นิยายเรื่องนี้เค้าโครงเดิมจากเรื่อง สายรักสายรหัส ใครมีสายรักสายรหัสอยู่แล้ว โปรดอ่านตัวอย่างก่อนซื้อนะคะ สายรักสายรหัส มีเนื้อหาประมาณ 3หมื่นคำ เรื่องนี้มีเนื้อหา 7หมื่นคำ ************************** เขาคือประธานนิสิตคนดัง เขาคือคนผู้ชายที่อยากได้เป็นพ่อของลูก อ่อยมาเป็นปีทำไมพี่ไม่สนใจหนู ถ้าพี่ยังไม่มีใคร...ขอหนูจีบได้ไหมคะ ************ นิยายเรื่องนี้เค้าโครงเดิมจากเรื่องสายรักสายรหัส ********** นิยายใน ซีรีส์ 1.ลุงรหัสที่รัก 2.ขอจีบได้ไหมถ้าใจยังว่าง 3.สาววิศวะกับหนุ่มบริหาร 4.เมียบังเอิญ 5.รักร้ายนายข้างบ้าน 6.รักร้ายยัยรุ่นพี่ 7.เพื่อนนอนไร้สถานะ 8.เพื่อนนอนสถานะแฟนเก่า 9.สถานะแค่รู้สึกดี 10.เมื่อรักอยู่แค่บนเตียง ******************
View Moreนิยายเรื่องนี้เค้าโครงเดิมจากเรื่อง สายรักสายรหัส
ใครมีสายรักสายรหัสอยู่แล้ว โปรดอ่านตัวอย่างก่อนซื้อนะคะ สายรักสายรหัส มีเนื้อหาประมาณ 3หมื่นคำ เรื่องนี้มีเนื้อหา 7หมื่นคำ ************************** เขาคือประธานนิสิตคนดัง เขาคือคนผู้ชายที่อยากได้เป็นพ่อของลูก อ่อยมาเป็นปีทำไมพี่ไม่สนใจหนู ถ้าพี่ยังไม่มีใคร...ขอหนูจีบได้ไหมคะ ************ นิยายเรื่องนี้เค้าโครงเดิมจากเรื่องสายรักสายรหัส ********** นิยายใน ซีรีส์ 1.ลุงรหัสที่รัก 2.ขอจีบได้ไหมถ้าใจยังว่าง 3.สาววิศวะกับหนุ่มบริหาร 4.เมียบังเอิญ 5.รักร้ายนายข้างบ้าน 6.รักร้ายยัยรุ่นพี่ 7.เพื่อนนอนไร้สถานะ 8.เพื่อนนอนสถานะแฟนเก่า 9.สถานะแค่รู้สึกดี 10.เมื่อรักอยู่แค่บนเตียง ******************ชญาดา หรือหนูนาย ที่ใคร ๆ ก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชายเพราะชื่อเล่น ‘นาย’ นี่แหละ ด้วยความที่แม่อยากให้ลูกเป็นเจ้าคนนายคน เลยตั้งใจจะตั้งชื่อว่าเจ้านาย แต่พอกาลเวลาผ่านไป คำว่า ‘เจ้า’ ไม่รู้ตกหล่นไปอยู่ไหน เหลือแค่นาย น้องนาย หนูนาย
ฉันเพิ่งเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ไม่นาน และช่วงนี้เรายังอยู่ในช่วงกิจกรรมรับน้อง
กิจกรรมที่บอกเลยว่าเหนื่อยมาก
เหนื่อยแล้วชอบไหม
ชอบมาก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะได้เห็นพี่ว้ากหล่อน่ะสิ โดยเฉพาะเขาคนนั้น
พี่เต็งหนึ่ง...
