Share

บทที่ 15

Penulis: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
กู้หว่านเยว่คนนี้ถึงกับสร้างบ้านด้วยมือเปล่าในถิ่นทุรกันดาร!

เห็นเพียงนางหยิบเชือกป่านออกมา ผูกไว้กับลำต้นของต้นไม้สองต้นที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นก็หยิบผ้าใบกันน้ำขนาดใหญ่มาคลี่ออก ผูกปลายทั้งสองข้างเข้ากับเชือก และใช้ก้อนหินทับด้านล่างไว้กับพื้น เพียงเท่านี้เต็นท์ขนาดเล็กก็สร้างเสร็จแล้ว

“ไปกัน จื่อชิงและท่านแม่ช่วยกันพยุงท่านพ่อเข้าไปข้างใน จิ่นเอ๋อ เจ้าเอาผ้าห่มที่อยู่บนเกวียนลงมาปูให้เรียบร้อย”

กู้หว่านเยว่สั่งการอย่างเป็นระบบ

คนของบ้านสามต่างมองนางเป็นผู้นำตัวน้อย ๆ และทำตามคำสั่งของนางทันที

นักโทษที่อยู่รอบข้างมองพวกเขาเข้าไปข้างใน นอนลงบนผ้าห่มนุ่ม ๆ แล้วหันกลับมามองพื้นดินที่ตัวเองนอนอยู่ ก็รู้สึกนอนไม่หลับขึ้นมาทันที

ซุนอู่ยิ่งประหลาดใจ พวกเขาคุมนักโทษมาเป็นเวลานาน ไม่เคยเห็นใครตั้งเต็นท์กลางทางได้มาก่อน

“แม่นางกู้ เต็นท์นี้กันน้ำหรือไม่?” ซุนอู่ถามด้วยความอยากรู้

“แน่นอนว่ากันน้ำได้ นี่คือผ้าใบกันน้ำ ไม่ต้องพูดถึงน้ำค้าง แม้แต่น้ำฝนก็กันได้”

ขณะที่กู้หว่านเยว่พูด นางก็หยิบธูปหอมออกจากบนเกวียนมาจุดไฟ จากนั้นแขวนไว้ข้างเต็นท์ เพื่อป้องกันยุงมากัดในตอนกลางคืน

ซุนอู่เริ่มสนใจ “เจ้าสอนข้ากางเต็นท์แบบนี้ได้หรือไม่?”

พวกเขามีผ้าใบกันน้ำอยู่บนเกวียนจำนวนมาก ใช้สำหรับคลุมสิ่งของเวลาที่ฝนตก คิดไม่ถึงเลยว่าจะเอามาใช้บังแดดบังฝนให้คนได้ด้วย

เมื่อครู่ขณะที่กู้หว่านเยว่กางเต็นท์ เขาก็ยืนดูอยู่ข้าง ๆ

ดูเหมือนจะง่ายมาก

แต่พอลงมือทำเองกลับไม่ใช่แบบนั้น

เขาลังเลครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจมาขอคำแนะนำ

ใบหน้าที่ดำคล้ำของซุนอู่แดงขึ้นเล็กน้อย เขาเป็นลูกผู้ชายอกสามศอกแต่กลับต้องมาขอคำแนะนำจากผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กลางป่า

กู้หว่านเยว่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ข้าจะวาดภาพให้ เจ้าดูให้ดีนะ”

แค่กางเต็นท์ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร

กู้หว่านเยว่สอนอย่างใจกว้าง

และยังถือโอกาสนี้ สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซุนอู่

กู้หว่านเยว่หักกิ่งไม้มาหนึ่งกิ่ง แล้วปัดเศษหญ้าบนพื้นดินออก จากนั้นวาดภาพร่างของเต็นท์ลงบนพื้น พร้อมทั้งใส่ใจเขียนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรระวังเอาไว้ด้วย

“ท่านนักการ ต้องมัดเชือกป่านระหว่างต้นไม้ทั้งสองให้แน่น ไม่เช่นนั้นเต็นท์ทั้งหลังจะพังลงมา”

หลังจากที่ซุนอู่ดูจบ เขาก็รู้สึกประหลาดใจ

เขารู้ฐานะของกู้หว่านเยว่ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่านี่เป็นคุณหนูตระกูลโหวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจริง ๆ หรือ?

