Share

บทที่ 5

Penulis: คุณชายสายฝน
คำพูดบิดเบือนพวกนั้นออกมาจากปากของเด็กกลุ่มนั้น แต่เจียงซู่กลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

จะให้คนบลู่ลี่มาพูดโดยใช้หลักของเหตุและผล มันเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี

“ช่วยด้วย...”

เด็กหนุ่มที่ตกลงไปในน้ำว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งตอนนี้เขากำลังดิ้นรนอยู่เพื่อเอาตัวรอดอยู่ในน้ำ

เหล่าบรรดาเด็กหนุ่มสาวที่ยืนอยู่บนฝั่งไม่มีใครคิดจะลงไปช่วยเลยสักคน แถมยังเริ่มสั่งการด้วยว่า “แกยังไม่รีบลงไปช่วยขึ้นมาอีก ถ้าฉินควานเป็นอะไรไป ตระกูลฉินไม่ปล่อยแกไว้แน่!”

เจียงซู่มองดูคนที่กำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนอยู่ในน้ำ และสุดท้ายก็เป็นเธอที่เป็นคนลงมือ

ประโยคสุดท้ายของเด็กคนนั้นเป็นแรงกดดันที่ทำให้เธอเริ่มเกิดหวาดกลัว เพราะถ้าเด็กนั่นเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ และต้องอยู่ภายใต้คำให้การของเด็กกลุ่มนี้แล้วนั่น เธอก็จะกลายเป็นฆาตกรที่สังหารผู้เยาว์ทันที

พวกเด็กเหล่านั้นที่อยู่เหนือฟ้าและกฎหมายกล้าทำอย่างนั้นจริง ๆ

ถ้าหากเหตุการณ์มันมาถึงจุดนั้นจริง ไม่ว่าจะเป็นการประนีประนอมยอมความ หรือการปกป้องตัวเอง หรือแม้แต่การชดใช้พร้อมคำขอโทษ สุดท้ายเธอก็เป็นผู้ถูกทอดทิ้งอยู่ดี

เพราะโจวซือเหย่ไม่มีทางต้องการภรรยาที่เป็น ‘ฆาตกร’

เธอมองไปยังโจวหว่านซินที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าสนุกสนาน มองดูเธอถูกกลั่นแกล้งตามกระบวนการที่ได้วางไว้อย่างพึงพอใจ

เจียงซู่วางกระเป๋าไวที่ริมฝั่ง ก่อนจะเริ่มถอดรองเท้าพร้อมกับกระโดดลงไปช่วยอย่างรวดเร็ว

แต่เธอประเมินความแสบของเด็กพวกนี้ต่ำไป เดิมทีเด็กหนุ่มที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ จู่ ๆ ก็เคลื่อนไหวคล่องแคล่วราวกับปลาไหล และจับคนตรงหน้าที่ตั้งใจจะมาช่วยชีวิตกดลงน้ำ

ด้วยความที่เจียงซู่ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงสำลักน้ำอย่างรุนแรง

“แค่ก แค่ก...”

ใบหน้าของเด็กหนุ่มฉีกยิ้มด้วยความร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด

เจียงซู่ได้แต่มองดูเด็กผู้ชายคนนั่นว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง เธอได้แต่เยาะเย้ยตัวเองในใจว่าตัวเองเป็นคนโง่ ทำไมถึงไปหลงเชื่อได้ง่าย ๆ ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นว่ายน้ำไม่เป็น

ไม่ว่าเธอจะรับผิดชอบหรือไม่ และถ้าเรื่องถึงแก่ชีวิตขึ้นมา พวกเด็กกลุ่มนั้นก็ไม่สามารถรอดพ้นไปได้เหมือนกัน

ในขณะที่เจียงซู่กำลังจะว่ายขึ้นฝั่ง พวกเขากลับเก็บก้อนหินบนพื้นปาใส่ตัวเธอ ราวกับเด็กที่ยังเล่นไม่เต็มอิ่ม

น้ำที่กระเซ็นเข้าที่ดวงตาของเธอ ทำไมมองไม่ชัดไปชั่วขณะ จึงไม่สามารถขึ้นฝั่งได้

“หว่านซิน พี่เลี้ยงบ้านเธอใช้กระเป๋าแอร์เมสด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าขโมยมาใช้หรอกนะ”

ใบหน้าทรงไข่ได้รูปอันสวยงามของโจวหว่านซินแสดงความรังเกียจออกมา เธอถีบกระเป๋าของเจียงซู่ที่วางอยู่ตรงพื้นกระเด็นตกลงไปในน้ำ

เธอแอบหวังว่ากระเป๋าของเจียงซู่ใบนี้มาจากการขโมยจริง ๆ จะได้แจ้งตำรวจจับให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอรู้ดีว่าทั้งหมดนี้ซื้อว่าด้วยเงินพี่ชายของเธอเอง!

