Share

บทที่ 14

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“นี่คือ?” จางเอ้อร์ยังไม่เข้าใจ

“ยาสมุนไพรที่ข้าไปซื้อมาจากร้านขายยา ใช้ทาที่ขา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ขาได้”

จางเอ้อร์ตกตะลึง ก้มมองขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ครอบครัวของเขายากจน พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ขาข้างนี้ก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแผ่นหินกระแทกในขณะที่เขาพยายามหาเลี้ยงชีพ

ปกติแล้วการเดินไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าเดินมาก ๆ ก็จะเริ่มเดินกะเผลก

การคุมตัวนักโทษนั้นจริง ๆ แล้วค่อนข้างไม่สะดวก แต่คนชั้นต่ำอย่างเขาไม่มีสิทธิ์จะมาเรื่องมาก

แม่นางกู้กลับสังเกตเห็น

ยิ่งไปกว่านั้น นางมาสายเพราะไปจัดยาให้เขา

จางเอ้อร์ก้มหน้าลง ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย เขาหยิบยาที่กู้หว่านเยว่ยื่นให้มาอย่างลวกๆ

“แม่นางกู้ ขอบคุณมาก”

นอกจากหัวหน้าแล้ว แม่นางกู้เป็นคนแรกที่ดีกับเขาขนาดนี้

“ไม่ต้องเกรงใจ ท่านก็ดูแลข้าเหมือนกัน” กู้หว่านเยว่เป็นคนแบบนี้ ไม่เอาเปรียบคนอื่น ถ้าคนอื่นดีกับนาง นางก็จะตอบแทนกลับไปเป็นสองเท่า

ในเมื่อจางเอ้อร์ไว้ใจนาง นางจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

“นางจิ้งจอก ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าใช้มนตร์เสน่ห์อะไรกับพวกนักการน่ารังเกียจพวกนี้!”

ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือเห็นกู้หว่านเยว่พูดคุยกับจางเอ้อร์ ก็กำหมัดแน่น

เห็นได้ชัดว่านางมีเสน่ห์มากกว่ากู้หว่านเยว่มาก แต่นักการพวกนี้กลับตะคอกใส่นาง ทว่ากลับยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับกู้หว่านเยว่

ไม่รู้ว่าคิดอะไร นางยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง หลังจากที่กลับไปนางจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่จิ่ง ดูสิว่าพี่จิ่งจะมองนางอย่างไร หึ ๆ

ระหว่างทาง กู้หว่านเยว่ดูเหมือนกำลังแกล้งหลับ แต่จริง ๆ แล้วจิตของนางเข้าไปอยู่ในมิติ มองไปยังกองสิ่งของที่ปล้นมาจากห้องใต้ดิน นางก็ครุ่นคิดอย่างหนัก

สุดท้ายก็ตัดสินใจแกล้งตายต่อหน้าซูจิ่งสิง ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ความลับเรื่องมิติ แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงความผิดปกติ แค่ไม่ยอมรับก็พอแล้ว

ถ้าเขามีแผนร้าย นางก็จะกำจัดเขาแล้วหนีไป

ด้วยความรู้สึกเช่นนี้ กู้หว่านเยว่ก็ตามทุกคนกลับไปยังโรงเตี๊ยม

ซูจิ่งสิงเห็นนาง ก็พูดเพียงประโยคเดียว “ขนมาหมดแล้วหรือ?”

“อืมๆ!”

นางกู้หว่านเยว่ลงมือ จะมีของที่ขนไม่หมดได้อย่างไร? ขณะที่กำลังรอฟังต่อ ก็เห็นซูจิ่งสิงทำหน้าพึงพอใจ หลับตาลง ไม่พูดอะไรอีก

กู้หว่านเยว่ที่เตรียมคำพูดไว้อย่างเต็มที่ ?

“ท่านจะไม่ถามอะไรหน่อยหรือ?” ของเยอะขนาดนั้น ไม่ถามถึงที่มาที่ไปหน่อยหรือ?