เขาคือพี่ว้ากสุดหล่อ ฉันยังจำความรู้สึกแรกที่เจอเขาได้ คำว่าใจสั่นเป็นอย่างนี้สินะ คนอะไรล้อหล่อ หล่อตั้งแต่หัวจดเท้า หน้าดุ ๆ นั่นเวลาว้ากแต่ละทีนี่
‘หนูยอมแล้วค่ะ พี่จะทำอะไรหนูก็ได้ หนูยอมทุกอย่างแล้ว’
พี่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย หน้าเขายังไม่ได้มองมาที่ฉันด้วยซ้ำ แต่ฉันยอมเขาตั้งแต่ประตูมหาวิทยาลัยแล้ว
นอกจากหน้าตาที่ดียิ่งกว่าชิงเทวดามาเกิด ประวัติของพี่แกก็ยิ่งดีงาม ถามว่าทำไมฉันรู้ประวัติพี่เขาน่ะเหรอ อย่าเรียกว่าต้องสืบเลย พี่เขาดังมากกกก
เพราะฉะนั้นประวัติเขาหาง่ายยิ่งกว่าห้องเรียนบางวิชาเสียอีก
รูปหล่อ พ่อรวย เรียนเก่ง คงไม่เกินจริงเลยสักนิด
เรียนดี ทุนฟรีตลอดสามปีที่ผ่านมา
ลูกชายอธิการบดี
ที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้พวกติ่งอย่างฉันต้องมูฟออนเป็นวงกลมก็คือ พี่เขายังโสดจ้ะแม่จ๋า โสดสนิทไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ไม่มีใครได้ใช้สถานะแฟนของพี่เต็งหนึ่ง
เห็นไหม...
เห็นไหม...
ไม่เห็นเหรอ นั่นไง แสงแห่งความหวังของฉันที่ปลายอุโมงค์
ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะได้เป็นแฟนพี่เขา
“พี่เต็งหนึ่งโคตรหล่ออะแก” ไม่ต้องตกใจ นั่นไม่ใช่เสียงฉัน แต่เป็นเสียงคนนั่งข้างหลัง พวกหล่อนพูดคุยเรื่องพี่เต็งหนึ่งเหมือนกับคนนั้น คนโน้น คนนี่ คนนั่น สรุปทุกคนก็ชอบเขา
อะไรนะ...
อะไร ฉันไม่ได้ยิน
‘คู่แข่งเหรอ’ โน ๆ สำหรับฉันงานนี้ไม่มีคู่แข่ง คนอย่างหนูนาย อย่างไรเสียต้องได้เขามาครอง แต่จะช้าหรือเร็วต้องดูอีกที
เราอย่ารีบร้อน ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ๆ ใหญ่ ๆ ฟันอะไรก็เข้าหมด
“แต่เขาว่าพี่เต็งหนึ่งเจ้าชู้มาก” เขาไหนยะหล่อน หล่อนเพิ่งมาเรียนพร้อม ๆ กับฉันเนี่ยแหละ อย่ามาใส่ร้ายพ่อของลูกในอนาคตของฉันนะ
คนหล่อเขาไม่เจ้าชู้ เขาเรียกว่าเสน่ห์แรง บริหารเสน่ห์เข้าใจไหม ฉันไม่อยากใส่ใจพวกใส่ร้ายป้ายสีสามีในอนาคตของฉันหรอก
แต่ก็ดีแล้วนะถ้าพวกหล่อนจะไม่ชอบพี่เขา ฉันจะได้ตัดคู่แข่งน่ะเหรอ เปล่าเลย ฉันไม่ได้มองพวกหล่อนเป็นคู่แข่งอยู่แล้ว แค่จะบอกว่าไม่อยากให้มีคนอกหักเพราะพี่เขาอีกคน
หลังจากเลิกสนใจคนคุยกันข้างหลังแล้ว ฉันกลับไปสนใจหนุ่มหล่อตรงหน้าดีกว่า เก็บเกี่ยวช่วงเวลาของเราให้เต็มที่ หล่อมากแม่ ดีมากพ่อ
อยากพาลูกเขยไปไหว้พ่อกับแม่จังเลย หล่อจริงหล่อจัง
“ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ถ้าใครอยากได้เกียร์ที่เป็นดั่งหัวใจของชาวคณะเรา ทุกคนต้องมาซ้อมเชียร์ทุกวันนะครับ เข้าใจไหม!!!”
