่าในวินาทีต่อมา ขาคู่นั้นของจางต้าซานที่ไม่ได้ขยับเลยมาเกือบปี ตอนนี้เริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย

“ขาของฉัน ดูเหมือนว่าจะรู้สึกเจ็บ...” จางต้าซานพูดด้วยความไม่มั่นใจเล็กน้อย

หวังฮุ่ยที่อยู่ด้านข้าง เอามือปิดปากด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจจนพูดไม่ออก

เมื่อจางหยวนเห็นดังนี้ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใจที่เป็นกังวลของเขา ก็รู้สึกสบายใจในที่สุด

แม้ว่าการฝังเข็มเมื่อสักครู่นี้ จางหยวนรู้ว่าไม่มีความผิดพลาดใด ๆ เลย แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงเป็นยังไง เขาไม่แน่ใจเลย

ตอนนี้ ขาของพ่อเขามีความรู้สึกแล้ว ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าการฝังเข็มเมื่อสักครู่นี้เห็นผลอย่างมหัศจรรย์

สามแล้วที่เป็นพี่เทพธิดา ศาสตร์ทางการแพทย์นี้เก่งกาจมาก

จางหยวนแอบชื่นชมเทพธิดาผู้งามเพริศพริ้งที่ให้มรดกวิชาแก่ตนเองผู้นั้น พร้อมปาดเหงื่อ แล้วพูดว่า: "พ่อครับ พ่อพักผ่อนก่อนเถอะครับ ขาของพ่อ ยังต้องรักษาเสริมด้วยสมุนไพร ผมมั่นใจว่า ไม่เกินครึ่งเดือน จะต้องสามารถเดินบนพื้นได้อย่างแน่นอน"

"ดีเหลือเกิน!"

"ตาเฒ่า คุณได้ยินไหม? คุณจะเดินบนพื้นได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ลูกหยวนของเราเก่งจริง ๆ " "โอ้!"

หวังฮุ่ยพลางปลื้มปีติใจ พลางปาดน้ำตาไปด้วย

สีหน้าของจางต้าซานเต็มไปด้วยความผันผวนของชีวิตและสั่นเล็กน้อย เขารู้สึกตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก

จางหยวนยิ้ม รีบกลับห้อง แล้วมอบช่วงเวลานี้ให้กับพ่อแม่ของเขา

ห้องนอนของจางหยวน ตกแต่งอย่างเรียบง่าย และโทรมเล็กน้อย ถึงขนาดว่ามีกระจกสามชิ้นร่วงลงมาจากหน้าต่าง

เขายึดผนังเอาไว้แล้วปีนขึ้นไปบนเตียง รู้สึกวิงเวียนศีรษะเป็นระยะ เรี่ยวแรงทั้งหมดของร่างกายดูเหมือนจะหมดลง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้นอนเลย แต่กลับนั่งขัดสมาธิบนเตียง

ในมรดกวิชาของเทพธิดานั้นมีวิธีฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณ ที่เรียกว่า "พระสูตรกายจิต" ซึ่งเหมาะที่สุดที่จะใช้ในสถานการณ์ที่ใช้พลังงานทางจิตใจไปมาก

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จางหยวนจึงปฏิบัติตามวิธีการทำสมาธิในพระสูตรกายจิต และเริ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป จางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า พลังของตนดูเหมือนจะฟื้นตัวขึ้นจริง ๆ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวได้ไม่เร็วนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

ดังนั้น จางหยวนจึงรักษาท่าทางนี้เอาไว้ และนั่งสมาธิตลอดทั้งคืน

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ จางหยวนไม่ได้นอนทั้งคืน แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลย

ฟ้าเพิ่งจะสาง

จางหยวนเดินออกจากห้องนอน ก็พบว่าแม่ของเขาไปทำงานที่ทุ่งนาแล้ว

มีหมี่นโถวร้อน ๆ อยู่บนเตาในครัว

จางหยวนกินหมั่นโถวลูกใหญ่ ๆ สี่ลูกในคราวเดียว ปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อก่อน

หลังจากทักทายพ่อของเขาแล้ว จางหยวนก็หยิบจอบและกระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ แล้วออกจากบ้านไป

เขากำลังจะขึ้นเขาเพื่อไปเก็บสมุนไพร

แม้ว่าในเมืองและเทศมณฑลจะมีร้านขายยาสมุนไพรจีนจำหน่าย แต่ด้วยฐานะของครอบครัวในตอนนี้ ทำให้ไม่สามารถซื้อยาสมุนไพรเหล่านั้นได้

โชคดีที่มีสมุนไพรดี ๆ มากมายบนภูเขาที่อยู่หลังหมู่บ้าน

รุ่งอรุณกำลังจะมาถึง แต่เมฆหมอกยังคงอยู่

หมู่บ้านเซี่ยวานปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว

จางหยวนเดินเร็วมาก ไม่นานก็เดินไปถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน

ถ้าจะไปที่ภูเขาทางด้านหลัง ใช้เส้นทางทางเข้าหมู่บ้านจะสะดวกกว่า

ระหว่างทางที่ขึ้นไปบนภูเขา พอเดินบนภูเขาไปได้สักพัก จางหยวนก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขอความช่วยเหลือที่อยู่ไม่ไกลนัก

เขาแปลกใจเล็กน้อย ทำไมบนภูเขาแห่งนี้ถึงได้มีคนตะโกนขอความช่วยเหลือ?

