เผยอิงที่ช่วยแต่งตัวให้มู่หลินเสร็จแล้วก็เดินไปเปิดหน้าต่าง“ว้ายยย… " เผยอวี้กับมู่หลินหันไปมอง เผยอวี้เข้าไปพยุงเผยอิงให้ลุกขึ้น มู่หลินเดินไปที่เหยี่ยวแดง เพราะนางเห็นข้อขามันมีกล่องใส่สารผูกไว้อยู่"… " มู่หลินอ่านจดหมายจบหน้าก็ขมวดคิ้วทันที"คุณหนู มีเรื่องร้ายแรงหรือเจ้าคะ" เผยอวี้เห็นสีหน้ามู่หลินแล้วก็เป็นกังวลมู่หลินส่ายหน้า นางเก็บจดหมายในแขนเสื้อแต่ความจริงคือโยนเข้าไปในมิติ"เผยอวี้ เจ้าหาอาหารให้มันด้วย" นางชี้ไปที่เหยี่ยวแล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อไปทานอาหารเช้าพร้อมครอบครัวพี่ชายทั้งสองวันนี้จะเดินทางกลับสำนักศึกษา เพื่อเตรียมตัวสอบจวี่เหรินในอีกสามเดือนข้างหน้า ถึงระยะเวลาสอบจะกระชั้นชิด ทุกคนก็ไม่สร้างความกดดันให้ทั้งคู่ สอบไม่ได้ก็แค่รอสอบใหม่“แต่น้องหวังว่าพี่ใหญ่กับพี่รองจะสอบได้อันดับที่ดีเจ้าค่ะ” น้องเล็กของเขานั้นไม่กดดันจริงๆ ด้วยมู่หลินกลับมาถึงเรือนก็ตรงเข้าไปหาเจ้าเหยี่ยวแดงทันที นางอ่านจดหมายซ้ำอีกรอบ ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจ แม้ในจดหมายจะเขียนเพียงแค่'ข้าชอบเจ้า' ลงชื่อเฟยหรงคือยังไง ต้องตอบมายังไง แล้วจะมาชอบตอนไหน เจอกันกี่ครั้ง คุยกันกี่ประโยคเอาอะไรมา
ทางด้านครอบครัวเซี่ยก็ได้รับข่าวดี ฟางซินตั้งครรภ์แล้ว มู่หลินนั้นจัดเตรียมของใช้จำเป็นและยาเพื่อดูแลครร์ส่งไปให้ ตอนนี้กิจการและกำลังคนของบ้านเซี่ยกับบ้านหวังนั้นเป็นไปด้วยดี หอข่าวสารของเซี่ยห่าวหรานก็เก็บรวมรวบข่าวการเคลื่อนไหวของชนเผ่านอกด้านได้มากมาย รวมไปถึงยาพิษที่ใช้กับฮองเฮาว่าได้มาจากใครไปถึงขายให้ใครก็ถูกส่งเรื่องไปที่วังหลวงเรียบร้อยแล้วชีวิตของมู่หลินช่วงนี้ยังปกติอย่างมาก ผลสอบของพี่ใหญ่กับพี่รองก็จะออกในไม่กี่วันนี้ นางรู้ดีว่าพี่ชายทั้งสองต้องสอบผ่านเป็นแน่ เพราะน้ำทิพย์ที่พี่ชายได้ดื่มอยู่ตลอดนั้นช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยให้ความจำพี่ชายนางดีกว่าคนทั่วไปอีกด้วยหลิวเสิน เยี่ยโยว ตงซาน กลับมาถึงแล้วก็นำจดหมายมาให้มู่หลิน“ของข้าหรือเจ้าคะ” มู่หลินรับมาอย่างไม่เข้าใจ ว่าเฟยหรงจะส่งจดหมายให้นางทำไมหรือจะโมโหที่นางตักเตือนเรื่องคู่หมั้น หรือจะข่มขู่นาง“มู่หลินเก็บจดหมายไว้ในแขนเสื้อ แล้วก็สนใจเรื่องอื่นแทน ตอนนี้ทั้งสามกลับมา มู่หลินจึงอยากทดสอบว่าที่พวกเขาไปอยู่ในกองทัพทมิฬนั้นเก่งขึ้นแค่ไหนพละกำลังของทั้งสามมีมากอยู่แล้ว กระบวนท่า ความเร็วก็เพิ่มขึ้นเมื่อได้ใช้