“ครับ / ค่ะ!” กร้าวใจมากเลยคุณพี่ แค่หนูเห็นหน้าพี่ ใบหน้าลูกของเราก็ลอยมาแล้ว แต่งเลยไหมคะ
ยังค่ะ เขายังไม่ได้ขอ
กิจกรรมรับน้องผ่านพ้นไปแล้ว ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าพี่เขาบ่อย ๆ แต่ก็ยังดีที่เราเรียนคณะเดียวกัน ทำให้ฉันตั้งใจมาเรียนทุกวันเลย
หวังลึก ๆ ว่าจะได้เจอเขาบ่อย ๆ แต่ก็นั่นแหละ พี่เขาอยู่ปีสาม ตารางเรียนพี่เขากับฉันก็คงหนักพอ ๆ กัน เวลาจะเอามานั่งเฝ้าผู้ของฉันก็ทำไม่ได้เต็มที่ เทียบประสิทธิภาพกับความตั้งใจแล้ว จะบอกว่าค่อนข้างไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ส่วนผลลัพธ์หรือจำนวนครั้งในการเจอพี่เขาน่ะเหรอ เรียกได้ว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดิน พี่เขาไม่กินข้าวโรงอาหารเหรอ ทำไมถึงไม่ได้เจอ
พี่เขาไม่นั่งรอหน้าห้องเรียนเหรอ ทำไมฉันมารอไม่เคยเจอก่อนเข้าเรียน คิดแล้วกลุ้ม
กิจกรรมต่อมาของนักศึกษาปีหนึ่งคือการหาพี่รหัส คนเราก็ต้องมีแหละพี่รหัส เอาไว้ทำอะไรน่ะเหรอ เอาไว้ถามเรื่องงาน เรื่องโน่นนี่นั่น
“เฮียคิดอะไรอยู่คะ” เสียงหวานถามผมในตอนที่เราสองคนมากางเต็นท์ตอนอยู่ในจุดชมวิวของไร่ “คิดถึงความรักของเรา” “คิดว่าไงคะ” “คิดว่าเฮียหลงเมียมาก” ผมลูบแขนคนตัวเล็กเพราะตอนนี้อากาศเย็นเริ่มโรยตัวปกคลุมทั่วพื้นที่ตามพื้นที่สูงทางภาคเหนือ “แหม ปากหวานจริง” เมียรักว่าพร้อมทั้งจูบลงบนอกแกร่งของผม เนี่ย ว่าผมปากหวาน แต่ตัวเองชอบทำอะไรหวาน ๆ แบบนี้ตลอด “แล้วหนูนายล่ะ หลงเฮียไหม” “บอกเลยว่ามาก” แล้วเธอก็จูบคางของผมหลาย ๆ ครั้ง การกระทำขี้อ้อนของเธอทำให้ผมอดใจไม่ไหว มอบจูบเร่าร้อนให้คนในอ้อมกอดต้องร้องห้าม “อือ...อือ...เฮียพอก่อน” “ก็เมียอ่อยเก่ง” “เฮียว่าหนูเหรอ” “ไม่ได้ว่า เฮียชม ดูสิ แค่ได้กลิ่นหนู เฮียก็แข็งแล้ว” ผมจับมือเธอมาวางตรงส่วนที่บอกว่าแข็งและพร้อมทำงาน “โอ๊ย! จะหื่นไปไหนเนี่ย พอก่อน ตั้งแต่กลับมาเกาะเชจู เรายังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย นอกจากอุดอู้อยู่แต่บ้าน” นี่ก็เกือบเดือนแล้ว ตั้งแต่กลับจากเกาะเชจู เราก็รู้ว่ายังไม่ท้อง เมื่อไม่ท้อง เราก็ต้องขยันเพิ่มขึ้น
“หนูแค่ดีใจ พี่นายบอกว่าพี่หนึ่งขอแต่งงานแล้ว” “ใช่น่ะสิ เมียฉันเรียนจบแล้วก็ต้องแต่งงานมีลูก”เดี๋ยว ๆ แต่งงานน่ะใช่ แต่มีลูกฉันคงต้องขอเวลาหน่อย หลังจากเรียนจบแล้วเราสองคนก็กลับไปอยู่เชียงรายกัน โดยผับของเฮียหนึ่งก็ยังทำเป็นปกติ แต่ให้หุ้นส่วนดูแลเป็นหลัก แม่แท้ ๆ ของเฮียหนึ่งทำไร่ผักและสวนดอกไม้เมืองหนาว ไร่ของเราสองอยู่ไม่ห่างกัน ใช้เวลาเดินทางแค่สิบนาทีเท่านั้นเราสองคนจัดงานแต่งงานเล็ก ๆ ที่ไร่ของเฮียหนึ่ง หลังจากฉันเรียนจบได้เพียงสองเดือน งานแต่งงานของเรามีเฉพาะคนในครอบครับแค่สองครอบครัว