“พี่กระต่าย! ท้องเสียเหรอคะ” หนูจ๋าจับต้นแขนแกร่ง และโอบเอวเขาไว้เพราะกลัวว่าเขาจะล้ม คนถูกสาวโอบเบิกตาโต หอบหายใจแรง เบือนหน้าหนีจากเต้าอวบที่เห็บวับๆแวมๆ เพราะเธอยังสวมเสื้อตัวเดียวและยังคงไม่สวมชุดชั้นในเหมือนเดิม ทว่าการเบือนหน้าหนีก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะซาลาเปาลูกอวบๆสีขาวนวลนั้นบดเบียดอยู่กับแขน เพชรนิลไม่เคยต้องทนทรมานขนาดนี้มาก่อน อยู่ใกล้แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาอยากจะบ้าตาย ชายหนุ่มนึกอยากจะผลักเธอออกไปไกลๆ แต่อีกใจก็แสนเสียดาย
“ไปนั่งก่อนนะคะ” หนูจ๋าบอกด้วยความหวังดี หญิงสาวประคองร่างสูงไปนั่งที่โซฟา เมื่อเขานั่งลงเรียบร้อยแล้วเธอก็ผละออกมายืนมองอยู่ใกล้ๆ
“อาการไม่ดีเลยค่ะ คงเพราะร่างกายเสียน้ำแน่ๆเลยค่ะ”
“ครับ เสียไปเยอะเลย” กระต่ายน้อยเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างอ่อนแรง
“อืม...งั้นควรดื่มเกลือแร่สักหน่อยนะคะ เสียน้ำเยอะแบบนี้อาจจะช็อคได้ ตู้ยาสามัญประจำบ้านอยู่ไหนคะ เดี๋ยวหนูไปชงเกลือแร่มาให้”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ขอนั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวก็คงหาย” เพชรนิลโบกไม้โบกมือ เขายิ้มให้เธอเพื่อยืนยันว่าเขายังโอเค
“งั้นดื่มน้ำเปล่าสักหน่อยไหมคะ”
ลูกจ้างสาวสวยหอบหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องของนายจ้างตอนเวลาเกือบห้าโมงเย็น หนูจ๋าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องน่าจะมีคนอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวหอบของไปเก็บไว้ในครัว แล้วเดินไปเคาะประตูห้องนอนใหญ่ ครู่เดียวเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกกว้าง เขาต้อนรับเธอด้วยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม“สวัสดีค่ะพี่กระต่าย” หนูจ๋าแก้อาการขัดเขินเพราะรอยยิ้มของเขาด้วยหารประนมมือไหว้ทักทายกระต่ายน้อยถอนหายใจผิดหวัง ที่จริงเธอควรจะโผมากอดเขา แล้วจุ๊บแก้มสองข้าง พร้อมกับบอกว่า หนูคิดถึงพี่กระต่ายที่สุดในโลกเลยค่ะ สิ“พี่กระต่ายทำไมไม่บอกว่าจะกลับเร็ว หนูจะได้รีบมาให้เร็วกว่านี้ แบบนี้คงต้องกินอะไรรองท้องก่อนแล้วล่ะค่ะ เพราะกว่าหนูจะทำกับข้าวครบตามที่พี่สั่งก็อีกนานเลย”“เมื่อกี้หิวมาก แต่พอเห็นหน้าหนูจ๋าแล้วอิ่มขึ้นมาทันทีเลยครับ อิ่มไปทั้งใจ” เจ้าพ่อวงการหยอดสาวได้ทีก็หยอดให้สาวเจ้าได้เขินอาย“ถ้าอิ่มแล้ว งั้นหนูก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหมคะ” หนูจ๋าชักหมั่นไส้คนขี้หยอด แรกๆเธอก็ขัดเขินอยู่หรอก แต่พอถูกเขาหยอดผ่านไลน์บ่อยๆก็ชักจะชิน หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ไม่ได้เจอหน้ากัน แต
