“ด่ามาเลยผมไม่เจ็บหรอก ในเมื่อผมถามคุณดีๆ แต่คุณไม่ยอมบอกว่าพี่ชายคุณมันพาน้องสาวผมไปหลบที่ไหน ถ้าอย่างนั้นขอเอาคุณหน่อยแล้วกัน เผื่อความลับจะหลุดออกมาพร้อมเสียงคราง”
“บอกว่าไม่รู้ไง!”
“คิดว่าผมจะเชื่อ? ถ้าคำตอบที่ผมต้องการไม่หลุดออกมาจากปากคุณ อย่างน้อยๆ ก็ยังมีเสียงครางหลุดลอดให้ได้ฟัง แต่ไม่ว่าเสียงอะไรจะหลุดออกมาตอนอยู่บนเตียงผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ ยิ่งร้องดังๆ ผมยิ่งชอบ”
“ไอ้โรคจิต วิปริตเกินมนุษย์ ชิงโคตรพ่อโคตรแม่หมามาเกิดหรือไง”
เธอพ่นคำด่าออกมาไม่ขาดปาก มาเฟียหนุ่มไม่รอช้าอุ้มเธอขึ้นบนแขนแกร่งเดินออกไปจากห้องรับรองแขกแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนอนซึ่งอยู่ติดกับห้องของเขาพร้อมโยนเธอลงบนเตียงใหญ่อย่างแรง
“อ๊ะ ไอ้ F***”
เขามองหญิงสาวตรงหน้าพลางถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินเข้าไปหาเธอพลางรูดแกนกายที่กำลังขึงขังใหญ่โตของเขาให้เธอเห็น
“อุบาทว์ที่สุด” เธอพูดพร้อมยกมือเล็กขึ้นปิดตา
“เดี๋ยวคุณก็หลงรักมัน เก็บแรงไว้เด้งเอวรับการกระทำของผมดีกว่า”
เขาพูดพลางกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นแล้วโยนมันทิ้งลงพื้นไม่พอแค่นั้นเขาปลดชุดชั้นในสีดำของเธอออกอย่างง่ายดายแม้ว่าเธอจะพยายามผลักเขายังไง แต่ไม่อาจสู้แรงของมาเฟียหนุ่มตรงหน้าได้
เรือนร่างเปล่าเปลือยที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าช่างเย้ายวนและน่าหลงใหลจนอยากจะขย่มเธอให้จมเตียง ไม่รอช้าเขาก้มลงประกบปากเธอแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไป
“ปากนี้ใช่มั้ยที่ด่าผม” เขาพูดพลางจูบเธออย่างรุนแรง
“อื้อ”
“มือนี้ใช่มั้ยที่ถือปืนยิงผม”
เขากดมือเธอทั้งสองข้างลงบนเตียงแล้วบีบมันอย่างแรง
“อ๊ะ เจ็บ”
เมื่อเห็นเธอมีสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บเขาก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจแล้วใช้ลิ้นร้อนโลมเลียหน้าอกอวบอิ่มอย่างหยาบโลนจนหญิงสาวบิดกายเร่า แม้ปากจะด่าทอแต่ร่างกายกลับตอบสนองสิ่งที่เขามอบให้อย่างน่าอาย
เขาเห็นใบหน้าของเธอที่พยายามระงับอารมณ์ตัวเองก็ยิ่งอยากแกล้งจึงใช้นิ้วเรียวกรีดกรายไปยังกลีบกุหลาบที่เปียกชุ่มแล้วแค่นหัวเราะออกมา
“คุณต้องการมัน อย่าปฏิเสธเลย” เขามองใบหน้าหญิงสาวที่เสมองไปทางอื่นเพราะความอาย
“อีกอย่าง ผมชอบสดและหวังว่าคนอย่างคุณจะสะอาดเหมือนเดิม”
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้” เมื่อได้สติเธอเริ่มต่อต้านเขาอีกครั้ง
“พูดกับผัวคนแรกของตัวเองแบบนี้เหรอ”
“ผัวบ้าอะไร ประสาทนะแกนะ”
“คุณจำผมไม่ได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมรื้อฟื้นให้ใหม่ว่าคืนนั้นเราเมามันกันขนาดไหน”