“ไม่ถาม ข้าเชื่อใจเจ้า”

กู้หว่านเยว่คาดไม่ถึงเลยว่าซูจิ่งสิงจะพูดว่าเชื่อใจนาง หลังจากที่ตกตะลึงเล็กน้อยก็ยิ้มออกมา แต่ซูจิ่งสิงไม่ถาม ก็ช่วยให้นางไม่ต้องเปลืองเวลาอธิบาย

“หว่านเยว่ กิน กินข้าว...” เวลานี้นางหยางยกข้าวสวยร้อน ๆ มาหนึ่งชาม พร้อมกับลูบมือ “จิ่นเอ๋อเป็นคน ทำ”

กู้หว่านเยว่หันไปมอง

ซูจิ่นเอ๋อยิ้มให้นางอย่างเขินอาย “ข้าเห็นพวกเขาไปยืมครัวของโรงเตี๊ยมใช้กัน ข้าก็เลยไปยืมมาทำกับข้าวบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ทำ พี่สะใภ้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง...”

กู้หว่านเยว่ลองชิมคำหนึ่ง ข้าวผัดผักที่ไม่มีน้ำมัน แถมยังไหม้เล็กน้อย รสชาติก็ไม่ได้เรื่องจริง ๆ

แต่พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นซูจิ่นเอ๋อมองมาที่นางด้วยสีหน้าตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำไปหมด นางหลุดหัวเราะออกมา แล้วยกนิ้วโป้งให้

“ไม่อร่อย แต่ความตั้งใจดีเยี่ยม!”

“พี่สะใภ้ ท่านพูดอะไรดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือ!”

ซูจิ่นเอ๋อแกล้งกระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง แต่ในใจกลับรู้สึกดีใจอย่างมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รับคำชมจากกู้หว่านเยว่

ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือเห็นฉากนี้ก็รู้สึกแสบตา นางตัดสินใจเข้าไปหาเรื่องกู้หว่านเยว่ เดินไปข้าง ๆ ซูจิ่งสิงแล้วพูดอย่างมีเลศนัย

“พี่ชาย พี่สะใภ้เก่งจริง ๆ ไม่เหมือนข้าที่ไร้ความสามารถ นักการพวกนั้นดีกับพี่สะใภ้มาก ตอนกลับมาก็ยังช่วยพี่สะใภ้ขนของด้วยนะ”

เมื่อเห็นแผนการยุยงแสนโฉ่งฉ่างของนางชาเขียว* แล้ว กู้หว่านเยว่ที่อยู่ไม่ไกลนักก็หัวเราะหึ ๆ ก้มหน้าก้มตากินข้าวแล้วรอดูความสนุกสนาน

ซูจิ่งสิงหลับตา “หว่านเยว่ของพวกเราเก่งอยู่แล้ว”

“...” พี่ชายไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดหรือเปล่า?

หลี่ซือซือพูดติดขัด ก่อนจะพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น “พี่สะใภ้กับนักการที่ชื่อจางเอ้อร์ส่งสายตาให้กัน แถมยังจับมือกันอีก ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...

โอ๊ย พี่ชาย ข้าไม่ได้หมายความว่าพี่สะใภ้ใจง่าย มีอะไรกับนักการคนนั้น ท่านอย่าเข้าใจพี่สะใภ้ผิดนะ”

“พรวด!” ในที่สุดกู้หว่านเยว่ก็ทนไม่ไหว เกือบจะพ่นข้าวออกมาเพราะหัวเราะ

วันนี้นางได้เห็นแล้วว่าอะไรที่เรียกว่านางชาเขียวที่ชอบเสี้ยม

หลี่ซือซือเหลือบมองกู้หว่านเยว่อย่างไม่พอใจ แล้วหันกลับไปมองซูจิ่งสิงอย่างเว้าวอน “พี่ชาย ตอนนี้ท่านบาดเจ็บ ข้ากลัวว่าบางคนจะไม่ซื่อสัตย์...”

“เจ้าพูดจบหรือยัง?”

ซูจิ่งสิงทนเสียงรบกวนของหลี่ซือซือไม่ไหวแล้ว จึงลืมตาขึ้น หางตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่แอบหัวเราะอยู่ไม่ไกล เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกจนใจ ผู้หญิงคนนี้ชอบดูเรื่องตลกจริง ๆ

คำพูดเย็นชาหลุดออกมา

“ไสหัวไป”

“พี่ชาย ท่าน...”

