Semua Bab ข้ามเวลามาสู้ชีวิต: Bab 1 - Bab 9

9 Bab

คนไข้ห้อง226

รลิน หมอศัลยแพทย์ทั่วไป เธออายุ 27 แต่ความสามารถของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับโดยประจักษ์ เธอยังชำนาญด้านแพทย์แผนจีน เรื่องพิษ คนทั่วไปทั้งในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาลที่รู้จักเธอ รับรู้แค่เธอเป็นหมอลินที่ทั้งสวยและเก่ง แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้น เธอคือนักฆ่าขององค์กรใต้ดิน เธอต้องเรียนรู้และเข้าให้ถึงทุกอาชีพตามที่องค์กรสอน เมื่อได้ภารกิจต้องเข้าให้ถึงทุกบทบาทรลินเป็นเด็กกำพร้าที่องกรค์รับเลี้ยงตั้งแต่สามขวบ เธอโดนฝึกวิชาต่อสู้ตั้งแต่เล็ก เรียนรู้ทุกอย่างที่องค์กรป้อนให้ ถ้าหากเด็กฝึกคนใดที่ไม่ผ่านการเรียนในแต่ละระดับเกินสามครั้งจะโดนกำจัดทันที เด็กฝึกทุกคนคิดว่าเมื่อโตขึ้นแข็งแกร่งขึ้นจะสามารถหลุดพ้นจากความเลวร้ายนี้ได้ แต่ทุกคนคาดไม่ถึงว่าที่ตัวจะโดนฝั่งชิปตั้งแต่ถูกรับเลี้ยงแล้วที่รลินและเด็กฝึกคนอื่นรู้ถึงการมีอยู่ของชิปก็เมื่อ เพื่อนในรุ่นคิดว่าตัวเองนั้นเก่งพอจะหลีกหนีได้แล้วและอยากออกไปมีครอบครัว ทางองค์กรรู้เข้าเลยปิดระบบชิปซึ่งมันคือระเบิดเวลา ทุกคนเลยหลีกหนีชะตาชีวิตอันบัดซบครั้งนี้ไม่ได้นอกจากยอมรับความตายถ้าอยากหลุดพ้นรลินใช้ชีวิตการเป็นหมอในเวลางานปกติ เมื่อออกจากงานเธอต้องร
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-03
Baca selengkapnya

เตรียมตัว

หลังเลิกงาน รลินกลับไปที่คอนโดของเธอ เธอซื้ออาหารที่ร้านประจำกลับไปด้วย ระหว่างทางที่เดินไปที่รถเธอตรวจดูว่าได้รับอาหารครบหรือไม่ "เก็บข้าวผัดไว้กินพรุ่งนี้เช้าดีกว่า" ตอนที่เธอพูดเสร็จข้าวผัดก็หายไปจากในถุง เหลือเพียงข้าวต้ม เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่ามีใครเห็นเหมือนที่เธอเห็นไหม แต่บริเวณโดยรอบแม้จะมีคนเดินแต่ไม่มีใครมองเธอเลยเธอรีบกลับขึ้นรถทันที แม้จะนิ่งแค่ไหน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาตั้งมากมาย ครั้งนี้เธอยอมรับว่าเธอตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เธอทดลองเรียกข้าวผัดเข้าออกอีกหลายครั้ง เธอลองเอาสิ่งของต่างๆรอบตัวที่พอจะหาได้ใส่เข้าไปปรากฎว่ามันเข้าไปได้และออกมาได้จริงๆตามที่เธอนึก เมื่อถึงคอนโดเธอทบทวนคำพูดของคุณยายเจ้าของกำไล ที่บอกว่าเธอมีเวลาแค่สามวัน เธอจะต้องตายหรือทะลุมิติตามพล็อตนิยายที่เคยอ่าน แม้จะไม่มีเวลาว่างจนอ่านนิยายเหมือนคนทั่วไปแต่ก็ยังมีนิยายพวกนี้ติดห้องไว้เธอจึงตัดสินใจลางานสามวันทันที ที่ลาได้เพราะเธอเคลียร์เคสผ่าตัดไปหมดแล้ว และคนไข้ของเธอก็ไม่มีอาการน่าเป็นห่วง มีเพียงคุณยายเจ้าของกำไลเท่านั้นที่เธอรับเป็นเคสพิเศษ ถ้าหากมีอะไรฉุกเฉินผู้ช่วยของเธอก็คือพยาบาล ห
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-03
Baca selengkapnya