เราไม่ได้เชิญแขกมากมาย เพราะเราต้องการบรรยากาศของครอบครัว ให้เป็นงานแต่งงานที่อบอุ่น แม้แต่เพื่อน เราก็เชิญเฉพาะคนสนิทเท่านั้นน้ำตาของเจสสิก้ากับลักศิกาในวันแต่งงานของฉัน ฉันยังจำได้ดี ทั้งสองร้องไห้ยิ่งกว่าเป็นเจ้าสาวเสียเอง หนูนิดเองก็มาร่วมงาน แต่น้องมาแค่แป๊บเดียว แล้วก็บอกว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนต่อหลังจากงานแต่งของเราจบลง แผนการหนีเที่ยวของเราก็เริ่มขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เราทั้งสองเรียนหนักและแทบไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันเลยเราสองคนมีแผนจะเที่ยวทั่
“ยินดีครับ” ฉันมองหน้าเพื่อนกับท่านรองประธาน ทำไมทั้งสองเหมือนไม่ได้พูดเรื่องการสมัครงานเลยนะ ความหมายของทั้งสองคือเรื่องนี้ไหม หรือเรื่องอื่น เทอมสุดท้ายของการเรียน เวลาส่วนมากหมดไปกับโพรเจกต์ แต่เวลาเรียนมีเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่เพราะเป็นโพรเจกต์จบทำให้ทั้งฉันและเพื่อนต้องทำงานกันยันเช้าหลายต่อหลายครั้ง นำเสนอโพรเจกต์กันหลายรอบกับอาจารย์ที่ปรึกษา ทั้งโดนสั่งแก้ สั่งให้ทำใหม่ไม่รู้กี่ร้อยรอบ ทุกอย่างมันกดดันมากจริง ๆ ความกลัวไม่จบพร้อมเพื่อนทำให้ฉันร้องไห้ออกมา “จะเครียดทำไม เดี๋ยวเฮียช่วย” นั่นคือคำพูดของคนข้างกาย ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็พร้อมช่วยเสมอจริง ๆ “หนูรักเฮีย” “ถ้ารักเฮียก็ขึ้นให้บ่อย ๆ แค่นั้นแหละที่เฮียต้องการ” คำพูดของเขาทำให้ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา เป็นเสียอย่างนี้แหละ กำลังจะซึ้งก็พาเข้าเรื่องทะลึ่งตลอดบทส่งท้าย กาลเวลา “จบสักที” ทันทีที่เกรดตัวสุดท้ายออก ความกังวลใจของฉันกับเจสสิก้าก็หมดลง ตอนนี้เราสองคนเรียนจบแล้ว จบจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าการเรียนตลอดสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยจะให้อะไรมากขนาดนี้ฉันได้อะไรมากมายจากการ
“กรี๊ด!!!” เสียงกรี๊ดดัง ๆ ของคนบ้า เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนบ้าของจริงก็ครั้งนี้แหละ “คุณ นี่โรงพยาบาลนะ” หมอเจ้าของไข้พยายามห้าม “อีบ้า! อีสำออย แก้วบาดแค่นี้” นอกจะด่าว่าฉันแล้ว ยังจะปรี่เข้ามาหาฉันอีก “โอ๊ย! อีบ้า มึงตบกูทำไม” ก่อนที่คนบ้าจะถึงตัวฉัน ยายลักไม่รู้เข้ามาในห้องตอนไหน กระชากยายป้าผีโพงนั่นและตบหน้าอย่างแรง “มึงจะทำพี่กู กูแค่ทำเพราะป้องกันตัว” “โอ๊ย!” เสียงตบอีกครั้งดังขึ้นบนแก้มข้างเดียวกัน เสียงกรีดร้องของคนโดนตบยังดังไม่หยุด แต่ผู้ชายที่เหลือดูเหมือนไม่มีใครเข้าไปช่วยยายน้ำเน่านั่นสักคน “มึงออกไปเลยถ้าไม่อยากโดนกูกระทืบตายก่อน” ยายลักถลกแขนเสื้อขึ้น บอกได้คำเดียวว่าพร้อมมีเรื่อง