Share

บทที่ 6

Author: คุณชายสายฝน
วินาทีที่เจียงซู่ก้าวขาออกจากโรงเรียน กระดูกสันหลังที่เคยตั้งตรงก็อ่อนยวบลง

ความเข้มแข็งที่แสดงออกไปเมื่อครู่ กลายเป็นอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นรัวในตอนนี้

เนื่องจากเธอเป็นลูกบุญธรรม ความจริงแล้วเจียงซู่จึงคุ้นเคยกับการอดทนอดกลั้นมาตั้งแต่เด็ก และมีนิสัยที่อ่อนน้อมยอมคน

แต่เธอก็ไม่ใช่ตุ๊กตาดินที่ปั้นจากโคลนเสมอไป

เธอแค่หวังว่าสิ่งที่ทำลงไปเมื่อครู่นี้ จะกระตุ้นให้โจวหว่านซินช่วยให้เธอหย่าสำเร็จ

ทันใดนั้นอาการปวดตุบ ๆ ที่หน้าผากเตือนให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เจียงซู่จึงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ทันทีที่เธอออกมาจากโรงพยาบาล โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นสายจากเจียงซงหวา

เจียงซู่ไม่อยากรับ แต่ก็ไม่กล้ารับ เพราะมันคือความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกตั้งแต่เด็ก เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วกดรับสาย จากนั้นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยคำสั่งของเจียงซงหวาก็ดังขึ้นจากปลายสาย

“พรุ่งนี้พาซือเหย่กลับมาทานข้าวที่บ้าน”

เจียงซู่ก้มหน้าลงพลางแกะนิ้ว เธอรู้ดีว่ามื้อนี้ไม่ใช่การรวมตัวของครอบครัว แต่เป็นเพราะเจียงซงหวามีโครงการใหม่ที่ต้องการความร่วมมือ

พูดให้ดีก็คือการร่วมมือ แต่ถ้าพูดให้ร้ายหน่อยก็คือ เขากำลังจะเริ่มสูบเลือดสูบเนื้ออีกครั้ง

เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เจียงซงหวาก็พูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? เป็นใบ้หรือไง?”

เจียงซู่ก้มหน้าลงต่ำยิ่งกว่าเดิม และในที่สุดก็เปิดปากที่ถูกปิดตาย “ค่ะ พ่อ”

ทันทีที่พูดจบ ปลายสายก็ตัดไป แล้วมือที่กำโทรศัพท์ของเธอก็ค่อย ๆ วางลง

ไม่แปลกใจเลยที่โจวซือเหย่ไม่ชอบเธอ การมีครอบครัวพ่อตาที่ชอบสูบเลือดสูบเนื้อแบบนี้ ถ้าเป็นเธอ เธอก็คงรังเกียจเหมือนกัน

เจียงซู่ต้องการหาที่เงียบ ๆ พักใจสักหน่อย แต่ความจริงก็ไม่อนุญาตให้เธอสงบลง

เพราะหัวหน้าของเธอโทรมา บอกให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนนี้

งานเลี้ยงแบบนี้มักจะมีเพียงพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างพวกเธอที่ต้องออกหน้าไปเป็นคนแรก เพื่อสร้างความประทับใจให้กับคู่ค้า

จริงๆ แล้วนิสัยของเจียงซู่ไม่เหมาะกับงานนี้เลย แม้จะไม่เหมาะสม แต่เธอก็ยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับตัว เพราะเธอรู้ดีว่าโจวซือเหย่ไม่ชอบผู้หญิงที่เอาแต่เกาะสามีกิน

เพื่อให้เขาหันมามองเธอให้มุมใหม่ เธอจึงทำได้เพียงพยายามทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

แต่ว่า...

เมื่อนึกถึงร่างกายที่เพิ่งแท้งลูกไป เจียงซู่ก็ปฏิเสธ “หัวหน้าคะ วันนี้ฉันทำเรื่องขอลากิจแล้วค่ะ”

อีกฝ่ายรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร จึงตัดทางหนีทีไล่ของเธอทันที “นี่เป็นคำสั่งจากเบื้องบน”

เจียงซู่เข้าใจ เบื้องบนที่ว่านี้ก็คือ โจวซือเหย่

เขาไม่ใช่คนบอกให้เธอพักผ่อนหรอกเหรอ แล้วทำไมจู่ ๆ ก็ให้เธอกลับไปทำงานล่วงเวลา?