เขาจดจำภาพวาดไว้ในใจ แล้วรีบประสานมือคารวะ

“แม่นางกู้ ขอบคุณมาก”

“ไม่ต้องเกรงใจ” เป็นเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกัน นางสอนซุนอู่กางเต็นท์ ซุนอู่ก็รับน้ำใจจากนาง ระหว่างทาง ตราบใดที่นางไม่ทำอะไรเกินเลย พวกเขาก็จะทำเป็นไม่เห็น

ซุนอู่รีบกลับไปสั่งให้เหล่านักการกางเต็นท์

เมื่อเขาจากไป นางหลิวก็เริ่มพูดจาประชดประชัน “ครอบครัวบ้านสามนี่เรื่องมากจริง ๆ ถูกเนรเทศแล้วยังทำอะไรที่ไร้ประโยชน์อีก มีเงินขนาดนี้ ซื้ออาหารกินดีกว่า ซื้อผ้าใบกันน้ำมาทำไมกัน”

นางเฉียนก็พูดจาเหน็บแหนมตามมา “ก็เพราะแม่ผัวที่โง่เง่าอย่างนางหยาง คุมลูกสะใภ้ไม่ได้ ถ้าลูกสะใภ้ของข้ากล้าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ ข้าจะตีให้ตายเป็นคนแรก!”

ฮูหยินผู้เฒ่าเหลือบมองกู้หว่านเยว่อย่างเย็นชา

กู้หว่านเยว่หัวเราะเยาะแล้วเอ่ยขึ้นเสียงดัง “เช่นนั้นท่านก็เสียแรงที่เป็นห่วงแล้ว ซูอวี่ลูกชายของท่านติดแม่ขนาดนั้น คงหาเมียมาแต่งด้วยไม่ได้”

“จะจะเจ้า กู้หว่านเยว่เจ้าพูดบ้าอะไร!” นางเฉียนโกรธจนนิ้วสั่น กอดซูอวี่ไว้ในอ้อมแขน

ลูกชายของนางเป็นสมบัติล้ำค่า จะไม่สามารถหาภรรยามาแต่งด้วยได้อย่างไร

ซูอวี่ก็กอดแม่ของเขา “ท่านแม่ ข้าไม่ใช่ลูกแหง่สักหน่อย”

ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือมองไปที่หมั่นโถวที่ซูอวี่แอบส่งให้นาง จากนั้นโยนมันลงในตะกร้าราวกับร้อนมือ

กู้หว่านเยว่ก็ขี้เกียจเถียงกับพวกเขา เหลือบมองท้องฟ้าแล้วแสยะยิ้ม

ตอนนี้พวกเขามีแรงเยาะเย้ย แต่อีกไม่ถึงสามชั่วยาม ก็จะต้องร้องไห้คร่ำครวญแล้ว!

ภายในเต็นท์ ซูจิ่นเอ๋อเกือบคลั่งแล้ว

ตั้งแต่ถูกเนรเทศ พวกป้า ๆ ก็ถือโอกาสดูถูกบ้านสามพวกเขา ด่าทอนางหยางว่าเป็นคนโง่

“ป้ารองทำเกินไปแล้ว เหตุใดพวกเขาถึงกลายเป็นแบบนี้...”

หันไปมองนางหยางที่ใบหน้าดูโง่เขลา แต่ก็ยังคงเย็บรองเท้าที่ขาดให้พวกเขาอย่างขยันขันแข็ง ซูจิ่นเอ๋อก็ยิ่งน้ำตาคลอ

“ข้ามันไร้ประโยชน์จริง ๆ ...”