หลี่ซือซือขอบตาแดงก่ำ นางพูดจาแย่ ๆ ขนาดนี้แล้ว พี่ชายยังเชื่อกู้หว่านเยว่อีก

เขาถูกกู้หว่านเยว่ทำของใส่หรือเปล่านะ?!

สุดท้ายก็ทนสายตาเย็นชาของซูจิ่งสิงไม่ไหว นางจึงปิดหน้าแล้ววิ่งหนีไป

ซูจิ่งสิงหลับตาลงด้วยความรังเกียจ

“พี่ซือซือ ทำไมพูดอะไรแปลก ๆ” ซูจื่อชิงย่นจมูก ด้วยความที่เขายังเด็กจึงไม่เข้าใจว่านางชาเขียวคืออะไร รู้สึกเพียงว่าหลี่ซือซือแปลกมาก

ซูจิ่นเอ๋อก็กะพริบตาอย่างงุนงง นางจำได้ว่าพี่ซือซือ เป็นคนอ่อนโยนและใจกว้างมาก เหตุใดจึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้?

ทางด้านนี้ นางจินเห็นหลี่ซือซือร้องไห้กลับมา จึงสะกิดมือลูกชายคนโตอย่างซูเช่อ ให้เขาเข้าไปปลอบ

“ข้าไม่ไป ข้าไม่อยากไป”

ซูเช่อหันหลังให้เตียง แค่มองหลี่ซือซืออีกแวบเดียวก็รู้สึกอึดอัดแล้ว

นางจินแสดงสีหน้าสับสน ก่อนหน้านี้ทั้งสองดูเหมือนจะชอบพอกัน จึงหาโอกาสจัดการเรื่องแต่งงานไปด้วยเลย

แม้จะถูกเนรเทศ แต่เรื่องสำคัญในชีวิตจะช้าไม่ได้

เหตุใดหลังจากออกไปซื้อของกลับมา ลูกชายก็มองหลี่ซือซือเหมือนกับเห็นผี

นางจินสมองไม่ค่อยดี และก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ซูหร่านหร่านกลับเหลือบมองหลี่ซือซือแวบหนึ่ง แล้วมองไปทางบ้านสาม จากนั้นพูดด้วยเสียงเบา ๆ

“ท่านแม่ ถ้าพี่ใหญ่ไม่อยากไปก็ช่างเถอะ”

นางจินพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงยอมแพ้ มองซูอวี่ของบ้านรองที่เข้าไปประจบประแจงหลี่ซือซือด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

หลังจากทานอาหารเสร็จ นักการก็เร่งให้ทุกคนออกเดินทาง

เมืองอูอวิ๋นเป็นเพียงจุดพักชั่วคราว ไม่สามารถอยู่นานเกินไป มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินทาง

แม้จะเป็นกระท่อมที่แข็งกระด้าง แต่ก็ยังเป็นบ้านที่พอจะเป็นที่กำบังได้ เมื่อทุกคนได้ยินว่าต้องไป ก็พากันคร่ำครวญด้วยความอาลัย

“ให้พวกเขารีบเก็บข้าวของแล้วออกเดินทาง ได้ยินมาว่าสุสานหลวงถูกโจรกรรม พวกเรารีบไปก่อนดีกว่า จะได้ไม่โดนลูกหลง”

ซุนอู่กำชับเหล่านักการ

เขาเพิ่งจะทราบข่าวการโจรกรรมสุสานหลวงเมื่อครู่นี้เอง

สุดยอดจริง ๆ ได้ยินมาว่าสุสานหลวงทั้งสุสานถูกปล้นจนเกลี้ยงภายในคืนเดียว ไม่เหลืออะไรเลย

โจรพวกนี้น่ากลัวเกินไปจริง ๆ

เมืองอูอวิ๋นไม่ควรอยู่ต่อ รีบไปกันเถอะ

เมื่อนักการได้รับคำสั่งแล้ว ก็หยิบแส้ออกมาเร่งให้ทุกคนออกเดินทาง ดังนั้น กลุ่มคนจึงออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังนอกเมือง

เส้นทางข้างหน้าคงจะไม่ราบรื่นเช่นนี้แล้ว อย่างน้อยก็สามสี่วันจะไม่เจอเมืองเลย

นั่นหมายความว่า พวกเขาจะต้องนอนกลางดินกินกลางทรายเป็นเวลาสามถึงสี่วัน

ตอนกลางคืน ทุกคนเหนื่อยมากจนล้มนอนลงกับพื้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นการกระทำของกู้หว่านเยว่ ทุกคนแทบจะเบิกตากว้างออกมาด้วยความตกใจ

*นางชาเขียว ใช้เปรียบเทียบผู้หญิงที่ดูเหมือนไร้เดียงสา แต่จริง ๆ แล้วร้ายลึก
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
Toy M
ในซีรีย์ระหว่าทางนางเอกช่วยรักษาพระเอกเอายาฆ่าเชื่อใส่ในถุงน้ำให้พระเอกกินตลอดและรักษาจนพระเอกเดินได้ นิยายทำไมไม่มี
goodnovel comment avatar
Dumpjea
สะใจ ขนทองไปให้หมด เยี่ยม ให้ฮ่องเต้ร่ำไห้ไป จะเอาผิดใครก็ไม่ได้
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกทุกตอนค่ะ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2096

    ผู้ว่าการอำเภอหลี่เรียกหัวหน้าหมู่บ้านเฉียนเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อหารือเรื่องต่าง ๆ กับเขาจากการพูดคุยกันในช่วงสั้น ๆ ผู้ว่าการอำเภอหลี่ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า หัวหน้าหมู่บ้านเฉียนคนนี้เป็นคนที่ไว้ใจได้การมอบหมายเรื่องของหมู่บ้านซิงซิงให้เขาจัดการนั้น ไม่มีปัญหาแต่ถึงกระนั้น เขาก็จะไม่เชื่อใจหัวหน้าหมู่บ้านเฉียนทั้งหมดอย่างแน่นอน ยังคงต้องใช้เวลาสังเกตการณ์อีกระยะหนึ่งระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากัน กู้หว่านเยว่ก็นั่งจิบชาอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เพียงแต่ตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งทั้งสองคนคุยกันเสร็จ นางจึงลุกขึ้นและจากไปพร้อมกับผู้ว่าการอำเภอหลี่“สตรีที่อยู่ข้างกายผู้ว่าการอำเภอหลี่เป็นใครกัน อายุน้อยถึงเพียงนั้น จะว่าเป็นลูกสาวก็ไม่น่าใช่” นางชิวเซียงพึมพำกับตัวเองหัวหน้าหมู่บ้านเฉียนเป็นคนสายตาเฉียบแหลม เขาพ่นควันจากกล้องยาสูบแล้วเอ่ยขึ้น “อย่าพูดจาเหลวไหล สตรีผู้นั้นมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้สูงศักดิ์ ยิ่งไปกว่านั้น ชาติตระกูลของนางอาจจะสูงส่งกว่าผู้ว่าการอำเภอหลี่เสียอีก”“สูงกว่าท่านผู้ว่าการอำเภออีกหรือ ให้ตายเถอะ นั่นต้องเป็นขุนนางตำแหน่งไหนกัน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2095

    “ล้วนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น ข้าก็ยังเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ในเมื่อพวกเขามาขอร้องถึงหน้าประตู ข้าจะทำเป็นมองไม่เห็นได้อย่างไร”“ท่านเป็นคนดีมีคุณธรรม พอมีคนมาหาท่านก็ช่วย แล้วท่านเคยคิดถึงข้ากับต้าหนิวบ้างหรือไม่? ภรรยาของต้าหนิวกำลังจะคลอดแล้ว หากเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นมา ท่านจะให้ครอบครัวทำอย่างไร?”ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้นผู้ว่าการอำเภอหลี่ยืนฟังอยู่นาน มือที่ยกค้างอยู่นั้น จะเคาะต่อก็ไม่ได้ จะไม่เคาะก็ไม่ดีเขากระแอมเสียงดัง เพื่อขัดจังหวะการโต้เถียงข้างใน แล้วส่งสายตาให้นักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้าง ๆ นักการในศาลาว่าการจึงตะโกนเสียงดัง “หัวหน้าหมู่บ้านเฉียน ท่านผู้ว่าการอำเภอมาเยือน เหตุใดยังไม่รีบเปิดประตูอีก!”ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านและหัวหน้าหมู่บ้านเฉียนที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ถึงกับตกตะลึง ทั้งสองคนยังตั้งตัวไม่ทัน“หา ผู้ว่าการอำเภอมา?” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านยืนตกตะลึงหัวหน้าหมู่บ้านเฉียนก็งุนงงเช่นกัน ต้าหนิวที่กำลังให้อาหารไก่อยู่ข้าง ๆ เงยหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ท่านย่า ตอนเช้าข้าไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ ได้ยินมาว่าท่านผู้ว่าการอำเภอมา แล้วนาย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2094