เสียงร้องไห้ของยายน้ำเน่าหายไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล “ขอบใจมากลัก” ฉันเอ่ยขอบคุณน้องรหัสของตัวเอง เพราะยายน้ำเน่าเป็นผู้หญิง เฮียหนึ่งจึงไม่กล้าลงมือเอง แต่น้องรหัสฉันเป็นผู้หญิงไง ผู้หญิงตบผู้หญิงมันก็แค่เรื่องทะเลาะวิวาท “เสียดายน่าจะได้ตบมากกว่านี้ ถ้าไม่เกรงใจคุณหมอ ลักตบมันหน้าแหกแล้ว”ฉันโคลงศีรษะกับค
“เดี๋ยวเฮียไปรับ” “ค่ะ” ฉันยิ้มให้กับโทรศัพท์ แต่ยังไม่ทันจะกลับเข้าไปในห้องก็เจอคนที่ไม่อยากเจอ “นึกว่าตาฝาด ที่แท้ก็เมียคนปัจจุบันของเต็งหนึ่งนี่เอง” ป้าน้ำฟ้าน้ำเน่า มาตอนไหนเนี่ย “ค่ะ ขอตัวนะคะ” ฉันไม่อยากมีเรื่องเพราะอีกแค่เดือนเดียวก็จะฝึกงานจบแล้ว “เดี๋ยว ช่วยไปหยิบเครื่องดื่มมาให้หน่อยสิ” “หา!!” ฉันมาเป็นนักศึกษาฝึกงาน ไม่ใช่คนรับใช้ ที่นี่ก็มีบริกรคอยบริการเดินกันเต็มงาน ทำไมต้องให้ฉันไปหยิบให้ “เอ้า เร็วสิ ฉันคอแห้งแล้ว” เอาวะ ทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวก็ฝึกงานเสร็จ ฉันก็เลยจำเป็นต้องไปหยิบเครื่องดื่มให้ยายน้ำเน่านี่ “นี่ค่ะ” ฉันเดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำในมือ “อี๋ ไม่อร่อยเลย เอาแก้วอื่นมาสิ” หล่อนจิบแค่นิดเดียวแล้วก็บอกว่าไม่อร่อย ให้ฉันไปเอาแก้วใหม่มาอีกที ฉันจำเป็นต้องเดินกลับไปในงาน เพื่อเอากลับมาให้คู่หมั้นท่านรองประธาน “นี่ค่ะ” ฉันยื่นแก้วน้ำสีสวยให้คนตรงหน้า รู้ว่าหล่อนแกล้งฉันนั่นแหละ “อี๋ อันนี้ก็ไม่อร่อย ไปเอามาใหม่สิ”ฉันพยายามอดกลั้นความโมโหไว้ พร้อมเดิน
เมียผมก็คงไม่ต่างจากยายลัก ขอให้เรียนจบก่อน แต่ผมนี่สิอยากแต่ง เมียผมเนี่ยสวยมากระดับดาวมหาวิทยาลัยเลยนะครับ แล้วรุ่นน้องปีหนึ่ง ปีสอง ขายขนมจีบเยอะมาก บางคนพอรู้ว่าหนูนายคบผมก็ถอยไปบ้าง บางพวกคิดว่ากูไม่สน เผื่อฟลุก แล้วไหนจะพวกต่างมหาวิทยาลัยอีก อย่าให้พูด แล้วยังมีไอ้เด็กเวรนั่นอีก ไอ้ต้นไม้ ไอ้เด็กเปรต บทที่ 42 ฝึกงานคอนโดเต็งหนึ่ง เวลาผ่านไปเร็วมากจนตอนนี้ฉันเข้าปีสี่แล้ว พวกเรากำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน ฉันได้ฝึกงานที่บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำแห่งหนึ่ง เราใช้เวลาฝึกงานประมาณสี่เดือน คือฝึกเทอมหนึ่งทั้งเทอม จากนั้นก็กลับไปเรียนต่อเทอมสอง บางสาขาก็ฝึกเทอมสอง แล้วแต่ว่ามหาวิทยาลัยกำหนดว่าจะเป็นแบบไหน “นังเจส เร็วสิ จะสายแล้วเนี่ย มาฝึกงานวันแรกก็งามไส้ไหมล่ะแก” ฉันเร่งเพื่อนสาวสุดสวยที่มาด้วยกัน เราสองคนนี่ตัวติดกันยิ่งกว่าคู่แฝด เห็นนายที่ไหนก็เห็นเจสสิก้าที่นั่น “เออ ก็รีบอยู่เนี่ย” วันแรกเจสสิก้าก็จะสายเสียแล้ว เราสองคนรีบวิ่งเข้าไปรายงานตัวทันเวลาพอดี พอดีแบบพอดีมาก ๆ “สวัสดีครับ พี่ต้านะครับ มีหน้าที่ดู
Comments