นางอยากออกไปโต้เถียงกับพวกเขา แต่ก็ไม่มีความกล้า

ถึงอย่างไรก็เคยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันมาก่อน นางก็ไม่อยากจะทะเลาะกันจนแตกหัก

กู้หว่านเยว่มองนางแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ “เจ้าเห็นแก่ความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่พวกเขาไม่เคยเห็นเจ้าเป็นคนในครอบครัว เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าบ้านสามพวกเราตัดขาดกับพวกเขาแล้ว”

คำพูดนี้ทำให้ซูจิ่นเอ๋อตกตะลึง จากนั้นก็ครุ่นคิด

กู้หว่านเยว่ไม่ได้พูดอะไรมาก บางเรื่องก็ต้องให้เด็กสาวเข้าใจด้วยตัวเอง นางคลานไปเปลี่ยนยาให้กับซูจิ่งสิง เต็นท์ค่อนข้างเล็ก ทั้งสองคนเบียดกัน ลมหายใจของพวกเขาต่างพ่นใส่หน้ากันและกัน

เมื่อกู้หว่านเยว่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาเรียวยาวของซูจิ่งสิงหรี่ลง ใบหูแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเขาอายที่นางเข้าใกล้ แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นเย็นชา

นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“ท่านพี่ ข้าว่าท่านค่อนข้างรักสุทธิ์จริง ๆ ”

พอดีกับที่ซูจื่อชิงถืออาหารแห้งที่แจกกลับมา กะพริบตาแล้วถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พี่สะใภ้ บริสุทธิ์คืออะไร?”

“ก็คือไม่ค่อยได้สัมผัสกับผู้หญิง เขินได้ง่าย จิตใจบริสุทธิ์ พี่ใหญ่ของเจ้าเป็นนักรบแห่งรักบริสุทธิ์” กู้หว่านเยว่อธิบายอย่างจริงจัง

ซูจื่อชิงเข้าใจทันที “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง พี่ใหญ่ชอบอ่านหนังสือและฝึกวรยุทธ์ตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบเล่นกับผู้หญิง แม้แต่คนรับใช้ในห้องของเขาก็เป็นหญิงชรา เมื่อก่อนพวกเรายังสงสัยว่าพี่ใหญ่อาจจะ...”

“จื่อชิง!” ซูจิ่งสิงรีบกระแอมขึ้นมา

“โอ๊ยตายแล้ว พี่ใหญ่ท่านตื่นมาได้อย่างไรกัน!” ซูจื่อชิงเพิ่งพบว่าพี่ใหญ่ตื่นอยู่ ตกใจจนรีบปิดปาก

กู้หว่านเยว่มองซูจิ่งสิงราวกับจะยิ้มก็ไม่เชิง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “ที่แท้ท่านพี่ก็ไม่ค่อยได้สัมผัสกับผู้หญิง มิน่าล่ะถึงได้ง่ายต่อการยั่วเย้าเช่นนี้~”

ง่ายต่อการยั่วเย้า... ซูจิ่งสิงมือสั่น เกือบจะปัดขวดยาที่อยู่ข้าง ๆ ล้ม ถ้าเขาขยับตัวได้ ตอนนี้คงจะเขินอายจนต้องรีบวิ่งออกไปแล้ว

ภรรยาของเขาเดี๋ยวก็เย็นชา เดี๋ยวก็เหมือนปีศาจ เขาไม่รู้ว่าจะร้องไห้ดีหรือหัวเราะดี

หลังจากทายาเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็หยุดแกล้งเขา หยิบหมั่นโถวงาดำจากมือของซูจื่อชิง

หลังจากเดินทางมาทั้งวัน ทุกคนก็เริ่มคุ้นเคยกับรสชาติของหมั่นโถวงาดำแล้ว

แช่หมั่นโถวกับน้ำให้นุ่มลงก็พอจะกลืนได้ แต่รสชาติก็จืดชืดไปหน่อย

กู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ

เต็นท์บังสายตาจากภายนอก

ก่อนหน้านี้นางไม่หยิบอาหารออกมาเพราะกลัวคนอื่นจะเห็น แล้วก็ไม่รู้จะอธิบายที่มาของอาหารอย่างไร

ตอนนี้...กู้หว่านเยว่ยกยิ้มมุมปาก ยื่นมือเข้าไปในห่อผ้า แต่จริง ๆ แล้วจิตของนางได้เข้าไปในมิติแล้ว

ไม่นานนัก นางก็ดึงขาแกะย่างออกมาด้วยมือเปล่า

ทุกคนในเต็นท์ !