มาเฟียหนุ่มพูดพร้อมประกบริมฝีปากอวบอิ่มสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานในโพรงปากนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
“อื้อ หะ.หยุด”
เขาไม่ฟังเสียงของเธอแม้แต่น้อยแล้วใช้นิ้วเรียวยาวเข้าไปสำรวจช่องรักที่ฉ่ำแฉะและคับแน่นของเธอพร้อมส่งนิ้วเข้าออกถี่ยิบ หญิงสาวนอนเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเกิดเส้นตรงเพื่อไม่ให้มีเสียงน่าอายเล็ดลอดออกมา เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอเขายิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“อยากให้ผมหยุดจริงๆ เหรอ” จากนิ้วเดียวที่ส่งเข้าไปเขาเพิ่มเป็นสองนิ้วพร้อมกับใช้นิ้วโป้งขยี้เม็ดไตที่แข็งทื่อของเธออย่างหยอกล้อ
“อ๊าส์” ในที่สุดเธอก็ส่งเสียงออกมาอย่างทนไม่ไหวกับความปั่นป่วนที่เขามอบให้
“แน่นมาก ตอดก็ดี”
“อ๊ะ อ๊าส์” เขาเร่งจังหวะเข้าออกของนิ้วให้เร็วขึ้นจนหญิงสาวทนไม่ไหวภายในตอดรัดและกระตุกพร้อมปล่อยน้ำหวานเปรอะเปื้อนนิ้วของเขาจนเปียกชุ่ม
“หึ แล้วปากบอกให้หยุด”
หญิงสาวตั้งสติได้กับความน่าอายของตัวเองก็เตะไปยังผ่าหมากของเขาอย่างแรง จนมาเฟียหนุ่มรู้สึกจุกและเจ็บปวด
“โอ๊ย อ๊ะ กล้ามากนะคุณ”
เมื่อเห็นเขานั่งกุมเจ้าโลกด้วยสีหน้าเจ็บปวด เธอก็รีบคว้าชุดคลุมอาบน้ำที่วางอยู่ไม่ไกลแล้ววิ่งออกไปทางประตูห้องที่เขาพาเข้ามา มาเฟียหนุ่มรีบเดินตามเธอไปด้วยสีหน้าเหยเก
“ถ้าคุณอยากให้ลูกน้องของผมที่อยู่หน้าห้องอีกห้าหกคนเป็นผัวด้วยละก็ ออกไปสิ” เธอเปิดประตูออกไปก็พบกับบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่อย่างที่เขาว่าก็หน้าเสียทันที
“ปะ.ปล่อยฉันไปเถอะ” หลังจากเห็นว่าไม่สามารถหนีไปได้เธอก็ลองขอร้องเขาอีกครั้ง
“อย่าหวังอะไรลมๆ แล้งๆ เลย ถ้าไม่บอกว่าพี่ชายคุณมันอยู่ที่ไหนผมก็ไม่ปล่อยไป ถ้ามันกลับมา มันต้องตามหาคุณอย่างแน่นอน”
“แต่ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ”
“คุณโชคร้ายเกิดเป็นน้องของมันเอง ในเมื่อมันพาน้องสาวของผมไป ผมก็จะเอาน้องสาวมันมาเช่นเดียวกัน”
“คาเทียร์เองก็โชคร้ายที่เกิดเป็นน้องของคุณสินะ” เมื่อเห็นว่ามาเฟียหนุ่มตรงหน้าเอาแต่ว่าเธอโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ทำให้หญิงสาวมีอารมณ์โกรธเช่นเดียวกัน
“หุบปาก”
เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวแล้วอุ้มเธอขึ้นพาดไหล่พร้อมโยนไปบนเตียงอีกครั้งแล้วกระชากชุดคลุมออกพร้อมกับเดินไปหยิบเชือกหนังและสกอตช์เทปที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกล
“ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องคุย”
เขาพูดพลางใช้สกอตช์เทปปิดปากของเธอแน่นแล้วใช้เชือกหนังอย่างดีมัดข้อมือเล็กไว้ เธอพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแต่กลับทำให้เชือกยิ่งมัดกันแน่นขึ้น แรงเสียดสีที่เธอทำทำให้เกิดรอยแผลที่ข้อมือ