หวังมู่หลิน

"ท่านแม่ น้องเล็กเป็นอย่างไรบางขอรับ" รลินที่รู้สึกตัวแล้วแต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ ได้ยินเสียงพูดคุยของเด็กผู้ชายอายุ15-16ปี กับผู้หญิงอายุประมาณ 37-40ปี "หลินเออร์ ยังไม่รู้สึกตัว ฮึก.. หลินเออร์ นอนนานไปแล้วลูก ฮึก..." เสียงผู้เป็นแม่ร่ำไห้มือก็ลูบหน้ารลินไปด้วย"ท่านหมอหู่ว่าอย่างไรขอรับ น้องเล็กจะตื่นเมื่อใด" ผู้เป็นพี่ยังคงถามอาการน้อง แม้จะพยายามเข้มแข็งเพียงใดแต่เสียงที่สั่นนั้นรับรู้ได้ว่ากำลังเสียใจอย่างที่สุดเพราะกลัวคำตอบของผู้เป็นมารดาว่าน้องสาวนั้นจะไม่รอด"หมอหู่บอกหมดทางช่วยแล้ว ถ้าวันนี้น้องไม่ตื่น ฮึก.. ฮืออออ" ผู้เป็นแม่เอ่ยได้เพียงแค่นั้นก็ร้องไห้เสียงดังจนคนด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาดู"เหมยฮวา หลินเออร์เป็นอย่างไร"ผู้ที่เข้ามาใหม่จากที่รลินฟังน้ำเสียงเป็นชายอายุประมาณ 40-42 ปี "น้องเล็ก ฮือออออ" เด็กคนนี้อะไร ยังไม่มีใครบอกว่าฉันตายเลยจะร้องอะไรขนาดนั้น รลินที่เริ่มจะหงุดหงิดจากเสียงร้องไห้ก็ขมวดคิ้ว พี่ชายคนโตที่สังเกตเห็นรีบร้องออกมาทันที"ท่านพ่อ ท่านแม่ น้องเล็กรู้สึกตัวแล้วขอรับ" พร้อมทั้งกระโดดมาถึงข้างเตียงเพื่อจับมือน้องแล้วเรียกชื่อตตลอดรลินที่รู้สึกว่าถ้ายัง
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-03
Baca selengkapnya

ครอบครัวหวัง

รลินอยู่ในร่างของหวังมู่หลินได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว หมู่บ้านที่เธออยู่นั้นมีชื่อว่า หมู่บ้านชุนหง อยู่ในตำบลชุนไห่ อำเภอโยวโจว อยู่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นฉู่ 1,000 ลี้ (1ลี้=500เมตร) ครอบครัวของเธอไม่มีใครให้เธอหยิบจับทำอะไรเลย ก่อนหน้านี้เธอได้สำรวจกำไลแล้วปรากฏว่าของที่เธอซื้อไว้ตามเธอมาครบทุกอย่างจริงๆ แล้วในกำไลนั้นยังเป็นมิติอีกด้วย โดยของทั้งหมดของเธออยู่ในโกดังขนาดใหญ่อย่างเป็นระเบียบ มีกระท่อมหลังน้อยที่ด้านในไม่น้อยเลย ด้านในของกระท่อมนั้นมีห้องทั้งหมด 4 ห้องนอน 1 ห้องโถง 1 ห้องตำรา และมีห้องน้ำกับห้องส้วมแยกชัดเจน เธอพอใจกับห้องน้ำและห้องส้วมมากด้านนอกของกระท่อมนั้นมีน้ำลำธารกว้างสองจั้ง(1จั้ง=3.33เมตร) มีสวนสมุนไพร สวนผัก ผลไม้ เต็มพื้นที่ไปหมด รลินถึงกับก้มขอบคุณคุณยายที่มอบกำไลนี้ให้เธอ เธอไม่มีเวลาสำรวจพื้นที่ทั้งหมดมากนักเพราะครอบครัวเธอมักจะวนเวียนพลัดเปลี่ยนกันมาคอยดูแลเธอครอบครัวของหวังมู่หลิน1.หวังเจียวจิ้น บิดา อายุ 37 ปี2.เหมยฮวา มารดา อายุ 32 ปี (ไม่มีแซ่ อายุโดยประมาณเพราะความจำเสื่อม ทราบชื่อจากหยกที่พกติดตัวมาสลักไว้ว่าเหมยฮวา)3.หวังเจียวโจว พี่ชายคนโต อายุ 15
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-03
Baca selengkapnya