“นี่คือขาแกะย่างที่ข้าซื้อมาจากเมืองอูอวิ๋น เย็นไปหน่อยแล้ว แต่ยังไม่เสีย พวกเราเอาไปกินกับหมั่นโถวกันเถอะ”

เมื่อเห็นขาแกะย่าง ปฏิกิริยาแรกของทุกคนคือขาแกะย่างนี่มาจากไหน แต่เมื่อได้กลิ่นหอมของขาแกะย่าง น้ำลายก็ไหลออกมาแล้ว ใครจะไปสนใจว่ามันมาจากไหนกันล่ะ?!
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (17)
goodnovel comment avatar
พี่เอ็น จ้า
อ่านได้จบจริงๆรึป่าวนี่
goodnovel comment avatar
Supaporn Muangsuay
very god stroly
goodnovel comment avatar
Jaruayporn Kliengkhaw
อ่านสนุกคะเพริดเพลิดดี
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1944

    ผู้นำรบสังเกตท่าทีของซูจิ่งสิง เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีท่าทีหยิ่งผยอง ไม่ได้ดูแคลนหรือแสดงท่าทีรังเกียจพวกเขาที่มาสวามิภักดิ์ หรือแม้แต่แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา ก็รู้สึกวางใจลงไปมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงแจ้งจุดประสงค์ที่มาโดยตรง “ไม่ปิดบังท่านเจ้าเมือง ข้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการนำกองทัพพันธมิตรมาสวามิภักดิ์ต่อท่าน ไม่ทราบว่าท่านมีความเห็นเช่นใด?”“ยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง”ซูจิ่งสิงก็ไม่ได้อ้อมค้อมเช่นกัน เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ได้ยินชื่อเสียงของกองทัพพันธมิตรมานานแล้ว หากกองทัพพันธมิตรยินดีที่จะสวามิภักดิ์ เพื่อร่วมกันทำการใหญ่ไปกับพวกเรา ข้าย่อมยินดีต้อนรับอยู่แล้ว”เขาโบกมือเล็กน้อย ฉินเซินก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาทันที“นี่คือกฎหมายที่เมืองเจียงของพวกเราเพิ่งประกาศใช้ หากกองทัพพันธมิตรต้องการจะสวามิภักดิ์ ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของพวกเรา”ฉินเซินส่งจดหมายให้พวกเขา ผู้นำรบรีบรับมาแล้วพิจารณาอย่างละเอียด แม้แต่จีอี๋และจางเวยก็ยื่นศีรษะเข้ามาแอบดู จางเวยอ่านหนังสือไม่ออก มีเพียงจีอี๋ที่พอจะอ่านเข้าใจ“ข้างบนเขียนว่าอะไร เหตุใดสีหน้าของผู้นำดูประหลาดใจเช่นนั้น?”“ไม่รู้สิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1943

    กู้หว่านเยว่เริ่มสนใจขึ้นมา “ท่านรู้จักเขา แต่เขาไม่รู้จักท่าน? หรือว่า เขามีบุญคุณต่อท่านหรือ?”ขณะที่พูดคุยกัน ทั้งสองคนก็ได้ตามทหารออกไปข้างนอกแล้วซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่พลิกตัวขึ้นบนหลังม้า ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทิศตะวันตกด้วยกันระหว่างทาง ซูจิ่งสิงก็ได้ไขข้อสงสัยให้กู้หว่านเยว่“เจ้าเดาไม่ผิด ผู้นำกองทัพพันธมิตรมีบุญคุณต่อข้าโดยบังเอิญจริง ๆ”แท้จริงแล้ว ในตอนนั้นหลังจากที่ซูจิ่งสิงขับเฮลิคอปเตอร์มาถึงทางใต้ สถานที่แรกที่เขาไปถึงก็คือบริเวณใกล้เคียงกับค่ายของกองทัพพันธมิตร“ตอนนั้นกระสุนและเสบียงบนเครื่องบินหมดเกลี้ยงแล้ว ข้าอดอาหารมาหลายวัน โชคดีที่ได้พบกับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ให้เสบียงอาหารเล็กน้อยแก่ข้า แต่ผลคือ ตอนที่ข้านั่งกินอาหารอยู่ที่แผงลอยเล็ก ๆ ของพวกเขา พวกเขากลับเจอกับคนของพรรคฟ้าดินมาเก็บค่าเช่า คนพวกนั้นหลังจากเก็บค่าเช่าไปแล้ว ก็ยังไม่พอใจ คิดจะข่มเหงสตรีผู้นั้นอีก”ซูจิ่งสิงย่อมทนดูต่อไปไม่ไหว จึงได้ลงมือต่อสู้กับพวกเขา คนเหล่านั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของซูจิ่งสิงได้อย่างไร ในไม่ช้าก็ถูกเขาอัดจนถอยหนีไปแล้วเพื่อไม่ให้สามีภรรยาคู่นั้นต้องเดือดร้อน ซู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1942