“อ๊ะ อ่อยอะ อี๊ดดดด” เธอส่ายหน้ามองเขาอย่างหวาดกลัวน้ำใสๆ ไหลออกจากตาไม่ขาดสาย
เขาขึ้นคร่อมร่างเล็กแล้วใช้ลิ้นละเลงบนกายของเธอพร้อมขบเม้มสร้างรอยแดงไว้ทั่วร่างราวกับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เขาได้ตีตราจองไว้แล้ว
เขาไล้ลงไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่กลีบกุหลาบสีหวานอมชมพูจากนั้นก็ละเลงลิ้นร้อนลงดูดชิมมันอย่างหิวกระหาย หลังจากเห็นว่าหญิงสาวขึ้นสวรรค์ไปด้วยลิ้นของเขาแล้ว
เขาจึงลุกขึ้นชันเข่าพลางรูดแกนกายที่ปวดหนึบจ่อไปยังกลีบกุหลาบสีหวานของเธอแล้วส่งมันเข้าไปทีเดียวจนสุด หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเพราะความเจ็บปวด
เธอยังคงนอนส่ายหน้าไปมาเพื่อที่จะให้เขาหยุดการกระทำลงแต่ดูแล้วมาเฟียหนุ่มไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย เขายังคงส่งเอวหนาเข้าออกอย่างหนักหน่วงและกระแทกกระทั้นตามแรงปรารถนาของตัวเองเท่านั้น แม้จะเห็นว่าหญิงสาวเจ็บปวดแต่มันกลับทำให้เขาเกิดอารมณ์มากขึ้น
“อื้มส์” เขาคำรามออกมาโดยที่เอวยังคงทำหน้าที่อยู่
เขากระแทกต่อไปเรื่อยๆ จนเมื่อทนไม่ไหวก็ฉีดน้ำรักเข้าไปยังภายในกายของเธอจนหมดทุกหยาดหยดแล้วถอดถอนแกนกายออกมาพร้อมกับดึงสกอตช์เทปและเชือกที่พันธนาการเธออยู่ออกจนหมด
“ฉันจะบอกอะไรให้คุณรู้ไว้นะ การที่คุณทำแบบนี้มันไม่ได้ทำให้คุณเจอน้องสาวเร็วขึ้นและมันยิ่งทำให้ฉันเกลียดคุณเข้าไปอีก” เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาเคียดแค้น
“ผมไม่สนใจว่าคุณจะรักหรือเกลียดผมเพราะผมไม่เคยอยู่ในสายตาคุณอยู่แล้วและต่อจากนี้คุณต้องอยู่กับผมที่นี่จนกว่าพี่ชายคุณจะติดต่อกลับมา”
หญิงสาวได้ยินคำพูดเห็นแก่ตัวของเขาก็จ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น”
“ตัวเองไม่มีปัญญาตามหาตัวพวกเขาแต่มาจับฉันซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ” เธอแค่นหัวเราะใส่เขาพร้อมส่ายหน้าอย่างนึกขันในสิ่งที่เขาทำ
“อย่ามาปากดีกับผม เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมทำอะไรได้บ้าง”
“คุณมันก็แค่คนน่ารังเกียจ”
“ผมไม่สนหรอกว่าจะเป็นคนยังไงในสายตาคุณ และไม่ต้องคิดที่จะหนี หน้าห้องมีบอดี้การ์ดตลอด แต่ถ้าคุณอยากกระโดดหน้าต่างลงไปจากชั้นสามสิบก็ลองดูได้ เผื่อรอด” เขาพูดแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี
“คุณจำไว้นะ ถ้าฉันหนีออกไปได้เมื่อไหร่ฉันจะฆ่าคุณ”
“ผมจะรอ”
เขาพูดเสร็จก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้เธอมองเขาไปด้วยสายตาอาฆาตแค้น หญิงสาวคุกเข่าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจโดยที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแม้แต่น้อย
แล้วเขาพูดราวกับว่าเธอกับเขาเคยเจอและเคยร่วมเตียงกันมาก่อนอย่างนั้นเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!