รังสิมันตุ์เงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะวางชุดตรวจและกล่องลงพร้อมกับยื่นมือมากุมแขนหญิงสาวเอาไว้ “แต่เราไม่อยากให้มันจบแค่นี้”
คราวนี้เขาไม่ได้พูดด้วยหน้าตานิ่ง ๆ หรือออกไปทางทะเล้นใด ๆ แต่กลับเป็นใบหน้าที่จริงจัง “ที่ผ่านมาทั้งหมดเราพูดเล่น จากนี้ไปคือของจริง”
“ห๊ะ”
“ซอโซ่ สำหรับเราคืนนั้นมันคือพรหมลิขิต ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็สัญญากับตัวเองแล้ว ว่าเจอเธออีกครั้งเมื่อไหร่ เราจะไม่ยอมให้ทุกอย่างมันจบง่าย ๆ” น้ำเสียงจริงจังที่ส่งมาทำให้ศศิรินทร์ที่เริ่มปรับอารมณ์ได้หัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะ เขาเองก็ไม่อยากจบใช่มั้ย เป็นอย่างนั้นใช่มั้ย
ชายหนุ่มไม่พูดเพียงแค่นั้นแต่ยังยื่นบางสิ่งมาตรงหน้าเธอและพูดต่อด้วยน้ำเสียงวิงวอน “ยอมมาเป็นคุณนายของเราเถอะนะ เราสัญญาเราจะไม่เป็นแบบแฟนเก่าของเธอเด็ดขาด”
จิตใจตอนนี้มันปนเปไปด้วย
แม้ชายหนุ่มจะคิดว่าจะไม่ขัดใจบ่อยนักแต่ในความเป็นจริงก็ขัดใจหญิงสาวอีกหลายครั้งทีเดียวเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ศศิรินทร์ไปเลือกดูล้วนแต่เป็นของชั้นดีราคาแพงทั้งนั้น จากร้านนั้น ไปร้านนี้ และอีกหลาย ๆ ร้าน เขาก็ไม่วายต้องส่งเสียงขัดขึ้นบ่อย ๆจนคนถูกขัดค้อนมาก็หลายที แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะขัด...มันแพงเกินไปจริง ๆ นะแต่สุดท้ายของฝากติดไม้ติดมือที่หญิงสาวได้ไปฝากพ่อแม่ของรังสิมันตุ์ก็เป็นกระเช้าเครื่องดื่มรังนกชั้นดีและผ้าไหมไทยเกรดพรีเมี่ยมสำหรับตัดชุด สำหรับรังสิมันตุ์แล้วเขารู้สึกว่าราคาไม่ใช่น้อย ๆ แต่หลังจากที่ขัดมาหลายร้านก็ไม่อยากจะขัดหญิงสาวมากเกินไปจึงจบที่ของสองสิ่งนี้และถ้าลองคิดดูแล้วแม่ของเขาเป็นคนมีหน้ามีตาคนนึงในหมู่บ้าน ไม่ว่างานไหน ๆ ก็ถูกเชิญไปร่วมและออกงานทุกครั้งก็มักจะสวมใส่ผ้าไหมให้เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ได้ผ้าไหมไปตัดชุดใหม่ก็คงจะถูกอกถูกใจ ส่วนพ่อของเขาแทบจะไม่มีปากมีเสียงในบ้าน ไม่
และแล้วมื้อเที่ยงก็จบลง อาทิตยะแยกกลับกับภาสกรส่วน‘คู่รัก’ ที่ทำให้อาทิตยะทั้งสุขทั้งเศร้าแม้จะแยกจากอีกสองคนแต่ก็ไม่ได้ตรงดิ่งกลับที่พักแต่ชายหนุ่มกลับถูกหญิงสาวพาไปในสถานที่ที่เขาไม่เคยคิดจะเข้า...เธอาเขามาร้านกระเป๋าหรูที่เขาไม่เคยคิดจะเข้า“แม่เธอจะชอบมั้ย?” กระเป๋าหรูราคาหลักแสนถูกโชว์ให้ดูพร้อม ๆ กับคำถามแต่แล้วไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบกระเป๋าอีกใบก็มาอยู่ที่มืออีกข้างของศศิรินทร์แล้ว “แล้วใบนี้ล่ะ แม่เธอจะชอบมั้ย”“เราว่าไม่” “ทำไมล่ะ” คนได้รับคำตอบที่ต่างไปจากสิ่งที่อยากให้เป็นถามอย่างขัดใจอยู่ลึก ๆ เธออุตส่าห์คิดว่าการเจอกันครั้งแรกมีกระเป๋าสวย ๆ ติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากของขวัญน่าจะดีแท้ ๆ ทำไมรังสิมันตุ์ถึงตอบว่าไม่ล่ะ นี่เธอหยิบใบที่สวยที่สุดแล้วนะนายตำรวจหนุ่มยิ้มแหย ๆ ดูราคาที่ติดป้ายแ