    “ก็คงทำได้เพียงเท่านี้” จริง ๆ แล้วในใจของจีอี๋ยังมีความคิดอื่นอยู่อีกอย่างหนึ่งทั้งสองคนเพิ่งจะหารือกันเสร็จสิ้น แต่เมื่อผู้นำกองทัพพันธมิตรออกมา กลับนำข่าวร้ายมาบอกพวกเขาผู้อาวุโสเหวินถึงกับจะให้กองทัพพันธมิตรของพวกเขาไปเป็นแนวหน้าบุกโจมตี!“บอกว่าหากทำสำเร็จจะแบ่งของที่ยึดมาได้ให้พวกเราหนึ่งในสิบส่วน และในอนาคตจะให้สิทธิ์ในการออกเสียงของกองทัพพันธมิตรของพวกเรามากขึ้น”ผู้นำรบถอนหายใจ คนของกองทัพพันธมิตรของพวกเขาเดิมทีก็มีไม่มาก พลังรบก็ไม่ได้แข็งแกร่ง จะไปสู้ได้อย่างไรกัน! เขาไม่ได้ต้องการของที่ยึดมาได้อะไรนั่น และยิ่งไม่ต้องการสิทธิ์ในการออกเสียงอะไรทั้งนั้น เขาเพียงแค่อยากจะพาพี่น้องในกองทัพพันธมิตรให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขปลอดภัยเท่านั้น“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี ผู้นำท่านจะไปบุกจริง ๆ หรือ? ในมือของพวกเขามีดินปืนอยู่นะ หากเปิดฉากต่อสู้กันเมื่อไร พี่น้องของพวกเราทั้งหมดก็จะเป็นแค่โล่กำบัง จะถูกระเบิดจนไม่เหลือแม้แต่ซาก” จางเวยกล่าวอย่างร้อนใจกำลังรบหลักของกองทัพพันธมิตร โดยพื้นฐานแล้วก็คือเหล่าทหารที่เขาฝึกฝนมากับมือ เขาไม่อยากเห็นทุกคนต้องไปตายเปล่าผู้นำรบเอ่ยขึ้น “หากไม่เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1941

    “แต่ว่า พวกคนจากชิงโจวที่ไปบุกเมืองเมื่อหลายวันก่อน ถูกถล่มยับจนไม่เหลือซากแล้ว พวกเราไปจะไหวจริง ๆ หรือ?”ที่ท้ายสุดของโต๊ะประชุม ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมาทันทีทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็พลันจับจ้องไปที่เขาผู้นำของพรรคฟ้าดินขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “ดูจากการแต่งกายของเจ้า คงจะเป็นคนของกองทัพพันธมิตรสินะ?คำพูดของเจ้าเมื่อครู่ เป็นเจตนาของผู้นำกองทัพพันธมิตรของพวกเจ้าหรือ?”ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านหน้ารีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ ๆ ๆ ผู้อาวุโสเหวินท่านอย่าได้เข้าใจผิด นี่ไม่ใช่เจตนาของกองทัพพันธมิตรของพวกเรา”เขาหันกลับไปตวาดใส่ชายหนุ่มอย่างฉุนเฉียว “จีอี๋ หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้ว ที่นี่เจ้ามีสิทธิ์พูดด้วยหรือ? ให้เจ้ามานั่งฟัง ไม่ใช่ให้มาพูดจาพล่อย ๆ อย่าทำให้กองทัพพันธมิตรของเราเดือดร้อน!”“แต่ว่า...” จีอี๋ยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ชายคนนั้นก็ตะโกนอย่างโมโห “เจ้ายังจะพูดอะไรอีก? ยังไม่รู้จักสำนึกผิดอีก รีบหุบปากเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว รีบออกไปเสีย”เขากลัวว่าจีอี๋จะพูดอะไรออกมาอีก จึงหันไปพยักหน้าพลางโค้งคำนับขอโทษผู้อาวุโสเหวิน “ผู้อาวุโสเหวิน ท่านอย่าได้ถือสาเลย เขาเป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1940