เจียงซู่พูดว่า “ฉันกำลังดำเนินการลาออกอยู่ค่ะ”

“เจียงซู่ ขั้นตอนของคุณยังไม่เสร็จสิ้น”

อีกฝ่ายก็กำลังเตือนเธอว่า ตราบใดที่ยังลาออกไม่สำเร็จ เธอก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของบริษัท

เมื่อหาข้ออ้างที่จะปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป เธอก็ทำได้แค่กลับไปทำงานอย่างซื่อสัตย์

ในงานเลี้ยงอาหารค่ำตอนกลางคืน เจียงซู่มาถึงสถานที่ก่อนเวลา

แม้จะไม่เต็มใจมา แต่ความเป็นมืออาชีพของเธอก็ไม่ยอมให้เธอทำตัวขายขี้หน้า

เมื่อมาถึงสถานที่ เธอก็พบว่าเบื้องบนที่หัวหน้าพูดถึง แท้จริงแล้วคือ เวิงอี๋!

เป็นเธอที่วางแผนให้เจียงซู่มา

เท่าที่เธอทราบ คู่ค้าที่พวกเขาจะร่วมงานด้วยในคืนนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดในตอนนี้

แต่กลับให้เวิงอี๋ซึ่งเพิ่งเข้าบริษัทมาเป็นคนดูแล โจวซือเหย่ช่างให้เกียรติเธอจริง ๆ

ความชอบและความไม่ชอบ ช่างแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว

“คุณจะทำอะไรน่ะ?!”

ในขณะที่เธอกำลังเหม่อลอย ทันใดนั้นเสียงตำหนิของเวิงอี๋ก็ดังขึ้นในห้องส่วนตัว ทันทีที่เธอได้สติก็เห็นว่าเธอกำลังขว้างขวดเหล้าใส่คู่ค้า

เจียงซู่ “...”

เวิงอี๋ลงมือหนักมากจนเห็นเลือดของอีกฝ่ายได้ด้วยตาเปล่า

คู่ค้ากำลังด่าทอ ในขณะที่เวิงอี๋กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น

บรรยากาศในห้องส่วนตัวก็ชุลมุนวุ่นวายขึ้นทันที ราวกับว่าคนที่เพิ่งทำร้ายคนอื่นไม่ใช่เธอ

เวิงอี๋พูดอย่างช้ำใจ “คุณลวนลามฉัน!”

คู่ค้าก็กำลังตะโกน “พวกเธอหมายความว่าไง? นี่คิดจะเล่นต้มตุ๋นกับฉันเหรอ?”

เวิงอี๋ “ใครหลอกต้มตุ๋นคุณ ฉันจะแจ้งตำรวจ!”

เธอทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง ราวกับพร้อมที่จะประทะ

เจียงซู่ไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์แย่ลงไปได้อีก เธอรีบให้คนพาเวิงอี๋ออกไปเพื่อให้สงบสติอารมณ์ ส่วนเธอก็อยู่จัดการเรื่องวุ่นวายที่เหลือ

หลังจากปลอบโยนคู่ค้าและสามารถเซ็นสัญญากับเขาได้สำเร็จ เจียงซู่ก็ต้องดื่มเหล้าไปไม่น้อยเพื่อการนั้น

เมื่อออกจากร้านอาหาร เจียงซู่ก็เปิดประตูรถให้กับอีกฝ่าย คู่ค้าตบมือเธอเบา ๆพลางยิ้มอย่างลึกซึ้ง “ต่อไปถ้ามีโอกาส ค่อยนัดทานข้าวกับหัวหน้าทีมเจียงอีกนะครับ”

เจียงซู่ดึงมือกลับมาอย่างแนบเนียน พร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมืออาชีพ “เดินทางปลอดภัยนะคะ”

เธอเพิ่งส่งอีกฝ่ายไปได้ไม่นาน โจวซือเหย่ก็ปรากฏตัวขึ้น

“ซือเหย่...”

เวิงอี๋พุ่งเข้ากอดเขาทันที และทำท่าทางน่าสงสารสุด ๆ โจวซือเหย่จับไหล่เธอให้ยืนอย่างมั่นคง

เจียงซู่ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไม่กี่ก้าว ลมยามค่ำคืนพัดมา ทำให้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่กำลังจะพุ่งขึ้นมาของเธอสลายไปในทันที และทำให้เธอตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่

อ้อมกอดของเขาที่แข็งแกร่งขนาดไหน เธอเคยสัมผัสมานับครั้งไม่ถ้วนตอนอยู่บนเตียง แต่เมื่อลงจากเตียงแล้ว เขากลับไม่เคยกอดเธอต่อหน้าคนอื่นเลยสักครั้ง