เป็นไปดังคาด เมื่อเจ้าไฟปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงโวยวายของพี่ เมื่อหันไปดูก็เห็นคุณป๋าจับข้อเท้าแล้วลากลงมาจากเตียง ไม่นานพี่ชายแฝดของเขาก็ตกลงมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างเตียง“โอ๊ย! คุณป๋า! ทำไมทำรุนแรงกับลูกแบบนี้ คุณป๋าไม่รักผมเลยใช่ไหมครับ” เจ้าลมดรามาแสร้งบีบน้ำตาที่บีบอย่างไรก็ไม่ไหลออกมาสักหยด“ไปนอนได้แล้ว ถ้าไม่อยากถูกดีดไข่” ป๋าฟ้าทำมือตั้งท่าจะดีดแล้วยื่นไปกลางเป้าลูกชาย เจ้าลมรีบกุมเป้ากระถดตัวหนีแล้วคลานไปหาแฝดผู้น้องที่นั่งอยู่บนที่นอนปิกนิกก่อนแล้ว“เอะอะก็ใช้กำลัง ทำไมคุณป๋าไม่อ่อนโยนกับพวกเราบ้าง” เจ้าไฟว่าหน้ายุ่ง“ทโมนยังกะลิง ถึกยิ่งกว่าวัวควายยังจะมาอยากได้ความอ่อนโยนอีก นอนลงไปเลย เว้นที่ตรงกลางไว้นะ ป๋าจะนอนตรงกลาง” ป๋าฟ้าสั่งเจ้าสองยักษ์น้อยแล้วหันกลับมาที่เตียง“ฝันดีนะครับหนูจ๋า” เสียงทุ้มนุ่มนวลของป๋าฟ้าที่ใช้กับลูกสาวทำให้ลูกชายทั้งสี่โห่กันเกรียวกราว ทั้งประสานเสียงรุมประณามดังลั่นห้อง“โห่! สองมาตรฐานชัดๆ”ป๋าฟ้าไม่สนใจเสียงลิงเสียงวัวควาย ร่างสูงใหญ่โน้มตัวลงจุ๊บหน้าผากลูกสาว และหอมแก้มภรรยาสุดที
“จ้ะ...พี่จะบล็อกเดี๋ยวนี้แหละ ไฟไปเชียร์คุณพ่อต่อเถอะ”เมื่อน้องชายเข้าไปรวมกลุ่มกับกองเชียร์แล้ว หนูจ๋าจึงรีบปลีกตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน นึกอยากจะบิดเนื้อคนที่ส่งข้อความมาเหลือเกิน จะถามอะไรนักหนา แบบนี้มันอ่อยกันชัดๆ ถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้เดี๋ยวก็รักจริงๆซะหรอกหนูจ๋าแอบมานั่งหลบอยู่ห้องนั่งเล่นในบ้าน หญิงสาวจ้องมองข้อความบนหน้าจอมือถือแล้วยู่หน้าใส่“ทั้งขี้แกล้ง ทั้งขี้กวน น่ารักตายล่ะ” หนูจ๋าบ่นเบาๆ เธอกำลังจะพิมพ์ข้อความตอบเขาไป แต่อีกฝ่ายที่คงเห็นแล้วว่าเธออ่านข้อความที่เขาส่งมาแล้วก็ส่งชิงส่งข้อความมาอ้อนเสียก่อนกระต่ายน้อย : วีดีโอคอลหาได้ไหมครับ พี่คิดถึงหนูจ๋า : ไม่ได้ค่ะ คนอยู่เต็มบ้านเลยกระต่ายน้อย : หนูจ๋าก็แอบไปคุยในห้องสิครับหนูจ๋า : ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อจ๋าสงสัยกระต่ายน้อย : แต่พี่กำลังจะขาดใจตายเพราะคิดถึงหนูจ๋าหนูจ๋า : นายจ้างที่ไหนจะขาดใจตายเพราะไม่เห็นหน้าลูกจ้างคะกระต่ายน้อย : นายจ้างอย่างพี่นี่แหละครับหนูจ๋า :
“คุณป๋าสู้ๆ คุณป๋าสู้ตาย คุณป๋าไว้ลายสู้ตาย สู้ๆ” เจ้าสี่กุมารกำลังร้องเพลงเสียงดังลั่น ทั้งปรบมือเชียร์คุณป๋าที่กำลังแข่งงัดข้อกับลุงธัชสามีของป้าเปรมซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของคุณตา ว่ากันว่าลุงธัชถูกจัดลำดับให้เป็นเขยชังอันดับหนึ่ง และพ่อจ๋าของเธอเป็นเขยชังอันดับสอง สองคนนี้เจอกันทีไรเป็นต้องเขม่นกันตลอด ครั้งนี้ก็คงท้าประลองกำลังกันเหมือนเดิม โดยทางฝั่งลุงธัชมีลูกๆสามคนเป็นกองเชียร์ และยังมีบรรดาหลานๆของคุณตาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธออีกหนึ่งโขยงล้อมวงลุ้นอยู่รอบๆโต๊ะ มีลุงคณินสามีป้าปรางและอาเหนือสามีป้าปรายทำหน้าที่เป็นกรรมการ ส่วนป้าเปรม ป้าปราง ป้าปราย และแม่ปันปัน