งานเลี้ยงในวังหลวงนั้น นายกองทั้งสามก็ได้เข้าร่วมด้วย คุณหนูคุณชายทั้งหลายในเมืองหลวง แต่งตัวกันอย่างเต็มที คุณหนูที่ถึงวัยออกเรือนก็อยากจะงามให้เข้าตาท่านแม่ทัพ รองแม่ทัพทั้งสอง และกุนซือกงคุณหนูที่ใจกล้าก็ถึงกลับเข้ามาพูดคุยกับทั้งสี่คน บางคนก็เพียงลอบมองแล้วคิดหาวิธีที่จะดึงความสนใจของท่านแม่ทัพมาที่ตนแม้แต่องค์ชายทั้งหลายก็ล้วนได้รับความสนใจ เหมือนงานนี้จัดขึ้นเพื่อหาคู่ยังไงยังงั้นก่อนที่เฟยหรงและทหารทั้งหลายจะหมดความอดทน (ทหารของกองทัพพยัคฆ์เหมือนกันอยู่อย่าง ให้อยู่ในสนามรบดีกว่าอยู่ในงานเลี้ยงที่ต้องปั้นหน้าแบบนี้)"ฝ่าบาทเสด็จ" ฝ่าบาทเสด็จครั้งนี้ไร้เงาฮองเฮาข้างกาย มีเพียงหวงกุ้ยเฟย กุ้ยเฟยและเฟยเท่านั้น"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี""ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธี งานวันนี้เจิ้นฉลองให้กับกองทัพทมิฬ""แม่ทัพไป๋ความชอบของเจ้าครั้งนี้ เจ้าอยากจะให้เจิ้นประทานสิ่งใดให้ หรือเจ้าอยากให้เจิ้นมองหาคุณหนูที่เพียบพร้อมให้เจ้าดี" แม้จะรู้ถึงความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีให้กับท่านแม่ทัพ แต่ไม่นึกว่าจะเมตตาถึงกับให้เลือกของรางวัลเองแม่ทัพไป๋ก้าวออกมาคุกเข่าหน้าพระพักตร์"ก
ในขณะที่ทุกคนไม่นึกว่าจะเข้าถิ่นตนเองแล้วจะพบโจรหรือนักฆ่า สวรรค์ก็ส่งบททดสอบให้ทุกคนได้ฝึกฝน โจรกลุ่มนี้ไม่แม้แต่จะเข้าช่วงสินของมีค่าในรถม้าที่มีของพระราชทานเต็มคัน แต่หมายจะเอาชีวิตเด็กสาวในรถม้ามากกว่า“รนหาที่ตาย!!!” มู่หลินเพียงแค่นั่งชมในรถม้าเท่านั้นไม่ได้เข้าร่วม โจรแอบแฝงกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงรถม้าได้เลย“นายท่านหวัง ระวังขอรับ” สิ้นเสียงองครักษ์ มู่หลินพุ่งตัวออกจากรถม้าไปแล้ว เผยอิงกับเผยอวี้รู้ดีว่าตนไม่สามารถช่วยคุณหนูได้เลยจำต้องรอในรถม้าจะได้ไม่เป็นตัวถ่วงมู่หลินปามีดสั้นที่เอาออกมาจากมิติเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างของคนร้ายที่ฟันดาบลงมาที่แขนบิดาของตน“เก็บมันไว้ ที่เหลือฆ่าให้หมด” มู่หลินเดินเข้าไปเตะซ้ำ แล้วเหยียบไปที่ด้ามมีดจนกดลึกเข้าไปถึงกระดูก"คนจ้างวานเป็นใคร""ไม่มีผู้ใดจ้างวาน พวกข้าเป็นโจรป่า อ๊ากกก" มู่หลินใช้มือควงมีดที่ปักอยู่ที่หัวไหล่"ดะ ได้โปรด ฆ่าข้าเลย อย่าทรมานเช่นนี้""หึหึ ข้าจะถามครั้งสุดท้ายผู้ใดให้พวกเจ้ามาลอบสังหารข้า" เพราะเจตนาที่เจาะจงเป็นรถม้านางเท่านั้น"คะ คุณ หนู เว่ย" มู่หลินขมวดคิ้ว นางไม่เคยพบเจอคุณหนูเว่ย แล้วจะส่งนักฆ่ามาเอาชีวิตนา