    ผู้ว่าการอำเภอหลี่กลับไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไรนัก การได้ร่วมโต๊ะกับองค์หญิง ทำให้เขาไม่กล้าคีบกับข้าวอย่างนั้น ไม่กล้าคีบกับข้าวอย่างนี้ สรุปแล้วก็เลยกินไปได้ไม่มากหลังจากกินข้าวเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็พาผู้ว่าการอำเภอหลี่ไปหาหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านซิงซิงระหว่างมื้ออาหาร กู้หว่านเยว่ได้ทราบมาว่า หมู่บ้านซิงซิงมีหัวหน้าหมู่บ้านอยู่คนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งจากเบื้องบนเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ก็อายุสี่สิบกว่าปีแล้วแม้ว่านายท่านเหยาจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ในหมู่บ้าน แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังอาศัยความสามารถของตนเอง คอยปกป้องผู้คนไว้ได้ไม่น้อยเพียงแต่ว่า เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านไปมีเรื่องขัดใจกับนายท่านเหยาเพราะเรื่องที่นา ก็ถูกคนเอาถุงคลุมหัวแล้วรุมทุบตี ช่วงนี้จึงได้แต่พักฟื้นอยู่ที่บ้านหลังจากกู้หว่านเยว่ฟังจบ ก็ตัดสินใจว่าจะไปพบหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ดูหากเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคนอื่นอีกทว่า เมื่อกู้หว่านเยว่และคนอื่น ๆ เดินไปถึงหน้าประตูเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็เห็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านที่เมื่อครู่ยังนั่งปอกหน่อไม้อยู่หน้าประตู รีบคว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2093

    กู้หว่านเยว่ลูบศีรษะของนางอย่างให้กำลังใจ “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องเติบโตให้ดีนะ”หลินเจากำหมัดแน่น “ข้าจะตั้งใจ ข้าจะรีบเติบโตให้เร็วที่สุด!”ผู้ว่าการอำเภอหลี่ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นในจังหวะที่เหมาะสม “ในเมื่อองค์หญิงอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นให้ข้าน้อยรายงานเรื่องการบุกเบิกเส้นทางเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”หลินอิงใช้ข้ออ้างว่าในครัวต้องการคนช่วย รีบดึงตัวหลินเจาถอยออกไป แล้วปิดประตูลง“นายท่านเหยาทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมายนัก คุกนี่ เขาคงไม่มีวันได้ออกมาอีกแล้ว” “ภูมิประเทศของหมู่บ้านซิงซิงแห่งนี้ เหมาะที่จะบุกเบิกเส้นทางเส้นหนึ่งผ่านใจกลางเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น แล้วลากยาวเข้าไปจนถึงป่าซิงโต้ว”“แต่ว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องมีผู้ที่มีคุณธรรมและเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้านซิงซิงมาคอยประสานงาน”พวกเขาคงไม่สามารถคอยจับตาดูหน้างานได้ตลอดเวลาเรื่องนี้ จำเป็นต้องหาคนที่สามารถสั่งการชาวบ้านในหมู่บ้านซิงซิงได้มารับหน้าที่เดิมที สกุลเหยานั่นคือคนที่เหมาะสมที่สุด เขาเป็นคหบดีใหญ่ประจำท้องถิ่น มีประสบการณ์ในการจัดการคนอยู่แล้วแต่ตอนนี้คงต้องหาคนใหม่มาแทนคนหนึ่งแล้วเมื่อเห็นว่ากู้หว่านเยว่ไม่ได้พ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2092