ศศิรินทร์และภาสกรนั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศมาคุทว่ามีเพียงแค่ภาสกรที่รับรู้ เพราะศศิรินทร์ที่เข้ามานั่งหลังเพื่อนกำลังสนใจอยู่กับการสั่งอาหาร ซึ่งเป็นปกติของสาวเจ้าที่ให้ความสำคัญกับอาหารมากกว่าสิ่งต่าง ๆ บนโลก ภาสกรยกมือขึ้นพัดไปมาราวกับว่าอาการตรงนี้มันร้อนยิ่งกว่าไฟนรกพร้อมกับบ่นให้เพื่อนสาวในใจอย่างคนที่ไม่กล้าจะพูดอะไรดูซิดู ผู้ชายสองคนเขามองกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อจะเปิดศึกชิงนางอยู่มะลอมมะล่อแต่นางที่จะถูกชิงกลับเอาแต่สนใจของกิน ทำเอาเขาหายใจหายคอไม่คล่องเอาซะเลยรู้ตัวสักทีได้มั้ยแม่คุ๊ณแม้ว่าอยากจะส่งกระแสจิตบอกศศิรินทร์ให้รู้ตัวแต่ท่าทีของหญิงสาวในตอนนี้แม้แต่กระแสจิตก็คงไม่ฟังแล้วล่ะทำไมถึงได้กลายเป็นคนสนใจแต่เรื่องกินแบบนี้ไปได้นะ“แพตตี๊กินอะไรดี สั่งอะไรเพิ่มอีกมั้ย” สิ่งที่ได้รับกลับมาจากศศิรินทร์ไม่ใช่ท่าทีรู้ตัวแต่เป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!“พี่โซ่ขา มีผู้ชายมาหาแหน่ะ” เสียงของกฤติกาที่เปิดประตูเข้ามายุติบรรยากาศตัดสินใจยากของศศิรินทณืได้ในชั่วพริบตาจนหญิงสาวต้องหันไปมอง ใบหน้าของกฤติกาออกจะทะเล้นก่อนที่อีกฝ่ายจะขยับให้ ‘ผู้ชาย’ ที่พูดถึงให้คนเป็นเจ้านายได้เห็นไม่ใช่พิชญะ และก็ไม่ใช่คนที่กำลังพูดถึงกัน ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์แบบนี้คนที่จะเข้ามาที่บริษัทมีไม่มากและหนึ่งในนั้นก็คือคนที่มาหาบอสของบริษัทในตอนนี้...อาทิตยะภาสกรมองเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมที่โผล่หน้ามาทักทายก่อนจะลอบพ้นหายใจหนัก ๆ วันก่อนโน่นอาทิตยะล้วงความลับจากเขาไปได้ไม่น้อย แต่แทนที่ว่าหมดความสงสัยแล้วจะทำหน้าที่ของตัวเองไปเงียบ ๆ เจ้าเพื่อนบ้านี่กลับมาวุ่นวายกับศศิรินทร์แทบทุกวันวันก่อนก็มาทักทายแต่เช้า เมื่อวานก็แวะมาตอนเที่ยง วันนี้ที่เป็นวันหยุดก็ยังเข้ามา...ถึงแม้จะมีข้ออ้างว่ามาประชุมทีมก่อนจะเปิดกล้องละครอาทิ
Rrrr.เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลปลุกให้คนที่นั่งหลับอยู่บนโซฟารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ตาคู่สวยมองเข็มของนาฬิกาข้อมือก่อนจะมองดูหมายเลขที่โทรเข้ามาเธอนั่งรอโทรศัพท์จากรังสิมันตุ์อยู่ที่โซฟาตัวนี้จนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เจนตอนนี้สี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว...ไม่รู้สึกตัวเลยนะเนี่ยคนเผลอหลับไปไม่รู้ตัวส่ายหน้ากับตัวเองก่อนจะกดรับสายที่รออยู่นานแล้ว แม้จะยังไม่ได้บันทึกชื่อแต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นใคร “ฮัลโหล”“เราเองนะ” เสียงที่กรอกมาเป็นรังสิมันตุ์ไม่ผิดไปจากที่หญิงสาวคิด ศศินทร์ขยับนั่งในท่าที่สบายขึ้นก่อนจะถามกลับ“ถึงแล้วเหรอ”“ใช่ เพิ่งเปิดไฟในห้องเนี่ย”“เธอออกไปตั้งแต่ไม่ทันสองทุ่ม ทำไมถึงดึกจัง” หญิงสาวถามด้วยความประ
เดอะชายน์ คอนโดมิเนียมสายตาคู่คมกริบมองสำรวจห้องชุดสุดหรูที่ให้ความรู้สึกสบายตาและเรียบหรูทันสมัยอยู่ในทีก่อนจะหยุดสายตาที่เจ้าของห้องที่กำลังกินข้าวมันไก่อยู่ข้าง ๆพอมาลองคิด ๆ ดูแล้วศศิรินทร์จัดอยู่ในระดับรวยมากจริง ๆ แตกต่างไปจากเขาที่อยู่ในชั้นปานกลาง การที่คนระดับเธอตัดสินใจมาเกี่ยวข้องกับเขามันก็เปรียบได้กับดอกฟ้าที่โน้มลงมาหาหมาวัดเลยล่ะแต่หมาวัดตัวนี้ไม่ปล่อยให้ความต่างเรื่องฐานะมาเป็นปัญหาหรอก“เธอนี่เงียบเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ” คิดอยู่เงียบ ๆ หญิงสาวก็ส่งเสียงขัดความคิดขึ้นพร้อมกับวางจานเปล่าลงบนโต๊ะและหยิบผ้ามาเช็ดปาก “ขอบคุณนะที่ซื้อมาฝาก อร่อยมาก ๆ เลย”“เจ้ดาได้ยินคงดีใจ”“ไว้เจอกันคราวหน้าเราจะบอกให้เจ้ดาได้ยิน” พูดแค่นั้นก็เหมือนไม่มีเรื่องจะให้พูดคุยกันต่อ และถ้าให้