ขึ้นเขา

ยามอิ๋น(03.00-04.59น.) มู่หลินลุกเตรียมตัวเข้าป่าพร้อมบิดาและพี่ชาย มีเพียงท่านแม่ที่อยู่ดูแลบ้าน บุรุษบ้านหวังถามมู่หลินตลอดทางเดิน"น้องเล็กไหวไหม" พี่ใหญ่"น้องเล็กพักก่อนดีหรือไม่" พี่รอง"หลินเออร์ ขึ้นหลังพ่อไหม" บิดา"หลินเออร์...""น้องเล็ก...""..."มู่หลินครั้งนี้เข้าป่ามาหลายคนจึงทำการวางกับดักนั้นเร็วยิ่งขึ้น พอเข้ายามซื่อ(09.00-10.49น.) บิดาจึงเดินหาที่นั่งพักบริเวณลำธารเพื่อพาบุตรชายหญิงกินอาหารเช้า อาหารที่พกมาก็เป็นพวกแผ่นแป้ง มู่หลินที่กินแผ่นแป้งไม่ลงเนื่องจากทุกวันที่ผ่านมาจะมีแต่แผ่นแป้งกับน้ำข้าวเท่านั้น เธอเดินไปสำรวจลำธารเพื่อมองหาลู่ทางในการจับปลา พี่ชายทั้งสองเมื่อเห็นมู่หลินก้มหน้าทำอะไรที่ริมลำธารจึงเดินเข้าไปดูน้องสาวด้วยความเป็นห่วงกลัวน้องน้อยจะตกน้ำ(น้ำก็แค่เข่า) "น้องเล็กเจ้าทำอันใด" พี่ใหญ่ที่เห็นน้องเล็กเอาก้อนหินมาวางล้อมเป็นหลุมด้วยความสงสัยจึงเอ่ยปากถามไป"น้องกำลังทำหลุมดักปลา" "ปลาว่ายเร็วเพียงนี้ จะเข้าหลุมที่เจ้าทำได้เช่นใด""อ๊ะ นะ นั่น น้องเล็กปลาเข้ามาแล้ว"พี่รองที่กำลังจะสอบถามมู่หลินตามแบบพี่ใหญ่ก็ต้องตกใจที่มีปลาหลูยวี(ปลากะพง) ตัวใหญ่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-03
Baca selengkapnya