    องค์หญิง ข้าน้อยอะไรกัน เขาฟังไม่เข้าใจเลยสักนิดแต่เขาก็พอจะฟังออกว่า สามีภรรยาคู่นี้กับผู้ว่าการอำเภอหลี่เป็นคนรู้จักเก่ากัน และดูเหมือนว่าผู้ว่าการอำเภอหลี่จะเกรงกลัวพวกเขามากสถานการณ์ไม่เป็นใจต่อเขาแล้ว เขาต้องรีบหนี ไม่อย่างนั้นต้องเดือดร้อนแน่จ้าวซื่อค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง คิดจะหลบหนีไป“ผู้ว่าการอำเภอหลี่ ท่านมาได้จังหวะพอดี เรื่องนี้มอบให้ท่านจัดการก็แล้วกัน”กู้หว่านเยว่คิดในใจว่า หากผู้ว่าการอำเภอที่มาเป็นคนพึ่งพาไม่ได้ นางก็อาจจะต้องจัดการทั้งผู้ว่าการอำเภอและนายท่านเหยาไปพร้อมกันโชคดีที่คนที่มาคือหลี่ซานกุ้ย คุณธรรมของหลี่ซานกุ้ยนั้น นางสามารถเชื่อใจได้เมื่อมอบเรื่องนี้ให้หลี่ซานกุ้ยจัดการ นายท่านเหยาไม่มีทางจบสวยแน่ดังนั้น กู้หว่านเยว่จึงเล่าความผิดของนายท่านเหยาให้ฟังรอบหนึ่ง“นี่คือคนสกุลหลิน พวกเขาคือผู้เสียหาย ท่านต้องปลอบใจพวกเขาให้ดี”กู้หว่านเยว่ไม่ลืมที่จะชี้ไปยังคนสกุลหลินที่อยู่ตรงมุม ผู้ว่าการอำเภอหลี่ก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง มิฉะนั้นคงไม่ได้รับความสนใจจากกู้หว่านเยว่เขารีบกล่าวว่า “องค์หญิงโปรดวางใจ ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย โชคดีที่องค์หญิงอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2091

    คนในหมู่บ้านที่กล้าต่อต้านนายท่านเหยา ล้วนถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นที่เหลืออยู่ นอกจากคนที่ไม่กล้าปริปากแล้ว ก็คือพวกที่สมคบคิดกับนายท่านเหยาเมื่อหลินโหย่วซานอาการดีขึ้นแล้ว ก็มองไปยังทั้งสองคน “ขอบคุณทั้งสองท่านที่ช่วยลูกสาวของข้าออกมา ทั้งยังช่วยพวกเราระบายความโกรธแค้นนี้อีกด้วย แต่ว่า พวกท่านรีบหนีไปเถอะ”คนสกุลหลินล้วนเป็นคนจิตใจดี ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเดือดร้อนไปด้วยนางฟางประคองหลินโหย่วซานที่บาดเจ็บอยู่ ส่วนหลินเจาก็อุ้มหลินอิงไว้บนใบหน้าของทั้งสี่คนเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจกู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “พวกเราไม่ไป”ในเมื่อช่วยแล้ว นางก็ไม่คิดจะจากไปนางซ้อมนายท่านเหยาไปหนึ่งยก หากจากไปตอนนี้ พวกเขาคงจะระบายความโกรธทั้งหมดลงที่ครอบครัวสกุลหลินเป็นแน่หลินเจาร้อนใจ “พี่หญิง พวกท่านรีบไปเถอะ”“ไม่มีใครหนีไปไหนทั้งนั้น!” ด้านนอกมีเสียงทรงพลังตะโกนเข้ามาลานบ้านถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ ชายชราหนวดเคราขาวหลายคนกำลังห้อมล้อมชายผู้หนึ่งที่สวมชุดขุนนางเข้ามาในกลุ่มชาวบ้านพลันเกิดเสียงซุบซิบขึ้นมาทันที“นั่นไม่ใช่ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่หรอกหรือ?”“แม้แต่ผู้ว่าการอำเภอก็ยังตื่นตกใจเลยหรือ?”

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status