“ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนจะไม่มีความสุข ตอนที่ข้าทำร้ายบุตรสาวของท่าน ข้าสัมผัสได้ว่าพวกชาวบ้านกำลังรู้สึกสะใจ คล้ายได้เอาคืนท่านเช่นนี้นี่เอง กดขี่ผู้ต่ำต้อยกว่าเพื่อผลประโยชน์ของตน”“อย่าบอกนะว่านอกจากเจ้าเมืองที่ถูกท่านสังหาร ไม่ใช่คนเดียวที่ตายแต่เป็นทั้งครอบครัวเจ้าเมืองใช่หรือไม่” ลู่จื้อคิดว่าไ
เมื่อมีการประกาศความผิดและบทลงโทษของอดีตเจ้าเมือง คนที่ร่วมมือให้การสนับสนุนคิดจะหลบหนีก็ไม่ทันแล้ว พวกเขาถูกทหารบุกจับถึงจวน จากนั้นทำการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ช่วยเจ้าเมืองว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่จนสืบทราบได้ว่าถูกข่มขู่ฆ่าล้างตระกูล จึงต้องยอมทำตามคำสั่ง รัชทายาทจึงให้ผู้ช่วยเจ้าเมืองดูแลงานทั้งหมด
“พรุ่งนี้หม่อมฉันและทุกคนจะช่วยกันเตรียมวัตถุดิบและจัดแบ่งข้าวสารใส่ถุงไว้ โดยจะส่งคนกลุ่มหนึ่งไปสำรวจทุกหมู่บ้านว่ามีกี่ครัวเรือน ป้องกันการวนรับของแจกซ้ำ การแจกอาหารและข้าวสารจะเริ่มในวันมะรืนนี้ตอนเช้ามืด เมื่อทำครบสองวันแล้วถึงจะเริ่มสอนวิธีจับสัตว์ทะเล และการปลูกผักไม่ใช้ดินเพคะ”“ตกลง ภารกิจนี
“ปลูกผักไม่ใช้ดิน!! คุณหนูท่านล้อพวกข้าเล่นแล้วกระมัง หากไม่ปลูกผักในดินมันจะโตได้อย่างไรกันล่ะขอรับ”เจียวมิ่งเห็นท่าทางไม่ค่อยเชื่อคำพูดนี้ของชาวบ้าน จึงพูดยืนยันว่าสิ่งที่ลู่ชิงได้บอกไปย่อมทำได้แน่นอน “ทำตามที่คุณหนูของพวกข้าบอก หลังจากที่ได้ฟังคุณหนูจะให้พวกท่านได้ทดลองทำด้วยตนเอง จากนั้นมารอดูก
ถ้ามีถังน้ำที่ไม่ใช้แล้วก็นำมาทำประโยชน์ได้ แต่ถ้าใครไม่มีก็ใช้ไม้ไผ่ที่ลำต้นใหญ่ ๆ เฉาะตรงกลางปล้องของลำต้น ทำฐานวางรองเป็นรางยาวแล้วใช้เป็นตะกร้าขนาดเล็ก มันจะคล้ายแปลงผักมาก เหมือนในรูปนี้ที่ข้าวาดมาเป็นตัวอย่าง พวกท่านลองดูก่อนหากไม่เข้าใจตรงไหนค่อยยกมือสอบถามนะเจ้าคะ”ชาวบ้านที่ฟังลู่ชิงอธิบายจ
หลังจากกลุ่มของลู่ชิงกลับไปแล้ว บุรุษและสตรีทุกคนแบ่งหน้าที่ใครต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเตรียมวัสดุให้ครบตามที่ลู่ชิงบอก ใครจำไม่ได้ก็ให้หลี่ป้านช่วยอ่านวิธีและขั้นตอนต่าง ๆ ที่ลู่ชิงเขียนไว้ในกระดาษให้ฟังอีกครั้ง ป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด พวกเขาทำงานกันอย่างมีความสุข เพราะอีกไม่นานก็จะมีผักให้กิน ไหนจ
“เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองจริง ๆ แล้วตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหย่งชุนเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ทุกอย่างกำลังดีขึ้น หลังจากได้คุณชายสวีกับคุณหนูสวียื่นมือช่วยเหลือในครั้งนี้ ชาวบ้านและผู้คนในเมืองหย่งชุนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมกันมากขึ้น การค้าขายกำลังปรับตัวรวมถึงราคาสินค้าต่าง ๆ ก็เริ่มปรั
“พี่เต๋อฟาเจ้าคะ ข้ารบกวนให้คนไปส่งท่านลุงหลี่กลับหมู่บ้านไห่เปียนด้วยนะ เมื่อครู่คงจะดีใจจนลืมเหนื่อย แต่ตอนนี้เดินกลับไปได้ไม่ไกลก็น่าจะเหนื่อยแล้วเจ้าค่ะ”“ขอรับคุณหนู ข้าจะจัดการให้เองขอรับ”“ไว้รอผักโตจนเก็บได้แล้ว พวกเราจะเป็นลูกค้ากลุ่มแรกที่จะรับซื้อผักจากพวกท่านเจ้าค่ะ”“ขอบคุณมากขอรับ งั้น
เซี่ยงเสินตงเดินมาด้วยความโกรธที่มีคนกล้าบุกจวนของตน ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ไว้ตนจะสั่งสอนคนพวกนี้ให้เข็ดหลาบ หลังจากเดินมาถึงห้องรับรองแขก ก็กล่าววาจาเสียงดังอย่างไม่ให้เกียรติ“พวกเจ้าใช่ไหมที่บุกเข้ามาในจวนของข้า ใจกล้าไม่เบาแต่ข้าคงต้องแจ้งทางการให้มานำตัวพวกเจ้าไปลงโทษ”ลู่เสียนตอบเป็นคำ