ความลับที่น่าตกตะลึง

ระหว่างทางลงเขาจนถึงบ้านนั้น มีชาวบ้านทักตลอดทาง ต่อให้บุรุษบ้านหวังพยายามทำตัวปกติแค่ไหนก็มีคนสงสัยอยู่ดี โดยเฉพาะ นางไฉ่หง เพื่อนสาวของนางจากชุนสะใภ้รองบ้านหวัง "โอโยว เจียวจิ้นพวกเจ้ากับบุตรชายแบกอะไรลงมากันมากมายเพียงนี้" มู่หลินปรายตามองนางไฉ่หง ที่เป็นสาวอวบเกือบจะอ้วนแล้ว โบกแป้งหนาจนคิดว่าใช้แป้งสาลีทาหน้า ปากที่แดงจนแทบจะเรียกได้ว่าแดงจนเหมือนคนกินเลือดมา ทำไมแต่งแบบนี้ถึงกล้าออกจากบ้านกันนะ"ข้าได้ผักป่ากับปลามานิดหน่อย" บิดาแสนซื่อของข้านั้นตอบกลับอย่างว่าง่ายทันที นางไฉ่หงที่ถือวิสาสะเดินมารื้อตะกร้า ไวกว่านางไฉ่หงก็มู่หลินนี่แหละ นางดีดก้อนหินไปที่ข้อเท้านางไฉ่หง ทำให้นางไฉ่หงสะดุดล้มหน้าทิ่มดิน แถมดินยังเข้าปากเพราะมั่วแต่พูดมากไม่ทันได้หุบปากตอนล้มลง ปากที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปอีกเพราะเป็นเลือดที่ไหลออกมาจากฟันที่หักไปซี่หนึ่ง "กรี๊ดดดด พวกเจ้าพลักข้าใช่หรือไม่" ดีที่บุรุษบ้านหวังทั้งสามยืนห่างนางไฉ่หงตั้งห้าก้าว แล้วชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ช่วยพูดให้ด้วย เพราะเป็นนางไฉ่หงที่ล้มลงไปเอง "นี่ ไฉ่หง เจ้าล้มเองแล้วจะโทษเจียวจิ้นกับบุตรได้อย่างไร" นางเจียงอิน
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-04
Baca selengkapnya

เข้าเมืองขายเห็ด

เช้าที่สดใสของมู่หลินคนเดียว เพราะคนอื่นนั้นขอบตาดำเนื่องจากแทบไม่ได้นอนเลย มู่หลินที่เหมือนยกหินออกจากอกก็ดูอารมณ์จะดีเป็นพิเศษ นางสามารถเอาของในมิติออกมาทำกินได้แล้ว ท่านแม่ให้เติมข้าวสารแค่ครึ่งถัง กับเครื่องปรุงที่เอาออกมาวางไว้ได้ก็มีแค่เกลือกับน้ำตาลอย่างละนิดหน่อย หากใครมาที่บ้านแล้วเห็นของมากมายคนจจะสงสัยเอาได้อาหารที่มู่หลินทำเช้านี้ นางไม่ได้ทำอะไรมากเพราะเป็นมื้อเช้า มู่หลินต้มข้าวต้มหมูสับ ทอดปาท่องโก๋กินคู่กัน แล้วนางยังนำนมออกมาบำรุงทุกคนในบ้านด้วยเพราะเนื่องจากขาดสารอาหารเป็นเวลานานร่างกายแต่ละคนจึงผอมเกินไป พี่ใหญ่ พี่รองและตัวมู่หลินนั้นก็ดูจะไม่โตเต็มวัยเหมือนเด็กในรุ่นเดียวกันหลังจากกินอาหารเช้าแล้วท่านพ่อพาบุตรทั้งสามเดินทางเข้าเมือง ท่านแม่นั้นไม่ไปด้วยเพราะต้องการตัดชุดให้กับทุกคนแทน เมื่อคืนก่อนออกจากมิติมู่หลินพาท่านแม่ไปเลือกผ้าที่จะใช้ตัดชุดผ้าที่มู่หลินซื้อมาเก็บไว้นั้นมีทั้งผ้าฝ้ายเนื้อหยาบไปจนถึงผ้าไหมเนื้อดี ถ้าต้องให้ท่านแม่เป็นคนเลือกเพราะชาวบ้านจะได้ไม่สงสัยเกินไป ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ใส่ทำงานนั้นหนึ่งพับประมาณ100-200อีแปะ ชาวบ้านโดยทั่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-04
Baca selengkapnya