สำหรับพี่สะใภ้ในนามคนนี้ เธอดูหมิ่นดูแคลนเป็นอย่างมาก รังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อของตระกูลเธอราวกับปลิงไม่มีผิด

ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายของเธอประสบอุบัติเหตุแล้วล่ะก็ จะมีเหรอที่ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้จะได้มาเป็นพี่สะใภ้เธอ!

“ก็แค่ของปลอม”

ไม่รู้สิ่งที่อีกคนพูดนั่นหมายถึงกระเป๋า หรือหมายถึงเจียงซู่กันแน่

ใช่แล้ว การมาประชุมผู้ปกครองของเธอไม่ได้มาในนามพี่สะใภ้ แต่มาในนามพี่เลี้ยงต่างหาก ตามที่เด็กพวกนั้นพูด

และไม่ต้องถามเลยว่าทำไมพี่เลี้ยงถึงมีสิทธิ์ได้เข้าประชุมผู้ปกครอง เหตุผลสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยคือ โจวหว่านซินเต็มใจเอง

และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเจียงซู่ไม่อยากมาประชุมผู้ปกครอง เพราะเธอไม่อยากเป็นหนึ่งในความบันเทิงของพวกเขา

ครั้งแรกที่เธอมาประชุมผู้ปกครองให้โจวหว่านซิน เธอเหมือนกับคุณย่าที่มีความสุขมากจนแทบขาดใจ เธอคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับสักที

แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าสิ่งที่รอเธออยู่ไม่ใช่การยอมรับ แต่มันคือการถูกกลั่นแกล้งต่างหาก ทันทีที่เจอโจวหว่านซิน เธอก็ถูกพวกเขาสาดด้วยน้ำสกปรกหนึ่งถังอย่างไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้า

สภาพเธอดูน่าสมเพชมาก

หัวใจของเจียงซู่ไม่ใช่ก้อนหินที่จะสามารถแข็งแกร่งได้ตลอดเวลา การที่เธอถูกน้องสาวสามีเรียกพรรคพวกมารุมหยามเธอแบบนี้ เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ใช่น้อย

ทันใดนั้น เธอก็รู้เจ็บที่บริเวณหน้าผากจากการโดนหินปาใส่

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็ปาโดนแล้ว”

ผู้ที่ลงมือตรงหน้าพูดขึ้นด้วยความดีใจและตบมือชอบใจอยู่บนฝั่ง

เจียงซู่มองเด็ก ๆ ที่ยืนอยู่บนฝั่ง ความรู้สึกเจ็บปวดเอ่อล้มราวกับว่ากำลังแบกรับความเจ็บปวดของคนทั้งโลกไว้อยู่

เธอที่กำลังอายุเข้าเลขสามแล้ว ต้องมาถูกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกลั่นแกล้งรังแก

เมื่อเด็กสารเลวพวกนี้เติบโตเริ่มเข้าสู่สังคม ต้องมีคนอีกมากมายที่กลายเป็นเครื่องมือความบันเทิงของพวกเขา และไม่มีใครสามารถเอาผิดพวกเขาได้ เพราะมีพ่อแม่อำนาจล้นฟ้าที่คอยกลบขี้ให้ลูกอยู่ข้างหลัง

โจวซือเหย่ทำลายความจริงใจของเธอ ส่วนน้องสาวของเขาก็เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ สมกับเป็นพี่น้องกันจริง ๆ

ความรู้สึกภายในใจเจียงซู่ที่ถูกกดทับมาเป็นเวลานานจนไม่สามารถกลั้นไว้ได้แล้ว ในเมื่อเธอไม่คิดที่จะรักษาโจวซือเหย่ไว้อยู่แล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องเอาใจน้องสาวสามีตรงหน้าอีกต่อไป!