ยามไฮ่ของอีกวัน องค์ชายรองมารับมู่หลินเพื่อพานางไปที่ตำหนักคุนหนิงเช่นเดิมมู่หลินให้มามาช่วยเตรียมอ่างอาบน้ำเพราะต้องให้ฮองเฮาแช่สมุนไพร มู่หลินให้นางกำนัลเตรียมหม้อต้มยาให้ โดยนางเป็นคนทำเองทุกขั้นตอน ตอนนี้มีนางกำนัลช่วยเพียงสองคน มามาและขันทีคนสนิทเท่านั้นหลังจากที่ต้มยาเสร็จแล้วมู่หลินได้หยดน้ำทิพย์ลงไปด้วยห้าหยดเท่านั้น มู่หลินส่งถ้วยยาให้มามาเป็นคนป้อน ตัวนางเข้าไปเตรียมน้ำยาสมุนไพรเพื่อให้ฮองเฮาแช่ตัว ยาสมุนไพรและน้ำทิพย์ที่ใช้มู่หลินเตรียมบรรจุทั้งหมดลงในหีบที่นำมา จึงไม่ต้องห่วงว่าคนอื่นจะจะว่าสิ่งใดหลังจากที่ฮองดื่มยาเรียบร้อยก็เริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น มามากับขันทีสนิทถึงกับน้ำตาคลอ เพราะช่วงเกือบสิบวันที่องค์ชายรองไปตามหาหมอนั้น ทุกคนในตำหนักแทบจะกินนอนไม่ได้ พอเห็นสีหน้าของนายเหนือหัวดีขึ้นจึงทำให้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งมู่หลินให้นางกำนัลพาฮองเฮาลงไปแช่ในน้ำเป็นเวลา 1 ชั่วยาม แม้น้ำทิพย์จะสามารถรักษาได้ทันที แต่ปริมาณที่มู่หลินใส่ให้ฮองเฮานั้นเพียงเล็กน้อย นางอยากจะใช้เวลาในการรักษาระยะหนึ่ง จะได้ดูไม่ผิดปกติเกินไปหากจะหายภายใน1-2วันหลังจากที่ฮองเฮาแช่น้ำสมุพรไพรครบหนึ
หลังจากที่มู่หลินรักษาคนเจ็บที่โรงหมอถัง หมิงก็ผ่านมาห้าวันแล้ว หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยพ่อบ้านเฉิงเข้ามาแจ้งครอบครัวหวังว่าท่านผู้เฒ่าเซี่ยต้องการพบก่อนจะเข้าไปในห้องโถง มู่หลินขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนป่วยที่นางเพิ่งจะรักษาไปนั่งอยู่ในนั้น เมื่อทุกคนทำความเคารพท่านตาและแขกเรียบร้อยก็เข้านั่งประจำที่ ท่านตาจึงแนะนำแขกให้ทุกคนได้รู้จัก“พวกเจ้าทุกคน ท่านนี้คือ องค์ชายรอง ฉู่หนิงเทียน” ผู้เฒ่าเซี่ยกล่าวจบทุกคนคุกเข่าลง“คารวะองค์ชายรอง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อายุยืนพันปี พันพันปี ““ไม่ต้องมากพิธี ลุกขึ้นเถิด”“ขอบพระทัยองค์ชายรองพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”“วันนี้ที่เปิ่นหวางมาก็เพื่อมาขอบน้ำใจคุณหนูหวังที่ช่วยชีวิตเปิ่นหวาง และยังมีเรื่องมารบกวนด้วย”*เปิ่นหวางใช้สำหรับองค์ชายหรือรัชทายาท“มิบังอาจเพคะ การรักษาให้พระองค์ถือเป็นสิ่งที่หม่อมฉันสมควรทำเพคะ “ใครจะไปรู้ว่าเป็นถึงองค์ชายมู่หลินได้แต่คิดในใจ“กระหม่อมขอถามได้หรือไม่ ที่องค์ชายมาเยือนตระกูลเซี่ยครั้งนี้มีประสงค์สิ่งใด” ผู้เฒ่าเซี่ยเอ่ยถาม"เปิ่นหวางตั้งใจมาเยือนตระกูลเซี่ยจริง เนื่องด้วยเสด็จแม่ของเปิ่นนั้นประชวร หมอหลวงทั้งหลายก็สิ้นหนท