ซื้อที่ดิน

หลังจากตรวจสอบเห็ดหลินจือ ดอกใหญ่สาม ดอกกับดอกเล็กห้าดอกแล้ว หมออู๋ก็ถามกับมู่หลินว่าต้องการรับเป็นตั๋วเงินทั้งหมดเลยหรือตำลึงด้วย ที่หมออู๋ต้องเจรจากับมู่หลินนั้นเป็นเพราะบุรุษทั้งสามคนวิญญาณได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเรียบร้อยแล้ว"ข้าต้องการทำเรื่องฝากเงิน 8,500 ตำลึงทอง รับเป็นตั๋วเงินใบละ 500 ตำลึง 9 ใบ กับ100 ตำลึง 4 ใบ ที่เหลือขอเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอีแปะเจ้าค่ะ"แม้แต่หลงจู๊ที่กำลังคำนวนเงินจากลูกคิดอยู่กันยังตกใจแทบหงายหลังกับการคิดคำนวนของมู่หลินโดยไม่ต้องใช้ลูกคิดหมออู๋หัวเราะอย่างชอบใจกับความฉลาดของมู่หลิน พร้อมทั้งยังบอกอีกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือจะนำสมุนไพรมาขายอีกเมื่อไรก็ย่อมได้เสมอ เมื่อได้ป้ายฝากเงินเป็นชื่อของเจียวจิ้นแล้ว และรับตั๋วเงินตัวตำลึงเงินมาแล้วทั้งหมดก็ขอตัวกับท่านหมออู๋ตอนแรกสติของบุรุษบ้านหวังยังกลับมาไม่ครบแต่พอฟังคำพูดของมู่หลินแล้ว สติก็รีบกลับเข้าที่ทันที"พวกท่านกลัวพวกโจรไม่รู้หรือเจ้าคะ ว่าพวกท่านมีเงิน ข้าหิวแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ" ทุกคนเลยลงความเห็นกันว่าจะไปกินบะหมี่เนื้อทุกคนกินบะหมี่เนื้ออย่างเอร็ดอร่อย บุรุษบ้านหวังทั้งสามล้วนแต่สั่งเพิ่ม
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-11
Baca selengkapnya

จัดการที่ดิน

เมื่อทั้งสี่คนกลับถึงบ้าน หวังเจียวจิ้นก็นำเงินออกมาให้นางเหมยฮวาทันที นางเหมยฮวาแทบเป็นลมเมื่อรู้ราคาขายเห็ดหลินจือ และรู้เรื่องที่ซื้อที่ดินเพิ่ม นางไม่ต่อว่าที่ทุกคนตัดสินใจโดยไม่บอกนางนางดีใจจนหลั่งน้ำตาออกมา ที่หน้าหนาวปีนี้ครอบครัวหวังจะผ่านช่วงเวลาโหดร้ายของฤดูกาลไปได้ นางเหมยฮวาดึงมู่หลินมากอดพร้อมกล่าวขอบคุณสวรรค์ที่มอบสิ่งดีๆ ให้แกครอบครั้งตนเองหน้าหนาวทุกปีบ้านหวังทั้งห้าต้องมานอนเบียดกันในห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กัน เพราะไม่มีชุดหนาๆ ใส่ ผ้าห่มก็บางจนแทบจะต้องทิ้งไปทำผ้าขี้ริ้วแล้วหลังมื้อเย็นครอบครัวหวังก็เข้านอนอย่างมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะหาอะไรให้ครอบครัวกิน ไม่ต้องห่วงน้องเล็กจะไข้ขึ้นตอนไหนก่อนแยกกันมู่หลินบอกให้พี่ใหญ่กับพี่รองเตรียมตัวฝึกกับนางพรุ่งนี้ยามอิ๋น(03.00-04.59น.) ท่านพ่อที่อยากจะแข็งแกร่งเพื่อดูแลครอบครัวเพราะตนเองที่เป็นถึงหัวหน้าก็อยากจะปกป้องลูกสาวและทุกคน ไม่อยากจะอ่อนแอเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วก็เข้าร่วมการฝึกด้วยวันแรกของการฝึก มู่หลินให้ทุกคนวิ่งจากบ้านขึ้นเขาเป็นระยะทาง 2 ลี้ ไปกลับห้ารอบ เพราะร่างกายข
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-10-11
Baca selengkapnya
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status