เซวียเหวินหันกลับมามองหลังเสียงพลุส่งสัญญาณดังขึ้น ก็พบว่าลูกน้องของตนค่อย ๆ ล้มตาย ทั้งที่ยังไม่ทันได้ชักดาบ หรือร้องครวญครางเพราะความเจ็บ อาวุธที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสังหารลูกน้องตนอย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำเกินบรรยาย เมื่อหายตะลึงเต๋อหลินก็มาประจันหน้าเขาแล้วพรึบ! พรึบ! “สวัสดีพวกกบฏตัวร้ายเลือกน
“ถูกต้องแล้ว แต่พวกมันไม่มีทางทำได้สำเร็จ เอาล่ะพวกเจ้ารีบไปบอกกับทหารเถิดทุกคนจะได้เริ่มเตรียมตัว วันเดินทางจะได้ไม่ฉุกละหุกเกินไป”“ขอรับท่านแม่ทัพ”ผู้เป็นฝ่ายบุกเริ่มเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางกันแล้ว แต่ผู้ที่เป็นฝ่ายตั้งรับกลับนิ่งนอนใจคิดเข้าข้างตนเอง ว่าทุกอย่าง คงจะได้มาอยู่ในกำมืออย่างง่ายดา
เมื่อทุกคนได้รู้แล้วว่ายามนี้เรื่องที่มีผักสีเขียว เริ่มจะเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อจากนี้ต้องหาทางป้องกันไม่ให้คนพวกนี้คิดเอาเปรียบ และทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องอีก รัชทายาทต้องใช้เวลาในสองวันนี้ ตรวจดูการทำงานของช่างหลวงให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด และสั่งงานไว้ที่หัวหน้าโจวให้คอยกำกับดูแลแทน
“ข้าพูด ๆ ถ้าข้าบอกพวกท่านต้องรับปากว่าจะไว้ชีวิตข้า”“นี่เจ้า!!!…”“แม่ทัพเหนียนใจเย็น ๆ เราควรให้โอกาสคนบ้าง”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขออภัยที่วู่วาม”“เอาล่ะเปิ่นไท่จื่อรับปากว่าจะไว้ชีวิตเจ้าหากพูดความจริง เปิ่นไท่จื่อเป็นผู้ตัดสินใจไม่มีผู้ใดกล้าขัดคำสั่งแน่นอน”“ที่ข้าเดินทางมาเมืองหย่งชุน เนื่องจา
“ขอรับคุณหนู”“เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”เจียวมิ่งที่เตรียมทุกอย่างไว้รอ เมื่อเห็นก้งคุนกับเต๋อหลินนำตัวคนเข้ามา ก็เข้าไปช่วยจับตัวจี๋อันมัดติดกับหลักไม้ ทั้งแขนขาและคอถูกเชือกมัดไว้แน่นหนา หลังจากผู้ร่วมกระบวนการไต่สวนเข้ามานั่งจนครบแล้ว น้ำเย็น ๆ ก็ถูกสาดไปที่หน้าของจี๋อัน เพื่อปลุกให้เจ้าตัวตื่นขึ้นมาต
และมันก็ทำให้จี๋อันเข้าใจความต้องการของเซี่ยงเสินตงทันที จึงคิดเอาไว้ว่าคืนนี้จะต้องจับตัวชาวบ้าน มาเค้นเอาคำตอบ ถึงวิธีการปลูกผักเช่นนี้ เพื่อนำมันไปมอบให้กับเซี่ยงเสินตง คิดได้ดังนั้นจึงกระโดดกลับออกมาแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกำลังจะไปหาที่ซ่อนตัวระหว่างรอให้ถึงตอนค่ำ ก็พบว่าด้านหน้าของตนมีบุรุษถือดาบ
“ขอรับ”เซี่ยงเสินตงกำลังวาดภาพในความคิด ว่าสวนผักของตนนั้นเต็มไปด้วยพืชผักที่มีสีเขียวสด และผักพวกนั้นก็กลายเป็นตำลึงทองมากมาย จนตนเองตามเก็บแทบไม่ไหว ส่วนจี๋อันหลังจากรับคำสั่งก็เร่งควบม้าเข้าเมืองหย่งชุน เพื่อตามสืบเรื่องผักที่เจ้านายของตนต้องการ ซึ่งตัวเขาต้องนำมันกลับไปให้ได้ การทรมานและฆ่าคนใช
คังเฉิงนำเกวียนที่มีผักมาหยุดอยู่หน้าเหลาอาหารเฝิงคานชิง เพื่อรอส่งผักจากสวนของเจ้านาย ซึ่งหลงจู๊เหมาจะเป็นผู้รับทุกครั้ง ระหว่างที่รออยู่นั้นก็ยังไม่หยุดคิดเรื่องผักที่วางขายในตลาด หากที่สวนของเจ้านายมีผักเช่นนี้ คงตั้งราคาขายที่แพงกว่าหลายเท่า ค่าแรงของตนก็คงจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ความคิดนั้นต้องหยุดลง