    ขอแค่อยู่ทางใต้ ไม่ว่าจะกลุ่มอิทธิพลอะไร ล้วนต้องฟังคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแดนใต้ก็เพราะเหตุนี้ แม้ตอนนั้นมีกลุ่มอิทธิพลที่หลากหลาย กลับไม่เคยเกิดสงคราม ต่อให้มีก็สามารถไกล่เกลี่ยได้อย่างรวดเร็วจนกระทั่งวันที่ผู้บัญชาการสูงสุดได้ตายลง กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ต่อสู้กันเอง และมีความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมกัน ผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว ยังไม่เคยมีใครที่สามารถทำให้ทุกฝ่ายยอมรับในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด“ผู้บัญชาการสูงสุด นี่ นี่ๆ…มันเกินกว่าจะจินตนาการแล้ว!”ฉินเซินรู้สึกว่าโลกกำลังหมุนกู้หว่านเยว่เบะปาก “ขี้ขลาด คิดอย่างกล้าๆ หน่อย”นางก็ไม่พูดไร้สาระ “ไปทำตามที่ท่านเจ้าเมืองของพวกเจ้าสั่งเมื่อครู่ก็พอ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าจ้างและเสบียงของทหาร ข้ามีวิธีของข้า”ฉินเซินพยักหน้าอย่างเหม่อลอย ตอนที่เดินออกมายังเหมือนเดินอยู่บนก้อนเมฆ“ฮูหยินกับองค์ชายรองของแคว้นเซียนหลิงมีไมตรีสัมพันธ์ที่ดี ไม่แน่ว่าแคว้นเซียนหลิงเป็นคนออกค่าจ้างและเสบียงของกองทัพ มีแคว้นเซียนหลิงช่วยเหลือ สิ่งที่ฮูหยินพูดเมื่อครู่อาจจะเป็นจริงก็ได้”ฉินเซียนยังคงไม่กล้ามั่นใจมากนัก แค่สามารถรักษาเมืองเจียงไว้ เขาก็พอใจมาก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1939

    ตลาดใต้ดินมีอิทธิพลในเขตทางใต้มานานหลายปี กอบโกยทรัพย์สินนับไม่ถ้วน ในสายตาของผู้คน ที่นั่นเปรียบเสมือนขุมทรัพย์อันหอมหวาน ถ้าสามารถยึดมาได้ อาศัยทรัพย์สินที่เก็บสะสมไว้ การยึดทางใต้นั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดในตลาดใต้ดินถูกกู้หว่านเยว่กวาดจนเรียบแล้วตอนนี้ทองคำและของมีค่าที่อยู่ในคลังของมิติกองเป็นภูเขาแล้วกู้หว่านเยว่อาศัยช่วงที่เมืองเจียงเกิดความโกลาหล นำเงินทองก้อนนี้ออกมาให้ซูจิ่งสิงระดมทหาร และชิงบุกยึดเมืองเจียงในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวและหลังจากซูจิ่งสิงยึดเมืองเจียงได้แล้ว ก็เริ่มทำการกวาดล้างทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มจากปล่อยผู้คนที่โดนตลาดใต้ดินลักพาตัวมาออกมา แล้วแจกจ่ายอาหารและค่าเดินทางให้พวกเขากลับมาแน่นอน คนที่ไม่มีบ้านให้กลับ ก็สามารถเลือกอยู่ต่อ สมัครเข้าร่วมกองทัพสมุดบัญชีที่กู้หว่านเยว่นำมาด้วยก็เริ่มแสดงบทบาทของมัน พวกเขาอาศัยสมุดบัญชีเหล่านี้ จับกุมทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดใต้ดินในเมืองเจียงทั้งหมดเพียงแค่สามถึงห้าวัน เมืองเจียงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง“ท่านผู้นำ ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกท่านเจ้าเมืองแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status