เธอว่ายน้ำอ้อมไปขึ้นฝั่งอีกด้าน และตรงไปหาเด็กผู้หญิงที่เพิ่งปาหินใส่เธอเมื่อครู่โดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เธอจับเด็กคนนั้นผลักลงไปในน้ำ พร้อมกับดึงผมและกดหัวลงน้ำ เด็กผู้หญิงคนนั้นสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก

“แกทำอะไรน่ะ!? ”

ทุกคนต่างตกตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงซู่จะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้!

เจียงซู่หันกลับไปมองกลุ่มของโจวหว่านซิน “สนุกไหม? ”

แผลที่หน้าผากของเธอเริ่มมีเลือดซึมออกมาและไหลไปตามมุมหน้าผากจนเข้าตา เป็นภาพที่ดูน่ากลัวและดุร้ายในเวลาเดียวกัน ในชั่วขณะนั้น เธอราวกับปีศาจรากษสที่ออกมาจากนรกเพื่อมาทวงคืนชีวิต

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โจวหว่านซินเห็นเจียงซู่ดุร้ายขนาดนี้ เพราะปกติเธอจะเป็นคนยอมคนเหมือนลูกเจี๊ยบในกำมือ ใครจะทำอะไร รังแกเธออย่างไรก็ได้เหมือนเบี้ยล่าง

“เจียงซู่ แกบ้าไปแล้วหรือไง? ยังไม่ปล่อยอีก!”

เจียงซู่มองไปยังเจ้าของคำพูดเมื่อครู่พร้อมกับถามว่า “เล่นพอหรือยัง?”

โจวหว่านซินเหมือนถูกอีกคนทำให้ขายหน้า จึงข่มขู่ขึ้นมาว่า “แกไม่อยากอยู่ในบ้านตระกูลโจวแล้วใช่ไหม!? ”

เมื่อเห็นอีกคนกล้าขัดขืนต่อต้านตัวเองขนาดนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องไปนินทา ใส่ร้ายให้พี่ชายตนเองฟังอย่างแน่นอน

เจียงซู่ดึงมือกลับพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ใช่ ไม่อยากอยู่แล้ว”

เมื่อครู่เธอเสียการควบคุมไปชั่วขณะจึงเผลอลงมือกับเด็กคนนั้นลงไป

เด็กผู้หญิงว่ายเข้ามาเกาะริมฝั่ง พร้อมกับไอสำลักน้ำและหายใจหอบไม่หยุด เพื่อน ๆ เห็นดังนั้นจึงรีบไปช่วยกันดึงเธอขึ้นมาจากน้ำ

เจียงซู่เดินเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดเสียงเบาให้มีเพียงแค่เขาและคนตรงหน้าได้ยินเท่านั้น “เกลียดฉันมากนักไม่ใช่เหรอ แน่จริงก็ทำให้พี่ชายแกมาหย่ากับฉันสิ”

ถ้าพูดถึงคนทั้งตระกูลโจวแล้ว คนที่อยากให้เธอไสหัวออกไปมากที่สุดก็คือโจวหว่านซิน คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้

โจวซือเหย่รักน้องสาวคนนี้มาก หากมีเธอคอยช่วยอยู่เบื้องหลังเติมไฟยุยงเรื่องหย่า จะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน

เจียงซู่หวังว่าเธอจะทำสำเร็จ

โจวหว่านซินผลักเธอออกด้วยท่าทางรังเกียจที่เธอเข้าไปใกล้ “แกคิดว่าฉันทำไม่ได้เหรอ?”

เจียงซู่ถอยออกหนึ่งก้าวด้วยแรงผลักของอีกคนก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคงทีหลัง และมองด้วยสายตายั่วยุ “งั้นก็ทำให้ดูหน่อยละกัน ไม่งั้นฉันรอสมน้ำหน้าอยู่”

เธอรู้จักคนตรงหน้าดี โจวหว่านซินเป็นคนไม่ชอบการโดนท้าทายมากที่สุด

เจียงซู่หยิบกระเป๋าที่ยังไม่จมขึ้นมาจากน้ำด้วยความรู้สึกเสียดาย

พวกคนไร้ศีลธรรม กระเป๋าแพงขนาดนี้ยังกล้าเตะลงน้ำอีก ไม่รู้กระเป๋าที่ตกน้ำแล้วยังจะขายได้อยู่ไหมนะ

ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้คุณย่าเห็นว่าเธอใช้ชีวิตกินอิ่ม อยู่ดีมีสุข เธอคงไม่สะพายออกมาหรอก

รู้สึกกระเป๋าเสียหายค่อนข้างมาก กลับไปต้องให้โจวซือเหย่ชดเชยให้มากขึ้นกว่านี้

โจวหว่านซินจ้องมองแผ่นหลังของเจียงซู่ที่กำลังเดินจากไป เพื่อนร่วมชั้นของโจวหว่านซินเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “ซินซิน พี่เลี้ยงบ้านเธอกำเริบใหญ่แล้วนะ กล้าพูดกับเธอถึงขนาดนี้ ท่าทางเหมือนไม่อยากทำงานต่อแล้วอย่างงั้น? ”

โดยเฉพาะวันนี้ เธอหยิ่งผยองเอามาก ๆ

เมื่อก่อนตอนที่ถูกรังแก ไม่เคยจะเห็นว่าเธอจะต่อต้านรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

สีหน้าโจวหว่านซินก็ไม่สู้ดีนัก เธอได้แต่กัดฟันแน่น

คอยดูเถอะ เธอจะให้พี่ชายจัดการนางผู้หญิงเลวนั่นให้ได้!

โจวหว่านซินหันไปมองเด็กผู้หญิงที่ถูกเจียงซู่กดลงน้ำ และเริ่มพูดแผนการในหัวออกมา “เหยาเจีย เธอกลับไปบอกแม่ของเธอว่าถูกรังแก”

แม่ของเหยาเจียเป็นคนอารมณ์รุนแรง ขี้โมโห คอยดูเถอะ เจียงซู่เตรียมรับศึกหนักที่กำลังจะมาถึงได้เลย!
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 100

    เจียงซู่ดันชามโจ๊กทะเลตรงหน้าออกไป “ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”โจวซือเหย่มีสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย เขายังคงรอคำขอบคุณจากเจียงซู่ แต่ไม่คิดว่าจะได้คำพูดที่ทำให้เขาอารมณ์เสียป้าเฉินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอแอบชำลืองมองโจวซือเหย่ และพยายามที่จะช่วยคลี่คลาย “คุณผู้หญิงคะ การทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด ๆ ต้องใช้เวลามาก จะไม่ทันอาหารเช้านะคะ”เจียงซู่ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าเฉินก็มองไปที่โจวซือเหย่อีกครั้ง แล้วโจวซือเหย่ก็โบกมือให้เธอไปทำเมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเฉินจึงไม่พูดอะไรอีกและรีบไปที่ห้องครัวโจวซือเหย่มองขาที่ยังคงเข้าเฝือกของเธอ “คุณไม่ต้องไปที่ทำงานแล้ว พักรักษาตัวที่บ้านให้ดี พอหายดีแล้ว ถ้ายังอยากทำงานเดิมอยู่ ผมจะจัดหาที่ทำงานใหม่ให้”เขาหมายความว่าไง?เขาคิดว่าการที่เธอมีเพศตรงข้ามอยู่รอบตัวจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายใช่ไหม? เขาต้องการที่จะกำจัดคนรอบตัวเธอใช่ไหม?สำหรับพฤติกรรมสองมาตรฐานของเขา เจียงซู่รู้สึกว่ามันน่าขำ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆโจวซือเหย่ “ขอแค่คุณยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน เชื่อฟังและทำตัวดี ๆ ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 99