นั่งคุยอยู่กับตาจ๋ายายจ๋าที่โต๊ะอีกตัวหนูจ๋าเดินเข้าไปร่วมวงเชียร์พ่อจ๋าด้วย บรรดาน้องทั้งสี่เมื่อเห็นพี่สาวเดินมาใกล้ก็เปิดทางให้พี่ได้ยืนดูคุณพ่อได้ถนัด โดยพวกเขายืนขนาบพี่สาวไว้ข้างละสองคน“พ่อจ๋าสู้ๆ พ่อจ๋าสู้ตาย...” หนูจ๋าตะโกนเชียร์เสียงดัง และปรบมือเป็นจังหวะ เจ้ายักษ์น้อยทั้งสี่ก็ร่วมร้องเพลงไปกับพี่สาวด้วย ฝ่ายกองเชียร์ลุงธัชก็ไม่น้อยหน้า พากันตะเบ็งเสียงร้องเพลงเชียร์ทั้งปรบมือเช่นกัน เสียงหัวเ
“พี่มาเหนื่อยๆ เข้าไปพักผ่อนในบ้านก่อนเถอะครับ มีของอะไรให้ผมช่วยถือไหมครับ” เจ้าลมถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง เขาเสนอตัวช่วยเหลือด้วยความเต็มใจโดยไม่ต้องบอกหรือร้องขอ ลมเป็นเหมือนสายลมที่พัดความปรารถนาดีให้ทุกคน ความสุขุมและรู้จักเอาใจผู้อื่นของเจ้าแฝดคนที่สาม ทำให้ใครอยู่ใกล้เป็นต้องหลงเสน่ห์ทุกราย“มีของสองสามถุงในรถจ้ะ พี่ฝากลมช่วยเอาไปไว้ในห้องหน่อยนะ”“ครับพี่” ลมไปเปิดประตูรถเพื่อเอาของไปเก็บให้พี่สาว ดินกับน้ำจึงไปช่วยด้วย เจ้าไฟเลยได้โอกาสกอดพี่สาวไว้คนเดียว“ผมคิดถึงพี่มาก อยากไปหาแต่ติดเรียน ถ้าเรียนจบแล้วผมจะไปอยู่กับพี่ จะดูแลพี่เอง คุณป๋าจะได้ไม่บ่นเป็นห่วงพี่ทุกวัน วันละสามเวลา” เจ้าไฟอ้อนพี่สาว เจ้ายักษ์น้อยคนสุดท้องกอดพี่สาวด้านข้าง ใบหน้าคมคายเอียงแก้มซบบ่าพี่สาว หน้าตาเหงาหงอยเรียกร้องความสนใจสุดๆ ทั้งที่เมื่อกี้ยังร่าเริงเกินเบอร์อยู่แท้ๆ“พูดมากนะเจ้าไฟ ไปๆพาพี่เข้าไปพัก” ป๋าฟ้ารีบตัดบท เพราะพอวกมาที่เขา อีกสักประเดี๋ยวก็คงไม่วายโดนพ่อตาเหน็บแนมเข้าอีกจนได้ ป๋าฟ้าเดินนำขึ้นบ้านไปก่อน ทุกคนจึงพากันเดินขึ้นบันไดตามกันไป“แฮ
คนหัวแถวตัวสูงใหญ่โดดเด่นกว่าใครคือพ่อจ๋า ท่านยืนโอบเอวแม่จ๋าไว้แสดงถึงการปกป้องและหวงแหน ซึ่งเป็นภาพที่ใครๆต่างคุ้นตา ถัดจากแม่จ๋าเป็นคุณยายรักยืนเคียงคู่กับคุณตาปิง โดยทั้งสองท่านยืนกุมมือกันไว้ไม่ห่าง และกลุ่มสุดท้ายคือเจ้าพวกสี่กุมารตัวป่วนตัวแสบประจำบ้าน น้องชายแฝดทั้งสี่คนของเธอ เจ้าพวกนี้แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนอื่นอาจจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ยาก แต่สำหรับพี่สาวอย่างเธอที่ได้ใกล้ชิดและเลี้ยงน้องๆช่วยแม่มาตั้งแต่แรกเกิด มองปราดเดียวก็รู้ว่าใครเป็นใคร คนแรกที่กอดอกยืนตีหน้าขรึมเข้มคือดินแฝดคนโต คนที่สองยืนล้วงมือสองข้างในกระเป๋ากางเกงยกไหล่น้อยๆท่าทางยียวนคือน้ำ คนที่สามโบกมือให้เธอและโปรยยิ้มเจ้าเสน่ห์อยู่คือลม คนสุดท้ายเป็นน้องแฝดคนสุดท้องคือไฟ เจ้ายักษ์ตัวยุ่งสุดของบ้านกระโดดเหย็งๆ พร้อมตะเบ็งเสียงเรียกเธอดังลั่นท่าทางร่าเริงดีใจสุดๆหนูจ๋ายิ้มกว้าง อบอุ่นเต็มตื้นในหัวใจ จริงอย่างที่เขาว่ากันว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเราเมื่อรถเก๋งยุโรปสีขาวจอดเทียบเรียบร้อยต่อหน้าทุกคน ป๋าฟ้ารีบผละจากเมียรักไปเปิดประตูให้ลูกสาว หนูจ๋าลงมาจากรถแล้วประนมมือไหว้แทบ