เธอคงรู้สึกปลอดภัยสินะ ไม่อย่างนั้นเวิงอี๋คงไม่กอดเขาแน่นขนาดนั้น

ลมพัดผ่านไป เจียงซู่รู้สึกปวดท้องอย่างกะทันหัน ตัวสั่นเล็กน้อย เธอหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งแล้วก้าวไปข้างหน้า เพื่อยื่นสัญญาให้ “ท่านประธานโจวคะ นี่คือสัญญาที่เพิ่งเซ็นกับย่าไท่ค่ะ”

โจวซือเหย่เหลือบมองเธอ “กั่งรุ่ยยังไม่ตกต่ำถึงขนาดต้องให้พนักงานไปขายตัว”

เจียงซู่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ กำลังจะอธิบายว่า “ฉันไม่ได้...”

“เพื่อนร่วมงานถูกลวนลาม คุณไม่คิดจะปกป้อง แต่กลับปล่อยให้อีกฝ่ายดูถูก เมื่อก่อนคุณคุยธุรกิจแบบนี้มาตลอดหรือไง? คุณคิดว่าบริษัทเป็นอะไร? ซ่องโสเภณีเหรอ?”

ใบหน้าของเจียงซู่ซีดเผือดลงทันที ความอับอายพุ่งสูงปี๊ด

เธอนึกถึงครั้งแรกที่ออกไปเจรจาธุรกิจกับเพื่อนร่วมงาน ครั้งนั้นเธอก็เจอการลวนลามในที่ทำงานเช่นกัน ปฏิกิริยาของเธอในตอนนั้นก็เหมือนกับเวิงอี๋

มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างคือ เธอไม่ได้โต้ตอบ เพราะเธอไม่กล้า

ตอนนั้นโจวซือเหย่ก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เขาดูถูก ‘ความทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่’ ของเธอ

เธอยังจำคำพูดของเขาได้

“ที่นี่ไม่ใช่สวนสนุกที่คุณจะมาเล่นสนุก ไม่มีใครตามใจความเอาแต่ใจของคุณ ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกกลับบ้านไปซะ”

ฟังดูสิ ช่างสองมาตรฐานอย่างสิ้นเชิง

เพื่อให้เขาชื่นชม เจียงซู่ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาความสามารถในการทำงานของตัวเอง และในที่สุดก็กลายเป็นคนช่ำชอง

แต่ตอนนี้ เขากลับตำหนิเธอที่ไม่ปกป้องเวิงอี๋?

แต่ทำไมเธอต้องปกป้องผู้หญิงที่แย่งสามีของตัวเองด้วยล่ะ?

เจียงซู่เอ่ยปากพูดว่า “ผู้จัดการวังเพิ่งบอกว่า เขาไม่ได้ทำอะไรกับผู้ช่วยเวิง”

ทันทีที่เธอพูดจบ เวิงอี๋ก็ตาแดงก่ำและพูดอย่างขมขื่นว่า “พี่พูดแบบนี้หมายความว่าฉันใส่ร้ายเขาเหรอคะ? ใครจะเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเล่นแบบนี้?”

เมื่อเงยหน้าขึ้น เจียงซู่ก็สบเข้ากับดวงตาที่เย็นชาของโจวซือเหย่ ทันใดนั้นลำคอของเธอเหมือนถูกบีบรัด อึดอัดจนพูดไม่ออก

พูดตามตรง เจียงซู่ไม่ได้เห็นภาพที่เวิงอี๋ถูกรังแกเลย

เวิงอี๋บอกว่าเธอถูกลวนลาม แต่ผู้จัดการวังก็ปฏิเสธ และก็ไม่มีหลักฐาน แล้วเธอจะทำอะไรได้?

เวิงอี๋ทำสีหน้าเจ็บปวดและเอ่ยเสียงสะอื้นว่า “คุณเจียงคะ ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอคะ? ทำไมคุณถึงต้องใส่ร้ายฉันขนาดนี้?”

เจียงซู่มองท่าทางเสแสร้งของเธอ ใบหน้าของเธอไม่มีสีหน้าอะไรเลย เพียงแต่คิดในใจว่า ที่แท้ผู้ชายก็ชอบผู้หญิงเจ้าเล่ห์ที่น่าสงสารและอ่อนแอแบบนี้เอง

เวิงอี๋มั่นใจว่าเธอไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอใช่ไหม?

ความจริงก็เป็นแบบนั้น เพราะเธอต้องการความช่วยเหลือบางอย่าง ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทำให้โจวซือเหย่ไม่พอใจได้ รวมถึงคนที่เขาปกป้องอยู่ด้วย เธอก็ไม่สามารถไปยุ่งด้วยได้เช่นกัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status