    โจวซือเหย่คิดว่าการที่เธอแต่งงานกับเขาเป็นการขายตัวหรือไง?เขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?เป็นโสเภณีหรือไง?เจียงซู่กัดฟันกรามแน่น ราวกับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่แตกสลาย เธอกลืนความปวดร้าวในลำคอ และเบิกตากว้าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา“ฉันเสียใจ”เธอเสียใจที่แต่งงานกับเขาเขาจะไม่ชอบเธอก็ได้ แต่เขาไม่ควรเหยียบย่ำหัวใจของเธอแบบนี้เธอเพ้อฝันอยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าหยดน้ำจะทำให้หินกร่อนได้ แต่เธอกลับลืมไปว่าหัวใจของเขานั้นแข็งเสียยิ่งกว่าหิน มันทำจากเหล็กกล้าเมื่อเห็นความแตกสลายอย่างชัดเจนในดวงตาของเธอ โจวซือเหย่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเจียงซู่พึมพำคำเดิม “ฉันเสียใจ”โจวซือเหย่ไม่เข้าใจว่าความเสียใจของเธอหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่สนใจที่จะรู้ด้วย แต่จู่ ๆ เขาก็ผลักเธอล้มลงไปเจียงซู่ที่ตอบสนองช้าไปครึ่งก้าว กว่าจะรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไร เขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้ว เธอพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่“ฉันไม่ทำ!”โจวซือเหย่จับข้อมือของเธอตรึงไว้ที่เหนือศีรษะ และใช้ขาอีกข้างล็อกขาเธอที่พยายามขัดขืน“คุณเลิกคิดเรื่องหย่าได้เลย ตระกูลโจวไม่มีทางเกิดเรื่องอื้อฉาวอย่างเรื่องหย่าร้างเด็ดขาด” โจวซื

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 98

    เจียงซู่ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ความทรงจำที่ขาดหายไปของเธอยังคงอยู่ที่ตอนที่เว่ยชิงหางจะไปส่งเธอกลับบ้าน“รุ่นพี่ ขอบคุณที่มาส่งฉันกลับบ้านนะคะ”คำพูดของเจียงซู่ฟังดูติด ๆ ขัดๆ แต่ในมุมมองของโจวซือเหย่ คำพูดเหล่านั้นเหมือนเป็นการออดอ้อนเว่ยชิงหาง“คุณไปกลับก่อนเถอะ อย่าให้โจวซือเหย่เห็น เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องคุณ”เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของโจวซือเหย่ก็มืดลง“ทำไมผมต้องหาเรื่องเขาด้วย?”เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้สติที่ขุ่นมัวของเจียงซู่แจ่มชัดขึ้นเล็กน้อย เธอมองไปรอบ ๆ และเพิ่งรู้ตัวว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนใหญ่เจียงซู่ส่ายหัวที่เวียนหัวของเธอ และพูดว่า “ตัวฉันมีกลิ่นเหล้า คืนนี้ฉันจะไปนอนห้องข้าง ๆ”แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีสติสมบูรณ์ครบถ้วน แต่เธอก็ยังจำได้ว่าเขาไม่ชอบกลิ่นเหล้าจากตัวเธอในอดีต ทุกครั้งที่กลับมาจากการเลี้ยงสังสรรค์ เจียงซู่จะแยกห้องนอนกับโจวซือเหย่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขารังเกียจเธอเธอลงจากเตียงกำลังจะจากไป แต่โจวซือเหย่กลับกดไหล่ของเธอไว้ แล้วผลักเธอล้มลงบนเตียงเจียงซู่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว การล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ทำให้ส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 97

    “รุ่นน้อง”ในขณะที่เจียงซู่กำลังแหม่อลอย เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเมื่อรู้สึกตัว เธอก็สบตากับเว่ยชิงหาง“รุ่นพี่”เขาถามว่า “มาทำอะไรที่นี่?”เจียงซู่หลีกเลี่ยงประเด็นหลัก “ออกมาสูดอากาศสักหน่อย คุณล่ะ? มาทำอะไรที่นี่?”เว่ยชิงหาง “เพิ่งคุยงานกับลูกค้าเสร็จ”พูดไป เขาก็มองเข้าไปในรถของเธอ แล้วพูดอีกว่า “คุณยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงขับรถออกมาคนเดียว?”“ขาที่เหยียบคันเร่งยังปกติดี” เจียงซู่ถาม “อีกเดี๋ยวจะยุ่งไหมคะ?”เว่ยชิงหางถาม “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”เจียงซู่ “ฉันอยากไปดื่มสักแก้ว คุณอยากไปด้วยกันไหม?”เว่ยชิงหางไม่ได้ขัดจังหวะ “ไปที่ไหน?”จากนั้นพวกเขาไปที่บาร์เงียบ ๆ แห่งหนึ่งแสงในร้านสลัว ๆ ช่วยปกปิดความหม่นหมองและความอ้างว้างในตัวของเจียงซู่เว่ยชิงหางเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี เขาเพียงแค่อยู่เงียบ ๆ เป็นเพื่อนเจียงซู่ไม่ได้มาเพื่อระบายความในใจ ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเหงามาก ๆ เท่านั้น อยากมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน ไม่อยากอยู่คนเดียวแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เว่ยชิงหางก็รู้สึกได้ว่าเจียงซู่อยู่ในอารมณ์ที่เศร้าหมองมากจริง ๆ แล้วตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ เ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 96