อีกอย่าง น้ำเสียงนี้ยิ่งฟังยิ่งคุ้นเคย?

เขารีบไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังมาทันที

เมื่อไปถึงสถานที่นั้น จางหยวนก็พบว่า เสียงนั้นดังมาจากในป่าบริเวณตีนเขา

พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นหลุมหลุมหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันค่อนข้างจะนานแล้ว!

น่าจะเป็นนักล่าในหมู่บ้านเมื่อก่อนที่ต้องการจะฆ่าหมูป่า จึงได้ขุดหลุมสร้างกับดักเอาไว้

“ช่วยด้วย!” เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังมาจากในหลุมอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงนี้ จางหยวนก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาทันที

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสียงนี้ฟังดูคุ้นเคยสำหรับเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของจางหลิน

พอมองเข้าไปใกล้ ๆ เป็นไปตามที่คาดการเอาไว้ เป็นจางหลินที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันจริง ๆ !

จางหลินเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคนแรกในหมู่บ้าน และเป็นสาวสวยชื่อดังในหมู่บ้าน

อีกอย่างครอบครัวของเธอมีฐานะที่ร่ำรวยมาก บวกกับจางหลินมีหน้าตาที่สะสวย เธอจึงไม่เหมือนเด็กผู้หญิงที่เติบโตมาในสถานที่ยากจนอย่างหมู่บ้านเซี่ยวาน

โดยเฉพาะหลังจากที่เธอไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เมื่อเธอกลับมาในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อนเธอก็กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอ

พ่อของเธอเป็นเกษตรกรรายใหญ่ในหมู่บ้าน มูลค่าสุทธินับห้าล้านบาท

ลุงของเธอเป็นผู้ใหญ่บ้าน ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ทำงานอยู่ในเมือง

แต่ตอนที่เรียนประถม เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่คอยตามตูดจางหยวน ทั้งสองยังเคยเล่นพ่อแม่ลูกด้วยกันอีกด้วย จางหลินยังเคยสาบานว่าจะแต่งงานกับจางหยวนเมื่อเธอโตขึ้น

น่าเสียดาย หลังจากที่เข้าเรียนมัธยมต้นแล้ว ผลการเรียนของจางหยวนแย่ลงเรื่อย ๆ หลังจากเรียนจบมัธยมต้นแล้วเขาก็ไปทำงานทางใต้

พวกเขาทั้งสองคนจึงกลายเป็นคนแปลกหน้า

ตอนนี้กลับได้มาพบกับจางหลินอีกครั้ง

จางหลินยืนอยู่ในหลุม ใบหน้าอันเรียวเล็กที่เดิมทีขาวสะอาดตอนนี้กลับเปื้อนไปด้วยดิน ดูไปแล้วน่าสงสารมาก

ในเวลานี้ จางหลินร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง:

“มีใครอยู่ไหม ได้โปรดช่วยฉันด้วย!”

จากนั้นเธอก็เห็นจางหยวนยื่นศีรษะออกมา

“จางหยวน นายเองเหรอ!” จางหลินรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าตนเองร้องตะโกนตั้งนาน คนที่มากลับเป็นจางหยวน!

“อืม!” จางหยวนตอบอย่างสงบนิ่ง

จางหลินกลับรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย

ตะโกนเรียกอยู่ตั้งนานกว่าจะมีคนมา แต่คนที่มาดันเป็นคนโง่

“นาย ช่วยดึงฉันขึ้นไปหน่อยได้ไหม” จางหลินพูดด้วยความกังวลใจเล็กน้อย เพราะกังวลว่าจางหยวนจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด ดังนั้นเธอจึงจงใจชะลอคำพูดของเธอลง

“อืม!” จางหยวนตอบอีกครั้ง แล้วยื่นมือออกไป

จากนั้น จางหลินก็ยื่นมือของเธอให้จางหยวน

จางหยวนคว้ามือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ แล้วดึงอย่างแรง

ด้วยพลังที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปของเขาในตอนนี้ ทำให้เขาสามารถดึงจางหลินขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะมีเถาวัลย์หนามอยู่ข้าง ๆ หลุม ซึ่งบังเอิญไปติดกับเสื้อผ้าด้านหลังของจางหลิน

บวกกับจางหยวนใช้แรงมาก ทำให้มีเสียงดังแคว่ก เสื้อผ้าของจางหลิน ถูกฉีกจนขาด!

พอจางหยวนดึงจางหลินขึ้นมาบนพื้น เสื้อผ้าท่อนบนของจางหลินก็ถูกฉีกออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งตกลงไปอยู่ในหลุม และอีกครึ่งหนึ่งห้อยอยู่บนเถาวัลย์

ร่างกายท่อนบนที่ขาวนวลราวหิมะของจางหลิน ถูกเปิดเผยต่อหน้าจางหยวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
อยากมีสามี สกุลหวัง
อ้าวอ่านไปอ่านมามีความรู้สึกเหมือนนิยายเรื่องไอ้หมอเนตรอะไรสักอย่างนี่แหละหน้าหม้อมาก......
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status