    เจียงซู่รู้ดีว่าแม่สามีตั้งใจพูดกระทบเธอมากกว่าในสายตาของแม่สามี เธอไม่ได้ดีไปกว่าคนในตระกูลเล็ก ๆ เลยด้วยซ้ำเวินเหยาฉินตั้งใจจะหนุนหลังโจวหว่านซิน และตั้งใจจะให้เธอยอมจำนนแต่โดยดี แน่นอนว่าต้องกลั่นแกล้งเธออย่างหนักแต่เวินเหยาฉินไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเจียงเจียเหวิน เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วไม่เหมือนกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายการที่แม่สามีใช้ให้ลูกสะใภ้ทำอะไร ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาภรรยาหลวงอย่างเธอต้องมาทำหน้าที่ของอนุภรรยา แม้แต่มื้อกลางวัน เธอก็ต้องเป็นคนทำอาหารให้พวกเขาทานด้วยอาการปวดเอวและเจ็บเท้า การถูกกลั่นแกล้งขนาดนี้ ทำให้ใบหน้าของเจียงซู่ซีดลงเล็กน้อยเวินเหยาฉินเห็นท่าทางที่ดูเหมือนคนตายของเธอก็รู้สึกหงุดหงิด และพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอทำหน้าบึ้งให้ใครดู? ฉันใช้ให้เธอปรนนิบัติฉัน แล้วเธอไม่พอใจอีกเหรอ?”เจียงซู่ “เปล่าค่ะ”พอพูดจบ ก็มีเหงื่อเย็น ๆ หยดหนึ่งไหลลงมาจากขมับของเธอพอดีเวินเหยาฉินพูดอย่างรังเกียจว่า “พอแล้ว พอแล้ว ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว”แม้ว่าจะไม่ได้มองตรง ๆ แต่เจียงซู่ก็รู้สึกได้ถึงความสะใจของเวิงอี๋เธอเดินลากสังข

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 95

    ความห่วงใยของโจวซือเหย่ก็เหมือนกับอากาศในเดือนมิถุนายน เพราะเมื่อยามหนาวเหน็บก็หนาวเหมือนราวกับน้ำแข็ง แต่เมื่ออบอุ่นก็อบอุ่นจนร้อนซึ่งสามารถแผดเผาได้ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าคนปกติจะรับไหวอาหารถูกยกขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนที่โจวซือเหย่อุ้มเธอลงมา คุณป้าเฉินแอบยิ้มอย่างโล่งใจไหน ๆ ก็มาถึงโต๊ะแล้ว เจียงซู่ก็ไม่อยากทำให้เสียเปล่า“ซินซินยังเด็กอยู่ คุณเป็นพี่สะใภ้ ก็ควรจะทนกับเธอหน่อย”คำพูดนั้นทำให้มือเจียงซู่ที่กำลังจับตะเกียบชะงักไปทันที เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาแสงไฟนุ่มนวลคลอร่างเขา ทำให้เสี้ยวหน้าคมเข้มดูอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับเธอมันกลับไม่เหลือความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ อาหารในปากพลันจืดชืดลงทันทีเขารู้ดีอยู่แล้วว่าใครผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปกป้องอยู่ดี เขาจะไร้ความยุติธรรม เพียงแต่หัวใจมันลำเอียงนั้นเองเจียงซู่วางตะเกียบลง เช็ดปากเบา ๆ “ฉันอิ่มแล้ว”โจวซือเหย่มองอาหารที่แทบไม่ถูกแตะต้อง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เจียงซู่ก็เรียกป้าเฉินให้มาช่วยพยุงขึ้นไปบนห้องเสียแล้วป้าเฉินมองชายหนุ่มที่เอาแต่เงียบด้วยความหงุดหงิด ในสายจาของป้าเฉินรู้สึกว่าโจวซือเหย่ยังไม่รู้จัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status